ซ้อมชิงตัวประกันเริ่มเป็นเรื่องแล้วครับ...สมควรนักแล

สอบซ้อมชิงตัวประกัน 'จงรัก' โบ้ยผู้ว่าฯ

ทนายเผยเหตุตำรวจซ้อมชิงตัวประกันโดยไม่บอกล่วงหน้า ถ้าเหยื่อช็อกตายมีโทษติดคุกถึง 10 ปี ส่วนที่เข้าไปช่วยถ้ากระทืบตำรวจไม่ติดคุก ด้าน ผบก.สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ ยอมรับเป็นข้อผิดพลาด ขณะที่ผู้บังคับการชลบุรี ยันควบคุมรัดกุม แต่ยอมขอโทษ

กรณีตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีซ้อมแผนชิงตัวประกัน โดยประชาชนและหญิงสาวที่ถูกจี้เป็นเหยื่อไม่ได้รู้ตัวล่วงหน้า จนหวิดเกิดเหตุวุ่นวาย เพราะมีชาวบ้านแห่ไปช่วยตัวประกัน ที่ซอยเพชรสยาม หมู่ 4 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้สร้างความกังขาว่า หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ใครจะเป็นคนผิด

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พล.ต.ต.ธีรวัฒน์ ณ ป้อมเพชร ผู้บังคับการสถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ถือว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งถ้ามีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงและต่อเนื่องทั้งผ่านสื่อมวลชน และใช้เครื่องขยายเสียงไปบอกกล่าว ประชาชนก็จะเข้าใจ ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น

"อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้คงขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรมว่าจะเน้นเรื่องใด การชี้แจงอาจทำน้อยไป หรืออาจต้องการทำให้เหตุการณ์สมจริงสมจัง ซึ่งมีข้อดีที่ทางตำรวจจะได้รู้ปัญหาจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ข้อเสียคือประชาชนไม่ทราบว่าเป็นการซ้อม อาจจะเข้าใจผิด และอยากจะช่วยเหลือตัวประกันได้ แต่เชื่อว่าทางผู้ฝึกอบรมน่าจะมีวิธีการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะการควบคุมฝูงชนที่จะเข้ามาช่วยเหลือตัวประกัน เจ้าหน้าที่จะต้องกันเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น นอกจากนี้ หากเป็นเหตุการณ์จริงประชาชนก็ไม่ควรเข้าไปช่วยตัวประกันเอง เพราะมีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว" พล.ต.ต.ธีรวัฒน์ กล่าว

พล.ต.ต.ธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า การฝึกซ้อมโดยหลักการแล้วจะต้องทำกันในศูนย์ฝึก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฝึกซ้อมข้างนอกไม่ได้ เพราะการฝึกซ้อมข้างนอกก็เป็นส่วนดี เนื่องจากได้ทำในพื้นที่จริง แต่ต้องมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ด้วย

"ที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะเกิดการบาดเจ็บขึ้น หลายๆ หน่วยงานก็ควรจะตระหนักถึงเรื่องนี้ จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากไปโทษใคร เพราะตำรวจก็คอยดูแลและป้องกันเหตุอยู่แล้ว แต่ถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์ให้คนรอบข้างได้รู้ ปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เกิด" พล.ต.ต.ธีรวัฒน์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) กล่าวว่า การซ้อมดังกล่าวเป็นหลักสูตรของตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ที่มีการอบรมในพื้นที่จริง ซึ่งผู้เกี่ยวข้องรู้กำหนดการทั้งหมดตลอด ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่เกิดเหตุ ตัวประกัน ส่วนคนที่ไปแย่งตัวประกันก็ล้วนเป็นตำรวจทั้งหมด ขณะที่อาวุธเป็นมีดจริงแต่กระสุนยาง

"ยอมรับว่าเรื่องนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน เพราะตัวประกันก็แสดงได้สมจริงมาก เมื่อมีการฝึกซ้อมเสร็จก็ไปทานข้าว อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เราจำเป็นต้องฝึกคนของเราให้เตรียมพร้อม เป็นการทดสอบประสิทธิภาพตำรวจในพื้นที่ ไม่มีวัตุประสงค์อื่น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีอันตรายใดๆ การซ้อมเช่นนี้จะมีไม่บ่อยนัก และถ้าเป็นเหตุการณ์จริงตำรวจก็จะเข้มข้นมากกว่านี้" พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว

นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยง หากหญิงสาวที่ถูกจี้เป็นตัวประกันเกิดตกใจจนช็อก หรือมีเหตุอื่นที่ทำให้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ตำรวจที่ดำเนินการฝึกซ้อมแผนดังกล่าวจะต้องรับโทษถูกดำเนินคดีฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บ แล้วแต่ผลที่เกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นเหตุให้เสียชีวิตต้องรับโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี

นายประมาณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ทราบว่ามีการซ้อมแผนช่วยตัวประกันดังกล่าว หลงคิดว่าตำรวจที่ปลอมตัวเป็นคนร้ายเป็นคนร้ายจริง และเข้าไปช่วยเหลือตัวประกัน โดยอาจรุมทำร้ายตำรวจจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ชาวบ้านเหล่านี้ก็จะไม่มีความผิด และไม่ต้องรับโทษใดๆ เพราะตำรวจประมาทเอง ไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ซ้อมชิงตัวประกันเริ่มเป็นเรื่องแล้วครับ...สมควรนักแล (อ่าน 3932 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้