เรื่องราวตอนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้เป็นเรื่องที่มีการปิดบังกันมาก ดูในหนังสือที่เขียนเล่าจะเห็นว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจน เอาแค่งายๆตอนที่สมเด็จ.ท่านประกาศยอมแพ้ทางวิทยุ. บางคนก็บอกเสียงสด บางคนก็บอกไม่ใช่องค์ท่านประกาศก่อนโดนปรมนูเสียอีก แต่หาโอกาสประกาศไม่ได้ เพราะมีทหารส่วนหนึงต้องการปฏิวัติ ไม่ให้ยอมแพ้
เรื่องราวของสงสรามแต่ละประเทศล้วนแล้วแต่ปิกบัง+ตอแหล ลูกหลานด้วยกันทั้งนั้น ในส่วนตัวผมมองในอีกแง่หนึง ถ้าไม่มีกองทัพญี่ปุ่นบุกเอเซียเฉียงใต้ ประเทศเหล่านี้คงเป็นเมืองขึ้นของพวกฝรั่งหัวแดงหมดแล้ว.
ช่วงนั้นเหลือประเทศไทยประเทศเดียวครับที่ยังมีเอกราชอยู่ครับ...
ก่อนหน้านั้นเราเหมือนต้นไม้เล็กที่อยู่กลางพายุครับ...
ทั้งจากอังกฤษทั้งจากฝรั่งเศสรวมถึงการแผ่อิทธิพลจากมหาอำนาจหัวแดงอีกหลายชาติ...
ถึงมีเรื่องราวทั้งรศ. 112 ทั้งการเสียดินแดนอีกหลายครั้งครับ...
รวมถึงการที่สมเด็จพระปิยมหาราชทรงเสด็จประพาศยุโรป...
โอ๊ย คุยกันอีกเรื่องยาวครับ...
ไทยเสียดินแดนทั้งหมด 7 ครั้ง (จำลำดับก่อนหลังและจำนวนดินแดนที่เสียแน่นอนในแต่ละครั้งไม่ได้ใครจำได้ช่วยบอกด้วยครับ)
1. สิบสองจุไท ฝรั่งเศสอ้างว่าเข้ามาปราบปรามกบฏจีนฮ่อแล้วก็ถือโอกาสยึดเอาไป
2. ลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง
3. เขมรนอก
4.เกิดกรณีรศ.112 (พระยอดเมืองขวาง)ฝรั่งเศสแล่นเรือมาจอดหน้าสถานฑูตในแม่น้ำเจ้าพระยา ไทยต้องเสียสินไหมโดยใช้เงินท้องพระคลังถุงแดง ฝรั่งเศสถอยออกไปยึดเมืองจันทรบุรี
5.หลังจากยึดเมืองจันทรบุรีไทยขอแลกกับแขวงเมืองจำปาศักดิ์ ฝรั่งเศสยอมแลกแต่ถอยไปยึดตราดเอาไว้ต่อ(หมาป่าชัดๆ)
6.หลังจากนั้นไทยก็ขอแลกเมืองตราดกับเขมรใน ได้แก่พระตะบองเสียมราฐ ศรีโสภณ
7. รัฐไทยใหญ่รัฐกระเหรี่ยงและรัฐคะยา(มะริด ทวาย ตะนาวศรี) รวมทั้งไทรบุรี ปีนัง กลันตัน ตรังกานู
จริงๆแล้วเรื่องประวัติศาสตร์การโดนรังแกแบบนี้ เวียดนาม พม่า มาเลย์ สอนกันจนจำฝังใจ ให้คนรุ่นหลังจดจำไม่ลืมเลือนแต่คนไทยหน้าบางมีอยู่บทเล็กๆตอนมัธยมต้น(ไม่รู้เด็กรุ่นปัจจุบันได้เรียนหรือเปล่า) ทำให้เด็กไทยรุ่นใหม่มีเลือดรักชาติรักแผ่นดินน้อยครับ