เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 12, 2025, 05:25:41 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "ฮารีรายอ"หรือ"อิดิ้ลฟิตริ"  (อ่าน 20775 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:47:44 AM »

เดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวมุสลิม ผ่านพ้นไป ก็ถึงวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวมุสลิมที่ขาดไม่ได้ต่อจากเดือนรอมฎอนคือ

                                  "ฮารีรายอ"หรือ"อิดิ้ลฟิตริ"

ซึ่งวันดังกล่าวสำคัญเทียบเท่า"วันตรุษ"ของชาวจีน และ"วันออกพรรษา"ของชาวไทย

           วันฮารีรายอ คือวันที่ 1 เดือนเชาวาล อันเป็นเดือนที่ 10 ถัดจากเดือนรอมฏอนในปฎิทินจันทรคติของอิสลาม
ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม 2550 ฮิจเราะห์ที่1428

         วันฮารีรายอเป็นวันที่อิสลามสนับสนุนให้ชาวมุสลิมได้เฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่หลังจากที่ได้ถือศิลอดเป็นเวลานานหนึ่งเดือน วันฮารีรายอถือว่าเป็นวันครอบครัวของอิสลาม ญาติพี่นองที่อยู่ห่างไกลจะได้มาพบกัน ตามบ้านเรือนต่างๆจะเตรียมของอาหารต้อนรับทั้งของคาวหวาน เช่น ปูโล๊ะ,รอเญาะ,ละแซ,นาซิดาแฆ ไว้เพื่อให้แขกที่มาเยือนได้รับประทาน และส่งเสริมให้ทุกคนแต่งกายอย่างสวยงาม

         นอกจากนี้วันฮารีรายอยังมีการบริจากซากาต การละหมาดที่มัสยิดร่วมกัน ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นเป็นการสร้างความสามัคคีและฟังคุฏบะฮ์(คำเทศนา) การไปเยี่ยมสุสานเพื่อรำลึกถึงความตาย การไปเยี่ยมญาติมิตรสหาย ในวันฮารีรายอ ทั้งยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคม โดยการจัดกิจกรรมต่างๆเช่น การเลี้ยงอาหาร การอ่านอัล-กุรอาน การแข่งขันกีฬาเพื่อความสามัคคีในชุมชน




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 13, 2007, 06:21:46 PM โดย RO 02 » บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:49:42 AM »


          หากจากกล่าวโดยรวมแล้ว วันฮารีรายอ ในภาคใต้ ก็คงเหมือนกับที่ภาคกลาง เพี่ยงแต่ว่าที่นี่จะมีบรรยากาศที่คึกคัก ผู้มามากหน้าหลายตา บางคนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็จะกลับมาเยี่ยมพ่อ เยี่ยมแม่ เยี่ยมพี่น้องของตนเอง ภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปตามบ้านเรือน ก็คือบ้านที่สะอาด เพราะถูกทำความสะอาดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว มีการตกแต่งบ้านที่สวยงาม มีการเตรียมอาหาร ขนม ต่างๆ ไว้พร้อมสำหรับแขกผู้มาเยี่ยม

           ภาพที่เห็นได้จาก ในทุ่งหญ้า ในป่า ในพื้นที่โล่ง จะเป็นภาพของการทำกุรบาน บ้างก็กำลังนั่งแล่เนื้อ เพื่อนำไปแจกจ่าย บ้างก็นั่งย่างเนื้อรับประทานอยู่แถวๆ นั้น ด้วยเตาที่ทำจากก้อนหิน ไฟจากไมฟืนที่หาได้ ภาพที่สามารถพบเห็นได้บนท้องถนน บางที่ก็จะมีการรวมกลุ่มกัน ตั้งด่านบนท้องถนน โบกเรียกผู้ที่ขับรถผ่านไปมา เมื่อจอดรถก็จะมีการให้สลามกัน มีการแจกจ่ายสิ่งของซึ่งกันและกัน จากประสบการณ์ตรงของเรา ในขณะที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซด์อยู่ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นโบกให้จอดรถ จากนั้นก็ให้สลามกัน มีการสวมกอดกัน แล้วก็หยิบ บะหมี่กึ่่งสำเร็จรูป 1 ห่อ กับลูกอม อีกประมาณ 3 เม็ด ให้กับเรา ด้วยมิตรภาพที่ดีจากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ถึงแม้จะเป็นสิ่งของเพียงน้อยนิด แต่ว่ามีค่าทางจิตใจยิ่ง
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:51:52 AM »


ภาษามลายูปัตตานี หรือ มลายูปาตานี (เรียกในภาษาอังกฤษ ว่า 'Pattani Malay' หรือ 'Patani Malay') เป็นภาษากลุ่มออสโตรนีเซียน ที่พูดโดยชาวไทยเชื้อสายมลายูในจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และในบางอำเภอของสงขลา (ไม่รวมสตูล) ในประเทศไทยมีประชากรที่พูดภาษานี้มากกว่า 1 ล้านคน ภาษานี้ใกล้เคียงกับภาษาถิ่นในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

คำศัพท์

นอกจากคำศัพท์พื้นฐานของภาษามลายูแล้ว ภาษามลายูปัตตานีมีคำยืมจากภาษาอื่นหลายภาษา ได้แก่
* ภาษาสันสกฤต เข้ามาพร้อมกับศาสนาพุทธ เช่น ภาษา เป็น บาฮาซา หฤทยะ เป็น ฮาตี
* ภาษาอาหรับ เข้ามาพร้อมกับศาสนาอิสลาม เช่น กูรมา (อินทผาลัม) เป็น กุรมอ อาลำ (โลก) เป็น อาแล
* ภาษาเขมร เช่น กำปง (หมู่บ้าน) เป็น กาปง
* ภาษาจีน เช่น กุยช่าย เป็น กูจา
* ภาษาชวา เช่น มาลัม (กลางคืน) เป็น มาแล
* ภาษาเปอร์เซีย เช่น มะตับ (แสงจันทร์) เป็น มะตับ
* ภาษาฮินดี เช่น โรตี
* ภาษาทมิฬ เช่น มานิกัม (เพชร) เป็น มานิแก
* ภาษาอังกฤษ เช่น ฟรี เป็น ปือรี มอเตอร์ไซค์ เป็น มูตาซีกา
บันทึกการเข้า

                
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:52:37 AM »

ขอบคุณมากๆเลยครับ...ลุงปู Grin
บันทึกการเข้า

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:53:25 AM »



ความแตกต่างระหว่างภาษามลายูปัตตานีกับภาษามาเลย์

ความแตกต่างระหว่างภาษามลายูปัตตานีกับภาษามลายูกลางหรือภาษามาเลย์มีดังนี้

การใช้คำ

บางคำทั้งสองภาษาใช้คำต่างกัน เช่น ฉัน ภาษามาเลย์ใช้ ซายา ภาษามลายูปัตตานีใช้ อามอหรือซายอ มันเทศ ภาษามาเลย์ใช้ อูบี กิลิเดะ ภาษามลายูปัตตานีใช้ อูปีกือแตลอ

การออกเสียง

* ออกเสียงสระต่างกันได้แก่
o เสียงอะ + พยัญชนะนาสิกในภาษามาเลย์เป็นแอในภาษามลายูปัตตานี เช่น อายัม (ไก่) เป็น อาแย มากัน (กิน) เป็น มาแก
o เสียงอะ + หในภาษามาเลย์เป็นเอาะในภาษามลายูปัตตานี รูมะหฺ (บ้าน) เป็น รูเมาะ
o เสียงอะในภาษามาเลย์เป็นเอาะในภาษามลายูปัตตานี บาวะ (พร) เป็น บาเวาะ มินตะ (ขอ) เป็น ม๊เตาะ
o เสียงอาท้ายคำในภาษามาเลย์เป็นออในภาษามลายูปัตตานี นามา (ชื่อ) เป็น นามอ ซีลา (เชิญ) เป็น ซีลอ
* เสียงอีท้ายคำที่ประสมกับพยัญชนะนาสิกในภาษามาเลย์เป็นเสียงอิงในภาษามลายูปัตตานี สินี (ที่นั่ง) เป็น สินิง
o เสียงไอท้ายคำในภาษามาเลย์เป็นอาหรือแอในภาษามลายูปัตตานี เช่น ซูไง (คลอง) เป็น ซูงา หรือซูแง กือได (ตลาด) เป็น กือดา หรือ กือแด การเพี้ยนเสียงเป็นแอ พบในบางท้องถิ่นเท่านั้น
o เสียงเอาท้ายคำในภาษามาเลย์เป็นอาในภาษามลายูปัตตานี เช่น ปีเซา (มีด) เป็นปีซา
o เสียงอัวในภาษามาเลย์เป็นออในภาษามลายูปัตตานี เช่น บัวซอ (บวช) เป็น ปอซอ
o เสียงเอียในภาษามาเลย์เป็นเสียงอี + ยในภาษามลายูปัตตานี เช่น เสียม (สยาม) เป็น สีแย
o เสียงเอียพยางค์หน้าในภาษามาเลย์เป็นแอในภาษามลายูปัตตานี เช่น เบียซา (เคย) เป็น แบซอ
* ออกเสียงตัวสะกดต่างกัน
o ตัวสะกดที่เป็นเสียงเสียดแทรก (ส, ฟ) ในภาษามาเลย์เป็นเสียงที่เกิดจากคอหอย (ห) ในภาษามลายูปัตตานี เช่น มาลัส (เกียจคร้าน) เป็น มาละหฺ
o ตัวสะกด น, ม ในภาษามาเลย์เป็น ง สะกด ในภาษามลายูปัตตานี เช่น ฮากัม (ตุลาการ) เป็น ฮาเก็ง
* ออกเสียงพยัญชนะต้นต่างกันเช่น
o ร ในภาษามาเลย์เป็น ฆฮ ในภาษามลายูปัตตานี เช่น โอรัง (คน) เป็น ออแฆฮ

นอกจากนั้นภาษามลายูปัตตานียังนิยมลดเสียงและคำที่พูดเช่น อามัดเลาดาราในภาษามาเลย์เป็น เมาะสดารอ ในภาษามลายูปัตตานี

บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 09:54:33 AM »

โครงสร้างประโยค

ภาษามลายูปัตตานี นิยมเรียงประโยคแบบภาษาไทย คือ ใช้รูปประธานกระทำ ส่วนภาษามาเลย์ใช้ประโยคแบบ ประธานถูกกระทำ เช่น ภาษามาเลย์ใช้ ตูวัน ดี เปองาเนาะกัน ตีมานอ (ท่านถูกทำให้เกิดที่ไหน) ภาษามลายูปัตตานีใช้ ตูแว บือราเนาะ ดีมานอ (ท่านเกิดที่ไหน) ภาษามาเลย์ใช้ ปาดี ดีมากันลึมบู (ต้นข้าวถูกกินโดยวัว) ภาษามลายูปัตตานีใช้ ลืมมูมาแกปาดี (วัวกินต้นข้าว)

ความต่างของไวยากรณ์

* ภาษามลายูปัตตานีคัดคำอุปสรรคที่ไม่จำเป็นออก เช่น บรยาลันในภาษามาเลย์เป็น ยยาแล
* ภาษามลายูปัตตานีใช้คำง่ายกว่า เช่น มาแก ใช้ได้ทั้ง กินข้าว ดื่มน้ำ สูบบุหรี่ แต่ภาษามาเลย์แยกเป็น มากัน (กิน) มีนุม (ดื่ม) หิสัป (สูบ)
* ภาษามาเลย์มีการแยกระดับของคำมากกว่า เช่น ผู้ชายใช้ ลากี-ลากี สัตว์ตัวผู้ใช้ ยันตัน ส่วนภาษามลายูปัตตานีใช้ ยาแต กับทั้งคนและสัตว์ ส่วนลลากี มีใช้น้อย
* ภาษามลายูปัตตานีมีการเรียงคำแบบภาษาไทยมากกว่า เช่น ทำนา ใช้ บูวะบือแน


ที่มา วิกิพีเดีย
บันทึกการเข้า

                
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 10:07:21 AM »

สลามมอเลกุม บังปู สุขสันต์ ฮารีรายอ Grin
บันทึกการเข้า

babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 10:16:01 AM »

มอเลกุมมุสลาม แบจอย
บันทึกการเข้า
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 10:21:52 AM »

..... สำคัญมากเลยครับ  สิ่งนี้ไม่เคยทราบมาก่อน .... เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่แท้จริง ...... แล้วมีการอวยพรกันหรือไม่ครับ  .. ไม่ทราบจริง ๆ กลัวจะไม่ถูกต้อง .... ด้วยความเคารพ ....
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 10:27:07 AM »

อัสลามมุไลกุม    ภาษาผมสายปากีครับ สำเนียงแปลกไปครับ
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 10:37:27 AM »

 Smiley
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 11:47:46 AM »



           ขอบคุณ RO.02 มากครับ พ.ศ.ผิดไปตั้งปีนึง .......... ขออภัยด้วยครับ

บันทึกการเข้า

                
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 251
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2809


Still Loving COLT


« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 11:52:06 AM »

ขอบคุณมากครับพี่ปู
บันทึกการเข้า

โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน  แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 11:52:26 AM »



วันตรุษอีด หรือวันอีด เป็นวันเฉลิมฉลองในศาสนาอิสลาม โดยในวันนี้จะมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย ร่วมกันทำพิธีละหมาดวันอีดที่สนามหรือในมัสยิด เยี่ยมเยืยนญาติพี่น้อง รับประทานอาหารร่วมกัน เป็นต้น

มุสลิมที่พูดภาษามลายูจะเรียกวันนี้ว่า ฮารีรายอ (ภาษามลายูปัตตานี ) หรือ Hari Raya ในภาษามลายูกลาง แปลว่า วันใหญ่ หรือ วันอีด (ทับศัพท์จากภาษาอาหรับ) ศาสนพิธีตรุษอิดิลฟิตรี ปฏิบัติกันตามหัวเมืองทั่ว ๆ ไป

วันอีดมี 2 วันในแต่ละปีคือ

อีดุลฟิฏริ (สะกดไม่มาตรฐาน อีดิลฟิตรี) ในวันที่ 1 เชาวาล จะมีเลี้ยงอาหารให้แก่ญาติมิตร หลังจากนมาซอีด
อีดุลอัฎฮา ในวันที่ 10 ซุลฮิจญะหฺ จะมีการเชือดสัตว์พลี (กุรบาน)และเลี้ยงอาหารให้แก่ญาติมิตร หลังจากนมาซอีด

ในวันอีดจะมีการประกอบศาสนกิจ(จังหวัด สงขลาจังหวัด ปัตตานี จังหวัด นราธิวาส จังหวัด ยะลา จังหวัดสตูล เป็นส่วนใหญ่ และจังหวัดอื่น ๆ ตามกันไป มีหลักการว่าพระราชพิธีตรุษอีด จะประกอบในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ซาอุดิอารเบีย กาตาร์ โอมาน และรัฐอิสลามอื่น ๆ โดยมีพระมหากษัตริย์ในประเทศนั้นจะเสด็จเป็นองค์ประธานด้วยพระองค์เอง พระพิธีตรุษอีดจะประกอบกันใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีผู้สืบเชื้อสายจากกษัตริย์หรือรายานัครี โดยแต่ละจังหวัดมีดังนี้

สงขลา ประธานในพิธีจะสืบเชื้อสายจาก สุลต่าน สุลัยมาน(พ.ศ. 2163 - 2213) เจ้าเมืองสงขลา โดยมีตระกูลหลัก ๆ คือ เทพวารินทร์ พิทักษ์คุมพล ฯลฯ
ยะลา ประธานในพิธีจะสืบเชื้อสายจาก ตวนกู สุลัยมาน (2452) ตวนลือเบ็ฮ ลงรายา (พ.ศ. 2442 - 2452)
นราธิวาส ประธานในพิธีจะสืบเชื้อสายจาก ตวนกูงัฮ ชัมชุดดิน (2452)
ปัตตานี ประธานในพิธีจะสืบเชื้อสายจาก ตวนกู อับดุลกาเดร์ กามารุดดิน (พ.ศ. 2442 - 2452) นิ โวะ {2452 (ต้นตระกูล พิพิธภักดี และอับดุล บุตร)} ตวนกู อับดุลมุตตอเล็ป (2452)
สตูล ประธานในพิธีจะสืบเชื้อสายจาก ตวนกู กูเด็น - ตวนกู ฎียาอุดดีน - ตึงกู บิสนู


ปฏิทินฮิจญ์เราะหฺ และ หิจญ์เราะหฺศักราช ดูเปรียบเทียบที่ ปฏิทินไทย คำว่า หิจญเราะหฺ แปลว่า การอพยพ ผู้เริ่มกำหนดใช้ศักราชหิจญ์เราะหฺเป็นคนแรกคือ อิมามอะลีย์ บิน อะบีฏอลิบในสมัยการปกครองของอุมัร อิบนุลคอฏฏอบ (คอลีฟะหฺคนที่ 2) ซึ่งประกาศใช้ในปีที่ 7 หลังการอพยพ (ค.ศ. 629) โดยยึดปีที่นบีมุฮัมมัด ศาสนทูตแห่งอิสลาม อพยพออกจากเมืองมักกะหฺ(เมกกะ)สู่มะดีนะหฺ ในปี ค.ศ. 622 เป็นต้นศักราชฮิจญ์เราะหฺ

อักษรย่อ ฮิจญ์เราะหฺ คือ ฮ.ศ. ในภาษาอังกฤษนิยมใช้ H.E. (Hijrah Era) หรือ A.H. (Anno Hejira)

ระบบปฏิทินของหิจญเราะหฺศักราช เป็นระบบปฏิทินจันทรคติ นั่นคือ จะใช้ดวงจันทร์เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ ดังนั้นในหนึ่งปีจันทรคติจึงมี 354 วันหากเป็นปีปกติสุรทิน และ 355 วันหากเป็นปีอธิกสุรทิน ดังนั้น ในรอบ 30 ปีจะมีปกติสุรทิน 19 ครั้ง และอธิกสุรทิน 11 ครั้ง

ชนมุสลิมใช้ปฏิทินฮิจญ์เราะหฺจนถึงทุกวันนี้

เดือนตามระบบปฏิทินฮิจญ์เราะหฺ
ในหนึ่งปีฮิจญ์เราะหฺมี 12 เดือน คือ

1.มุฮัรรอม
2.ศอฟัร
3.รอบีอุลเอาวัล
4.รอบีอุษษานี
5.ญุมาดัลอูลา
6.ญุมาดัษษานียะหฺ
7.ร่อญับ
8.ชะอฺบาน
9.รอมะฎอน
10.เชาวาล
11.ซุลกออิดะหฺ
12.ซุลฮิจญะหฺ
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2007, 11:58:29 AM »

สุขสันต์  วันฮารีรายอ บังปู           เซ รา มัด  ดา แตง

เมื่อถึงวัน ฮารีรายอ ไทยมุสลิม ทุกคนจะแต่งตัวด้วยชุดสวยกันทุกคน  โรงเรียนปิด อย่างน้อย ๑ วัน ใน ๔ ภาคใต้

บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 21 คำสั่ง