โครงการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าฟรี
1. การเตรียมตัว
- งดน้ำงดอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนการเข้าตรวจ เนื่องจากจะต้องมีการเจาะเลือดไปตรวจก่อนด้วย แต่ถ้าหากคนไข้เดินทางมาไกล อดน้ำอดอาหารไม่ไหว ก็อาจจะไม่ต้องงดน้ำงดอาหารไปก็ได้ ให้ตรวจทั่วไปไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยนัดเจาะเลือดก่อนผ่าตัดอีกครั้ง
- ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ควรนำยาที่ใช้ประจำมาด้วย เพื่อแพทย์จะได้ให้คำแนะนำในการรับประทานยาได้ถูกต้อง
- หากมีฟิล์มเอ็กซเรย์ และ ผลตรวจเลือด โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ถ้าสามารถนำประวัติผลน้ำตาลที่เคยตรวจประจำที่โรงพยาบาลมาได้ และผลน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ดี จะทำให้ได้ผ่าเร็วขึ้น และไม่ต้องเจ็บตัวเจาะเลือดซ้ำ
- กรณีไม่มีโรคประจำตัว ถ้าได้ไปตรวจเช็คร่างกายประจำปี มาก่อน พร้อมทั้งเจาะเลือดเช็คเบาหวานมาแล้ว นำผลทั้งหมดมาให้แพทย์ดู จะทำให้ได้รับการนัดผ่าตัดเร็วขึ้นอีก ร่วมกับจะทำให้ผู้ป่วยได้ประโยชน์สูงสุดจากการผ่าตัด เพราะว่าจะลดอัตราการเกิดภาวะติดเชื้อ และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากการผ่าตัดได้
2.เอกสารที่ต้องใช้
- ทะเบียนบ้าน
- บัตรประชาชน
- บัตรทอง (ทั่วประเทศ + ต้นสังกัด)
3.ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
- ทำบัตร ซักประวัติ วัดความดัน พบแพทย์ ตรวจร่างกาย เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด
สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้าน ความดัน เบาหวาน ต้องตรวจก่อน
4.วัน เวลา ที่ให้บริการ
- วันจันทร์ - วันศุกร์ 8.00-12.00 น.
- ยกเว้นวันอังคาร 8.00-14.30 น.
5. ระยะเวลาของโครงการ
- ตั้งแต่ 3 มกราคม ถึง 30 กันยายน 2550 (ทั้งหมด 800 เข่า)
5.การนัดวัน และ การรอคิว
- ไม่จำเป็นต้องนัดล่วงหน้า สามารถเดินทางไปได้เลย
6.ผู้รับบริการ เขตพื้นที่
- ผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง 30 บาททั่วประเทศ และ ต้นสังกัด
7.ขอบข่ายที่ให้บริการฟรี และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติม?
- ครอบคลุมเฉพาะกรณีที่ข้อเข่าเสื่อมซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเท่านั้น
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ นอกจากกรณีที่ต้องการพักฟื้นในห้องพิเศษ (ห้องสามัญไม่เสียค่าใช้จ่ายตามสิทธิบัตรทอง) ซึ่งจะต้องพักฟื้น 7 - 10 วัน
8.อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม
- พบได้ในวัยกลางคนและวัยชรา อาการคือ จะมีความรู้สึกกึกๆตรงข้อเข่า ปวดและตึงที่ข้อมาก ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวข้อจะเกิดความเจ็บปวด งอและเหยียดได้ลำบาก ข้อเข่าบวมอักเสบ ติดแข็งไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ปวดเวลาลงน้ำหนัก ซึ่งอาจจะทำให้ข้อเข่าผิดรูปหรือโก่งงอ ในบางรายข้อเข่าจะโก่งอย่างชัดเจน
9.เบอร์โทรติดต่อ
- โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ : เบอร์โทร 034-419590 (จันทร์ ศุกร์ เวลา 8.00-12.00 น.)
โครงการผ่าตัดต้อกระจกฟรี
1. การเตรียมตัว , เอกสารที่ต้องใช้ และ ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
- เหมือนกับที่เขียนไว้ในโครงการผ่าตัดข้อเข่า ยกเว้นเรื่องการเอ็กซเรย์ / ฟิล์มเอ็กซเรย์
2.วัน เวลา ที่ให้บริการ
- วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.00 น.-12.00 น. (การตรวจจะตรวจในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการผ่าตัด)
- ถ้าสามารถรวบรวมมาได้เป็นกลุ่มสามารถติดต่อนัดเพื่อตรวจในเวลาอื่นๆได้
3.ระยะเวลาของโครงการ
- ตอนนี้ยังมีอยู่จนถึง 30 กันยายน 2550 หลังจากนั้นถ้าหากเค้ามีงบประมาณประจำปีสำหรับส่วนนี้ต่อไป โครงการนี้ก็จะคงมีต่อไปอีก
4.การนัดวัน และ การรอคิว
- ไม่จำเป็นต้องนัดล่วงหน้า สามารถเดินทางไปได้เลย (เจ้าหน้าที่บอกว่าคนเยอะทุกวันอะนะคะ อาจจะต้องรอหน่อย)
คุณหมอจะตรวจแล้วนัดวันผ่าตัดอีกครั้ง
5.ผู้รับบริการ เขตพื้นที่
- ผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง 30 บาททั่วประเทศ และ ต้นสังกัด
- สำหรับผู้ที่มีประกันสังคม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับกวางว่าต้องออกค่าใช้จ่ายเองก่อน 4000 บาท แล้วจึงไปเบิกคืนได้ที่ประกันสังคมได้ทีหลัง
7.ขอบข่ายที่ให้บริการฟรี และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มเติม?
- ครอบคลุมเฉพาะโรคต้อกระจกเท่านั้น หากเป็นต้อชนิดอื่นๆ จะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง โดยปรึกษากับแพทย์ผู้ตรวจ
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ นอกจากกรณีที่ต้องการพักฟื้นในห้องพิเศษ (ห้องสามัญไม่เสียค่าใช้จ่ายตามสิทธิบัตรทอง)
8.อาการของโรคต้อกระจก
- เมื่อเริ่มเป็นต้อกระจก ผู้ป่วยจะรู้สึกตาข้างนั้นมัวคล้ายมองผ่านหมอก อาจมองเห็นภาพซ้อน ขับรถตอนกลางคืนลำบากขึ้น บางคนต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย แต่เมื่อต้อกระจกเป็นมากขึ้น แว่นตาก็ช่วยให้สายตาดีขึ้น จะสังเกตเห็นต้อสีขาวที่ม่านตา
(ข้อมูลจาก
http://www.bangkokhealth.com/pain_htdoc/pain_health_detail.asp?Number=9028 )
9.เบอร์โทรติดต่อ
- โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) แผนกจักษุ : เบอร์โทร. 034-419-555 ต่อ 1047 (วันจันทร์ ถึง ศุกร์ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น)
ข้อมูลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลบ้านแพ้ว
198 หมู่ 1 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร 74120
เบอร์โทร.: 034-419555
e-mail :
banphaeo@yahoo.comเวปไซต์ :
http://www.banphaeo-hospital.or.th/สำหรับคำถามเรื่องประกันสุขภาพ สิทธิสุขภาพ สามารถโทรถามได้ที่ 1330
สำหรับโครงการทั้งสองโครงการนี้ รพ.รัฐ อื่นๆก็รับผ่าตัดให้ฟรีเช่นกัน ลองสอบถามไปยัง รพ.รัฐ (เช่น รพ.ประจำจังหวัด ที่ท่านอยู่) ดูว่ามีโครงการรึเปล่า จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลๆ ครับ
