เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 01:36:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 315666 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #165 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 07:27:36 AM »

แสนยานุภาพกองทัพนาซีเยอรมัน





แสนยานุภาพของกองทัพนาซีเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับการยอมรับว่า เป็นแสนยานุภาพที่เข้มแข็งที่สุดแสนยานุภาพหนึ่งในโลกขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหารที่มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำสูง หรือกำลังยานเกราะต่างๆ ที่ได้รับออกแบบ ให้เป็นเครื่องจักรสงครามที่ทรงประสิทธิภาพ ตลอดจนอาวุธต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นต้นแบบของอาวุธปืนในยุคปัจจุบัน ดังนั้น การศึกษาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง โดยปราศจากการศึกษาเกี่ยวกับแสนยานุภาพของกองทัพนาซี จะทำให้การค้นคว้าขาดส่วนประกอบที่สำคัญของสงครามไปอย่างน่าเสียดาย
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #166 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 09:34:37 AM »

ขอบคุณมากครับพี่มะขิ่น...

เนื้อหาลงลึกได้ใจความครับ...

อ่านแล้วค่อย save เก็บไว้ ค่อยหายอยากหน่อย...

รออ่าน Panzer II ต่อครับ...



เสริมท่าน LE นิดเดียวครับ...

เรื่องวัลฮัลลาสวรรค์ของไวกิ้ง (ที่หลายๆคนเชื่อว่าเป็นพวกที่พบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัส) ครับ...

ไวกิ้งเป็นชนชาตินักรบอย่างยิ่งยวดครับ...

เชื่อว่าถ้าอยู่ในวัลฮัลลาสู้กันตอนเช้า ใครแพ้ก็ตายไป ตกเย็นก็ฟื้นมาฟาดสุราฮาเฮ เช้าวันใหม่ก็สู้กันอีกครับ...Cheesy

ขอบคุณครับพี่รุต

อือม์ คุ้นๆ นะครับ กิจกรรมในสวรรค์เนี่ย ยิงปืนกันตอนเช้า ตกเย็นก็ฟาดสุราฮาเฮ เช้าวันใหม่ซึมเศร้า ฮิ ฮิ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #167 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 10:17:34 AM »

ขอบคุณมากครับพี่มะขิ่น...

เนื้อหาลงลึกได้ใจความครับ...

อ่านแล้วค่อย save เก็บไว้ ค่อยหายอยากหน่อย...

รออ่าน Panzer II ต่อครับ...



เสริมท่าน LE นิดเดียวครับ...

เรื่องวัลฮัลลาสวรรค์ของไวกิ้ง (ที่หลายๆคนเชื่อว่าเป็นพวกที่พบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัส) ครับ...

ไวกิ้งเป็นชนชาตินักรบอย่างยิ่งยวดครับ...

เชื่อว่าถ้าอยู่ในวัลฮัลลาสู้กันตอนเช้า ใครแพ้ก็ตายไป ตกเย็นก็ฟื้นมาฟาดสุราฮาเฮ เช้าวันใหม่ก็สู้กันอีกครับ...Cheesy

ขอบคุณครับพี่รุต

อือม์ คุ้นๆ นะครับ กิจกรรมในสวรรค์เนี่ย ยิงปืนกันตอนเช้า ตกเย็นก็ฟาดสุราฮาเฮ เช้าวันใหม่ซึมเศร้า ฮิ ฮิ

 Cheesy 555 ที่แท้ ชาวซึมเศร้าทีม ก็สืบเชื้อสายมาจากไวกิ้งนี่เอง Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #168 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:00:10 AM »

ก่อนจะคุยเรื่องการพยายามลอบฆ่าฮิตเลอร์ ขอเกริ่นเรื่องสถานการณ์ก่อนการเริ่มสงครามในยุโรปก่อนบางประเด็นนิดนึงครับ คือสัญญาแวร์ซายกด/ห้ามเยอรมันหลายอย่าง พอฮิตเลอร์มีอำนาจก็เริ่มลองเชิงละเมิดสัญญา ซึ่งเส้นทางการลองเชิงก็คือการลองว่าฝ่ายอังกฤษ/ฝรั่งเศสจะทำยังไง ตอนนั้นเมกันก็ปลีกตัวออกไปจากยุโรป

1. ขยาย/สร้าง กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไม่มีใครว่าอะไร

2. 1935 ฮิตเลอร์ส่งทหารเข้าเขตปลอดทหารแคว้นไรน์ติดพรมแดนฝรั่งเศส ก็ไม่มีใครว่าอะไร ตอนหลังเพิ่งมารู้กันว่าฮิตเลอร์ สั่งว่าถ้าทหารฝรั่งเศสแค่ระดมพลวิ่งออกจากกอง ยังไม่ต้องยิงก็ให้ทหารเยอรมันวิ่งจู๊ดออกจากแคว้นทันที

3. 1938 ฮิตเลอร์ผนวกออสเตรียซึ่งเป็นอาณาจัตรอิสระยิ่งใหญ่มา 600 ปี เป็นการแสดงนโยบายขยายอำนาจทั้งทางพื้นที่และทางการเมืองการทการอย่างแรง ก็ไม่มีใครว่าอะไร

4. 1938 ฮิตเลอร์จะยึดแคว้นซูเดเตนของเชกโกฯ อ้างว่าเป้นแคว้นที่คนเชื้อชาติเยอรมันอยู่ นายเนวิล แชมเบอร์เลย นายกอังกฤษบินไปเยอรมัน ยอมตกลงว่าเยอรมันยึดแคว้นนี้ก็ได้ อังกฤษจะไม่โวยวาย

5. ต่อมาก็เหมือนเดิมครับ ฮิตเลอร์จะยึกทั้งประเทศเชกโกฯ ท่านผู้นำอังกฤษ/ฝรั่งเศส (ดาลาดิเยร์) บินไปมิวนิกยอมหงอให้ฮิตเลอร์ นายกอังกฤษบินกลับมาประกาศที่สนามบินอย่างเท่ สัญญาว่าจะมีสันติภาพในยุคของเรา Peace in our time!

6. 30 กันยา 1939 ฮิตเลอร์บุกโปแลนด์ อังกฤษบอกให้ถอนไม่งั้นจะรบ ฮิตเลอร์ไม่ถอนก็เลยประกาศสงครามกัน


เห็นได้ว่า

1. ฮิตเลอร์ได้ใจเรื่อยๆ เพราะอังกฤษ/ฝรั่งเศสยอมหงอให้

2. ถึงอังกฤษ/ฝรั่งเศสจะยอมหงอให้ทุกครั้งฮิเลอร์ก็จะเอาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุด จนอังกฤษ/ฝรั่งเศสบอกให้หยุด ไม่งั้นจะรบ ฮิตเลอร์ก็ถึงจุดที่เลือกจะรบแล้ว

3. คนที่มีประสบการณ์ตรงยุคนั้นเลยมักเชื่อว่าถ้าฝ่ายตรงกันข้ามรุกรานประเทศอื่นแล้วจะยอมไม่ได้เพราะจะได้ใจไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด ทั้งเยอรมันขยายอำนาจ และญี่ปุ่นขยายอำนาจใช้กำลังรุกรานจีน คนกลุ่มนี้ เช่น นายจอช บุช ซีเนี่ยร์ นักบินกองทัพเรือเมกันที่หนุ่มที่สุดอายุ 19 ปี


ต่อไปจะขอนำเสนอข้อมูลจากหนังสือ Secret Germany โดย Michael Baigent และ Richard Leigh ซึ่งชี้ว่ารวมๆ กันแล้ว นักประวัติศาสตร์รวบรวมเรื่องความพยายามฆ่าฮิตเลอร์ได้ตั้ง 46 ครั้ง ระหว่างปี 1921 –1945 โดยฝ่ายพลเรือน นักวิชาการ และทหาร ในส่วนของทหารเยอรมันผู้ก่อการมีตั้งแต่ระดับ ผบ. ทบ. หลายคน เหตุที่ต้องการฆ่า/ยึดอำนาจก็เพราะไม่อยากจะทำสงครามกับชาติมหาอำนาจยุโรปอื่น ท่านๆ อย่าเพิ่งลืมว่าในการสงครามนั้นลำดับการตายคือ ทหาร ประชาชน และนักการเมือง ซึ่งส่วนมากเลือกได้ด้วยซ้ำว่าจะยอมตายหรือไปตากอากาศต่างประเทศอย่างนโปเลียน หรือในคุกกิติมศักดิ์

วิธีการมีตั้งแต่ เสธ.ทบ. ชักปืนพกยิงเอง ช่วยกันยิง 2-3 คน การให้แถวทหารที่ตั้งแถวส่งยิง ยิง 24 คนในห้องอาหาร พลร่มคอมมานโดบุกเข้าทำเนียบ วางระเบิดเครื่องบิน จนถึงระเบิดพลีชีพ…

เหตุของปฏิบัติการจริงที่ไม่สำเร็จมีตั้งแต่ จุดชนวนระเบิดที่ลวงฝากขึ้นเครื่องบินไปแล้ว เชื้อประทุทำงานแต่ไม่ระเบิด จนถึง จุดชนวนตั้งเวลาระเบิดพลีชีพแล้วแต่ฮิตเลอร์เดินหนีไปก่อน หรือเลิกแผนไปเองเพราะรอบคอบเรื่องการเมืองหลังการฆ่าฮิตเลอร์มากเกินไป…
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 01:29:21 PM โดย Corporal LE >> » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #169 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:04:57 AM »

รบกวนด้วยนะครับ  อยากรู้เรื่องของ ฟิลแลนด์ ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ที่รบกะรัสเซีย และระหว่างสงครามโลกครับ
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #170 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:21:32 AM »


รบกวนด้วยครับ..   ถ้าข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ตอนใด
ถ้าทราบว่ามีการทำ เป็นภาพยนตร์.. . หรือสารคดี
กรุณา ช่วยระบุ ชื่อภาพยนตร์ด้วย..  ขอบคุณมากครับ.  Smiley
บันทึกการเข้า

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #171 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:21:45 AM »

เรื่องแรก

ปี 1938 ฮิตเลอร์จะยึดแคว้นซูเดเตน ทหารเห็นว่าเป็นการรุกรายชาติอื่นโดยมิชอบ และที่สำคัญคือรนหาเรื่องรบกับอังกฤษ/ฝรั่งเศส และพวก ท่านๆ อย่าเพิ่งลืมว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น คนยุโรปตายกันอย่างมหาศาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์การสู้รบกันของฝรั่ง ทั้งที่ไม่มีการบอร์มเมืองกันมากอย่างสงครามโลกครั้งที่สอง การรบก็ยาวนานและโหดๆ อย่างที่สุด นายเอริก เรอมาร์ก เขียนเรื่อง แนวรบด้านตะวันตกเหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไปได้รางวัลโนเบลสันติภาพแทนด้านวรรณกรรมเพราะทำให้คนเซ็งการฆ่าฟันกัน

ดังนั้นฝ่ายทหารจึงวางแผนลักลอบนำคอมมานโดเข้าเบอร์ลิน ถ้าเกินเรื่องก็บุกเข้าที่พักฮิตเลอร์ รวมตัวไว้ แต่ก็มีแนวคิดว่าจะยั่วยุให้การ์ดของฮิตเลอร์ยิงเพื่อจะเริ่มการยิงสู้กันและจะยิงฮิตเลอร์ไปเลย สัญญาณคือถ้าเกิดเรื่องจะรบกับเชกโกฯ เยอรมันเคลื่อนกำลังพลจะได้เคลื่อนส่วนหนึ่งมายึดพื้นที่เบอร์ลินด้วย เพราะถ้ายังไม่เกิดเรื่องแต่เคลื่อนพลออกกองกรมกอง ฮิตเลอร์จะสงสัย แต่การณ์ก็คือนายกอังกฤษหงอ บิมายกซูเดเตยให้เยอรมัน ไม่เกิดการเผชิญหน้าที่ต้องเคลื่อนพล เลยไม่ได้โอกาส รวมทั้งทหารก็เห็นว่าความเสี่ยงต่อสงครามที่ไม่จำเป็นลดลงไปเลยยังไม่หักหาญออกมาล้มฮิตเลอร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 11:33:34 AM โดย Corporal LE >> » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง
ฉายเดี่ยวหมื่นลี้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7436


นิสัยน่ารัก แต่ปากหมามุ่ย


« ตอบ #172 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:38:23 AM »



สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยอมแพ้ เนื่องจากโดนระเบิดนิวเคลียร์ไป 2 ลูก เคยสงสัยไหมว่า...ทำไมต้องเป็นฮิโรชิมา นางาซากิ ทำไมไม่ใช่โตเกียวหรือโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าฮิโรชิมา ... ทำไม?

สองเมืองที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นเมืองที่ผลิตอาวุธครับ (ถ้าจำไม่ผิด หากผิด จะไปขโมยไข่บ้านท่านจรูญรับทาน)


สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยอมแพ้ เนื่องจากโดนระเบิดนิวเคลียร์ไป 2 ลูก เคยสงสัยไหมว่า...ทำไมต้องเป็นฮิโรชิมา นางาซากิ ทำไมไม่ใช่โตเกียวหรือโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าฮิโรชิมา ... ทำไม?

สองเมืองที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นเมืองที่ผลิตอาวุธครับ (ถ้าจำไม่ผิด หากผิด จะไปขโมยไข่บ้านท่านจรูญรับทาน)

กรุงโตเกียวโดนระเบิดเพลิงที่นายพล เล เมย์ (ชื่อภาษาฝรั่งเศส อ่านแบบเมกัน) สั่งฝูง B29 ไปบอร์มเผาเสีย “เกลี้ยง” แล้วครับ คนตายมากกว่าที่ฮิโรชิม่า เพื่อนญี่ปุ่นบอกว่าหลายพื้นที่ตาย/เสียหาย “หมด” ขนาดว่าคนที่รอดจากสงครามไปจับจองที่ดินได้เลยเพราะไม่เหลือทั้งอำเภอที่เก็บโฉนด และชาวบ้านที่รู้เรื่อง ตอนนั้น เล เมย์ วิเคราะห์ว่าญี่ปุ่นไม่มีศักยภาพในการต่อต้านการโจมตีทางอากาศตอนกลางคืน และบ้านเมืองส่วนมากยังเป็นไม้ เลยเสี่ยงสั่งให้เครื่อง B29 ถอดปืนกลรอบตัวออกหมด เพื่อบรรทุกระเบิดเพลิงได้มากๆ และไม่เอาเครื่องบินขับไล่คุ้มกันไป บินไปบอร์มโตเกียวหลายร้อยลำ..    นายพลอากาศอังกฤษที่มีชื่อคนนึงคือแฮริส อังกฤษเรียก แฮริสบอร์มเบอร์ - แฮริสนักบอร์ม เยอรมันเรียกแฮริสบุชเชอร์ – แฮริสนักฆ่า เทียบกัน เล เมย์ ก็เป็นแฮริสของเมกัน

ส่วนการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ มีการเลือกเป้าหมายหลัก รอง ไว้หลายเป้า ตัดเกียวโตออกไปเพราะเมกันเห็นว่ามีโบราณสถานมาก ฮิโรชิม่าเป็นเป้าหลัก ทิ้งลูกแรกได้ตรง ส่วนลูกที่สองนางาซากิเป็นเป้ารองจริงๆ จะไปทิ้งนิกาตะ แต่ทัศนวิสัยไม่ดีเลยไปทิ้งนางาซากิ ตอนกลับน้ำมันเครื่อง B29 เกลี้ยงถังจริงๆ ลงได้เครื่องก็ดับคารันเวย์ อย่างไรก็ตามนางาซากิก็เป็นเป้ารองที่เลือกแล้วภูมิประเทศน่าสนใจว่าโดนระเบิดนิวเคลียร์จะเป็นยังไง  เนื่องจากเป็นเมืองปากแม่น้ำชายทะเลและมีภูเขาสองข้าง มีการส่งเครื่องวัดลงไปวัดตามจุดต่างๆ ผมเคยไปญี่ปุ่นเงินญี่ปุ่นเขาพาไปนางาซากิเพื่อให้ไปดูพิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์โดยเฉพาะ มีคุณยายที่บาดเจ็บจากระเบิดนิวเคลียร์มาเป็นอาสาสมัครคุยกับคนที่มาชมด้วย


ผมก็ได้ไปครับ แต่ที่ฮิโรชิม่า

เป็นการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

ได้ถามเพื่อนญี่ปุ่นว่าทำไมไม่ใช่โตเกียว

ได้คำตอบเพิ่มจากที่พี่ต๊อกบอกมาอีกอย่างนึงคือ

ถ้าเป็นโตเกียว  สงครามจะไม่จบง่ายๆ  ทหารทุกคนจะสู้ตาย

เพราะไม่มีคนที่สามารถประกาศยอมแพ้ได้

พระจักรพรรดิ์อยู่ที่โตเกียว
บันทึกการเข้า

"อยากไปไหน ไปทุกที่  ถ้ามีตังค์"

ถึงจะไม่ได้รวยล้นฟ้า  แต่ข้าก็มีแผ่นดินจะอาศัย

ถึงจะไม่ได้มีอำนาจมากมาย  แต่ก็ได้ตายในแผ่นดินเกิด.....ล่ะวะ
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #173 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:47:07 AM »


อังกฤษสร้างเรือที่ยิ่งใหญ่มาสองลำ ให้ชื่อว่า "เรือที่ไม่มีวันจม" Unsinkable
แต่ทั้งสองลำ ก็จม ในเวลาอันสั้น

hood กับ prince of wale ใช่มั้ยครับ

 Grin เรือไม่มีวันจมผมรู้จักแต่ "ไทนานิค"ครับ...........เอิ๊กๆ อ๊บ อ๊บ Grin Grin
ครับ สำหรับผมก็คิดว่าสองลำนี้

Hood เป็นเรือที่ทรงอานุภาพที่สุดในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่สอง
เพราะเป็นเรือที่มีระวางขับน้ำ (น้ำหนักเรือมากที่สุด ประมาณ 46,000 ตัน)
(เรือช่วงสงครามโลก ความยิ่งใหญ่เขาวัดกันที่น้ำหนักเรือ)
เมื่อ Bismarck ออกปฏิบัติการครั้งแรก Bismarck ประมาณ 45,000 ตัน
มีปืนใหญ่ 15 นิ้ว 8 กระบอก เท่ากับ Hood

อังกฤษ ส่งเรือหลักสองลำ Hood และ Prince of Wales และเรือเล็กอื่นๆ เกือบ 100 ลำ
เพื่อทำปิดล้อม Bismarck ไม่ให้ หลุดออกมาอาละวาดในมหาสมุทรแอตแลนติกได้
การเผชิญหน้าครั้งแรกในช่องแคบเดนมาร์ค (ระหว่าง Greenland กับ Iceland)

เยอรมันมีแค่สองลำ เรือลาดตะเวณหนัก Prince Eugen (ปริน ออย เก้น) แล่นนำหน้า Bismarck
Hood คิดว่า Prince Eugen เป็น Bismarck (Prince Eugen ลักษณะคล้ายกับ Bismarck มาก แต่ลำเล็กกว่า)
Hood จึงจับเป้าไปที่ Prince Eugen, แต่ Hood และ Prince of Wales ยิงพลาดไปหมด
ทำให้ Bismarck ตั้งตัวได้ และเริ่มยิงไปที่ Hood

ด้วย Bismarck มีเรดาร์ควมคุมการยิงที่ทันสมัย ทำให้ยิงได้แม่นยำ
กระสุนชุดที่สี่ (หรือที่ห้า ผมจำไม่ได้) ก็โดนเข้าที่ Hood
เรือ Hood ออกแบบ ตัวเรือ (กราบเรือ) หนา, และ มีเกราะคาดเพื่อป้องกัน Torpido
(อังกฤษ บอกว่า ไม่มี Torpodo ชนิดไหนในโลก ที่เจาะเกราะเรือ Hood ได้)
แต่กระสุนของ Bismarck ตกเข้าไปที่ดาดฟ้า (จุดที่อ่อนทีสุด) แล้วทะลุไประเบิดที่คลังกระสุน
Hood จมลงด้วยเวลาประมาณ สาม นาที

ส่วน Prince of Wales ซึ่งเป็น Unsinkable อีกลำ
หลังจาก Hood จมไปแล้ว ก็โดนกระสุนจาก Bismarck และ Price Eugen
จนเสียหายอย่างหนัก ต้องผละจากการรบไป

ส่วน Bismarck ก็เกือบจะหนีรอดไปได้  

ยังมีต่อครับ

เอ้อ พี่สปริงฟิวด์ ลองฟังวิทยุ FM 102.25 สิครับ บางทีเขาเอาเพลงปลุกใจอังกฤษยุคนั้นมาเปิด เนื้อเรื่องเรือบิสมาร์กจมเรือฮูด แล้วอังกฤษจะต้องแก้แค้นคืน สถานีนี้เปิดเพลงหลากหลายดีครับ บางทีก็เอาเพลงโอเปร่า No one shall sleep มาเปิด บางทีก็เพลงประสานเสียงไทยๆ ฮิ ฮิ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
lp1921
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #174 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:50:27 AM »

ขอบคุณพี่ๆน้าๆลุงๆทุกๆท่านด้วยนะครับ
ที่มาให้ความรู้กับผม
บันทึกการเข้า
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #175 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:55:34 AM »

รบกวนด้วยนะครับ  อยากรู้เรื่องของ ฟิลแลนด์ ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ที่รบกะรัสเซีย และระหว่างสงครามโลกครับ

มีเพื่อนชาวฟินแลนด์เล่าให้ฟังว่า เฮลซิงกิ คือ hell sing "ki" ตอนสงครามโลกครั้งที่2 โดนทั้งรัสเซีย และ เยอรมันรุมสกรัม เมืองหลวงวอดวายทั้งเมือง คนฟินแลนด์เกลียดเยอรมัน แต่เกลียดรัสเซียยิ่งกว่าครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #176 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:55:54 AM »


รบกวนด้วยครับ..   ถ้าข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ตอนใด
ถ้าทราบว่ามีการทำ เป็นภาพยนตร์.. . หรือสารคดี
กรุณา ช่วยระบุ ชื่อภาพยนตร์ด้วย..  ขอบคุณมากครับ.  Smiley


มีเยอะครับพี่โร้ด............ทั้งเอาประวัติศาสตร์จริงๆมาทำ กับแต่งเรื่องขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง................

ประวัติศาสตร์จริงๆ มี

1. The GREAT RAID 121 ............เป็นเรื่องของกองทหารอเมริกัน บุกเข้าช่วยเชลยศึกในค่ายทหารญี่ปุ่น ที่คาบาน่าทวน ฟิลิบปินส์..............ตัวละครมีตัวตนจริงๆ และคัดคนแสดงเหมือนด้วย

2.  TORA TORA TORA  The Attack on Pearl Harbor ..............ดั้งเดิมเนื้อหาประวัติศาสตร์แท้ๆ ไม่ใช่ Pearl Harbor ที่สร้างใหม่เป็นทำนองนิยายรักระหว่างรบ

3. Schindler's List ................เรื่องราวของ ออสก้า ชิลเด้น นักธุรกิจ ที่ช่วยชีวิตชาวยิวไว้ส่วนหนึ่ง จนตัวเองต้องหมดตัว.............

4. PATTON ................อัตชีวประวัติของ นายพล จอร์จ แพตตัน แห่งกองทัพที่ 3

5. The Longest Day .............. วันดีเดย์ 6 มิ.ย. 1944

6. Memphis Bells ...................เรื่องราวของลูกเรือ บ.ทิ่งระเบิด B17 สังกัดกองทัพอากาศที่ 8 ที่ทำงานเที่ยวบินสุดท้าย เที่ยวที่ 25 ก่อนปลดประจำการ.............

7. The Big Red One ................เรื่องราวของหมู่ทหารราบที่ทำหน้าที่ Scout นำหน้าการเคลื่อนที่ของกองทหารใหญ่............พลปืนเล็กในหมู่นี้ ภายหลังเป็นผู้สร้างหนังฮอลลีวู้ด เลยนำเรื่องราวของตนเองและหมู่ที่ตนเองสังกัดมาทำหนัง..............


ที่เอาเหตุการณ์มาเสริมแต่งเป็นดราม่า..............ลักษณะเป็นชีวิตของตัวละคร

1. All Quiet on The Western Front แนวรบด้านตะวันออก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง .................ชีวิตขงพลทหารเยอรมัน ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

2. Battle of Britain ...............การรบทางอากาศเหนือเกาะอังกฤษ ........ท้ายเรื่องมีมุกเหน็บเจ็บๆคันๆ เมื่อ เกอริ่ง ถามนายทหารอากาศเยอรมันคนหนึ่งว่า ถ้าเราจะจะชนะ เราต้องทำยังไง.........ลูกน้องตอบว่า ขอเครื่องบินขับไล่สปิตไฟท์ ให้ผมหน่อย  Grin

3. DAYS of GLORY .............เรื่องของทหารอาณานิคมฝรั่งเศส ที่ร่วมรบกับกองทัพฝรั่งเศส ในแอฟริกาและยุโรป............เป็นดราม่าเต็มๆ

4. WINDTALKERS ...........เรื่องราวในสมรภูมิแปซิฟิค ของผู้กำกับจอมเว่อ สะเหร่อตลอดกาล จอห์น วู...............

5. U-571 .............เรื่องราวของการปฏิบัติการพิเศษของ ทหารเรือประจำเรือดำน้ำกับนาวิกโยธินสหรัฐ ในการชิงเครื่องถอดรหัส"อีนิกม่า" ในเรือ U-571 ของเยอรมัน................

6. BRIDGE at REMAGEN ..................การยึดสะพานรีมาเกนของสหรัฐที่ถุกเยอรมันต่อต้านขนาดหนัก..............

7. DARK BLUE WORLD ...............เรื่องราวของนักบินขับไล่เช็คฯ ที่หนีกองทัพเยอรมัน มาเป็นนักบินอาสาในกองทัพอากาศอังกฤษ .................หนังดีที่ทำเงินไม่ได้ในบ้านเราเลย

8. HART'S WAR .............เรื่องราวของทหารอเมริกัน ที่ตกเป็นเชลย จากยุทธการ บัจน์ เบลเยี่ยม............ถูกจับในป่าอาเดน แล้วเข้าไปวุ่นวายกับพวกตัวเองในค่ายเชลยศึกเยอรมัน..............หนังเรื่องนี้รายละเอียดดี เช่น เครื่องบิน P51 Mustang ฝูงที่มีนักบินนิโกรบินทาสีด้วยสีแดง..........ปืนพก Browning HP ในมือทหารเยอรมัน ที่ปลอมตัวเป็น MP อเมริกา................

นึกได้แค่นี้ครับ........... Grin
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #177 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 11:59:00 AM »



สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยอมแพ้ เนื่องจากโดนระเบิดนิวเคลียร์ไป 2 ลูก เคยสงสัยไหมว่า...ทำไมต้องเป็นฮิโรชิมา นางาซากิ ทำไมไม่ใช่โตเกียวหรือโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าฮิโรชิมา ... ทำไม?

สองเมืองที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นเมืองที่ผลิตอาวุธครับ (ถ้าจำไม่ผิด หากผิด จะไปขโมยไข่บ้านท่านจรูญรับทาน)


สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยอมแพ้ เนื่องจากโดนระเบิดนิวเคลียร์ไป 2 ลูก เคยสงสัยไหมว่า...ทำไมต้องเป็นฮิโรชิมา นางาซากิ ทำไมไม่ใช่โตเกียวหรือโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่กว่าฮิโรชิมา ... ทำไม?

สองเมืองที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นเมืองที่ผลิตอาวุธครับ (ถ้าจำไม่ผิด หากผิด จะไปขโมยไข่บ้านท่านจรูญรับทาน)

กรุงโตเกียวโดนระเบิดเพลิงที่นายพล เล เมย์ (ชื่อภาษาฝรั่งเศส อ่านแบบเมกัน) สั่งฝูง B29 ไปบอร์มเผาเสีย “เกลี้ยง” แล้วครับ คนตายมากกว่าที่ฮิโรชิม่า เพื่อนญี่ปุ่นบอกว่าหลายพื้นที่ตาย/เสียหาย “หมด” ขนาดว่าคนที่รอดจากสงครามไปจับจองที่ดินได้เลยเพราะไม่เหลือทั้งอำเภอที่เก็บโฉนด และชาวบ้านที่รู้เรื่อง ตอนนั้น เล เมย์ วิเคราะห์ว่าญี่ปุ่นไม่มีศักยภาพในการต่อต้านการโจมตีทางอากาศตอนกลางคืน และบ้านเมืองส่วนมากยังเป็นไม้ เลยเสี่ยงสั่งให้เครื่อง B29 ถอดปืนกลรอบตัวออกหมด เพื่อบรรทุกระเบิดเพลิงได้มากๆ และไม่เอาเครื่องบินขับไล่คุ้มกันไป บินไปบอร์มโตเกียวหลายร้อยลำ..    นายพลอากาศอังกฤษที่มีชื่อคนนึงคือแฮริส อังกฤษเรียก แฮริสบอร์มเบอร์ - แฮริสนักบอร์ม เยอรมันเรียกแฮริสบุชเชอร์ – แฮริสนักฆ่า เทียบกัน เล เมย์ ก็เป็นแฮริสของเมกัน

ส่วนการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ มีการเลือกเป้าหมายหลัก รอง ไว้หลายเป้า ตัดเกียวโตออกไปเพราะเมกันเห็นว่ามีโบราณสถานมาก ฮิโรชิม่าเป็นเป้าหลัก ทิ้งลูกแรกได้ตรง ส่วนลูกที่สองนางาซากิเป็นเป้ารองจริงๆ จะไปทิ้งนิกาตะ แต่ทัศนวิสัยไม่ดีเลยไปทิ้งนางาซากิ ตอนกลับน้ำมันเครื่อง B29 เกลี้ยงถังจริงๆ ลงได้เครื่องก็ดับคารันเวย์ อย่างไรก็ตามนางาซากิก็เป็นเป้ารองที่เลือกแล้วภูมิประเทศน่าสนใจว่าโดนระเบิดนิวเคลียร์จะเป็นยังไง  เนื่องจากเป็นเมืองปากแม่น้ำชายทะเลและมีภูเขาสองข้าง มีการส่งเครื่องวัดลงไปวัดตามจุดต่างๆ ผมเคยไปญี่ปุ่นเงินญี่ปุ่นเขาพาไปนางาซากิเพื่อให้ไปดูพิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์โดยเฉพาะ มีคุณยายที่บาดเจ็บจากระเบิดนิวเคลียร์มาเป็นอาสาสมัครคุยกับคนที่มาชมด้วย


ผมก็ได้ไปครับ แต่ที่ฮิโรชิม่า

เป็นการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

ได้ถามเพื่อนญี่ปุ่นว่าทำไมไม่ใช่โตเกียว

ได้คำตอบเพิ่มจากที่พี่ต๊อกบอกมาอีกอย่างนึงคือ

ถ้าเป็นโตเกียว  สงครามจะไม่จบง่ายๆ  ทหารทุกคนจะสู้ตาย

เพราะไม่มีคนที่สามารถประกาศยอมแพ้ได้

พระจักรพรรดิ์อยู่ที่โตเกียว

ครับผม ตอนญี่ปุ่นแพ้แล้วมีคนถามแมกอาเธอร์ว่าทำไมเมกันไม่จับพระจักรพรรดิ์ขึ้นศาลอาชญากรสงคราม ท่านแมกตอบว่า ถ้าจะทำยังงั้นขอทหารอีก 10 ล้านคน เอามาฆ่าพวกญี่ปุ่นให้หมดประเทศก่อนถึงจะได้

แต่ไม่ว่าฝรั่ง (จนถึงสมัยนี้) จะมองยังไง ความจริงคืออำนาจเบ็ดเสร็จในทางปฏิบัติจริงๆ ของญี่ปุ่นอยู่ที่รัฐบาลโตโจเท่านั้น
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #178 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 12:10:26 PM »

อือม์ หนังสงคราม ขอนึกๆ เพิ่มครับ

"A bridge too far" ปฏิบัติการ Market - Garden วันที่ 17 กันยา 1944

Market - ส่งกำลังทางอากาศไปยึกสะพานที่ Armhen และ Nijmegen ในฮอลแลนด์

และในส่วนของ Garden คือการที่แนวรบบุกเข้าไปช่วยยึดพื้นที่อย่างเร็ว

แผนเสีย กำลังที่แนวรบเดิมบุกเข้าไปไม่ได้ พลร่มโดน Waffen SS และทหารบกเยอรมันล้อม ตายไป 7-9 พันคน บางทฤษฎีโดยเฉาพในหนังสือของ Oreste Pinto นักต่อต้านจารชนอังกฤษ บอกว่า นาย Christian Lindeman ฉายา King Kong ใต้ดินดัชท์ เป็นสายลับสองหน้าให้เยอรมัน ไปบอกเยอรมันเร่องการบุกเยอรมันจึงเคลื่อนยานเกราะ SS มาล้อม แต่ความจริงหลักที่ปฏิวเธไม่ได้คือเยอรมันก็ระแวงการบุกแบบนี้เหมือนกัน พยายามปล่อยน้ำให้ท่วมทุ่งกันเครื่องร่อน และที่สำคัญคือถึงพลร่มไม่โดนรุมกองกำลังหลักก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี

ประวัติศาสตร์ชีวิตที่เกี่ยวกับปฏิบัติการมีอีก คือ ถ้าปฏิบัติการนี้สำเร็จ สัมพันธมิตรจะเข้าฮอลแลนด์ได้เร็วมากขึ้นหลายเดือน แอน แฟรงค์ จะไม่ถูกเกสตาโปจับไปจนเสียชีวิตในค่ายกักกันเบลเซน

   
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9042



« ตอบ #179 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 12:29:08 PM »

จบมหากาพย์สงครามโลกแล้ว....ขอต่อด้วยสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสได้มั๊ยครับ...
เพราะไม่บ่อยครั้งที่เราได้รบกับมหาอํานาจแบบเต็มรูปแบบทั้งบก เรือ และอากาศ....
บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 23 คำสั่ง