เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 05:12:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 10 11 12 [13] 14 15 16 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 316020 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #180 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 01:03:59 PM »

ต่อเรื่องเครื่องบินครับ fw190 มีขนาดใหญ่กว่า mb109 พิสัยบินไกลกว่า ถ้าเยอรมันผลิต fw190 ได้ทันช่วงต้นสงคราม อังกฤษคงจมทะเลไปแล้วครับ(ปัญหาตอน Battle of Britain ของเยอรมันคือ เครื่อง bf109 มีขนาดเล็กพิสัยบินไม่ไกลมีเวลาบินเหนืออังกฤษแค่30 นาที) สามารถติดปืน 13 มม. 2 กระบอก(กระบอกละ 475 นัด) ปืน 20 มม. 4 กระบอก(กระสุนปืนคู่ในกระบอกละ 250 นัดคู่นอกกระบอกละ 140นัด) แต่ version ที่เครื่องบิน b 17 กลัวมาก จะติด ปืน 13 มม. 2กระบอก ปืน 30 มม. mk103 3กระบอก (2 กระบอกใต้ปีก อีก 1 กระบอก ติดกลางเครื่องยนต์ลำกล้องอยู่กลางแกนใบพัด น้ำหนักกระสุนนัดละ ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม อัตรายิงกระบอกละ 440 นัด/นาที)


http://en.wikipedia.org/wiki/Focke-Wulf_Fw_190
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 01:06:45 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #181 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 01:10:52 PM »

Panzer II ยังไม่ออกเลย Grin Grin Grin

คุณหมอ Rute ครับ ผมว่าผมมีสารคดีเกี่ยวกับรถถังเยอรมัน แต่ขออนุญาตไปรื้อกองซีดีก่อน

บันทึกการเข้า

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #182 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 01:28:43 PM »

เรื่องที่ 2

27 กันยา 1938 ฮิตเลอร์จะยึดเชกโกฯ ทั้งประเทศ ระดมกำลังที่ชายแดน ทหารก็เตรียมพร้อมจะบุกเข้าจับ และ/หรือยิง แต่วันต่อมาเกิดการระชุมฉาวที่มิวนิก นายกอังกฤษบินมาหงอฮิตเลอร์ดังกล่าว ทำให้ ทหารเลิกแผนไปอีก เสนาธิการทหารบก พลเอกฟรานซ์ ฮัลเดอร์ (Franz Halder) ให้การหลังสงครามว่าถ้านายกอังกฤษไม่บินมาหงอฮิตเลอร์ ทหารบกจะเข้ายึดอำนาจแน่

เรื่องที่ 3

ปี 1939 หลังจากการประกาศสงครามกับอังกฤษไม่นาย พลเอก เคิร์ท ฟอน ฮัมเมอร์ชไตน์ (Kurt Von Hammerstein) อดีต ผบ.ทบ. วางแผนฆ่าฮิตเลอร์ แต่ไม่สำเร็จ และไม่มีรายละเอียดอะไรนัก ฮีมเมอร์ชไตน์เสียชีวิตด้วยมะเร็งในปี 1943 ก่อนเสียชีวิตกล่าวด้วยความขมขื่นว่า “ชนชาติ (เยอรมัน) ที่ไม่รู้เรื่องความถูก/ผิด ความดี/ชั่วอย่างนี้ ก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกทำลาย”

เรื่องที่ 4

หลังการยึดโปแลนด์สำเร็จ พลเอกฮัลเดอร์ก็ลองอีก โดยรวมรวมพลพรรคเดิม และชักชวนนายพล ไฮซ์ กูเดเรียน (Heinz Guderian) ผบ. ยานเกราะมาร่วมด้วย คราวนี้จะไม่ฆ่าแค่ฮิตเลอร์แต่จะเก็บนาซีคนสำคัญอื่นๆ อีกด้วย โดยคณะผู้ก่อการได้ติดต่อเจ้าชาย Louis Ferdinand หลานของไกเซอร์วิลเฮลม์ที่ 2 ไว้ว่าเมื่อล้มฮิตเลอร์แล้วจะอัญเชิญมาเป็นกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ก่อนจะปฏิบัติการดันมีการระเบิดในโรงเบียร์ในมิวนิกที่ฮิตเลอร์จะไปฉลองกิจกรรมพรรคนาซีสมัยก่อน ทำให้เกิดการเข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้พลเอก Brauchitsch ผบ.ทบ. ขณะนั้นไม่เข้าร่วมคณะด้วย ทำให้ต้องล้มแผน แต่หลังจากนั้นหลายอาทิตย์พลเอกฮัลเดอร์ เสธ. ทบ. ก็คิดจะยิงฮิตเลอร์ต่อหน้าด้วยตัวเองแต่จนแล้วจนรอดไม่ได้ทำ

เรื่องที่ 4

ปี 1941 จอมพล Von Witzleben ผู้บัญชาการกองทัพภาคตะวันตก วางแผนฆ่าฮิตเลอร์ที่ปารีส โดยจะจัดสวนสนามให้ฮิตเลอร์เป็นประธานแล้วจะให้ทหาร 2 คนช่วยกันยิง และมีคนที่สามคอยขว้างระเบิดเสริม แต่ฮิตเลอร์ก็ไปปารีสเพียงครั้งเดียวตอนเพิ่งยึดได้ จอมพลเชิญไอีกหลายครั้งก็ไม่ยอมไป เลยไม่เข้าพื้นที่อิทธิพลและพื้นที่สังหารของแม่ทัพภาค

เรื่องที่ 5

มกรา 1943 พลตรี Henning Von Treschkow นายทหารในแนวรบโซเวียตภาคกลางวางแผนให้ทหาร 24 คนชักปืนมายิงฮิตเลอร์ตอนไปตรวจเยี่ยมและไปกินข้าวกลางวัน โดยคิดว่าต้องช่วยกันรุมยิงเพราะเผื่อเสริฟลูกปืนให้พวก SS อารักขาที่แวดล้อมโต๊ะกินข้าวของฮิตเลอร์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ลงมือ เพราะจอมพล Kluge แม่ทัพกลุ่มกองทัพภาคไม่เห็นด้วย บอกว่า “แหม ใจคอจะรุมยิงคนกำลังกินข้าวเลยเหรอ?”
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #183 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 01:41:41 PM »

ต่อเรื่องเครื่องบินครับ fw190 มีขนาดใหญ่กว่า mb109 พิสัยบินไกลกว่า ถ้าเยอรมันผลิต fw190 ได้ทันช่วงต้นสงคราม อังกฤษคงจมทะเลไปแล้วครับ(ปัญหาตอน Battle of Britain ของเยอรมันคือ เครื่อง bf109 มีขนาดเล็กพิสัยบินไม่ไกลมีเวลาบินเหนืออังกฤษแค่30 นาที) สามารถติดปืน 13 มม. 2 กระบอก(กระบอกละ 475 นัด) ปืน 20 มม. 4 กระบอก(กระสุนปืนคู่ในกระบอกละ 250 นัดคู่นอกกระบอกละ 140นัด) แต่ version ที่เครื่องบิน b 17 กลัวมาก จะติด ปืน 13 มม. 2กระบอก ปืน 30 มม. mk103 3กระบอก (2 กระบอกใต้ปีก อีก 1 กระบอก ติดกลางเครื่องยนต์ลำกล้องอยู่กลางแกนใบพัด น้ำหนักกระสุนนัดละ ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม อัตรายิงกระบอกละ 440 นัด/นาที)


http://en.wikipedia.org/wiki/Focke-Wulf_Fw_190

ครับ สมัย Battle of Britain เยอรมันบินไปแป๊ปเดียวก็ต้องกลับ ถ้ารบติดพันน้ำมันก็ไม่พอ กลับมาต้องลงฉุกเฉินเครื่องพัง หรือโดดลงน้ำ ถ้าโดหนีที่อังกฤษก็ถูกจับ เสียนักบินไปเลย

FW 190 แรงดี บินทนกว่ามาก ช่วงหลังยังมีรุ่น D หรือเรียกกัยว่า Dora หัวยาว จมูกยาวพิเศษ แรงดี ศักยภาพสูงมากครับ

เครื่อง ME 109 เล็กนิดเดียว ความกว้างขอบซ้าย-ขวาห้องนักบินแค่ประมาณ 60 ซม. ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่านักบินเยอรมันใส่ชุดบินจะยัดคัวลงไปได้ ท่านที่เล่นโมเดลคงเห็นชัดว่าขนาดย่อมเท่ากัน ME 109 เล็กนิดเดียว เล็กกว่าซีโร่อีก 
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #184 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 02:23:10 PM »

ยานเกราะเยอรมัน ตระกูล Panzer  II

คราวนี้เรามาว่ากันเรื่อง รถถังตระกูล Panzer II กัน ................

Panzerkampwagen II (Sd.Kfz 121) เป็นรถถังเบาที่ออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มอำนาจการยิง และการป้องกันตนเองมากขึ้นจาก Panzer I  โดย เริ่มที่รุ่น Ausf A/1 ,A/2 และ A/3  ............ผลิตโดย MAN , Daimler-Benz  ผลิตออกมา 75 คัน ช่วง พ.ค. 1936- ก.พ. 1937.............โดยมีคุณลักษณะดังนี้

-อาวุธ ...................ปืนใหญ่ขนาด 2 ซม.(20 มม.) แบบ KwK30 L/55 จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL57TR  6 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 7.6 ตัน
-ยาว 4.38 เมตร กว้าง 2.14 เมตร สูง 1.95 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 200 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย




Panzer II Ausf B……….ผลิต 25 คัน ช่วง ก.พ.-มี.ค. 1937 แค่เปลี่ยนเครื่องให้แรงขึ้นเป็นเครื่อง Maybach HL62TR



Panzer II Ausf C ………….ผลิต 1,113 คัน ช่วง เดือน มี.ค. 1937-เม.ย. 1940 โดยหลายๆบริษัท คือ Man , Daimler-Benz , Henschel , Wegmann , Alkett , MIAG และ FAMO

-อาวุธ ...................ปืนใหญ่ขนาด 2 ซม.(20 มม.) แบบ KwK30 L/55 จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL62TR  6 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 8.9 ตัน
-ยาว 4.38 เมตร กว้าง 2.14 เมตร สูง 1.95 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 200 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย





Panzer II Ausf D and E …………..ผลิตโดย บ. MAN จำนวน 43 คัน ช่วง พ.ค.1938- ส.ค. 1939

-อาวุธ ...................ปืนใหญ่ขนาด 2 ซม.(20 มม.) แบบ KwK30 L/55 จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL62TR  7 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 10.0 ตัน
-ยาว 4.65 เมตร กว้าง 2.3 เมตร สูง 2.06 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 55 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 200 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย



Panzer II Ausf F ………………..ผลิตโดย บ.Famo จำนวน 524 คัน ช่วง มี.ค.1941-ธ.ค. 1942

-อาวุธ ...................ปืนใหญ่ขนาด 2 ซม.(20 มม.) แบบ KwK30 L/55 จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL62TR  6 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 9.5 ตัน
-ยาว 4.81 เมตร กว้าง 2.28 เมตร สูง 2.15 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 200 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย



Panzer II Fiamm Ausf A /B ( Sd.Kfz.122) ..................ฉายา Flamingo…………..   ติดตั้งเครื่องฉีดไฟ จำนวน 2 เครื่อง ปืนกล MG 34 จำนวน 1 กระบอก ..................ผลิตจากโรงงาน จำนวน 112 คัน และ ดัดแปลงจาก Panzer II Ausf D และ E จำนวน 43 คัน ...........ในช่วง ม.ค. 1940-มี.ค. 1942

-อาวุธ ...................เครื่องฉีดไฟ จำนวน 2 เครื่อง ถังเชื้อเพลิง ขนาด320 ลิตร , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL62TR  7 เกียร์เดินหน้า 3 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 12.0 ตัน
-ยาว 4.9 เมตร กว้าง 2.4 เมตร สูง 1.85 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 55 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 250 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย





Panzer II Ausf G ………………..ผลิตโดย MAN จำนวน 12 คัน ช่วง เม.ย.1941-ก.พ.1942............เริ่มมีการปรับระบบพยุงตัวรถ จากแหนบเป็นคานบิด...................



-อาวุธ ...................ปืนกล EW141 MG  จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL66TR  5 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 10.5 ตัน
-ยาว 4.24 เมตร กว้าง 2.38 เมตร สูง 2.05 เมตร
-ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. ,ระยะปฏิบัติการ 200 กม.
-พลประจำรถ 3 นาย



Panzer II Ausf J …………….ผลิตโดย MAN จำนวน 22 คัน ช่วง เม.ย.-ธ.ค. 1642


-อาวุธ ...................ปืนใหญ่ขนาด 2 ซม.(20 มม.) แบบ KwK38 L/55 จำนวน 1 กระบอก , ปืนกล MG 42 ขนาด 7.92 มม. จำนวน 1 กระบอก
-เครื่องยนต์ ........... Maybach HL45TR  5 เกียร์เดินหน้า 1 เกียร์ถอยหลัง
-น้ำหนัก 18.0 ตัน
-ความเร็วสูงสุด 31 กม.
-   พลประจำรถ 3 นาย



เยอะครับ..................รอต่ออีก Grin

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 02:35:45 PM โดย มะขิ่น » บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #185 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 02:34:59 PM »

ขออภัย ขอต่อเรื่องภาพยนตร์เกี่ยวกะสงครามโลกครั้งที่สอง


Enemy at The Gate

เรื่องของทหารปืนลอบสังหารผู้มีชื่อเสียงจากรัสเซีย วาซิลี เซทเซฟ (จูด ลอว์) ค่อยๆ สะกดรอยศัตรูของเขาทีละคนๆ
ในไม่ช้า ชื่อเสียงของเขาก็ผลักดันให้เขาเข้าสู่การต่อสู้ส่วนตัวครั้งสำคัญ กับนักแม่นปืนที่เก่งที่สุดของเยอรมันคือ
พันตรี โคนิจ (เอ็ด ฮาร์ริส) และทั้งสองก็พบว่า ตนเองกำลังต่อสู้อยู่ในสงครามส่วนตัว ขณะที่มีสงครามครั้งสำคัญ
ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์อยู่รายรอบ


Band of Brothers
ทอม  แฮงค์ กะ สตีเว่น สปีลเบิร์กเรื่องจริงของหน่วย AIR BORN ของ AMERICA
หน่วยพลร่มในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหน่วยทดลองเป็นกองกำลังทหารอาสานำทหารและนายทหารฝึกร่วมกัน
ทั้งหน่วย จะฝึกหน่วยรบทหารประชาชนให้รับมือกับกองทัพที่น่ากลัวที่สุดในโลกได้หรือไม่ ?
ฮิตเลอร์เป็นคนแรกที่ตอบว่า ไม่มีทางกองร้อยอีซี กรมพลร่มที่ 506 กองพลร่มที่ 101 "อินทรีโกญจนาท"
โดดร่มลงในนอร์มังดี เคลื่อนทัพผ่านห้าประเทศ...เป็นกองทัพแรกที่บุกเข้าไปยัง "รังนกอินทรี" ของฮิตเลอร์


ความผูกพันของเพื่อนตายสหายศึกสนิทแนบแน่นไปชั่วชีวิต แม้กองอาสาจะสลายตัวพลร่มใช้ชีวิตเป็นราษฏร
เต็มขั้นเมื่อสงครามสงบ


Saving Private Ryan

ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ที่ต้องนำลูกน้องข้ามแดนศัตรูเพื่อตามหาพลทหารเจมส์ ไรอัน ผู้เสียพี่ชายทั้งสาม
ไปแล้วในสงคราม หลังเผชิญกับความสูญเสีย นายทหารกลุ่มนี้ได้กังขาต่อภารกิจของตนว่า ทำไมชีวิตของคน
ทั้งแปดจะต้องเสี่ยงเพื่อชีวิตของคนๆเดียว ท่ามกลางสงครามที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย แต่ละคนต่างค้นพบ
คำตอบและร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อชัยชนะเหนืออนาคตอันไม่เที่ยง ด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี และความห้าวหาญ


The thin red line

เรื่องราวระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ณ.คาบสมุทรแปซิฟิก (จำได้แค่นี้ครับ)


Letters From Iwo jima

เรื่องราวการต่อสู้บนเกาะอิโวจิม่า ระหว่างฝ่ายญี่ปุ่นเจ้าของแผ่นดิน และฝ่ายอเมริกาผู้รุกราน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยผ่านทางมุมมองของคนญี่ปุ่นที่ต้องรับมือในสงครามครั้งนี้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 03:20:53 PM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #186 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 03:01:27 PM »

ME 262 เครื่องบินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในสงครามโลกครั้งที่2 (แต่ระหว่างยิง b17 เพลิน โดนp51 มัสแตงแอบยิงตกไปหลายเครื่องเหมือนกัน)ติดเครื่องยนต์ turbo jet แรงขับเครื่องละ ประมาณ2000 ปอนด์ 2 เครื่อง ความเร็วสูงสุด 870 km/h พิสัยบิน 1000 km
อาวุธหลัก ปืน 30 mm. MK108 4 กระบอก (กระสุนรวม360 นัด)
แต่น่าเสียดายออกมาช้าเกินไปเนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนโดนระเบิดไปหลายรอบ ทำให้การผลิตล่าช้า
ช่วงท้ายสงครามหลังจาก ME262 อัตราสูญเสียของเครื่องบินทิ้งระเบิด พันธมิตร สูงถึง 1/3 ครับ

http://es.wikipedia.org/wiki/Messerschmitt_Me_262
http://en.wikipedia.org/wiki/Messerschmitt_Me-262
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #187 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 03:15:03 PM »

คุณ nars ....หาข้อมูลของ FW 190 D9 กับ TA 152 มาหน่อยสิครับ........
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #188 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 03:31:28 PM »

เอ้อเหอ...

นายสมชายพูดไม่ออก ได้แต่กลอกตาไปมา อ่านเพลิน...

ขอบพระคุณทุกท่านที่รังสรรค์ผลงานความรู้ครับ...
บันทึกการเข้า
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #189 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 04:17:22 PM »

คุณ nars ....หาข้อมูลของ FW 190 D9 กับ TA 152 มาหน่อยสิครับ........

TA 152 เป็นรุ่นที่พัฒนาจาก fw190 โดย kurt เลยใช้รหัสใหม่ว่า TA152 มีการผลิตเครื่องต้นแบบ ประมาณ150 เครื่องและสายการผลิตสร้างออกมาได้ประมาณ67 เครื่อง มีถังน้ำมันขนาดใหญ่พิสัยบินไกล 2000 kmครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Focke-Wulf_Ta_152
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2007, 04:20:01 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #190 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 05:24:32 PM »

Panzer II ยังไม่ออกเลย Grin Grin Grin

คุณหมอ Rute ครับ ผมว่าผมมีสารคดีเกี่ยวกับรถถังเยอรมัน แต่ขออนุญาตไปรื้อกองซีดีก่อน



ขอบคุณล่วงหน้าครับ... Grin
บันทึกการเข้า
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #191 เมื่อ: กันยายน 25, 2007, 09:42:13 PM »


อังกฤษสร้างเรือที่ยิ่งใหญ่มาสองลำ ให้ชื่อว่า "เรือที่ไม่มีวันจม" Unsinkable
แต่ทั้งสองลำ ก็จม ในเวลาอันสั้น

hood กับ prince of wale ใช่มั้ยครับ

 Grin เรือไม่มีวันจมผมรู้จักแต่ "ไทนานิค"ครับ...........เอิ๊กๆ อ๊บ อ๊บ Grin Grin
ครับ สำหรับผมก็คิดว่าสองลำนี้

Hood เป็นเรือที่ทรงอานุภาพที่สุดในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่สอง
เพราะเป็นเรือที่มีระวางขับน้ำ (น้ำหนักเรือมากที่สุด ประมาณ 46,000 ตัน)
(เรือช่วงสงครามโลก ความยิ่งใหญ่เขาวัดกันที่น้ำหนักเรือ)
เมื่อ Bismarck ออกปฏิบัติการครั้งแรก Bismarck ประมาณ 45,000 ตัน
มีปืนใหญ่ 15 นิ้ว 8 กระบอก เท่ากับ Hood

อังกฤษ ส่งเรือหลักสองลำ Hood และ Prince of Wales และเรือเล็กอื่นๆ เกือบ 100 ลำ
เพื่อทำปิดล้อม Bismarck ไม่ให้ หลุดออกมาอาละวาดในมหาสมุทรแอตแลนติกได้
การเผชิญหน้าครั้งแรกในช่องแคบเดนมาร์ค (ระหว่าง Greenland กับ Iceland)

เยอรมันมีแค่สองลำ เรือลาดตะเวณหนัก Prince Eugen (ปริน ออย เก้น) แล่นนำหน้า Bismarck
Hood คิดว่า Prince Eugen เป็น Bismarck (Prince Eugen ลักษณะคล้ายกับ Bismarck มาก แต่ลำเล็กกว่า)
Hood จึงจับเป้าไปที่ Prince Eugen, แต่ Hood และ Prince of Wales ยิงพลาดไปหมด
ทำให้ Bismarck ตั้งตัวได้ และเริ่มยิงไปที่ Hood

ด้วย Bismarck มีเรดาร์ควมคุมการยิงที่ทันสมัย ทำให้ยิงได้แม่นยำ
กระสุนชุดที่สี่ (หรือที่ห้า ผมจำไม่ได้) ก็โดนเข้าที่ Hood
เรือ Hood ออกแบบ ตัวเรือ (กราบเรือ) หนา, และ มีเกราะคาดเพื่อป้องกัน Torpido
(อังกฤษ บอกว่า ไม่มี Torpodo ชนิดไหนในโลก ที่เจาะเกราะเรือ Hood ได้)
แต่กระสุนของ Bismarck ตกเข้าไปที่ดาดฟ้า (จุดที่อ่อนทีสุด) แล้วทะลุไประเบิดที่คลังกระสุน
Hood จมลงด้วยเวลาประมาณ สาม นาที

ส่วน Prince of Wales ซึ่งเป็น Unsinkable อีกลำ
หลังจาก Hood จมไปแล้ว ก็โดนกระสุนจาก Bismarck และ Price Eugen
จนเสียหายอย่างหนัก ต้องผละจากการรบไป

ส่วน Bismarck ก็เกือบจะหนีรอดไปได้  

ยังมีต่อครับ

เอ้อ พี่สปริงฟิวด์ ลองฟังวิทยุ FM 102.25 สิครับ บางทีเขาเอาเพลงปลุกใจอังกฤษยุคนั้นมาเปิด เนื้อเรื่องเรือบิสมาร์กจมเรือฮูด แล้วอังกฤษจะต้องแก้แค้นคืน สถานีนี้เปิดเพลงหลากหลายดีครับ บางทีก็เอาเพลงโอเปร่า No one shall sleep มาเปิด บางทีก็เพลงประสานเสียงไทยๆ ฮิ ฮิ

ครับ จะลองเปิดฟังดูครับ
สมัยนั้นอังกฤษเสีบขวัญมากจากการสูญเสียเรือ Hood
นายก Churchill บอกว่า "จงจมบิสมาร์คลง"

บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
-จ่าตะพาบน้ำ- * รักในหลวง*
Full Member
***

คะแนน 21
ออฟไลน์

กระทู้: 281


« ตอบ #192 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 12:00:30 AM »

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก


บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #193 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 02:25:12 AM »

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากครับ   Grin Grin
อ่านเพลิน (จนเกือบลืมอ่านหนังสือสอบ) เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
จากข้อมูลแล้ว ถ้าผมคิดแบบง่ายๆ นี่ เหมือนว่าถ้ารบกันตัวๆ
สงสัยไม่มีใครเอาเยอรมันลงได้เลย ใช่มั๊ยครับ   โดนชก โดนชก




ต้องดูว่าสมรภูมิไหนครับ...

ถ้าหากเป็นทางทะเลหรืออากาศ...

อเมริกาน่าจะเหนือกว่าในด้านปริมาณครับ...

แต่ถ้าหากภาคพื้นยุโรปยากที่ประเทศเดี่ยวๆประเทศเดียวจะเอาชนะเยอรมันได้ครับ...

ผมถึงชอบยานเกราะของเยอรมันไงครับ... Grin
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #194 เมื่อ: กันยายน 26, 2007, 03:02:36 AM »

 ขอเสริมพี่มะขิ่นเรื่อง Panzer II นิดนึงครับ...

เครื่องยนตร์ที่ใช้ใน Panzer II นั้นเป็นเครื่อง Maybach รุ่น HL 62 TRM ซึ่งเป็นเครื่องเบนซินหกสูบขนาด 140 แรงม้าครับ...

ประกบกับระบบส่งกำลังชั้นยอดของ ZF ครับ (แฟนๆรถเยอรมันต้องรู้จักเกียร์ยี่ห้อนี้ดีครับ)...

ทำให้รุ่นแรกๆอย่าง A , B และ C ทำความเร็วได้ถึง 40 กม./ชม.ครับ...

ขณะที่รุ่นหลังๆทำได้ถึง 55 กม./ชม.บนทางเรียบ ครับ...Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 10 11 12 [13] 14 15 16 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 18 คำสั่ง