เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 03:30:05 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 34 35 36 [37] 38 39 40 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 315776 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #540 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:01:37 PM »

พอดีเข้าเรื่องเยอรมันกันเลยดีกว่าครับ

หลังสงครามโลก เยอรมันก็ เฮ้ย ประเทศของข้า เหลือน้อยกว่าเดิม ราชวงศ์ก็สิ้น เกิดระบบเลือกตั้ง กลุ่มอำนาจต่างๆ ก็แย่งกันตั้ง หนุนหรรคการเมืองกันแบบประเทศที่จับเอาระบบเลือกตั้งมาครอบ...  เศรษฐกิจก็แย่ สืบเนื่องจากสงคราม และต่อมาก็วิกฤตเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นพัง 1929

ในด้านดินแดน เกิดประเทศโปแลนด์จากแผ่นดินที่ (ล่าสุด) เป็นของเยอรมัน แคว้นปรุสเซียนตะวันออกก็ถูกแยกออกไปมีฉนวนดานซิก หรือเมืองกด๊านซ์ มาขวางให้เป็นท่าเรือของโปแลนด์ สำหรับดินแดนเยอีมันอื่นๆ บางส่วน สัญญาแวร์ซายก็ห้ามเยอรมันมีกองทหาร เช่น ไรน์แลนด์ คือที่ติดกับฝรั่งเศส

แต่สถานการณ์ดินแดนทางตะวันออกแย่ที่สุด มีการรบกันโดยไม่ประกาศสงครามระหว่างเยอรมันกับโปแลนด์ โดยกองทัพไม่เป็นทางการ Freikorps ซึ่ง สมาชิกไฟร์คอร์ป ต่อมาเป็นนาซีสำคัญหลายคน เช่น ฮิมเลอร์ / มาร์ติน บอร์มาน / ไคเตล และแม้กระทั่ง รูดอฟ โฮส ผบ. ค่ายเอาช์วิช  

สำหรับออสเตรียยิ่งแย่กว่า ประเทศเหลือนิดเดียว ชนชาติต่างๆ ในจักรวรรดิได้เอกราชตั้งประเทศของตนขึ้นมาเอง คนออสเตรียแท้ๆ เชื้อชาติเดียวกับเยอรมันเซ็งที่สุด ประเทศเยอรมันกลายเป็นตัวแทนของเชื้อชาติเยอรมันที่ยังดูมีอนาคตที่สุด โดยเฉพาะคนที่นิยมเยอรมันอยู่แล้วยิ่งเชื่อมากขึ้น เช่น นายสิบโท ฮิตเล่อร์

ฮิตเล่อร์ กำเนินเป็นออสเตรียน แต่ภักดีต่อความเป็นคนชนชาติเยอรมันยิ่งกว่าพรมแดน ออสเตรีย-เยอรมัน ฮิตเล่อร์ไม่ไปรายงานตัวเป็นทหารออสเตรีแต่ย้ายไปอยู่เยอรมันและสมัครเป็นทหารเยอรมันรบในสงครามโลก ฮิตเล่อร์ติดอยู่ในรูปถ่ายที่มิวนิกตอนประกาศสงครามโลกครั้งที่ 1 1914เข้าเป็นพลทหารรบแนวหน้าจริงๆ เป็นพลนำสารด้วย แต่ก็แปลกที่ได้รับเลื่อนยศครั้งเดียวเป็นเทียบเท่า Lance coporal ของอังกฤษ (ที่จริงน่าจะแปลว่าสิบตรี) ผู็บังคับบํยชาเห็นว่า ฮิตเล่อร์ ไม่มีภาวะผู้นำพอ เข้ากับคนไม่ค่อยได้ แต่นายร้อยคนหนึ่งที่เป็นเยอรมันยิวก็ขอเหรียญกล้าหาญกางเขนเหล็กชั้นสองให้...
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #541 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:08:54 PM »

ฝรั่งเศษรบสู้เยอรมันไม่ได้ทุกครั้งเลย  คิก คิก

ก็สงครามโลกครั้งแรกไงครับ พอฟัดจนเยอรมันหมดแรง เรื่องชาติอื่นร่วมรบก็ต้องว่าเป็นฝีมือทางการเมืองของเขา อิ อิ

...ถ้าให้ผมไปอยู่ในศตวรรษที่ 19 อาจบอกว่าถ้ามีสงครามใหญ่ในยุโรปครั้งต่อไป อังกฤษคงจับมือกับเยอรมันรบฝรั่งเศส

ราชวงศ์อังกฤษ เยอรมันก็เป็นญาติกัน เรื่องอาณานิคมทั่วโลกของฝรั่งเศสก็มาก ขัดตาทัพอังกฤษมากกว่า ในสงครามไครเมียกลางศตวรรษที่ 19 อังกฤษเป็นพวกฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใกล้ชิดอะไรกันมาก 
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #542 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:23:04 PM »

ตามอ่านมา 2 วันแล้วครับ ชอบมาก ๆ

ช่วงปลายจนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมสงสัยอยู่หลายข้อ คือ

1. ทำไมอเมริกา ใช้นิวเคลียร์กับญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นญี่ปุ่นก็หมดสภาพจะต่อสู้อยู่แล้ว
2. ระหว่างเยอรมันกับญี่ปุ่น ทำไมอเมริกาไม่ใช้นิวเคลียร์บอมบ์เยอรมัน
3. หลังสงคราม เยอรมันทั้งตะวันตกและตะวันออกต่างก็ยังมีกองทัพของตนเอง และผลิตอาวุธส่งออกเป็นสินค้า ส่วนญี่ปุ่นโดนบีบบังคับด้านการทหารไม่เหมือนเยอรมัน

ผมแอบตัดสินเองซึ่งอาจจะผิดก็คือ
1. อเมริกันแค้นญี่ปุ่นมากกว่าเยอรมัน แค้นที่คนผิวเหลืองตัวเล็ก ๆ กล้าเหยียบจมูกถึงเพิร์ลฮาร์เบอร์
2. เยอรมันเป็นผิวขาวและนับถือศาสนาเหมือนอังกฤษ อเมริกา แต่ญี่ปุ่นเป็นผิวเหลืองและต่างศาสนา
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #543 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:38:45 PM »

ตั้งแต่เด็กเตี่ยผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อเครื่องบินสัมพันธมิตรมาทิ้งระเบิดแถวอู่ Bangkok Dock  ตำรวจ สน.ยานนาวาวิ่งหนีลงหลุมหลบภัยหมด เดือดร้อนทหารญี่ปุ่นต้องวิ่งขึ้นไปบนโรงพัก เปิดกุญแจห้องขังปล่อยผู้ต้องหาหนีไปเพราะเกรงจะโดนระเบิดตาย  รุ่งขึ้นบริเวณถนนเจริญกรุงใกล้ ๆ อู่ Bangkok Dock เหลือแต่ซากตึก ทหารญี่ปุ่นก็เอาข้าวปั้นมาแจกประชาชนที่ไร้ที่อยู่เพราะบ้านโดนบอมบ์

ใจหนึ่งคิดแต่ว่าญี่ปุ่นเป็นผู้ก่อสงครามมหาเอเซียบูรพา แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้ญี่ปุ่นชนะสงคราม เพราะถ้าญี่ปุ่นชนะ  ลาว-เขมร-มลายู-บางส่วนของพม่า (ดินแดนไทยสมัย ร.1) จะไปไหนเสีย เราได้แก้แค้นฝรั่งเศสกับอังกฤษ ไม่ต้องมีกรณีพิพาทเขาพระวิหารให้ต้องเสียใจถึงวันนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2009, 02:41:06 PM โดย birdwhistle » บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #544 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:43:14 PM »

ทั่วไปที่พอรู้มาครับ

1. ญี่ปุ่นโดนบอร์มธรรมดาและระเบิดเพลิงซะเรียบ 60% ของพื้นที่เมืองแล้ว เรียกว่าสู้ไม่ได้ แ่ไม่ยอมแพ้ครับ การรบในแปซิฟิกก่อนหน้านั้นรบด้วยอุปกรณ์ เรือ เครื่องบิน เป็นหลัก ถึงจะรบบนเกาะ กำลังทหารที่ตายก็น้อยกว่าการรบทางบกในยุโรปมาก พอปลายปี 44 -45 ขึ้นเกาะใกล้ญี่ปุ่นไปเรื่อยๆ Tarawa / Iwo Jima เมกันรู้ตัวว่าสู้กับทหารราบญี่ปุ่นเสียหายมาก ยิ่งพอขึ้นเกาะ Okinawa ซึ่งเป็นแผ่นดินดั้งเดิมของญี่ปุ่นจริงๆ เมกันเริ่มตระหนักว่า บอร์มขนาดนี้แล้วก็ไม่ยอมแพ้ ต้องส่งทหารราบเข้ายึด เมกันคำนวนว่าถ้าส่งทหารขึ้นบกเข้ายึดประเทศต้องเสียกำลังพล หลักล้าน เมื่อมีระเบิดนิวเคลียร์แล้วเลยบอร์มซะ ที่น่าคิดคือลูกที่สองเว้นช่วงแค่ 3 วัน น้อยไปหน่อย เขาว่าขู่โซเวียตมากกว่า  

2. เยอรมันแพ้ไปแล้วต้นเดือน พ.ค. 1945 ทดลองระเบิดนิงเคลียร์ลูกแรกที่รัฐ นิว เมกซิโก เดือน ก.ค. 1945 ครับ เรื่องวัฒนธรรมร่วมอาจมีส่วนไม่มากเพราะอังกฤษ เมกันก็บอร์มเยอรมันไม่ไว้หน้าบางเมืองก็ไม่จำเป็น เช่น เดรสเดน บอร์มวันที่ 15 ก.พ. 1945 จะแพ้อยู่แล้ว อาคารประวัติศาสตร์เก่าหลายร้อยปีพังหมด (ตอนนี้เยอรมันสร้างแทนใหม่ตามแบบเดิมเปี๊ยบทั้งใช้หินจากแหล่งเดิมด้วย) แต่ถ้าบอร์มเยอรมัน กัมมันตภาพรังสีก็คลุมชาติอื่นในยุโรปด้วย

เรื่องทางเชื้อชาติ/วัฒนธรรม ก็มีส่วนทำให้เมกันก็ปฏิบัติกับเชลยญี่ปุ่นไม่ดีเท่าเชลยเยอรมัน เป็นเพราะแค้นการปฏิบัติต่อเชลยของญี่ปุ่นเองด้วย และทหารเมกันบางคนแสดงออกไม่ให้เกียรติ เช่น เอาชิ้นส่วนศพทหารญี่ปุ่นเก็บมาเป็นที่ระลึก ฯลฯ มีการจัดฉากรูปแบบนี้ "แนวหลังเขียนจดหมายไปขอบคุณแฟนทหารที่ส่งหัวกะโหลกไอ้ยุ่นมาให้"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2009, 03:02:27 PM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #545 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:57:27 PM »

3. เรื่องกองทัพ ในยุโรปแบ่งขั้วชัดเจนเผชิญหน้าพรมแดนติดกันระหว่าง ประชาธิปไตยตะวันตก กับคอมมิวนิสต์ โซเวียตคุมเยอรมันตะวันออกอยู่หม้ด ปั้นกองทัพขึ้นมา ทางตะวันตกก็ต้องปั้นเยอรมันตะวันตกขึ้นมาต้าน ส่วนทางญี่ปุ่นเมกันเขียน รธน. มาตรา 9 ล๊อกไว้เลยว่าห้ามมีกองทัพ ไม่ใช้การสงคราม จริงๆ ก็เลี่ยงกันอย่างที่เห็น แต่หลังสงครามเมกันเอาญี่ปุ่นมาเป็นพวกใช้ระบอบเลือกตั้งได้แล้วก็สบายใน ภัยคุกคามยังไม่ใกล้ตัว ไปทั้งเกาหลีใต้ต้านเกาหลีเหนือ ส่งกำลังช่วยจีนขาวรบจีนแดงก่อนดีกว่า จนกระทั้งเกิดสงครามเกาหลีจริงๆ เมกันต้องส่งทหารไปรบเลยให้ญี่ปุ่นตั้งกองกำลังป้องกันตนเองขึ้นมา

สมัยนี้ผมว่าญี่ปุ่นเองละตัวดี ยก รธน. ข้อนี้มาอ้างใช้นโยบาย สมุดเช็ค ส่งเงินไปช่วยกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศ ทั้งที่ญี่ปุ่นใช้ความมั่นคงระหว่างประเทศทำการค้ามหาศาล เรื่องการค้าอาวุธผมว่าเป็นเรื่องนโยบายหน้าตาและการตลาดโดย เยอรมัน และญี่ปุ่นเลือกเองครับ เยอรมันมีชื่อเรื่องอาวุธมานาน ขายได้ก็ขาย ส่วนญี่ปุ่นก็รักษาหน้ารักสันติ แต่ผมไม่รู้ว่าญี่ปุ่นแอบส่งชิ้นส่วนอิเลคโทรนิกอะไรให้ชาติอื่นประกอบเป็นอาวุธขายบ้าง ที่ดังๆ ก็ตอน โตชิบา ขายซอฟแวร์ควบคุมการสร้างใบจักรเรือดำน้ำให้โซเวียต ทำให้โซเวียตสร้างใบจักรเรือดำน้ำที่เดินเบาตอนนั้นเมกันดักฟังไม่ได้
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #546 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 02:58:58 PM »

ตั้งแต่เด็กเตี่ยผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อเครื่องบินสัมพันธมิตรมาทิ้งระเบิดแถวอู่ Bangkok Dock  ตำรวจ สน.ยานนาวาวิ่งหนีลงหลุมหลบภัยหมด เดือดร้อนทหารญี่ปุ่นต้องวิ่งขึ้นไปบนโรงพัก เปิดกุญแจห้องขังปล่อยผู้ต้องหาหนีไปเพราะเกรงจะโดนระเบิดตาย  รุ่งขึ้นบริเวณถนนเจริญกรุงใกล้ ๆ อู่ Bangkok Dock เหลือแต่ซากตึก ทหารญี่ปุ่นก็เอาข้าวปั้นมาแจกประชาชนที่ไร้ที่อยู่เพราะบ้านโดนบอมบ์

ใจหนึ่งคิดแต่ว่าญี่ปุ่นเป็นผู้ก่อสงครามมหาเอเซียบูรพา แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้ญี่ปุ่นชนะสงคราม เพราะถ้าญี่ปุ่นชนะ  ลาว-เขมร-มลายู-บางส่วนของพม่า (ดินแดนไทยสมัย ร.1) จะไปไหนเสีย เราได้แก้แค้นฝรั่งเศสกับอังกฤษ ไม่ต้องมีกรณีพิพาทเขาพระวิหารให้ต้องเสียใจถึงวันนี้

แต่ไทยก็จะมี "ชนกลุ่มน้อย" ในประเทศจำนวนมาก อาจยุ่งมากอย่างพม่าครับ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #547 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 03:12:17 PM »

อีกข้อหนึ่งเกี่ยวกับไทยเรา
นั่นคือผมเคยดูทีวีเมื่อ 20 ปีกว่ามาแล้ว เรื่องนายกรัฐมนตรีไทยปลายสงครามโลกครั้งที่ 2  ได้แอบส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีไทยของรัฐบาลพลัดถิ่น(เสรีไทย)หรือ ม.ร.ว.เสนีย์ ฯ ว่า ทำยังไงก็ได้ขออย่าไทยแพ้สงคราม ไม่ทราบว่าพอมีข้อมูลส่วนนี้บ้างหรือไม่ครับ

หากเราไม่มีเสรีไทย สภาพของเราหลังสงครามคงย่ำแย่กว่านี้
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #548 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 03:20:16 PM »

เรื่องจดหมายนี้ไม่ทราบครับ ยิ้มีเลศนัย

ถ้าไม่มีเสรีไทย ฝรั่งเศสคงหาทางเล่นไทยมากกว่านี้ ไทยยังมีมุกที่จับจอมพล ป. ขึ้นศาลอาชญากรสงครามตัดสินประหาร แล้วบอกว่าเป็นโมฆะเพราะ (ไทยจงใจ) ออกกฎหมายโทษอาญาเรื่องนี้ทีหลังการกระทำความผิด แต่ยังไงก็ห้ามฟ้องข้อหาเดิมซ้ำซ้อนนะยู หลังกฎหมายสากลของชาติอารยะที่ไอลอกยูมาเขาบอกยังงั้น

ประเทศเล็กก็ไปตามกระแสครับ พยุงตัวมาจนจีนแดงมีอำนาจแล้วชาติตะวันตกก็ต้องมาหาให้เป็นพวก คิก คิก
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #549 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 03:46:10 PM »

เมืองเยอรมันกลายเป็นอย่างนี้แหละครับ ฮัมบูร์ก เบอร์ลิน โคโลญ แฟรงก์เฟริต เดรสเดน (ในรูป) ฯลฯ อาคารเก่าๆ สมัยนี้สน้างขึ้นใหม่มาก เมืองเยอรมันสมัยนั้นทางใต้โดนน้อยกว่าทางเหนือ แต่ก็โดนบอร์มทางอากาศทั้งนั้นไปถึง เวียนนา โบสถ์ ชเตฟานกลางเวียนนาก็เหลือแต่ผนัง

ประมาณว่าพลเรือนเยอรมันเสียชีวิตประมาณ 600,000 คน จากการบอร์มของสัมพันธมิตร

พลเรือนอังกฤษเสียชีวิตประมาณ 3 หมื่นกว่าคน จากการบอร์มของเยอรมัน

รูปเขียนมีชื่อที่มีเทวดาเด็กนั่งเท้าคางตรงขอบล่างตอนนี้อยู่ในมิวเซียมที่เดรสเดน ตอนนั้นต้องเก็บไว้อย่างดีล่วงหน้า
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #550 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 07:30:38 PM »

The Bombing of Dresden by the British Royal Air Force (RAF) and United States Army Air Force (USAAF) between 13 February and 15 February 1945, 12 weeks before the surrender of the Armed Forces (Wehrmacht) of Nazi Germany, remains one of the most controversial Allied actions of the Second World War. The raids saw 1,300 heavy bombers drop over 3,900 tons of high-explosive bombs and incendiary devices in four raids, destroying 13 square miles (34 km2) of the city, the baroque capital of the German state of Saxony, and causing a firestorm that consumed the city centre.[2] Estimates of civilian casualties vary greatly, but recent publications place the figure between 24,000 and 40,000.
http://en.wikipedia.org/wiki/Bombing_of_Dresden_in_World_War_II

ระเบิดเพลิงที่อเมริกันใช้  b17 อังกฤษใช้แลงคาสเตอร์ ขนไปถล่มนั้นเดรสเดนนั้นใช้บ.ทิ้งระเบิด 1300 ลำ 3.9 กิโลตัน แรงระเบิดรวมคิดเป็นครึ่งหนึ่งของ little boy ที่อเมริกันใช้กับญี่ปุ่น แต่เป็นระเบิดย่อยสร้างความเสียหายได้เป็นพื้นที่มากกว่าlittle boy  เวลาที่ระเบิดเพลิง(ทำจากฟอสฟอรัสผสมแมกนีเซียม แมกนีเซียมเป็นโลหาที่ติดไฟได้)ที่เผาทีเดียวทั้งเมืองนั้นต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมหาศาลก็จะดูด อากาศเย็นจากข้างล่างเข้าไป พอเผาไหม้เสร็จก๊าซร้อนจากการเผาไหม้ก็จะลอยขึ้น ทำให้อากาศข้างบนความกดอากาศต่ำกว่าข้างล่างและบริเวณรอบๆเมือง ทำให้อากาศจากรอบๆที่ความกดสูงกว่าก็จะเคลื่อนเข้าไปแทนที ทำให้เกิดเป็นแรงดูดระดับพายุที่ดูดคนเข้าไปในกองไฟครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #551 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 07:45:55 PM »

ถ้าถามว่าใครคือบุคคลที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์โลกมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ผมตอบว่าฮิตเล่อร์ ส่วนคนที่สองคือ กอบาชอฟ

ตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจะสงบ พฤจิกายน 1918 ฮิตเล่อร์ นอนเดี้ยงตาบอดชั่วคราวอยู่เพราะแกสมัสตาดของอังกฤษ พอหายเยอรมันก็แพ้ไปแล้ว ฮิตเล่อร์ ยังไม่ลาออกจากทหาร อยู่ในกองทัพมีหน้าที่ใหม่ไปหาข่าวกลุ่มการเมือง

ปี 1919 ฮิตเล่อร์ ซึ่งประจำการอยู่ในเมืองมิวนิก ก็ไปฟังพรรคเล็กๆ พรรคหนึ่ง ชื่อพรรคกรรมกรเยอรมัน ฟังไปฟังมาก็ติดใจพูดมั่ง พูดไปพูดมาก็เข้าเป็นสมาชิกพรรคซะเลย ต่อมาอีกสองปีฮิตเล่อร์ก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้าพรรคได้ คือทำงอนบอกว่าจะแยกวงลาออก ยกเว้นพลพรรคยอมตั้งให้เป็นหัวหน้า

พอปี 1923 ฮิตเล่อร์ ก็เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น National Sicialist German Worker Party ตัวย่อจากชื่อเต็มว่า NSDAP เนชั่นแนล โซเชียลลิส อาไบตุง ปาไตร์ เรียกสั้นๆ อีกว่า NAZI

พอปลายปี ฮิตเล่อร์ คึกขึ้น จัดการตั้งม๊อบเดินขบวน (Putsch หรือ Beer Hall Putsch) โดยครั้งนี้มีผู้สนับสนุนมาช่วยเดินด้วยคือ นายพล ลูเดนดอฟ เสนาธิการทหารเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การเมืองเยอรมันหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งรุนรงมาตลอดและไม่นิยมการเคลื่อนไหวทางการเมือง ม๊อบฮิตเล่อร์เลยปะทะกับตำรวจ ตำรวจยิงใส่ (พยายามเลี่ยงท่านนายพลที่ยังได้รับความนับถืออยู่) พลพรรคนาซีตายไปสิบกว่าคน ตำรวจก็ตายไปสามคน

ปีต่อมาฮิตเล่อร์และพลพรรคนาซีตัวสำคัญเลยโดนพิพากษาจำคุก แต่อยู่ในคุกก็ได้รับความสะดวกสบาย และได้ลดโทษจากสี่ปี่เหลือแค่ 13 เดือน ตอนติดคุกอยู่นี้ก็เขียนหนังสือ Mein kampf "การต่อสู้ของข้าพเจ้า" โดย รูดอฟ ดฮส เป็นคนพิมพ์ดีดให้

ฮิตเล่อร์ ออกจากคุกมาก็มีดีกรีการเมืองเพิ่มขึ้น แต่พรรคนาซีหมดแรงไปแยะ ต้องเงียบไปอีกหลายปี....

ในรูปแรก คนขวาสุดคือ รูดอฟ เฮส ต่อมาป็นผู้นำอันดับสองซึ่งบินหนีไปอังกฤษ

ในรูปรอง นายแว่นตากลมคือ ฮิมเล่อร์ ม๊อบนาซีสะพายไรเฟิลเลยครับ Shocked
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 11, 2009, 07:49:02 PM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Bird
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1743


Ordinary Man on Earth


« ตอบ #552 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 12:22:57 AM »

ยังไม่ได้อ่านบทความของคุณต็อกอย่างจริงจัง  เพราะทำงานไปด้วย ดูเวปอวป.ไปด้วย
แค่กวาดตาอ่านคร่าวๆ ก็ทึ่งในข้อมูลแล้วครับ

...ไม่อยากบอกเลย ว่า + ให้ ด้วยความเต็มใจ...
บันทึกการเข้า

สู้กับผู้อื่นให้น้อยลง ......สู้กับจิตตนให้มากขึ้น
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #553 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 09:03:37 AM »

ผมอยากทราบรายละเอียดและการวิเคราะห์ถึงปฏิบัติการ Operation Market Garden หน่อยครับ ว่าเหตุใดกองกำลังสัมพันธมิตรถึงได้ส่งทหารพลร่มจำนวนมากถึง 40,000 นายโดดร่มลงไปในพื้นที่เพียงเพื่อยึดสะพานแค่ 5 แห่งในฮอลแลนด์ โดยเฉพาะสะพานเมือง Arnhem ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีการสนับสนุนกำลังและเสบียงดีพอ  จนในที่สุดก็ถูกหน่วย SS Panzer ที่ 9 กับ 10 สวนกลับจนปฏิบัติการล้มเหลว หน่วยละลายตายเกลื่อนไปหมดครับ

ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้าขอรับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #554 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 09:28:42 AM »

ผมอยากทราบรายละเอียดและการวิเคราะห์ถึงปฏิบัติการ Operation Market Garden หน่อยครับ ว่าเหตุใดกองกำลังสัมพันธมิตรถึงได้ส่งทหารพลร่มจำนวนมากถึง 40,000 นายโดดร่มลงไปในพื้นที่เพียงเพื่อยึดสะพานแค่ 5 แห่งในฮอลแลนด์ โดยเฉพาะสะพานเมือง Arnhem ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีการสนับสนุนกำลังและเสบียงดีพอ  จนในที่สุดก็ถูกหน่วย SS Panzer ที่ 9 กับ 10 สวนกลับจนปฏิบัติการล้มเหลว หน่วยละลายตายเกลื่อนไปหมดครับ

ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้าขอรับ  ไหว้


   ความเห็นผมคือ  นายพลมอนโกเมอรี  แกยึดติดกับสงครามแบบเก่าเกินไป  ที่ต้องส่งพลร่มจำนวนมากลงไปหลังแนวข้าศึกแล้วสนธิกำลังเข้าตี  แต่เมื่อประเมินความสามารถของเยอรมันต่ำเกินไป จึงเกิดความเสียหายจนรับไม่ได้  ทหารสัมพันธมิตรตายเกลื่อน  มาร์เกทการ์เดน จึงกลายเป็น นรก สำหรับพลร่มไป   เศร้า

  แต่มองในอีกด้าน เราก็ไป้หนังเรื่องแบรน์ออฟบราเทอร์มาดูกันนะเออ    Grin
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
หน้า: 1 ... 34 35 36 [37] 38 39 40 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 21 คำสั่ง