|
spocid
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #375 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2007, 10:34:16 AM » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nosta3824382
Jr. Member

คะแนน 8
ออฟไลน์
กระทู้: 46
|
 |
« ตอบ #376 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2007, 11:52:09 PM » |
|
ขอเสริมหน่อยนะครับ การยุทธ์แห่งบัลค์ ฝ่ายเยอรมันไช้ทหารประมาณ 200,000 คน มีทั้งโวร์คสตรอมและทหารอาชีพ ปัจจัยสำคัญที่ทำไห้ต้องโจมตีคือต้องการน้ำมันครับ เพราะว่าโรมาเนียที่เป็นแหล่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดของเยอรมันถูกโซเวียตยึดบวกกับการที่โรงกลั่นน้ำมันถูกทำลายโดยการทิ้งระบเดของพันธมิตรตะวันตก และฝ่ายเยอรมันคิดว่าตนไม่สามารถป้องกันประเทศได้โดยไม่มีน้ำมัน และที่บุกไปยึดแหล่งน้ำมันทางตะวันตกก็เพราะคิดว่าน่าจะง่ายกว่ายึดโรมาเนียคืน
การบุกไม่ได้เป็นบลิซครีกเต็มรูปแบบ เพราะว่าขาดการครองอากาศ และยังขาดปัจจัยด้านความเร็ว เนื่องจากฝ่ายเยอรมันมีน้ำมันพอแค่สำหรับการโจมตีเป็นระยะทางสั้นๆเท่านั้น จึงต้องไห้ทหารเตรียมสายยางไว้สูบน้ำมันจากรถของฝ่ายพันธมิตรที่ถูกยึดหรือถูกทำลายหรือยึดจุดเติมน้ำมันของพันธมิตรไห้ได้ และการเติมน้ำมันไส่รถถังไหญ่ๆอย่าง Tiger II นั้นไช้เวลาหลายชั่วโมง ทั้งยังต้องคอยซ่อนหลบหลีกการโจมตีทางอากาศการบุกจึงทำได้ไม่รวดเร็วพอ สิ่งที่ดีที่สุดที่เยอรมันมีในการรบนี้คือแม่ทัพ วอนรุนสเต็ป ซึ่งเป็นหนึ่งไนแม่ทัพผู้พิชิตยุโรป และเป็นคนโจมตีโอบล้อมเมืองเคียฟ
ส่วนฝ่ายพันธมิตรถึงถึงต้องเจอความประหลาดใจในช่วงแรก แต่ระบบการป้องกันนั้นมีความยืดหยุ่นสูง มีทั้งกองพลยานเกราะเครื่อนที่เร็ว และที่สำคัญมีกองกำลังพลร่ม ที่สามารถเสริมแนวป้องกันได้ในทันที และเนื่งจากความช้าในการรุกของเยอรมัน ฝ่ายพันธมิตรจึงมีเวลาพอที่จะไห้ทหารช่างระเบิดสะพาน ในการรบหลายๆจุด แม้ว่ากองกำลังยานเกราะของเยอรมันจะชนะหลายครั้ง แต่พอเจอการระเบิดสะพานเข้าก็วิ่งวนอ้อมไปอ้อมมาจนน้ำมันหมดแพ้ไปเอง พันธมิตรมีความสามารถในการโจมตีทางอากาศสูงกว่ามากรวมกับความสามารถของทหารพลร่มโดยเฉพาะ 101 ที่สามารถตรึงพื้นที่ไว้ได้พอเยอรมันเริ่มอ่อนแรง พันธมิตรก็เริ่มตีโต้
ที่จริงมีการรบเกิดขึ้นอีกด้าน คือตอนที่พันธมิตรตีโต้ประสบกับการชะงักงันเนื่องจาก ฝ่ายเยอรมันตอบโต้เป็นบางครั้ง เชอร์ชิลได้ส่งข้อความไปไห้สตาลิน ขอไห้โซเวียตโจมตีอีกทางถ้าเป็นไปได้เพื่อลดความกดดันของแนวรบลง สตาลินตอบตกลง และซูคอฟนำทัพ จำนวนมหาศาล บุกข้ามแม่น้ำออเดอร์ ซึ่งเยอรมันไม่ทันระวังป้องกัน เลยแพ้ไปง่ายๆ พอเรียกกำลังจากแนวรบตะวันตกเสริมมาช่วยก็ช้าไปแล้ว การบุกข้ามแม่น้ำออเดอร์เกิดขึ้นวันที่ 12 ส่วนการรบแห่งบัลค์ จบเมื่อวันที่ 14 อย่างไรก็ตาม โซเวียตจะช่วยหรือไม่ พันธมิตรก็สามารถจัดการกับทัพเยอรมันได้อยู่ดีแต่อาจจะยืดเยื้อหรือสูญเสียมากขึ้นบ้าง สรุปการรบนี้ ไม่ได้ช่วยอะไรเยอรมันเลย นอกจากไม่ได้น้ำมันแล้ว ยังเป็นการไช้ทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ ทำไห้ถูกโซเวียตบุกข้ามแม่น้ำมาได้ง่ายๆ
Tiger II ดูเผินๆเหมือนกับมันเป็นรถถังที่ไร้เทียมทานแต่มีจุดอ่อนสำคัญอยู่คือ เครื่องยนต์มีขนาดเล็กทำไห้มีปัญหาในการระบายความร้อนเกิดโอเว่อร์ฮีตง่ายพอแล่นไประยะทางไกลๆเครื่องมันจะพัง ทำไห้ขาดความเร็ว อีกอย่างคือมันสร้างยากมาก ทำไห้มีจำนวนผลิตจำกัด แต่ในการประจันหน้ามันแทบจะไร้เทียมทานทีเดียว
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 987
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16169
,=,"--- X Santiago... !!
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #377 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2007, 10:11:02 AM » |
|
ขอเสริมเกร็ดครับ
1. ปฏิบัติการที่สัมพันธมิตรโดยเมกันไปบอร์มพ้นที่สูบ/กลั่นน้ำมันที่โรมาเนียก็มีชื่อเหมือนกันเพราะใช้เครื่อง B24 บินไปบอร์มระดับต่ำเพื่อให้แม่นยำแต่เสียหายมาก
2. การรบเดอะ บัลช์ ตอนแรกเยอรมันไม่ค่อยเสียเปรียมเรื่องกาาครองอากาศเท่าไหร่เพราะอากาศปิด เครื่องบินสัมพันธมิตรก็บินขึ้นไม่ค่อยได้ด้วย
3. บางคนก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเยอรมันมียุทธศาสสตร์การบุกแบบยั่งยืนหรือไม่เพราะไม่มีการตั้งแนวที่ปีกทั้งสองข้างแน่นอน
4. จอมพล เกิร์ด ฟอน รุนชเต็ท เป็นนายทหารเลือดปรุสเซียนแท้ เป็นแม่ทัพภาคตะวันตก ทางทฤษฎีจริงๆ ยศสุดท้ายคือพลทหาร เพราะตอนเยอรมันจะแพ้ฮิตเลอร์เสียจริตขึ้นเรื่อยๆ ฟอน รุนฯ บอกว่าแพ้แล้ว ฮิตเลอร์โกรธมากกระชากอินธนูจอมพลออกขว้างใส่หน้า ลดยศเป็นพลทหาร
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Thou shalt have guns. Thou shalt have tons of ammo. Thou shalt shoot well. Thou shalt not rely on help from the stranger.
|
|
|
INFANTRY - LONG LIVE THE KING
Full Member
 
คะแนน 121
ออฟไลน์
กระทู้: 185
|
 |
« ตอบ #378 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2007, 11:30:06 AM » |
|
น่าจะมีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับ "ยุทธการแห่งบัลจ์"(Battle of Bulge) นะครับ
ยุทธการแห่งบัลจ์ เป็นการบุกของเยอรมันในแนวรบด้านตะวันตก โดยฮิตเลอร์หวังจะขับไล่ให้กองทหารพันธมิตรตกทะเล จึงรวมพลังทั้งหมดมาไว้ทางแนวรบด้านตะวันตก"ระดมพลทั้งมวล" และประกาศจัดตั้ง"โฟลคส์สเตอร์ม"หรือ "โฮมการ์ด" ขึ้นมาปกป้องอาณาจักรไรซ์ที่สามของตน ให้รุนสเตดท์เป็นผู้บัญชาการในการรุกตอบโต้ โดยกำหนดให้กองทัพเยอรมันบุกตอบโต้บริเวณป่าอาร์เดนเนส โจมตีแนวรบของสหรัฐฯที่บิเวณนั้น
จากหนังสือ "เหตุการณ์สำคัญ ในศตวรรษที่ ๒๐" ของ "ธนู แก้วโอภาส" และตอบกระทู้ของ คุณNars หน้า ๒๓ ครับ (ขออนุญาตพาดพิงครับ)
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
" ขอรองบาท ราชวงศ์ พงษ์จักรี จนชีวี สูญสิ้น ดินกลบกาย "
" การป้องกันประเทศ และพิทักษ์ราชบัลลังภ์ จะต้องชนะหรือตายเท่านั้น จะแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด"
|
|
|
nosta3824382
Jr. Member

คะแนน 8
ออฟไลน์
กระทู้: 46
|
 |
« ตอบ #379 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2007, 12:58:46 AM » |
|
ครับ ประวัติศาสตร์ฉบับ อเมริกา เยอรมัน และ รัสเซีย ไม่ตรงกันครับ แล้วยังมีประวัติศาสตร์เชิงวิเคราะห์อีกทำไห้เรามีประวัติศาสตร์ทางเลือกมากมายเราจะเลือกเชื่ออันไหนก็ได้ครับที่คิดว่าสมเหตุสมผลที่สุด บางทีผมอาจจะผิดก็ได้ครับ ที่ว่ามีการไช้ โฟลคส์สเตอร์ม ผมดูจาก History Channel ครับเค้าว่ากองกำลังที่โจมตีไส่หน่วย 101 เป็นโฟลคส์สเตอร์มนะครับ
ส่วนจำนวนทหารที่เยอรมันไช้มันก็มีหลายแหล่งนะครับ บางแหล่งก็ว่า 200,000 บ้างก็ว่า 250,000 ครับ และ
เยอรมันหลังจากบุกโซเวียตแล้ว ก็ไช้กองกำลังหลักของตนสู้กับโซเวียตมาตลอดช่วงแรกไช้ทหารป้องกันแนวตะวันตกประมาณ 25% ตอน D-Day เยอรมันไช้ทหารเฝ้าแนวตะวันตกประมาณ 15% ครับเพราะก่อนหน้านั้นโซเวียตตีแนวแพนเทอร์วอฟเฟนไรน์แตกเยอรมันเลยต้องระดมพลไปแนวตะวันออกอย่างเร่งด่วน พอโดนโจมตีที่นอร์มังดี เยอรมันส่งกองพลรถถังเข้าไปกะจะทำลายกองกำลังพันธมิตรตะวันตกไห้หมด แต่โซเวียตโจมตีกองกำลังภาคเหนือของเยอรมันในปฏิบัติการณ์บาเกรชั่น และทำไห้เยอรมันสูญเสียทหาร ตาย เจ็บ และถูกจับรวม 670,000 มากกว่าที่โซเวียตเสียประมาณ 4 เท่า และเยอรมันต้องส่งกองกำลังที่ส่งไปตะวันตกกลับมาแนวตะวันออก และยังต้องส่งกองกำลังเพิ่มเติมมาจากอิตตาลี และจากความสำเร็จของปฎิบัติการณ์ครั้งนี้ เยอรมันไม่เคยคิดที่จะส่งกองกำลังไปทางตะวันตก มากกว่าตะวันออกอีกเลย เพราะถือว่าโซเวียตเป็นภัยคุกคามหลัก เนื่องจากต้องป้องกันการโจมตีจากโซเวียต รวมทั้งการเกิดวิกฤติด้านจำนวนทหารราบการส่งทัพไปโจมตีในปฎิบัติการบัลค์จึงค่อนข้างน้อยนะครับ แต่ก็เป็นการโจมตีครั้งไหญ่ที่สุดของเยอรมันนับจากเคิร์กทีเดียว
อย่างว่า ประวัติศาสตร์มันก็มีหลายคนเขียนหลายคนวิเคราะห์อ่านมาต่างเล่มข้อมูลไม่ตรงกันก็เป็นเรื่องธรรมดาถือว่าถกเถียงเพื่อเพิ่มมุมมองตามประสาคนรักประวัติศาสตร์ก็แล้วกันครับ ไครจะถูกจะผิดไม่ไช่เรื่องสำคัญ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 817
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 10983
I'm going to make him an offer that he can't refus
|
 |
« ตอบ #380 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2007, 09:24:12 AM » |
|
เห็นกล่าวถึง"โฟลคส์สเตอร์ม"หรือ "โฮมการ์ด" รบกวนขอประวัติหน่วยนี้และหน้าที่ และอื่น ๆ จากท่านผู้ที่รู้ด้วยครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
A fear of weapons is a sign of retarded sexual and emotional maturity. - Sigmund Freud
ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์ - ซิกมุนด์ ฟรอยด์
|
|
|
nosta3824382
Jr. Member

คะแนน 8
ออฟไลน์
กระทู้: 46
|
 |
« ตอบ #381 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2007, 11:05:50 PM » |
|
ครับ โฟลคส์สเตอร์มเป็นทหารเกณฑ์ขั้นสุดท้ายของเยอรมัน เนื่องจากเกณฑ์คนหนุ่มไปหมดแล้วพวกโฟลคส์สเตอร์ม จึงมีแต่เด็กกับคนแก่ มีทักษะการต่อสู้ไม่สูงเพราะฝึกมาอย่างเร่งด่วน แต่มีความกล้าหาญมากสมเป็นกองทัพเยอรมัน และมีอาวุธที่ดี ถูกไช้ในช่วงท้ายสงครามและเริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆเพราะช่วงท้ายทหารอาชีพแทบไม่เหลือแล้ว การรบที่เบอร์ลินส่วนไหญ่เป็นทหารโฟลคส์สเตอร์มนี่ละครับ
อีกพวกที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ ยุวชนฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นการไช้เด็กที่ถูกฝึกมาพิเศษ(เพื่อที่จะเป็นหน่วย ss ) เยอรมันได้ไช้คนกลุ่มนี้ในช่วงท้ายสงคราม มีที่เด็กที่สุดก็ 12 ขวบ พวกนี้มีทักษะการรบและมีความกล้าหาญมาก แต่ที่เราดูหนัง หรือสารคดี ไม่ค่อยเห็นคนพวกนี้เท่าไรเพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายกย่องที่พวกพันธมิตร บุกถล่มไส่เด็กกับคนแก่
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
  
คะแนน 303
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4897
|
 |
« ตอบ #382 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2007, 11:28:21 PM » |
|
ครับ โฟลคส์สเตอร์มเป็นทหารเกณฑ์ขั้นสุดท้ายของเยอรมัน เนื่องจากเกณฑ์คนหนุ่มไปหมดแล้วพวกโฟลคส์สเตอร์ม จึงมีแต่เด็กกับคนแก่ มีทักษะการต่อสู้ไม่สูงเพราะฝึกมาอย่างเร่งด่วน แต่มีความกล้าหาญมากสมเป็นกองทัพเยอรมัน และมีอาวุธที่ดี ถูกไช้ในช่วงท้ายสงครามและเริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆเพราะช่วงท้ายทหารอาชีพแทบไม่เหลือแล้ว การรบที่เบอร์ลินส่วนไหญ่เป็นทหารโฟลคส์สเตอร์มนี่ละครับ
อีกพวกที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ ยุวชนฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นการไช้เด็กที่ถูกฝึกมาพิเศษ(เพื่อที่จะเป็นหน่วย ss ) เยอรมันได้ไช้คนกลุ่มนี้ในช่วงท้ายสงคราม มีที่เด็กที่สุดก็ 12 ขวบ พวกนี้มีทักษะการรบและมีความกล้าหาญมาก แต่ที่เราดูหนัง หรือสารคดี ไม่ค่อยเห็นคนพวกนี้เท่าไรเพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายกย่องที่พวกพันธมิตร บุกถล่มไส่เด็กกับคนแก่
ขอบคุณพี่ nosta มากครับที่มาช่วยเล่าให้ฟัง ช่วงนี้ผมอ่านมหาภารตะ กับสนใจเรื่องการจัดกำลังของกองพลหลักๆทั้ง 10 กองพล (ร.7, ม.2, ป.1 ใครอยากทราบรายละเอียดอ่านได้ที่ link นี่แล้วclick ที่แต่ละกองพลได้เลยครับมีเว็บไซต์เกือบครบทุกกองพลแล้ว http://www2.crma.ac.th/stat/group.htm )ของกองทัพไทยอยู่ เลยไม่มีเวลาไปเปิดหนังสือหาให้คุณสน ที่อ่านไปแล้วก็ลืมหมดจำไม่ได้ครับ อิจฉาเยอรมัน แม้ประเทศจะแพ้สงคราม แต่น่ายกย่องในความกล้าหาญที่สู้จนคนสุดท้ายแม้แต่เด็กกับคนแก่ครับ อยากเห็นคนไทยเป็นแบบนี้มากๆ " ตัวตายดีกว่าชาติตาย " จะมีมีคนไทยซักกี่ % ที่ยอมตายเพื่อชาติจริงๆ ทุกวันนี้การกระทำที่แค่ไม่รับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ(ตัดถนนเข้าหมู่บ้าน สะพาน โดยใช้งบพัฒนาก็เป็นผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มอย่างหนึ่ง) เลือกคนดีเข้าไปพัฒนาชาติยังทำไม่ได้เกินครึ่งประเทศ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านๆมาก็บอกว่าทุกครั้งที่เราเสียเมืองนั้นเป็นเพราะคนไทยด้วยกันนี่แหละเห็นแก่ได้ทรยศแผ่นดินเกิดนึกแล้วก็หดหู่ครับ
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2007, 12:03:04 AM โดย nars »
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์ จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
|
|
|
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 251
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 2809
Still Loving COLT
|
 |
« ตอบ #383 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2007, 11:51:14 PM » |
|
ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้เพียบเลยครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
|
|
|
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 817
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 10983
I'm going to make him an offer that he can't refus
|
 |
« ตอบ #384 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 11:41:41 AM » |
|
ครับ โฟลคส์สเตอร์มเป็นทหารเกณฑ์ขั้นสุดท้ายของเยอรมัน เนื่องจากเกณฑ์คนหนุ่มไปหมดแล้วพวกโฟลคส์สเตอร์ม จึงมีแต่เด็กกับคนแก่ มีทักษะการต่อสู้ไม่สูงเพราะฝึกมาอย่างเร่งด่วน แต่มีความกล้าหาญมากสมเป็นกองทัพเยอรมัน และมีอาวุธที่ดี ถูกไช้ในช่วงท้ายสงครามและเริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆเพราะช่วงท้ายทหารอาชีพแทบไม่เหลือแล้ว การรบที่เบอร์ลินส่วนไหญ่เป็นทหารโฟลคส์สเตอร์มนี่ละครับ
อีกพวกที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ ยุวชนฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นการไช้เด็กที่ถูกฝึกมาพิเศษ(เพื่อที่จะเป็นหน่วย ss ) เยอรมันได้ไช้คนกลุ่มนี้ในช่วงท้ายสงคราม มีที่เด็กที่สุดก็ 12 ขวบ พวกนี้มีทักษะการรบและมีความกล้าหาญมาก แต่ที่เราดูหนัง หรือสารคดี ไม่ค่อยเห็นคนพวกนี้เท่าไรเพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายกย่องที่พวกพันธมิตร บุกถล่มไส่เด็กกับคนแก่
ขอบคุณครับพี่...... 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
A fear of weapons is a sign of retarded sexual and emotional maturity. - Sigmund Freud
ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์ - ซิกมุนด์ ฟรอยด์
|
|
|
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
  
คะแนน 303
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4897
|
 |
« ตอบ #385 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 02:43:49 AM » |
|
พี่ๆครับ ฝั่งแอตแลนติกเราคุยกันเกียวกับเหตุการสำคัญไปหมดแล้วหรือยังครับ จะได้ต่อฝั่งแปซิฟิก ถ้าไม่อะไรที่สำคัญแล้วแล้วพรุ่งนี้จะ เริ่มด้วย เพิร์ลฮาเบอร์ kongo(เป็นเรือธงในการโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ก่อนที่ yamato จะเสร็จสมบูรณ์) yamato musashi เรือธงของญี่ปุ่นครับ
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2007, 03:05:54 AM โดย nars »
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์ จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
|
|
|
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1044
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12332
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #386 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 08:27:02 AM » |
|
ขออนุญาตมาคอย ท่าน nar ครับ สงครามอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เป็นการโจมตีฉับพลันของจักรวรรดิญี่ปุ่นต่อฝ่ายกองทัพอเมริกา โดยการโจมตีเกิดขึ้นที่ อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ มลรัฐฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) ในการโจมตีนี้สร้างความเสียหายแก่ฝ่ายกองทัพสหรัฐอเมริกามาก โดยเรือสงครามสูญเสีย 12 ลำ เครื่องบิน 188 ลำ ทหารอเมริกันเสียชีวิต 2,403 คน และ ประชาชน 68 คน 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
|
|
|
|
spocid
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #387 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 10:50:47 AM » |
|
สงครามด้านนี้น่าติดตามครับ เข้ามาหาความรู้ในสิ่งที่หาอ่านไม่ได้ครับ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1044
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12332
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #388 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 05:23:19 PM » |
|
ทหารญี่ปุ่น ร่วมกันถ่ายรูปก่อนที่จะบินไปถล่มเพิร์ลฮาเบอร์ 
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2007, 05:27:54 PM โดย Charoon »
|
บันทึกการเข้า
|
"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
|
|
|
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
  
คะแนน 303
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4897
|
 |
« ตอบ #389 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 11:52:10 PM » |
|
การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์นั้น เกิดจากการที่อเมริกาประกาศงดส่งน้ำมันให้ญี่ปุ่นเพื่อให้ญี่ปุ่นยุติการรุกรานจีน การโจมตีครั้งนี้ญี่ปุ่นเตรียมการโจมตีมาดีมาก ออกแบบอาวุธใหม่ๆ มาเพื่อโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์โดยเฉพาะ ได้แก่ตอร์ปิโด type 91 ให้สามารถทำการในบริเวณน้ำตื้นได้ รวมทั้งระเบิดเจาะเกราะที่ใช้กระสุนปืนเรือขนาด 14และ16 นิ้วมาติดครีบหาง หน่วยรบหลักได้แก่เรือบรรทุกเครื่องบิน6 ลำ ได้แก่เรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi (flag), Kaga, Sōryū, Hiryū, , Shōkaku and Zuikaku,มี เครื่อง Mitsubishi A6M fighters ซีโร่ 135 เครื่อง torpedo bombers Nakajima B5N Type 97 171 เครื่อง dive bombers Aichi D3A Type 99 108 เครื่อง
โดยญี่ปุ่นแบ่งกอง เรือ ออกเป็น 2 กอง เดินเรือแบบเงียบทางอิเล็กทรอนิกส์โดยงดการสื่อสารทางวิทยุ แล้วทั้ง2 กองเรือ ไปบรรจบกันบริเวณ ตอนเหนือหมู่เกาะฮาวาย ความจริงแล้ว อเมริกาก็ระแคะระคายว่ากองเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่นหายไปไหน แต่อเมริกาประมาทเพราะไม่คาดคิดว่าตอร์ปิโดแบบใหม่จะใช้ได้ในที่น้ำตื้นได้จึงจอดเรือเป็นกลุ่มใหญ่ที่ pearl harbourครับ ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือทำไมกองเรือญี่ปุ่นที่ในเวลานั้นมีเครื่อง ซีโร่ ซึ่งมีขีดความสามารถสูงกว่าเครื่องบินอเมริกัน จึงกลัวเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกัน จนรีบหนีโดยโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์แค่2 ระลอก(ทั้งๆที่ความจริงแล้ว เกาะฮาวายอยู่ห่างแผ่นดินใหญ่อเมริกันจน เครื่อง fighter จากแผ่นดินใหญ่อเมริกันบินมาสนับสนุนไม่ถึง สามารถทำการโจมตี เกาะฮาวายได้หลายระลอกนานหลายวัน ให้หมดสภาพการรบอย่างสิ้นเชิง)แล้วเผ่นแน่บกลับญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากๆ ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันแค่ 4 ลำมีดีอะไรกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินญี่ปุ่น 6 ลำพร้อมเครื่องบินที่ดีที่สุดในแปซิฟิกครับ
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 19, 2007, 11:59:18 PM โดย nars »
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์ จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
|
|
|
|