ถามหน่อยครับว่า ตอนเริ่ม WWII ทำไม ท่านผู้นำ ถึงเลือกที่จะเล่นงาน Poland ก่อนเพื่อนครับ หรือทดลองอาวุธและยุทธวิธีใหม่ ไม่เข้าใจ
ผู้นำหนวดจิ๋ม เล่นงาน สัญญาแวร์ซาย (หลายเรื่อง) / สมดุลอำนาจระหว่างประเทศ (หลายเรื่อง) / ประเทศออสเตรีย (หนักๆ สองครั้งกว่าจะผนวกมารวมได้) / แคว้นซูเดเตนของเชกฯ และ ประเทศเชกโกสโลวาเกีย ก่อนครับ
ทำนองได้ใจขึ้นเรื่อยๆ ตอนเล่นงาน โปแลนด์อาจไม่แน่ใจว่าอังกฤษเอาจริงงานนี้ด้วยซ้ำ รายละเอียดเดี๋ยวมาคุยกันครับ
ค่อยๆ คุยไปเรื่อยๆ อิ อิ
...ในหนังสือบันทึกความจำสงครามโลกครั้งที่สอง ของ เชอร์ชิล
ตอนจบสงคราม รุสเวลส์ ถาม เชอร์ชิล ว่า เราจะเรียกสงครามนี้ว่าอะไรดี? เชอร์ชิล ตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า "สงครามที่ไม่จำเป็น" (The unneccessary war)
เนื่องจาก ความก้าวร้าวของ ฮิตเล่อร์ นั้นเห็นกันทั่วไป ในหลักการใหญ่แล้ว ฮิตเล่อร์ ไม่ได้ปิดบังนโยบายของตัวเลย พยายามทำตามหนังสือของตัวที่เขียนมาตั้งแต่ปี 1924 โดยตลอด ทั้งเรื่องการตั้งรัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ การรังเกียจคนที่ไม่ใช่เยอรมัน การขยายแผ่นดินเยอรมันไปยโรปตะวันออก และการต่อต้านสัญญาแวร์ซายที่เยอรมันโดนจับให้เซ็นเมื่อยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อ ฮิตเล่อร์ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในทางปฏิบัติในปี 1933 ก็ก้มหน้าก้มตา หรือที่จริงก็ลอยหน้าลอยตาตะโกนบอกคนเยอรมันและชาวโลกตามที่ชุมนุมใหญ่ๆ ตลอดว่าเยอรมันจะทำอย่างโน้นอย่างนี้
แต่ทำไมพันธมิตรสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงปล่อยปละละเลย ขอคุยสรุปๆ ตามประเทศครับ
1. ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสเป็นศัตรูเชื้อชาติกับเยอรมันตั้งแต่เยอรมันยังไม่รวมประเทศ หลังยุคกลางมา ฝรั่งเศสรวมประเทศกันได้ใหญ่โตมีกำลังเป้นอันดับต้นๆ เทียบกับออสเตรีย ซึ่งอำนาจอาศัยศักดิ์ศรีเรื่องอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธ์อย่างหลวมๆ หรืออันดับ 1 เลยด้วยซ้ำ แคว้นอื่นๆ ในยุโรปถ้าจะมีอำนาจขึ้นมาก็มาจากการแต่งงานของเจ้า เช่น ชาลส์ที่ 5 ดังนั้นผลประโยชน์ภาคพื้นยุโรป ถ้าจะเทียบต้องเทียบกับ สเปน แคว้นเยอรมันใหญ่ๆ อย่างปรุสเซียนก็ทำสงครามแย่งดุลอำนาจในยุโรปวุ่นวายมาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 ในสงคราม 7 ปี
พอสมัยนโปเลียน (1769-1821) ฝรั่งเศสเป็นปึกแผ่นแล้ว แต่เยอรมันยังเป็นแคว้นอยู่ ฝรั่งเศสมีระบบกองทัพแห่งชาติ ที่มีประสิทธิภาพ ไปบังคับให้แคว้นเยอรมันเป็นพันธมิตร หรือรบปราบแคว้นเยอรมันได้ทุกแคว้น ทั้งนี้เพราะแคว้นเยอรมันไม่รวมตัวกัน จะมารบกับนโปเลียนทีละแคว้น ก็เลยแพ้ไป
ปลายศตวรรษที่ 19 ปรุสเซียน รวมชาติเยอรมัน รบชนะออสเตรีย และรบชนะฝรั่งเศสปี 1871 ทหารเยอรมันเข้าปารีส ถอดพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ฝรั่งเศสกลายเป็นสาธารณรัฐตั้งแต่บัดนั้น เยอรมันยังได้รวมแคว้น อัสศาส ลอเรน เข้าเป็นของเยอรมันด้วย ที่จริงประชาชนในสองแค้นนี้เป็นคนเยอรมัน แต่ไปอยู่ภายใต้ฝรั่งเศสมานาน สมันก่อนนโปเลียนนิดเดียวกองทหารจากสองแคว้นนี้ยังสั่งการเป็นภาษาเยอรมัน
ปี 1918 เยอรมันยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ตามสัญญาแวร์ซาย เป็นการยอมแพ้ไม่ได้บุกเข้ายึดเมืองหลวงอย่างในสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อแพ้สงครามมีการล้มเลิกระบบกษัตริย์ของทั้ง เยอรมัน และออสเตรีย เยอรมันนและออสเตรียกลายเป็น "รัฐเลือกตั้ง"
หลังสงคราม ฝรั่งเศสเสียหายหนักอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 ก่อน ค.ศ. (ถ้าเป็นจริงว่า จูเลียส ซีซาร์ ฆ่าคนกอลไป 2 ล้านกว่าคน ตามจำนวนที่รวมๆ ได้ในหนังสือ Gallic War) การดำรงชีวิตของฝรั่งเศสเรียกว่าย่ำแย่ การเมืองภายในและมุมมองต่อสงครามเปลี่ยนไป
สิ่งสำคัญที่ตามมาซึ่งส่งผลต่อการทหาร และการบังคับเยอรมันให้ปฏิบัติตามสัญญาแวร์ซายคือ
1. การเมืองภายในที่ไม่มีเอกภาพ พรรคหัวเอียงซ้าย และเสรีนิยม มีอำนาจในสภา เมื่อมีความพยายามเคลื่อนไหวทางทหารกดดันเอยรมันอะไรๆ พวกฝ่ายซ้ายขัดขาทุกเรื่อง โวยวายแบบว่า "จะไม่ยอมให้นายทุนเอาชนขั้นแรงงานไปตายเพื่อแย่งสมบัติกับทุนนิยมต่างชาติ ฯลฯ"
2. การทหาร มีการป้องกันประเทศโดยยึดแนวคิดสนามเพลาะ สร้างแนวมาจิโนต์ใหญ่โต ที่สำคัญคือ ไม่ได้สร้างตลอดแนวพรมแดน ไม่มีแนวที่พรมแดน เบลเยี่ยม ป่าอาร์เดน และพรมแดนทางใต้ๆ ฝรั่งเศสไม่ได้พัฒนากองทัพตามเทคโนโลยี่ที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเรื่อนยานเกราะ มี เดอโกล นายทหารม้าตัวสูงคิดเรื่องนี้แต่เรื่องก็โดนดอง
3. ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่กี่ปี ดุลอำนาจในยุโรปไม่น่ากลัวมาก อิตาลียังอยู่ตรงกันข้ามกับเยอรมัน และคานอำนาจเยอรมันในออสเตรีย รัสเซียก็ยังไม่ได้เป็นมิตรกับเยอรมัน และคอยคานอำนาจเยอรมันในเชกโกน และชาติยุโรปตะวันออกที่รัสเซียถือว่าตัวเองเป็นลูกพี่