ไม่ได้มานาน กระทู้สงครามโลกก็ไปไกลขึ้นได้ความรู้ไหม่ๆอีกเยอะขอบคุณที่มาแบ่งปันกันครับ
อ่านข้อความเก่าๆของตนรู้สึกจะพูดถึงสตาลินน้อยเกินไปหน่อย
จริงๆโดยส่วนตัวคิดว่าเอาเฉพาะผู้นำประเทศ(ไม่นับแม่ทัพเพราะทำคนละหน้าที่กัน) ผมเชื่อว่าสตาลินเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากๆ อาจจะมีความสามารถสูงที่สุดคนนึงในสงครามโลกเลย
ก่อนสตาลินจะมาปกครองนั้น รัสเซียเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ค่อนข้างยากจน แต่สตาลินสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศได้อย่างรวดเร็ว สามารถบุกเบิกไซบีเรียเพื่อขุดหาน้ำมันและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อุตสาหกรรมอาวุธของรัสเซียพัฒนาไปจนมีศักยภาพการผลิตไกล้เคียงอเมริกา
ตอนที่เยอรมันบุกรัสเซียนั้น เมื่อนับรวมประเทศในการปกครองใต้เยอรมันนั้น มี GDP มากกว่า ประชากรมากกว่ามีทรัพยากรเหล็ก และถ่านหิน และอลูมิเนียม มากกว่ารัสเซียหลายเท่าแต่มีน้ำมันน้อยกว่า รวมทหารฝ่ายเยอรมันและผู้สนับสนุน มีทหารที่ไช้บุกมากกว่าทหารที่รัสเซียหามาป้องกันได้ เบื้องต้นได้รับการสนับสนุนจากประเทศภายไต้โซเวียตอย่างยูเครน เบโลรุสเซีย ลิทัวเนียนั้นเข้าข้างเยอรมัน
รวมทหารของเยอรมันและประเทศที่สนับสนุนที่ส่งมาตีโซเวียต ก็มีมากกว่าทหารโซเวียตที่ไช้ป้องกัน เยอรมันไช้ทหาร 25% ป้องกันแนวรบตะวันตก เพราะมีทะเลเป็นแนวป้องกันธรรมชาติ ขณะที่โซเวียตต้องไช้ทหารถึง 40%ป้องกันญี่ปุ่นเพราะไม่มีแนวป้องกันทางธรรมชาติที่ดี
ความช่วยเหลือของอเมริกา(lend lease) คิดเป็น 1 % ของ GDP โซเวียตเท่านั้น
เรื่องเทคโนโลยีอาวุธ ระบบทหาร คุณภาพบุครากรไม่ต้องพูถึง เยอรมันเหนือกว่าลิบ
ความสูญเสียทหารจากความหนาวเหน็บนั้นน้อยกว่าที่ นักประวัติศาสตร์อเมริกาในช่วงสงครามโลกกล่าวอ้างไว้มาก ในปี 1941 เยอรมันได้ปล้อนอุปกรณ์ฤดูหนาวจากยูเครนแล้ว มีรายงานความสูญเสียจากหิมะกัด แต่จำนวนผู็ถูกหิมะกัดค่น้อยมากถ้าเทียบกับขนาดของกองทัพ ฤดูหนาวปี 1942 นั้นเยอรมันมีอุปกรณ์ฤดูหนาวพร้อมแล้ว และเอริควอนมานสไตน์ก็ได้เดินทัพฝ่าพายุฤดูหนาวเข้าโจมตีทัพโซเวียตในปฎิบัติการ winter strom ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถของเยอรมันในการเครื่อนทัพ และการรบในฤดูหนาว ที่จริงฤดูหนาวทำไห้เยอรมันเสียเปรียบแต่น้อยกว่าที่คนกล่าวอ้างไว้มาก
ทั้งๆที่เสียเปรียบขนาดนี้ แต่สตาลินก็ทำประเทศสู่ชัยชนะ เราก็ควรยอมรับว่าสตาลินเป็นผู้นำที่มีความสามารถสูงมากแต่ถูกโฆษณาชวนเชื่อของพันธมิตรตะวันตก กล่าวหาว่าโง่ๆบ้าๆ (แต่เรื่องโหดผมเชื่อว่าโหดจริงแต่ไม่คิดว่าจะโหดเท่าที่คนพูดถึงกัน)
สตาลินถูกหาว่าฆาตกรรมชนชาติตนเองหลายสิบล้าน ที่จริงสตาลินไม่ชอบประหารคน แต่มักจะส่งคนที่ไม่เชื่อฟัง และคนที่สตาลินคิดว่าเป็นภัยไปยังค่ายแรงงานเพื่อเพิ่มกำลังผลิตอาวุธ ประชาชนส่วนไหญ่ของโซเวียตเสียชีวิตจากการอดอาหารและโรคระบาด
สตาลินสั่งทหารในสตาลินกราดวิ่งเข้าไปไห้ทหารเยอรมันที่อยู่ในที่กำบังยิง(แบบใน หนัง) โดยโซเวียตมีกำลังมากกว่าเยอรมัน 4 เท่าเสมอ และสูญเสียมากกว่าเยอรมัน 10 เท่า แต่ปรากฎว่าทหารเยอรมันไม่สามารถชดเชยความสูญเสียได้ทันขณะที่โซเวียตทำได้ เรื่องพวกนี้ส่วนไหญ่ไม่จริง ยกเว้นกองพันต้องโทษที่จะถูกส่งไปเพื่อเบี่ยงเบนกำลังข้าศึก ปกติโซเวียตจะโจมตีตอนกลางคืน มักเครื่อนที่โดยไช้ท่อระบายน้ำ หรือไช้ซากตึกเป็นที่กำบังไม่ได้วิ่งไปรับกระสุนแบบในหนัง พวกทหารเรียกสงครามในสตาลินกราดว่า rat war เพราะต้องซ่อนไปเครื่อนที่ไปเหมือนหนู ที่จริงกองทัพของทั้ง 2 ฝ่ายข่วงต้้น จนถึงสตาลินกราดมีจำนวนไกล้เคียงกัน แต่หลังจากสตาลินกราดกองทัพโซเวียตเริ่มมีขนาดไหญ่กว่า ในการรบครั้งสำคัญ เยอรมันรุกครั้งไหญ่ในสตาลินกราดเดือนตุลาคม ชุยคอฟภายไต้ซูคอฟ นำกองกำลังบุกตีโต้ผ่านท่อระบายน้ำโอบล้อมกองกำลังของเยอรมันได้สำเร็จ และเยอรมันต้องสูญเสียรถถังมากกว่าที่ผลิตได้ในทั้งปี
ปฎิบัติการยูเรนัสที่โอบล้อมสตาลินกราดถ้าอ่านวิกิไทยฝ่ายโซเวียตได้นำกองกำลังจำนวนมหาศาลเข้าโจมตีกองกำลังโรมาเนียและโอบล้อมได้สำเร็จ แต่ถ้าอ่านวิกิภาษาอังกฤษ ทั้ง 2 ฝ่ายมีกำลังล้านเศษไกล้เคียงกัน และฝ่ายโซเวียตที่จริงโจมตีถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกโจมตีที่สตาลินกราดตรงๆ กองทัพเยอรมันเสริมแนวป้องกันที่สตาลินกราดอย่างเข้มแข็ง ครั้งที่ 2 โจมตีกองกำลังโรมาเนียเหนือสตาลินกราดไป 100 ไมล์ ซึ่งไกลพอที่ทำไห้ฝ่ายเยอรมันไม่อาจส่งกองกำลังจากสตาลินกราดไปป้องกันชายฝั่งได้ทัน กองทัพทางเหนือตีทะลุมาไกล แต่กองทัพเยอรมันได้รวมกำลังเข้าสกัดได้สำเร็จ แต่ที่จริงก็อยู่ในการคาดการณ์ของฝ่ายโซเวียต จากนั้นโซเวียตได้โจมตีครั้งที่ 3 ใต้สตาลินกราด 100ไมล์เข้าโอบล้อม ระหว่างที่กำลังจะถูกโอบ ฝ่ายเยอรมันเถียงกันว่าจะถอยหรือจะตรึงกำลังดี ฮิตเล่อรืประเมิณว่า กองทัพต้องเครื่อนทัพภายฝ่าหิมะซึ่งจะทำไห้กองทัพช้าลงเป็นการเสี่ยงเกินไป เพราะถ้ากองทัพที่ 6 โดนตามกวาดล้าง กองทัพภาคใต้ทั้งหมดจะเป็นอันตราย จึงสั่งไห้ตรึงไว้ หลังจากนั้นกองทัพเยอรมันจึงถูกโอบล้อม
จริงๆมีหนังสือประวัติศาสตร์แนะนำไห้อ่านของแกรนท์นะครับ เพราะทำไห้เรามองประวัติศาสตร์ในอีกมุมนึง หรือถ้าไม่สะดวกอ่านในวิกิก็ดีครับ อ่านของภาษาอังกฤษ แนวรบตะวันออกนี่เป็นการต่อสู้ของสุดยอดแม่ทัพที่หักเหลี่ยมกันไม่ได้ส่งกองทัพวิ่งไปไห้เค้ายิงแบบในหนัง enemy at the gate การรบที่เคิร์ก ปฎิบัติการบาเกรชั่น การยึดโรมาเนีย order offensive ก็ถือว่าวางแผนมาดีมากมีการหลอกล่อ มีการส่งหน่วยพาติซานไปรบกวนการสื่อสารและคมนาคมถ้าอ่านจะได้แง่มุมไหม่ที่สนุกและดุเดือดเลือดพล่านมาก อ่านแนวรบตะวันออกจบผมรู้สึกว่าแนวรบตะวันตกที่สารคดีเอามาฉายซ้ำๆมันช่างเล็กกระจิ๊ดริดซะเหลือเกิน^^
และกองทัพแดงจริงๆก็ไม่ได้โหดร้ายไปกว่ากองทัพเยอรมัน ถ้าเอาตัวเลขมาเทียบกันดู
http://en.wikipedia.org/wiki/Eastern_Front_(World_War_II)#Casualtiesนักโทษเยอรมันที่ถูกโซเวียตจับเสียชีวิต 1/3 ซึ่งเยอะ แต่นักโทษโซเวียตที่ถูกเยอรมันจับเสียชีวิตเกินครึ่ง
ไครโหดร้ายกับชาวบ้านมากกว่าอันนี้ดูลำบากเพราะแต่ละฝ่ายก็อ้างว่าฝ่ายตรงข้ามโหดกว่า ของเราเอาประวัติศาสตร์มาจากอเมริกา ซึ่งตอนแรกประวัติศาสตร์อเมริกาตีเยอรมันว่าโหด แต่หลังหมดสงครามโลก อเมริกาไช้ประวัติศาสตร์ของเยอรมันโจมตีโซเวียตเพื่อผลในสงครามเย็น แต่การดูจากคลื่นผู้อพยพจำนวนมหารศาลที่เกิดขึ้นในโซเวียตตอนถูกเยอรมันตี และกลับกันจะเห็นว่าโหดทั้งคู่ และ ตอนแรกประเทศในเครือโซเวียตอย่างยูเครน เบโลรุส ช่วยเยอรมันตีโซเวียต แต่พอถูกเยอรมันปกครองก็ทนไม่ไหว ไปช่วยโซเวียติตีเยอรมัน ซึ่งก็แสดงว่าการปกครองก็น่าจะเลวร้ายไม่ต่างกันเท่าไร ผมไม่ได้ว่าพันธมิตรตะวันตกดีนะครับ พันธมิตรตะวันตกก็ก่ออาชญากรรมมากมาย เช่นทิ้งระเบิดลงเบอร์ลิน ทิ้งนิวเคลียร์ ตอนก่อนสงครามโลกก็ล่าอาณานิคมขูดรีดประเทศต่างๆ พอระหว่างสงครามโลก ก็สัญญาจะมอบอิสระภาพถ้าช่วยตนสู้กับญี่ปุ่น แต่พอหลังสงครามโลกก็กลับลำส่งทหารมาปกครองต่ออ้างว่าการปลดปล่อยต้องมีขั้นตอน จนเกิดสงครามปลดแอกไปทั่ว สรุปมันก็โหดกันหมด โหดมากโหดน้อยไม่มีไครขาว เทากันหมด เทาอ่อนเทาแก่
ทหารเยอรมันเสียชีวิตในแนวรบตะวันออก ประมาณ 4 ล้านนาย เท่ากับเกือบทั้งหมดของทหารเยอรมัน
ชัยชนะของโซเวียตนั้นชี้ขาดผลของสงครามโลกครั้งที่ 2