เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 05:12:25 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 35 36 37 [38] 39 40 41 ... 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ  (อ่าน 316016 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #555 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 10:41:51 AM »

ผมอยากทราบรายละเอียดและการวิเคราะห์ถึงปฏิบัติการ Operation Market Garden หน่อยครับ ว่าเหตุใดกองกำลังสัมพันธมิตรถึงได้ส่งทหารพลร่มจำนวนมากถึง 40,000 นายโดดร่มลงไปในพื้นที่เพียงเพื่อยึดสะพานแค่ 5 แห่งในฮอลแลนด์ โดยเฉพาะสะพานเมือง Arnhem ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีการสนับสนุนกำลังและเสบียงดีพอ  จนในที่สุดก็ถูกหน่วย SS Panzer ที่ 9 กับ 10 สวนกลับจนปฏิบัติการล้มเหลว หน่วยละลายตายเกลื่อนไปหมดครับ

ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้าขอรับ  ไหว้

คุยกันยาวเยื้อยแน่ครับ สำหรับคำถามนี้ .............. เยี่ยม

ยุทธการ Market Garden  เป็นยุทธการที่เรียกว่า ยุทธบรรจบแบบโอบทางดิ่งครับ ............ ใช้กำลังส่งทางอากาศ(พลร่ม) โดดลงหลังแนวเข้ายึดพื้นที่สำคัญ พร้อมกับกำลังภาคพืนขนาดใหญ่ตีเจาะเข้าไปพบกัน..............

เริ่มแรกคือ เยอรมันโยกย้ายกำลังครับ ...............เอากำลังพลที่อ่อนล้าเปลี่ยนที่ไปพักในเมืองที่สบายกว่า  เอากองพล Panzer (รถถัง) ไปพักที่ Arnhem ................

พลพรรคใต้ดินฮอลแลนด์ที่ทำงานเป็นสายลับให้อังกฤษ รายงานเรื่องนี้ให้อังกฤษทราบ ................ ตอนนั้นคนคุมยุทธการรวมคือ นายพลบราวนิ่งฯ ของอังกฤษ ไม่เชื่อข่าวกรอง.............

มีการแก่งแย่งกันเอาหน้ากันระหว่างสัมพันธมิตร โดยอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าภาพยุทธการนี้(นายพลมอนโกเมอรี่)...........ต้องการให้อังกฤษได้หน้า ในการโอบทางดิ่ง ด้วยการยึดที่ที่สำคัญกว่าทหารอเมริกัน .............

เมื่อไม่เชื่อข่าวกรองล่าสุด ว่า Arnhem มีกำลังยานเกราะหนัก............และตีความข่าวกรองขั้นต้นว่ามีทหารราบเยอรมันยึดอยู่บางๆ เลยให้ กองพล(พลร่ม)ปีศาจแดง ของตัวเองเข้ายึด เพราะพื้นที่ตรงนั้นลึกที่สุด ..............เพื่อรอกองทัพสนามที่3 เข้าทำการยุทธบรรจบ

พอโดดลงไป ............. พลร่ม เจอรถถัง เลยเละเทะสังขยา

คุยกันยาวครับเรื่องนี้  Grin
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #556 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 11:18:26 AM »

ผมอยากทราบรายละเอียดและการวิเคราะห์ถึงปฏิบัติการ Operation Market Garden หน่อยครับ ว่าเหตุใดกองกำลังสัมพันธมิตรถึงได้ส่งทหารพลร่มจำนวนมากถึง 40,000 นายโดดร่มลงไปในพื้นที่เพียงเพื่อยึดสะพานแค่ 5 แห่งในฮอลแลนด์ โดยเฉพาะสะพานเมือง Arnhem ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีการสนับสนุนกำลังและเสบียงดีพอ  จนในที่สุดก็ถูกหน่วย SS Panzer ที่ 9 กับ 10 สวนกลับจนปฏิบัติการล้มเหลว หน่วยละลายตายเกลื่อนไปหมดครับ

ขอขอบพระคุณมาล่วงหน้าขอรับ  ไหว้

คุยกันยาวเยื้อยแน่ครับ สำหรับคำถามนี้ .............. เยี่ยม

ยุทธการ Market Garden  เป็นยุทธการที่เรียกว่า ยุทธบรรจบแบบโอบทางดิ่งครับ ............ ใช้กำลังส่งทางอากาศ(พลร่ม) โดดลงหลังแนวเข้ายึดพื้นที่สำคัญ พร้อมกับกำลังภาคพืนขนาดใหญ่ตีเจาะเข้าไปพบกัน..............

เริ่มแรกคือ เยอรมันโยกย้ายกำลังครับ ...............เอากำลังพลที่อ่อนล้าเปลี่ยนที่ไปพักในเมืองที่สบายกว่า  เอากองพล Panzer (รถถัง) ไปพักที่ Arnhem ................

พลพรรคใต้ดินฮอลแลนด์ที่ทำงานเป็นสายลับให้อังกฤษ รายงานเรื่องนี้ให้อังกฤษทราบ ................ ตอนนั้นคนคุมยุทธการรวมคือ นายพลบราวนิ่งฯ ของอังกฤษ ไม่เชื่อข่าวกรอง.............

มีการแก่งแย่งกันเอาหน้ากันระหว่างสัมพันธมิตร โดยอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าภาพยุทธการนี้(นายพลมอนโกเมอรี่)...........ต้องการให้อังกฤษได้หน้า ในการโอบทางดิ่ง ด้วยการยึดที่ที่สำคัญกว่าทหารอเมริกัน .............

เมื่อไม่เชื่อข่าวกรองล่าสุด ว่า Arnhem มีกำลังยานเกราะหนัก............และตีความข่าวกรองขั้นต้นว่ามีทหารราบเยอรมันยึดอยู่บางๆ เลยให้ กองพล(พลร่ม)ปีศาจแดง ของตัวเองเข้ายึด เพราะพื้นที่ตรงนั้นลึกที่สุด ..............เพื่อรอกองทัพสนามที่3 เข้าทำการยุทธบรรจบ

พอโดดลงไป ............. พลร่ม เจอรถถัง เลยเละเทะสังขยา

คุยกันยาวครับเรื่องนี้  Grin
ปูเสือรอครับ พลร่ม รบทหารม้า บทวิเคราะห์โดยนายทหารม้า อะไรมันจะเหมาะไปกว่านี้ ไหว้
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #557 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 11:46:40 AM »

ว่ากันว่า ทหารพันธมิตรที่โดดร่มลงไปโดนทหารนาซีสอยเอาเป็นเป้าบินกลางอากาศไปก็เยอะ   ตกใจ
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #558 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 12:54:36 PM »

อ่านมาวันที่สามแล้วยังไม่จบเลยครับ... ที่สุดจริงๆ...

สนุกมากตรงที่พื้นหลังความรู้ของแต่ละท่านแยะ และลึก จนสามารถผูกเรื่องทะลุจากขอบผลึกด้านหนึ่งไปเปรียบเทียบกับอีกด้านหนึ่งของแก้วผลึก...

นี่แหละครับที่เรียกว่าความรู้มันควบแน่น และตกผลึกได้ใสกระจ่างได้จริง... ขอบพระคุณทุกท่านครับ...

ว่าแล้วนายสมชายก็อ่านต่อไป... ไม่ฮา
บันทึกการเข้า
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #559 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 01:35:20 PM »

ระยะนี้ ผมชอบคิดถึงท่าน โฮจิมินห์ ยังหาหนังสือมาอ่านไม่ได้
เห็นเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ที่รวมกันไม่ได้แบบเวียดนาม หรือเยอรมัน ก้อคิดถึงพินัยกรรมท่าน พูดถึงอเมริกา ฝรั่งเศลก้อคิดถึงท่าน
นึกถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ก้อยังคิดถึงลุงโฮอีก
อยากจะรบกวนท่านผู้สันทัดกรณี เปิดกระทู้จังเลยครับ

 ไหว้
บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #560 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 02:20:10 PM »

ระยะนี้ ผมชอบคิดถึงท่าน โฮจิมินห์ ยังหาหนังสือมาอ่านไม่ได้
เห็นเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ที่รวมกันไม่ได้แบบเวียดนาม หรือเยอรมัน ก้อคิดถึงพินัยกรรมท่าน พูดถึงอเมริกา ฝรั่งเศลก้อคิดถึงท่าน
นึกถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ก้อยังคิดถึงลุงโฮอีก
อยากจะรบกวนท่านผู้สันทัดกรณี เปิดกระทู้จังเลยครับ

 ไหว้
ว่าด้วยเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 , เครื่องบินขับไล่ , รถถัง , เรือรบ แล้วก็ลุงโฮ............และที่จะตามมาอีกเรื่อย ๆ ถ้ามีกระทู้สาระเช่นนี้มากพอผมเสนอเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าเปิดห้องย่อยอีกซักห้องครับ เอาเป็นชื่อห้องบทความ เพื่อความสะดวกในการติดตามผลงาน  อนาคตคงได้มีแน่ ๆ ห้องนี้
ปล.นี่ยังขาดกระทู้ของพี่จอยฯอีกคน พี่ปลาใหญ่ได้อ่านหรือยังครับ กระทู้นี้มาจากประสบการณ์ล้วน ๆ อ่านไปยิ้มไป ได้มุมมองดี ๆ ด้วยครับ Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #561 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:32:39 PM »

Market Garden

แบ่งเป็นสองส่วน Market - Garden ปฏิบัติการ "ตลาด" Market อิ อิ คือเอาพลร่ม กำลังส่งทงอากาศไปยึดจุดสำคัญในเขตเมือง อาร์นเฮ็ม ไอโฮเฟ่น แล้ว "สวน" Garden ก็เอากำลังโจมตีจากแนวรบรุกเข้าไปช่วยและยึดพื้นที่

มีประเด็นหนึ่งเรื่องเยอรมันเคลื่อนย้ายกำลังคือการทรยศของใต้ดินสองหน้าดัชท์ Christian Lindemans ฉายา "King Kong" เพราะตัวใหญ่กำยำ นายคนนี้เป็นใต้ดินดัชท์มาก่อน พานักบินสัมพันธมิตรหนี วินาศกรรมเยอรมัน ฯลฯ แต่เยอรมันจับน้องเขาได้เลยแลกเปลี่ยนกันให้ทำงานสองหน้าให้ นายคนนี้ก็แอกทีฟทำงานให้เยอรมันแข็งขันจริงๆ พานักบิน สายลับที่โดร่มลงมาไปให้จับ มีครั้งหนึ่ง นายคิงคองโดนจับไปพร้อมกับใต้ดินคนอื่นๆ ตอนอยู่ในค่าบเยอรมันนายคิงคองพยายามทำมือส่งสัญญาณให้รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ททารเยอรมันคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่อวงนึกว่าพยายามต่อสู้เลยยิงโป้งเข้าให้ 9 มม. ทะลุหน้าอก พวกที่รู้ก็พาไปรักษา แต่นายคิงคองอึดมาก รอดมาได้ เยอรมันก็ฟอร์มปล่อยตัวไปทำงานสองหน้าอีก นายคิงคองเลยยิ่งมีชื่อว่าเป็นใต้ดินที่อุทิศตัวและเนียนมาก เยอรมันจับไปสอบสวนยังหาเรื่องไม่ได้

เรื่องนายคิงคองแดงขึ้นมาเมื่อนายทหารข่าวกรองอังกฤษผู้พัน โอเรสเต้ พินโต Oreste Pinto ซึ่งมีเชื้อสายดัชท์เอง เข้ามาทำงานหลังแนวสัมพันธมิตรในภาคพื้นยุโรป เจอคิงคองก่อนยุทธการ ตลาด- สวน ผู้พันพินโตเจอพฤติกรรมบางอย่างของคิงคองเกิดสงสัย เพราะเขาไปเจอคิงคองในค่ายเชลยศึก คิงคองมารับประกันตัวผู้หญิงคนหนึ่งออกไปจากค่าย เจ้าหน้าที่ต่างๆ รู้จักคิงคองดี ห้อมล้อมชื่นชมกัน พินโต แย้งว่าทำไม่ถูกระเบียบ คิงคองก็เบ่งใส่ พินโตติอีกว่าใส่เครื่องแบบทหารดัชท์ได้ยังไง สังกัดที่ไหน? คิงคองตอบไม่ได้ พินโตก็เลยแกล้งกระชากอินธนูออก ฉีกหน้าต่อหน้าธารกำนัน แต่คิงคองกลับฮึดฮัดนิดเดียว ขู่ว่าจะไปฟ้อง บก. สัมพันธมิตรแล้วเดินหนี พินโตเลยสงสัยว่าถ้าเป็นใต้ดินที่เข้มแข็งไม่มีรอยด่างพร้อยจริงน่าจะโวยวาย หรือกระแทกหน้าตัวเข้าให้ หรือว่านายคนนี้มีอะไรแอบแฝง ถึงเบ่งไม่อยู่กับร่องกับรอย พินโต ก็เริ่มสืบสวนจนพบว่ามีประวัติการทำงานน่าสงสัย เช่น เวลาโดนซุ่มโจมตีคิงคองมักรอดมาได้หลายๆ ครั้ง ทั้งที่ตัวใหญ่น่าเป็นเป้า คนอื่นส่วนมากกลับโดนยิงหมด และทำไมเกสตาโปถึงปล่อยน้องของใต้ดินมีชื่อที่จริงน่าจะฆ่าทิ้งแก้แค้นตามธรรมเนียม

พินโต เลยนัดเจอ คิงคอง เพื่อจับพิรุธเพิ่มเติม โดยวันนั้น พินโต พก บราวนิง ไฮพาวเว่อร์ ไปด้วย รออยู่ตั้งหลายชั่วโมง คิงคอง ก็ไม่มา ในที่สุดมีใต้ดินคนอื่นมาบอกว่า คิงคอง ไปประสานงานกับใต้ดินเรื่องปฏิบัติการลับเกี่ยวกับการโจมตีครั้งใหญ่ พินโต ก็ โอ้ มายก๊อด ต่อมาคิงคองโดน พินโต จับดำเนินคดีจนได้ คิงคองไปติดคุกในอังกฤษ มีพยาบาลที่ชอบชื่อเสียงเดิมช่วยหนีให้ปีนผ้าลงทางหน้าต่าง แต่โดนจับได้ พินโต เขียนว่าตอนนั้น คิงคอง หมดสภาพ สติแตก ปล่อยร่างกายทรุดโทรม เวลา พินโต ไปหาคิงคองๆ จะมากอดขาขอความเมตตา ในที่สุดพยาบาลคนที่เคยช่วยหนี (ทำไมไม่โดนย้ายไม่รู้) ก็หายามาให้คิงคองกินเกิดอัตราฆ่าตัวตาย หร้อมกับตัวเอง จุดจบของสายลับสองหน้าจึงเป็นการฆ่าตัวตายหนีความผิด ส่วนพยาบาลถูกนำไปล้างท้องช่วยได้ทัน

เรื่องการทรยศของ คิงคอง อาจไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่เยอรมันเคลื่อนพลเข้ามาซุ่มล้อม แต่ก็เป็นส่วนหนี่งของเรื่องปฏิบัติการ ตลาด -สวน นี้

***


นอกจากนี้การส่งกำลังในปฏิบัติการ "ตลาด" ส่งจำนวนมากด้วยเครื่องร่อนด้วย การส่งด้วยเครื่องร่อนมีจุดอ่อนเรื่องอุบัติเหตุ เยอรมันได้บทเรียนมาหนักในการบุก เกาะครีต หลังจากนั้นเยอรมันก็ไม่พยายามทำแบบนี้ สัมพันธมิตรก็มีประสบการณ์มาในการสนับสนุนยกพลขึ้นบกนอร์มังดี แต่ที่ยังไม่เลิกอาจเป็นเพราะว่าการยกพลขึ้นบกประสบความสำเร็จ และพลร่มก็ตายน้ำตื้น จมน้ำตื้นจริงๆ ตาย หรือลงมากลางเมือง ตายไปมาก เลยอาจดูว่าเป็นความเสี่ยงธรรมชาติของการส่งกำลังทางอากาศ กลบประเด็นเครื่องร่อนอุบัติเหตุสูงไป

เยอรมันเองก็กลัวว่าสัมพันธมิตรจะส่งกำลังทางอากาศมีการเตรียมเปิดประตูน้ำ ปล่อยน้ำเข้าทุ่งในฮอลแลนด์ไว้มาก

เมื่อ "ตลาด" ลงมายึดจุดสำคัญ "สวน" ก็รุกเข้ามา แต่ปัญหาคือตีแนวเยอรมันไม่ได้ ส่วนที่รบกันบนถนนก็แออัด รถที่บังขวางทางการรุกเอง ฯลฯ

ตลาดยึดจุดสำคัญส่วนมากได้ แต่ "สวน" มาช่วยไม่ได้ ก็โดนเยอรมันล้อม กำลังที่ล้อมมาก็ชั้น 1 เป็น วัฟเฟน เอสๆ ทั้งยานเกราะและทหารราบ ทหารอังกฤษก็ชั้น 1 เป็นพลร่มปีศาจแดง Red devil ยิงกันดุดือด เช่น ที่สะพานหนึ่งในอาร์นเฮ็มยิงกัน 3 วัน 3 คืน พลร่มอังกฤษ 300 คน เหลือแค่ 2 คน รักษาสะพานไม่ไหวตอนกลางคืนแอบหนีไป พอจะโดนจับระหว่างทาง ก็แกล้งนอนตาย เยอรมันเดินมาเอาดาบปลายปืนจิ้มบั้นท้าย อังกฤษลุกขึ้นมาด่าโขมงโฉงเฉง โดยจับขึ้นรถบรรทุก ระหว่างทางอังกฤาทุบเยอรมันแล้วกระโดนหนี หาเรือเล็กแจวมาตามแม่น้ำในที่สุดรอดมาถึงแนวจนได้

***

เกร็ดที่เกี่ยวข้องนิดหน่อยคือเรื่อง เด็กหญิง แอนด์ แฟรงค์ ชาวยิวที่ซ่อนนาซีอยู่บนห้องใต้หลังคามาหลายปี ต่อมาโดนเกตตาโปมาเจอเพราะมีคนทรยศจับไปเข้าค่าย เอาชวิช และไปเสียชีวิต ที่ค่าย เบอเก้น-เบลเซ่น ถ้าปฏิบัติการ ตลาด-สวน นี้สำเร็จ สัมพันธมิตรจะเข้าเมืองทันก่อน แอนด์ แฟรงค์ โดนจับครับ

***

ข้อมูลข้างต้นหลักๆ จากหนังสือ A Bridge Too Far โดย Cornelius Ryan

และ The Spycatcher โดย ผู้พัน Oreste Pinto เองครับ

***


เรื่อง Spycatcher นี้แนะนำครับ มีหลายตอนสนุกมาก

มีตอนหนึ่ง พินโต จับเกตตาโปมาสอบสวน เกตตาโปก็เถียงว่าที่จริงตนเป็นสายลับสองหน้าทำงานให้อังกฤษ

พินโต ถามว่า "ใครเป็น จนท. รับผิดชอบงานคุณ"

เกตตาโปบอกว่า "โอ้ ท่านตายเสียแล้วครับ ไม่น่าเลย ถ้าท่านยังอยู่ท่านต้องมาประกันตัวผมออกไปตั้งนานแล้ว ฯลฯ"

"คนนั้นเขาโดนเยอรมันฆ่าตายหรือ?"

"เปล่าครับ ท่านเก่งมาก ไม่มีใครจับท่านได้เลย ท่านป่วยเป็นฝีในท้องตายน่ะครับ"

พินโตได้ยินก็ชักมวนท้องนิดๆ เพราะตัวเองเคยป่วยเป็นฝีในท้องมาเหมือนกัน...

"อ้อ ถ้างั้นท่านของคุณชื่ออะไรล่ะเดี๋ยวผมจะไปค้นข้อมูลดู ต้องมีบันทึกแน่ๆ"

"โอ้ ท่านคือ ผู้้พันพินโต ผู้ระบือนาม ครับพ้ม"

"อ้อ อ้อออออ คูณรู้จักตัวเป็นๆ ของท่านผู้พันเลยไหม?"

"รู้จักสิครับ ท่านเองก็จำผมได้ดี"

"หน้าตาท่าทางท่านเป็นยังไงล่ะ?"

"อือม์ อธิบายยากครับ ตัวก็ปานกลางพอๆ กับท่านแหละครับ โอ้ ผมคิดว่าการที่ท่านเป็นนักสืบ ปฏิบัติการลับได้เก่งมากก็เพราะว่าท่านหน้าตาท่าทางธรรมดามากๆ ไม่เตะตาคน ไปไหนก็แนบเนียนไม่มีใครจำได้ครับ..." 

คุยต่อยืนยันข้อมูลกันอีกยาว พินโตก็บอกว่า "โอเค คุณกลับห้องขังไปก่อนเดี๋ยวผมจัดการเรื่องให้เอง"

"ท่านชื่ออะไรครับ ผมจะได้จำไว้เป็นบุญคุณ"

"อ้าว คุณไม่รู้จักชื่อผมเหรอ ผมชื่อ นายพันโท โอเรสเต้ พินโต ยังไงล่ะ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2009, 05:14:41 PM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #562 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:36:14 PM »

http://www.independent.co.uk/news/uk/this-britain/mi5-files-reveal-how-king-kong-betrayed-allies-721235.html

MI5 files reveal how 'King Kong' betrayed Allies

Philandering Dutch spy leaked details of Operation Market Garden which led to the deaths of thousands of troops at Arnhem

By Kim Sengupta


Thursday, 20 April 2000
Share Digg It del.icio.us Facebook Reddit Print Article Email Article
New light has been shed on the treachery of a Dutch double agent, codenamed King Kong, in the disastrous Allied operation at Arnhem towards the end of the Second World War.


New light has been shed on the treachery of a Dutch double agent, codenamed King Kong, in the disastrous Allied operation at Arnhem towards the end of the Second World War.

But the MI5 documents released by the Public Record Office yesterday fail to provide a conclusive answer to the extent of damage caused by Christian Lindemans' passing of information to the Germans.

Historians and espionage specialists have differed over Lindemans' role in the major reverse suffered by the Allies in Operation Market Garden in 1944, later depicted in the award-winning film A Bridge Too Far. Almost 10,000 British and Allied paratroops were dropped on the outskirts of Arnhem with orders to take the bridge and hold it until reinforcements arrived. There followed some of the fiercest close-quarter combat of the war as the lightly equipped paratroops came under attack from tanks and battle-hardened German regiments. Fewer than 2,000 Allied soldiers escaped from the city.

The intelligence reports show that Lindemans, a resistance fighter turned collaborator, gave the Germans specific warnings of an airborne attack on 17 September, the night of the Arnhem landings. But the target he identified was Eindhoven, 30 miles away.

This leads to the strong possibility that Lindemans had overblown his importance to the Germans. Although he could get hold of some intelligence, he did not have ready access to the latest battle plans through Allied Headquarters in Brussels as he had claimed.

Lindemans was an inveterate womaniser, and MI5 chronicled a series of sexual liaisons. One report stated censorioiusly: "King Kong is a woman hunter without morals or conscience." But it also noted that he was undoubtedly in love with his common-law wife, a French cabaret singer called Gilberte. Her imprisonment, along with that of his brother, was the lever by which German intelligence persuaded him to work for them, the files show.

But Lindemans' professed love for Gilberte did not reduce his sexual appetite. The MI5 files noted how he abused the trust of a wealthy Dutch grain merchant and his young daughter, who nursed him when he was shot in the chest. "This girl, though seduced by Lindemans and robbed by him of all she possessed under the pretence that he needed her money in order to keep his 'secret organisation' going, was at the moment still in love with the man," the British agent wrote.

The reports also spoke of other affairs, one in Brussels with a lover known only as Mia, another with a Swedish woman. The liaisons took place despite Lindemans' physical frailty - though tall and immensely broad he walked with a limp, had an almost paralysed arm and was prone to seizures.

While awaiting trial after the war - and an almost certain death sentence - Lindemans continued to exert his charm on women. After his suicide in July 1946, MI5 officers learnt that he had almost escaped from jail with the assistance of a nurse, who helped him cut through cell bars. When that failed, and Lindemans took a fatal overdose of sleeping pills, the nurse tried to follow suit, only to be revived.

บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #563 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:39:38 PM »

เครื่องหมายติดเสื้อ กองพลส่งทางอากาศที่ 1 ปีศาจแดง
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #564 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 03:50:08 PM »

อังกฤษมอบเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด Victoria Cross (เนื้อโลหะทำจากปืนใหญ่ที่ใช้รบในสงคราม ไครเมีย) ในแก่ทหารที่รบ ในอาร์นเฮ็ม 5 นาย จากทั้งหมดที่ให้ทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวน 106 นาย เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #565 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 04:10:20 PM »

นาย Cornelius Ryan เขียนหนังสือดังๆ อยู่สามเรื่อง

A bridge too far (สะพานอยู่ไกลไปน้อ) เกี่ยวกับ "ตลาด - สวน"

The longest day (วันนี้ยาวที่สุดเล้ย) เกี่ยวกับทุทธการ โอเวอร์ ลอร์ด ยกพลขึ้นบกนอร์มังดี

The last battle (ศึกสุดท้าย) เกี่ยวกับ โซเวียตตีเบอร์ลินแตก

เขาเขียนหลังสงครามโลกไม่นาน แนวการเขียนคือการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมจริงๆ ครับ ทั้งทหาร ทั้งชาวบ้าน ถ้าสนใจว่าตัวละครไหน ตัวจริงเป็นยังไง ต่อมาเป็นยังไงมีในท้ายบทหนังสือ เช่น ในเรื่อง The longest day รายละเอียดในหนังเอามาจากหนังสือที่เขาสัมภาษณ์มาจริงๆ เช่น ทหารเยอรมันที่โดนยิงตายคนหนึ่งสวมรองเท้าผิดข้างทหารเมกันคนยิงเป็นคนเล่า และพลร่มเมกันที่โดดลงมาห้อยต่องแต่งกับระฆังโบสถ์ ในเมือง แซงค์ แมร์ เอกลีส คนนี้รอดจากสงครามไปเป็น Cost engineer
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #566 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 04:13:13 PM »

ยังไม่ได้อ่านบทความของคุณต็อกอย่างจริงจัง  เพราะทำงานไปด้วย ดูเวปอวป.ไปด้วย
แค่กวาดตาอ่านคร่าวๆ ก็ทึ่งในข้อมูลแล้วครับ

...ไม่อยากบอกเลย ว่า + ให้ ด้วยความเต็มใจ...

ขอบคุณมากครับพี่ Bird
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #567 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 04:31:17 PM »

ต่ออีกนิดครับ ตอนที่แล้ว ฮิตเล่อร์ เป็นนักการเมืองผ่านคุกมาและออกหนังสือของตนเองแล้ว ก็ขอเสริมเล็กน้อยว่า ฮิตเล่อร์ มีความดีในฐานะผู้นำอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่กอบโกยสะสมทรัพย์ และไม่ขายชาติถึงแม้จะพาชาติไปพัง ผู้นำเผด็จการชนิดชี้เบียร์เป็นเบียร์ ชี้ไส้กรอกเป็นไส้กรอก แห่งประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ขนาดเยอรมันถ้าจะ "เอื้อประโยชน์นิดหน่อย" รับรองรวยยิ่งกว่าเศรษฐีเมกันยุคหลังกฏหมายต่อต้านการผูกขาด แต่ ฮิตเล่อร์ ก็ไม่ทำ

อย่างไรก็ตาม ฮิตเล่อร์ หารายได้เข้าตัวเอง ในการขายหนังสือ การต่อสู้ของจ้าพเจ้า นี้โดยคิดค่านักเขียนจากราคาปก 10% ต่อมาเพิ่มเป็น 15% ซึ่งพรรคนาซีก็กระตุ้นให้คนซื้อไว้ประดับบ้าน และไปๆ มาๆ ก็ออกกฎหมายให้เทศบาลเมืองซื้อแจกเป็นของขวัญคู่สมรสที่มาจดทะเบียนด้วย

หนังสือเรื่องนี้ เขาว่าที่จริงพลพรรคนาซีตัวใหญ่ๆ เองแทบไม่มีใครอ่านจบ เคยมีงานเลี้ยงงานหนึ่งในหมู่ผู้ยิ่งใหญ่ในพรรค ฮิตเล่อร์ไม่อยู่ด้วย

นาซีผู้ใหญ่คนหนึ่งคุยว่า

"พูดจริงๆ เหอะคอมมาราเด้น สหายอ่าน มาย คัมป์ ของท่านผู้นำจบแล้วจริงๆ หรือเปล่า? ผมเองยอมรับว่าไม่เคยอ่านหนังสือของท่านผู้นำจบเลย"

"เฮ่อ เฮ่อ พูดจริงก็ได้ ผมก็ทนอ่านไม่จบนะ"

ว่าแล้วนาซีก็เล่นวัดใจกัน คนที่ยอมรับว่าไม่เคยอ่านคัมภีย์นาซีจบจะต้องลงเงินแบบลูกผู้ชาย ใครมานั่งที่โต๊ะเพิ่มจะต้องถูกถาม ถ้าอ่านไม่จบต้องลงเงิน ถ้ายืนยันว่าตัวอ่านจบได้เงินทั้งกอง

นาซีใหญ่ๆ ก็มากันทั้งนั้น ทั้ง ฮิมเล่อร์ เกอริง เกอริงได้ยินคำถามหัวเราะพุงกระเพื่อมไม่พูดออกปากว่าอ่านไม่จบแต่ก็ไม่ยืนยัน ต้องลงเงิน

ในที่สุดที่นาซีหัวกะทิทุกคนที่มาชุมนุมกันก็เก็บตังค์กลับเข้ากระเป๋า เพราะไม่มีใครเคยอ่านคัมภีย์นาซีจบสักคน เยาะเย้ย

ปล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้แต่นาซีก็ยังมีสัจจะลูกผู้ชายถ้าเดิมพันเป็นแค่ตังค์เล็กๆ น้อย คิก คิก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2009, 04:49:24 PM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #568 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 04:32:12 PM »

 บวกหนึ่งให้คุณต๊อก......
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #569 เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 05:27:27 PM »

นึกว่าสมาชิกเว็บนี้อาวุโสขนาดเคยใช้ชีวิตวัยเด็กช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง.......เล่าละเอียดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์....ชอบอ่านมากครับ
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
หน้า: 1 ... 35 36 37 [38] 39 40 41 ... 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.116 วินาที กับ 18 คำสั่ง