เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย

[JUNGLE]

อ้าว... ไหนว่าไม่มีใครยิงโดน... ทำไมต้องอาศัยร่มซะแล้วล่ะท่านอั้ม... เป็นไงล่ะ... เจอแซมล้านเมืองยโสธรเข้าให้



ปล.ใช้ร่มสีสวยเนาะ...  

[อรชุน-รักในหลวง]

กว่าจะวกกลับมา  ผมบรรจุลูกที่ 2 แล้วครับ  ตรงมาก็เข้าทาง 

การหลบหลีกคงไม่เกิน30วินาทีหรอกครับ กว่าพี่ sitthipong จะบรรจุลูกใหม่กว่าส่วนนำวิถีจะช๊าตแบตเตอรี่เต็มกว่าจะล๊อคเป้า
คาดว่าคงจะไม่ได้ยิงลูกที่ 2 ครับ 

[...อภิสิทธิ์ ...]

ถ้าให้ใช้แต่ปืนยิงกันห้ามมิซายล์ ผมขอเลือกตัวนี้ครับมีปืนลูกโม่(vulcan)ติดอยู่ปลายจมูก  นั่งได้สองคนมีเพื่อนคุยตลอดทางจะได้ไม่เหงาเครื่องซูก็ซูเถอะไม่กลัวหรอกครับ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

งั้นสงสัยต้องเล่นของหนักซะแล้ว ดูซิว่าจะปล่อยเป้าลวงได้กี่ครั้งกัน   
แท่นยิงของระบบ S-400แบบ 5P85SE พร้อมท่อยิงของลูกจรวดแบบ 9M96E(ท่อยิงเล็ก4ท่อ)

[พญาจงอาง +รักในหลวง+]

..นึกว่าจะมีเฉพาะนกคุ่มเท่านั้นที่ต้องใช้ตาข่ายดักเอา แต่นี้เครื่องF-5E Tiger II ของ Switzerland - Air Force ก็ต้องเอาตาข่ายดักเอาเหมือนกัน สงสัยนักบินดื้อมากเอาเครื่องลงแล้วก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ ถ้าเป็นบ้านเราอย่างนี้ต้องโดนยิงยางอิอิ..

[JUNGLE]

ยิงกันมาก็พอสมควรแล้ว... ผมว่าเอายังงี้ดีมั๊ยครับ... เรามาคิดหาวิธีในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทัพฟ้าไทย... หาวิธีการเล็ดลอดด่านต่างๆ เพื่อไปหย่อนระเบิดหรืออาวุธอะไรก็แล้วแต่ใส่ปากท่านอัครฯ ฮุนเซ็ง กันดีกว่า...



...ก่อนอื่นขอข้อมูลฝ่ายเขา+ฝ่ายเราพอคร่าวๆ ครับ...

[JUNGLE]

..นึกว่าจะมีเฉพาะนกคุ่มเท่านั้นที่ต้องใช้ตาข่ายดักเอา แต่นี้เครื่องF-5E Tiger II ของ Switzerland - Air Force ก็ต้องเอาตาข่ายดักเอาเหมือนกัน สงสัยนักบินดื้อมากเอาเครื่องลงแล้วก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ ถ้าเป็นบ้านเราอย่างนี้ต้องโดนยิงยางอิอิ..

สงสัยตั้งแต่ซื้อไม่เคยเปลี่ยนผ้าเบรคเลย...

[thitipun-รักในหลวง]

ยิงกันมาก็พอสมควรแล้ว... ผมว่าเอายังงี้ดีมั๊ยครับ... เรามาคิดหาวิธีในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทัพฟ้าไทย... หาวิธีการเล็ดลอดด่านต่างๆ เพื่อไปหย่อนระเบิดหรืออาวุธอะไรก็แล้วแต่ใส่ปากท่านอัครฯ ฮุนเซ็ง กันดีกว่า...



...ก่อนอื่นขอข้อมูลฝ่ายเขา+ฝ่ายเราพอคร่าวๆ ครับ...

ถ้ายังงั้นต้องมีฝ่ายตรงข้าม คือฝ่ายฮุนเซ็นด้วย จึงจะสนุก แต่ท่านใดจะเป็นล่ะขอรับ  

[คุณพ่อตัวดี]

พอดีหาข้อมามูลมาได้แค่นี้พี่ๆที่ทราบช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ 

กองทัพบกกัมพูชา

กองทัพบกกัมพูชาเป็นเหล่าทัพที่สำคัญที่สุดในจำนวน 3 เหล่าทัพ อาวุธส่วนมากของกัมพูชาจะเป็นอาวุธจากค่ายสังคมนิยมเดิมอย่างรัสเซียและจีน

กองทัพกัมพูชาประกอบด้วย กรมทหารราบ 9 กรม, กองพันยานเกราะ 3 กองพัน, กรมทหารช่าง 4 กรม, และกองพลน้อยต่อต้านการก่อการร้าย 3 กองพล มีกำลังทหาร 124,000 นาย งบประมาณกลาโหม 120 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีโดยประมาณ

อาวุธส่วนมากเป็นอาวุธในยุคสงครามเย็นที่เคยใช้ในสงครามกลางเมือง ในปัจจุบันอาวุธหลายรายการได้รับการช่วยเหลือจากจีน รัสเซีย และสหรัฐ สำหรับอาวุธหลักของกองทัพบกกัมพูชาประกอบไปด้วย

รถถัง

- รถถังหลัก T-55 จากรัสเซียจำนวนราว 100 คัน - รถถังหลัก Type-59 จากจีนจำนวนราว 200 คัน - รถถังเบา PT-76 จากรัสเซีย, รถถังเบา Type-62/63 จากจีนและรถถังเบา AMX-13 จากฝรั่งเศสจำนวนราว 50 คัน

รถเกราะ

- รถรบทหารราบ BMP-1 จากรัสเซียจำนวน 10 คัน - รถเกราะสายพาน M113A1/A3 จากสหรัฐจำนวน 20 คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-60 จากรัสเซียจำนวน 120คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-152 จากรัสเซียจำนวน 100 คัน - รถเกราะล้อยาง OT-64 จากโปแลนด์จำนวน 26 คัน

ปืนใหญ่/ปืนต่อสู้อากาศยาน/จรวดต่อสู้อากาศยาน

กองทัพบกกัมพูชามีปืนใหญ่ทั้งจากฝั่งสหรัฐและรัสเซียประจำการหลายรายการเช่นปืนใหญ่ขนาด 105 มม. แบบ M101, ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. แบบ M114 จากสหรัฐ หรือปืนใหญ่สนามขนาด 130 มม. แบบ M1954 และปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 152 มม. แบบ M1955

สำหรับปืนต่อสู้อากาศยานนั้น กองทัพบกกัมพูชายังมีปืนจากรัสเซียและจีนเป็นกำลังหลัก ส่วนจรวดต่อสู้อากาศยานนั้นกัมพูชาเคยมีจรวด SA-3 ไว้ใช้งาน แต่ได้ทำลายทิ้งไปตามข้อเสนอของสหรัฐเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือด้านอื่นเนื่องจากสหรัฐกลัวว่า SA-3 จะตกไปในมือของผู้ก่อการร้ายครับ

กองทัพเรือกัมพูชา

กองทัพเรือกัมพูชายังมีสถานการณ์เป็นกองทัพเรือใกล้ฝั่ง (Green Navy) โดยกัมพูชามีเรือตรวจการณ์ลำน้ำชั้น Kaoh จำนวน 2 ลำ และเรือเร็วโจมตี (ปืน) อีก 2 ลำ

ในปี 2548 รัฐบาลจีนได้บริจาคเรือตรวจการณ์ขนาด 46 เมตรจำนวน 4 ลำ เรือตรวจการณ์ขนาด 20 เมตรจำนวน 3 ลำ และเรือลำเลียงสัมภาระอีก 1 ลำให้กองทัพเรือกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือในการป้องกันการกระทำผิดกฏหมายทางทะเลและลาดตระเวนปราบโจรสลัด

ทั้งนี้หลังจากการค้นพบแหล่งน้ำมันของกัมพูชาในบริเวณอ่าวไทย ทำให้เชื่อได้ว่ากองทัพเรือกัมพูชาอาจจำเป็นต้องจัดหาเรือตรวจการณ์ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มเติมเพื่อลาดตระเวนคุ้มกันแหล่งผลิตน้ำมันของตน

กองทัพอากาศกัมพูชา

กองทัพอากาศกัมพูชามีฐานบินอยู่สองฐานคือ ฐานทัพอากาศพระตะบองและฐานทัพอากาศพนมเปญ แต่มีเครื่องบินประจำการที่ฐานทัพอากาศพนมเปญเพียงที่เดียว

พอดีหาข้อมามูลมาได้แค่นี้พี่ๆที่ทราบช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ

กัมพูชาเคยจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-21 จำนวน 22 ลำจากรัสเซียในปี 2529 แต่เครื่องบินถูกสั่งกราวน์ทั้งหมดในปี 2535 เนื่องจากขาดงบประมาณ ต่อมาในปี 2539 กองทัพอากาศกัมพูชาว่าจ้างบริษัท Israel Aircraft Industry ให้ทำการปรับปรุง MiG-21 จำนวน 12 ลำ และจัดหา L-39C มือสองที่ได้รับการปรับปรุงอีก 6 ลำ โดยกองทัพอากาศกัมพูชาได้รับมอบ L-39C ทั้งหมดในปี 2540 แต่จากการที่สมเด็จฮุนเซ็นขับเจ้านโรดมรณฤทธิ์ออกจากการร่วมรัฐบาล ทำให้ธนาคารโลกและสหรัฐตัดความช่วยเหลือต่อกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบกับโครงการปรับปรุง MiG-21 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้อิสราเอลส่งมอบ MiG-21 คืนให้กับพูชา 2 ลำ ปัจจุบันเราไม่ทราบสถานะของเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้ แต่คาดว่าไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากขาดงบประมาณและขาดนักบินที่มีความชำนาญ

กองทัพอากาศกัมพูชามีอากาศยานดังต่อไปนี้

- เครื่องบินขับไล่ MiG-21 Bis และ MiG-21UM จากรัสเซียอย่างละ 1 ลำ (ทำการบินไม่ได้) - เครื่องบินขับไล่ฝึก L-39C จากสาธารณรัฐเช็คจำนวน 6 ลำ - เครื่องบินลำเลียง Y-12 จากจีนจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินลำเลียง An-24RV จากรัสเซียจำนวน 2 ลำ (รับโอนจากกัมพูชาแอร์ไลน์) - เครื่องบินลำเลียงเบา BN-2A Islander จากอังกฤษจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ Falcon 20E จากฝรั่งเศสจำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ AS350 Ecureuil จำนวน 2 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ SA365 Dauphin จำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ Mi-8/Mi-17 จำนวน 6 ลำ - เฮลิคอปเตอร์ Mi-26 จำนวน 2 ลำ

[JUNGLE]

ยิงกันมาก็พอสมควรแล้ว... ผมว่าเอายังงี้ดีมั๊ยครับ... เรามาคิดหาวิธีในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทัพฟ้าไทย... หาวิธีการเล็ดลอดด่านต่างๆ เพื่อไปหย่อนระเบิดหรืออาวุธอะไรก็แล้วแต่ใส่ปากท่านอัครฯ ฮุนเซ็ง กันดีกว่า...



...ก่อนอื่นขอข้อมูลฝ่ายเขา+ฝ่ายเราพอคร่าวๆ ครับ...

ถ้ายังงั้นต้องมีฝ่ายตรงข้าม คือฝ่ายฮุนเซ็นด้วย จึงจะสนุก แต่ท่านใดจะเป็นล่ะขอรับ  

วางแผนบุกเอาความสะใจเท่านั้นครับ...

[submachine -รักในหลวง-]

ยิงกันมาก็พอสมควรแล้ว... ผมว่าเอายังงี้ดีมั๊ยครับ... เรามาคิดหาวิธีในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทัพฟ้าไทย... หาวิธีการเล็ดลอดด่านต่างๆ เพื่อไปหย่อนระเบิดหรืออาวุธอะไรก็แล้วแต่ใส่ปากท่านอัครฯ ฮุนเซ็ง กันดีกว่า...


...ก่อนอื่นขอข้อมูลฝ่ายเขา+ฝ่ายเราพอคร่าวๆ ครับ...

เล็ดรอดเข้าไป ไม่ต้องอากาศยานครับ

คนนี่แหละ ดีที่สุด ตอนเข้าไปช่วยท่านทูตไทยในเวียตนาม  คนแทรกซึมทางภาคพื้นดิน ก็เข้าถึงก่อนเครื่องบินครับ

[พญาจงอาง +รักในหลวง+]

..F-15K slam eagle ของทอ เกาหลีใต้ เมื่อคร่าไปฝึกร่วมผสมธงแดง(Red Flage)เมื่อปี2551ไม่ต้องอิจฉาประเทศเขาเพราะประทศเขามีนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบสามัญสำนึกสูง ขนาดประธานาธิบดียังติดคุกมาแล้ว(ของเราหนีคุกไปอยู่ดูไบโน้น อิอิ) ล๊อตแรกสั่งซื้อไป40ตัว ทำร่วงไปตัว ล๊อตสองสั่งเพิ่มอีก20ตัว โบอิ้งแถมให้ฟรี1ตัว แต่ในหนังสือแทงโก้บอกว่าตัวที่ให้ฟรีนั้นอยู่ในช่วงประกันก็เลยให้แทนตัวที่ตกไป. 40ตัวแรกติดเครื่องยนต์ของF110GE129ล๊อต20ตัวหลังติดเครื่องยนต์ของF100PW229ส่วนสนนราคาก็ตกเครื่องละ100ล้านเหรียญยูเอสครับท่าน..
http://www.youtube.com/watch?v=KPDQ8E-GWTc&feature=related

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

เอาเฉพาะ กองทัพเรือก่อนนะครับ       ผมเพิ่งทราบว่าเรามีเรือเยอะมาก 

ยุทโธปกรณ์ประจำการในสังกัดกองทัพเรือไทย
เรือบรรทุกเครื่องบิน (เรือ บ.)

ชั้นจักรีนฤเบศร
911 ร.ล.จักรีนฤเบศร

ระวางขับน้ำปกติ 7,000 ตัน เต็มที่ 11,485 ตัน
เรือฟริเกต (เรือ ฟก.)

ชั้นพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (Knox Class Frigate)
461 ร.ล. พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
462 ร.ล. พุทธเลิศหล้านภาลัย
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ Mk. 42 ขนาด 127 ม.ม. 1 กระบอก
แท่นยิง Mk. 16 1 แท่น สามารถใช้ยิงจรวดปราบเรือดำน้ำ ASROC(Anti-Submarine ROCket) และ อาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon
ระบบป้องตัวระยะประชิด Mk.15 Phalanx 1 ระบบ
ตอร์ปิโด Mk. 46
ลานจอดและโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์
ระวางขับน้ำเต็มที่ 4,260 ตัน

ชั้นเจ้าพระยา (Jianghu Class Frigate)
455 ร.ล.เจ้าพระยา
456 ร.ล. บางปะกง
457 ร.ล. กระบุรี
458 ร.ล. สายบุรี
ระบบอาวุธ (455 และ 456)
ปืนใหญ่เรือ Type 79A ขนาด 100 ม.ม. แท่นคู่ 2 กระบอก
อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 จำนวน 8 ท่อยิง
แท่นยิงระเบิดน้ำลึก RBU-1200 1 แท่น
ปืนกล 37 ม.ม. แท่นคู่ 4 แท่น
ระวางขับน้ำ 1,702-1,925 ตัน
ระบบอาวุธ (457 และ 458)
ปืนใหญ่เรือ Type 79A ขนาด 100 ม.ม. แท่นคู่ 1 กระบอก
อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 จำนวน 8 ท่อยิง
แท่นยิงระเบิดน้ำลึก RBU-1200 1 แท่น
ปืนกล 37 ม.ม. แท่นคู่ 4 แท่น
ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

ชั้นนเรศวร (Type-025T)
ร.ล. ตากสิน เรือฟริเกตหมายเลข 422 ของราชนาวีไทย
421 ร.ล. นเรศวร(ปืนใหญ่ 1 กระบอก จรวดต่อต้านเรือรบ Harpoon 8 ท่อยิง ปืนกลข้างเรือ 2 กระบอก
422 ร.ล. ตากสิน โรงเก็บ ฮ.1เครื่อง ฮ.ประจำเรือ Super Lynx 300 สามารถค้นหา, ทำลายเรือดำนำ)

ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ Mk. 45 ขนาด 127 ม.ม. 1 กระบอก
อาวุธปล่อย Harpoon 8 ท่อยิง
แท่นยิง Mk.32 แฝด 3 ยิงตอร์ปิโด Mk. 46 2 แท่น
ลานจอดและโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์
คาดว่าเรือจะถอดปืนกลขนาด 37 มม. จำนวน 2 แท่นออกและติดตั้งแท่นยิง Sadral พร้อมยิงอาวุธปล่อยนำวิถี Mistral จำนวน 2 แท่น
ระวางขับน้ำปกติ 2,800 ตัน เต็มที่ 2,985 ตัน

ชั้นตาปี
431 ร.ล. ตาปี
432 ร.ล. คีรีรัฐ
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 76/62 Oto-Melara 1 กระบอก
ปืนกล 40/70 Bofors แท่นเดี่ยว 1 กระบอก
แท่นยิง Mk.32 แฝด 3 1 แท่น
รางปล่อยระเบิดน้ำลึก 2 ราง
ระวางขับน้ำ 1,264 ตัน

ชั้นมกุฎราชกุมาร
433 ร.ล. มกุฎราชกุมาร
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 4.5 นิ้ว 1 กระบอก
ปืนกล 40/70 แท่นคู่ 2 กระบอก
แท่นยิง PMW-49A แฝด 3 ยิงตอร์ปิโดว์ Mk.44 และ Stingray 2 แท่น
อาวุธปราบเรือดำน้ำ Mortar 1 แท่น
รางปล่อยระเบิดน้ำลึก 2 ราง
ระวางขับน้ำ ปกติ ๑,๙๔๘ ตัน เต็มที่ ๒,๐๗๒ ตัน

ชั้นปิ่นเกล้า
413 ร.ล. ปิ่นเกล้า
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 76/50 3 กระบอก
ปืนกล 40/60 แท่นคู่ 2 กระบอก
แท่นยิง PMW-49A แฝด 3 ยิงตอร์ปิโดว์ Mk.44 และ Stingray 2 แท่น
อาวุธปราบเรือดำน้ำ Mortar 1 แท่น
รางปล่อยระเบิดน้ำลึก 2 ราง
ระวางขับน้ำปกติ 1,240 ตัน เต็มที่ 1,620 ตัน
หมายเหตุ - ปลดประจำการแล้ว
เรือคอร์เวต (เรือ คว.)

ชั้นรัตนโกสินทร์
441 ร.ล. รัตนโกสินทร์
442 ร.ล. สุโขทัย
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 76/62 1 กระบอก
ปืนกล 40/70 แท่นคู่ 1 กระบอก
อาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon 8 ท่อยิง
อาวุธปล่อยน้ำวิถีพื้นสู่อากาศ Aspide 1 แท่น
แท่นยิง Mk.32 ยิงตอร์ปิโด Mk. 46 2 แท่น
ระวางขับน้ำปกติ 960 ตัน
เรือเร็วโจมตีปืน (เรือ รจป.)

ชั้นชลบุรี
331 ร.ล.ชลบุรี
332 ร.ล.สงขลา
333 ร.ล.ภูเก็ต
ระบบอาวุธ
ปืน 76/62 ออโตเมลารา 2 กระบอก
ปืน 40/70 แท่นคู่ 1 แท่น
ปืน 0.5 นิ้ว 2 กระบอก
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (เรือ ตกก.)
ร.ล. นราธิวาส เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งหมายเลข 512 ระหว่างการแล่นทดสอบในทะเลที่ประเทศจีน

ชั้นปัตตานี
511 ร.ล. ปัตตานี
512 ร.ล. นราธิวาส

ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 76/62 แบบ Super Rapid Fire ของ Oto-Melara จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 20 มม. ที่สามารถยิงแบบ Local Control จำนวน 2 กระบอก
ปืนกล .50 จำนวน 2 กระบอก
ระวางขับน้ำสูงสุด 1,635 ตัน
หมายเหตุ: มีโครงการติดตั้งระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น – สู่ – พื้น Harpoon จำนวน 1 ระบบ ระบบอาวุธปืนรองแบบอัตโนมัติขนาด 40มม. หรือ 30 มม. 1-2 ระบบ และ ระบบ ESM / ระบบ IFF
เรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถี (เรือ รจอ.)

ชั้นราชฤทธิ์
321 ร.ล.ราชฤทธิ์
322 ร.ล.วิทยาคม
323 ร.ล.อุดมเดช
ระบบอาวุธ
ปืน 76/62 Oto-Melara จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 40/61 Breda จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล .50 นิ้ว จำนวน 2 กระบอก
จรวด Exocet MM 38 (SSM) จำนวน 4 ท่อยิง
เครื่องควบคุมการยิง WM 28/41

ชั้นปราบปรปักษ์
311 ร.ล.ปราบปรปักษ์
312 ร.ล.หาญหักศัตรู
313 ร.ล.สู้ไพรินทร์
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่ขนาด 57/70 มม. โบฟอร์ส 1 กระบอก
ปืนขนาด 40/70 มม.โบฟอร์ส 1 กระบอก
ปืน 0.5 นิ้ว 2 กระบอก
อาวุธปล่อย พื้น-สู่-พื้น เกเบรียล 5 ท่อ
จรวดส่องแสง ขนาด 2 นิ้ว 2 แท่น
หมายเหตุ: เรือเร็วโจมตีอาวุธปล่อยนำวิถีชั้นปราบปรปักษ์ได้ถอดอาวุธปล่อยกาเบรียลออกแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับเปลี่ยนประเภทเรือเป็นเรือเร็วโจมตีปืน
เรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ(เรือ ตกด.)

ชั้นคำรนสินธุ
531 ร.ล. คำรณสินธุ
532 ร.ล. ทะยานชล
533 ร.ล. ล่องลม
ระวางขับน้ำ 475 ตัน
เรือยกพลขึ้นบก (เรือ ยพ.)
ร.ล. พระทอง เรือยกพลขึ้นบกหมายเลข 715 ของราชนาวีไทย

ชั้นสีชัง
721 ร.ล. สีชัง
722 ร.ล. สุรินทร์

ชั้นอ่างทอง
711 ร.ล. อ่างทอง
712 ร.ล. ช้าง
714 ร.ล. ลันตา
715 ร.ล. พระทอง

733 ร.ล. พงัน
เรือกวาดทุ่นระเบิด (เรือ กท.)

ชั้นบางแก้ว
612 ร.ล. บางแก้ว
613 ร.ล. ดอนเจดีย์

ชั้นบางระจัน
614 ร.ล. บางระจัน
615 ร.ล. หนองสาหร่าย

ชั้นลาดหญ้า
616 ร.ล. ลาดหญ้า
617 ร.ล. ท่าดินแดง

ชั้นถลาง
618 ร.ล. ถลาง

ชั้น ท. 6
ท. 6 - ท. 10
เรือตรวจการณ์ปืน (เรือ ตกป.)
ร.ล. กันตัง เรือตรวจการณ์ปืนหมายเลข 524 ระหว่างการฝึกร่วม CARAT 2006 กับกองทัพเรือสหรัฐ

ชั้นหัวหิน
541 ร.ล.หัวหิน
542 ร.ล.แกลง
543 ร.ล.ศรีราชา
ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่เรือ 76/50 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 40/60 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล .50 จำนวน 2 กระบอก

ชั้นสัตหีบ
521 ร.ล.สัตหีบ
522 ร.ล.คลองใหญ่
523 ร.ล.ตากใบ
524 ร.ล.กันตัง

525 ร.ล.เทพา
526 ร.ล.ท้ายเหมือง
ระบบอาวุธ 521 - 523
ปืนใหญ่เรือ 76/62 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 40/70 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 20 มม. จำนวน 2 กระบอก
ปืนกล .50 จำนวน 2 กระบอก
ระบบอาวุธ 524 - 526
ปืนใหญ่เรือ 76/50 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 40/60 จำนวน 1 กระบอก
ปืนกล 20 มม. จำนวน 2 กระบอก
ปืนกล .50 จำนวน 2 กระบอก
เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ (เรือ สกญ.)
ร.ล.สิมิลัน เรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่หมายเลข 871 ของราชนาวีไทย

ชั้นสิมิลัน
871 ร.ล.สิมิลัน

เรือลำเลียงเสบียง (เรือ ลลส.)


ชั้นเกล็ดแก้ว
861 ร.ล.เกล็ดแก้ว
เรือลำเลียงน้ำมัน (เรือ นม.)

ชั้นจุฬา
831 ร.ล. จุฬ่า
832 ร.ล. สมุย
833 ร.ล. ปรง
834 ร.ล.เปริด

ชั้นเสม็ด
835 ร.ล.เสม็ด
เรือน้ำ (เรือ น.)

ชั้นจวง
841 ร.ล.จวง
842 ร.ล.จิก
เรือลากจูงขนาดกลาง (เรือ ลจก.)

ชั้นริ้น
853 ร.ล.ริ้น
854 ร.ล.รัง

ชั้นแสมสาร
855 ร.ล.แสมสาร
856 ร.ล.แรด
เรือลากจูงขนาดเล็ก (เรือ ลจล.)

ชั้นกลึงบาดาล
851 ร.ล.กลึงบาดาล
852 ร.ล. มารวิชัย
เรือสำรวจขนาดใหญ่ (เรือ สรญ.)

ชั้นจันทร
ร.ล. จันทร

ชั้นศุกร์
ร.ล. ศุกร์

ชั้นพฤหัสบดี
ร.ล. พฤหัสบดี (ประจำการ กรกฎาคม พ.ศ. 2551)
เรือใช้งานเครื่องหมายทางเรือ (เรือ งคร.)

ชั้นสุริยะ
821 ร.ล.สุริยะ
เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (เรือ ตกฝ.)
เรือต.96 เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งของราชนาวีไทย

ชั้น ต.81
ต. 81 - ต. 83

ชั้น ต.91
ต. 91 - ต. 99

ชั้น ต.110
ต. 11 - ต. 110

ชั้น ต.991
ต.991 - ต.993
เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (เรือ ตกช.)

ชั้น ต.21
ต.21 - ต.25
ต.28 - ต.212

ชั้น ต.213
ต.213 - ต.226

ชั้น ต.231
ต. 231
เรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ (เรือ รตล.)

ชั้น ล. 11
ล.11 - ล.155
เรือยนต์ตรวจการณ์ลำน้ำ (เรือ ยตล.)

ชั้น ล. 21
ล.21 - ล.26
เรือจู่โจมลำน้ำ (เครื่องติดท้าย) (เรือ จลต.)

ชั้น ล.31
ล.31 - ล.3135
เรือจู่โจมลำน้ำ (แบบพ่นน้ำ) (เรือ จลพ.)

ชั้น ล. 3130
ล.3130 - ล.3132

อากาศยานของกองการบินทหารเรือ

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ P-3T ของกองการบินทหารเรือ

กองบิน 1
ฝูงบิน 101 ประกอบด้วย DO-228 (7 เครื่อง )
ฝูงบิน 102 ประกอบด้วย F-27 MK200 (4 เครื่อง) และ P-3T/UP-3T (3 เครื่อง)
ฝูงบิน 103 ประกอบด้วย T-337 (14 เครื่อง)
ฝูงบิน 104 ประกอบด้วย A-7E/TA-7C (White Shark) (18 เครื่อง)

กองบิน 2
ฝูงบิน 201 ประกอบด้วย CL-215 (1 เครื่อง ), N-24A (5 เครื่อง ) และ F-27 MK400 (2 เครื่อง)
ฝูงบิน 202 ประกอบด้วย Bell-212 (8 เครื่อง), Bell-214ST (4 เครื่อง)
ฝูงบิน 203 ประกอบด้วย S-76B (5 เครื่อง) และ Super Lynx (2 เครื่อง)

หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร
ฝูงบิน 1 ประกอบด้วย AV-8S/TAV-8S Matador-Sea Harrier (9 เครื่อง)
ฝูงบิน 2 ประกอบด้วย S-70B Sea Hawk (6 เครื่อง)

การจัดซื้ออากาศยานเพิ่ม
ERJ-145 จำนวน 1 เครื่อง สำหรับภารกิจรับส่งบุคคลสำคัญและส่งกลับสายแพทย์ (รับส่งทหารบาดเจ็บ) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้[1]
MH-60S จำนวน 6 เครื่อง โดยสั่งซื้อในเบื้องต้น 2 เครื่อง [2] และกำลังสั่งซื้อเพิ่มอีก 4 เครื่อง [3] ใช้ในภารกิจขนส่ง ค้นหาและกู้ภัย
Super Lynx 300 จำนวน 4 เครื่อง ประจำการในเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ใช้ปราบเรือผิวน้ำ[4]

[nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย]

ยิงกันมาก็พอสมควรแล้ว... ผมว่าเอายังงี้ดีมั๊ยครับ... เรามาคิดหาวิธีในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในทัพฟ้าไทย... หาวิธีการเล็ดลอดด่านต่างๆ เพื่อไปหย่อนระเบิดหรืออาวุธอะไรก็แล้วแต่ใส่ปากท่านอัครฯ ฮุนเซ็ง กันดีกว่า...



...ก่อนอื่นขอข้อมูลฝ่ายเขา+ฝ่ายเราพอคร่าวๆ ครับ...

ถ้ายังงั้นต้องมีฝ่ายตรงข้าม คือฝ่ายฮุนเซ็นด้วย จึงจะสนุก แต่ท่านใดจะเป็นล่ะขอรับ  

ถ้าจะให้สนุกจริงๆต้องรวมลูกพี่ใหญ่เขมร ได้แก่เวียดนามเข้าไปด้วย มี ซู 27 1 ฝูง s400 2 กองพัน ระยะยิง 400 km พร้อมเรดาห์ phase aray ความละเอียดสูงตรวจจับเครื่อง stealth ได้ด้วยครับ ศักยภาพกองทัพอากาศไทยในปัจจุบัน แทบไม่มีโอกาสเข้าไปหย่อนระเบิด ฮานอยได้เลยเลย ยกเว้นว่า กริพเพน จะได้ kepd มาด้วยซึ่งเป็นไปได้ยากมากเพราะเยอรมันซึ่งเป็นผู้ผลิต kepdไม่ยอมขายให้เราแน่นอนครับ
ส่วนเรื่องเรือไทยนั้น สังเกตุดีๆ เรามีเรือที่มี ระบบmissileป้องกันภัยทางอากาศแค่เรือชั้นรัตนโกสินทร์แค่2 ลำ  แถมยังเป็น apide ที่เป็นเทคโนโลยีเมือ20 ปีที่แล้ว ระยะยิง 20 km ความเร็ว2 มัค เทียบกับ missile kh31 ที่ปล่อยจากsu27 ความเร็ว 3-4 มัค ระยะยิง 1-200 km. จะเห็นได้ว่าเรือไทยมีโอกาสน้อยมากที่จะป้องกันตัวจาก kh31 ได้ ผมไม่เข้าใจว่าจะต่อเรือเยอะๆไปทำไม น่าจะเอางบ มาปรับปรุง เรือชั้นนเรศวร ให้ติด essm หรือ aster 15,30 จะเพิ่มศักยภาพได้เต็มที่ ภัยคุกคามกองเรือสมัยนี้มาจากmissile เสียเป็นส่วนใหญ่ครับ

[JC]

ผมว่า ทร. น่าจะรู้อยู่ แต่อาจติดขัดงบประมาณฯ หรือจะพึ่งเครื่อง fighter ของ ทอ. มั๊งครับ??

ถ้าระบบป้องกันภัยทางอากาศกองเรือของเรา อ่อนงั้นจริง

ความเห็นผม คิดว่า น่าจะเอางบที่ กบร. จะซื้อ เครื่องบิน VIP บุคคลสำคัญ เอามาติดระบบป้องกันภัยทางอากาศ ดีๆก่อนน่าจะดีนะ