แนวทางการจัดหา บ. ขับไล่ใหม่ของประเทศเพื่อนบ้าน จาก
www.navy.mi.th/frigate2/2.jpgมีกระแสข่าวมาหลายๆทางครับว่ากัมพูชาจะมีการปรับปรุงกองทัพใหม่ให้ทันสมัยขึ้นโดยจัดหาอาวุธแทนของเดิมที่หมดอายุการใช้งนและล้าสมัย ซึ่งก็ร่วมถึงการจัดหา บ.ขับไล่ใหม่ด้วย
แนวทางที่เป็นไปได้สำหรับกัมพูชาทางหนึ่งน่าจะเป็นการจัดหา บ.จากจีนซึ่งมีราคาถูกกว่า บ.สหรัฐฯ-ยุโรปหรือแม้แต่ บ.รัสเซียเองครับ โดยมีตัวเลือกหลายแนวทางเช่น F-7, FC-1 จนถึง FC-20
จริงๆแล้ว F-7 นั้นก็คือ MiG-21 ที่จีน Copy มาอย่างอย่างผิดลิขสิทธ์ตั้งแต่ปี 1960s ครับซึ่งแม้ว่าในช่วงปี 1990s เป็นต้นมาจีนจะมีการปรังปรุง บ.รุ่นส่งออกให้มีความทันสมัยขึ้นก็ตาม แต่ข้อจำกัดของ F-7 ก็เหมือนกับMiG-21 ต้นแบบครับคือ มีพิสัยการบินสั้น น้ำหนักบรรทุกน้อย ถือว่าเป็น บ.ที่ตกรุ่นล้าสมัยแล้ว โดยส่วนตัวเชื่อว่าจีนคงจะปิดสายการผลิต F-7 ในอนาคตอันใกล้ครับเนื่องจากอาจจะไม่มีประเทศใดสั่งจัดหาไปใช้แล้วสักราวปี 2010 เป็นต้นไป
สำหรับ FC-1 หรือ JF-17 นั้นสมรรถนะเครื่องน่าจะใกล้เคียงกับ F-20 Tigershark ครับ แต่มีความทันสมัยของระบบ Avionic และระบบอาวุธมากว่า(แต่คงไม่เท่า JAS-39) ซึ่งเชื่อว่า FC-1 คงจะเข้ามาทำการตลาดแทน F-7 ในอนาคตครับ โดยราคาเครื่องจะอยู่ที่ลำละราว $10-15 Million เพราะมีรายงานว่าบ้างประเทศในแถบอัฟริกาก็เริ่มให้ความสนใจแล้ว
ในภูมิภาค ASEAN เองก็เคยมีข่าว่าพม่าให้ความสนใจเช่นกันครับ ส่วนในนิตยสารของเวียตนามนั้นก็ลงข้อมูลความเป็นไปได้ที่กัมพูชากำลังประเมินการจัดหา FC-1 จำนวน12ลำ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัจจุบันมีประเทศหลักประเทศที่ทำการผลิตและประจำการ JF-17 อย่างเต็มรูปแบบคือปากีสถาน ส่วนจีนนั้นก็มี FC-1 เพื่อใช้ในการประเมินจำนวนไม่มากนัก อนาคตของ บ.แบบนี้จึงยังขึ้นอยู่กับว่าจะหาลูกค้าเพิ่มเติมได้มากกว่านี้หรือไม่ครับ
และในส่วนของ FC-20 หรือ J-10 รุ่นส่งออกซึ่งมีข่าวออกมามากนั้นสมรรนะของตัวเครื่องและระบบAvionicรวมถึงอาวุธที่ติดตั้งได้นั้นหลายๆส่วนยังคงเป็นที่วิเคราะห์กันอยู่ครับว่าใกล้เคียงหรือสูงกว่า F-16 แต่ถ้าดูจากการจัดหาของปากีสถานจำนวน 36ลำในวงเงิน $1.5 Billion แล้ว FC-10 จะมีราคาเฉลี่ยลำละ $42 Million ครับซึ่งถือว่าสูงเกินไปสำหรับงบประมาณทางทหารของกัมพูชาในปัจจุบัน
ส่วนตัวคิดว่าแนวทางการจัดหา บ.ขับไล่เของกัมพูชานั้น การจัดหา บ.ขับไล่ F-7 มือสองจากจีนที่อาจจะมีการปรับปรุงระบบให้ทันสมัยแล้ว ถึงแม้ว่าจะสามารถจัดหาได้ในระยะสั้นและใช้งบประมาณไม่มากก็จริง แต่ถ้าดูจากอายุการใช้งานเครื่องและประสิทธิภาพที่เท่ากับเครื่องที่ Ground อยู่ในปัจจุบันนั้นแนวทางนี้ก็ดูจะเป็นการไม่ฉลาดนักครับ ซึ่งถ้าเทียบกับศักยภาพด้านกำลังทางอากาศโดยร่วมถ้าจัดหามากัมพูชาก็ไม่สามารถสู้กับไทยได้อยู่ดีครับ ไม่เหมือนกรณีที่พม่าจัดหา MiG-29B จากรัสเซียที่มีสมรรถนะสู้กับ F-16A/B ได้
ดังนั้นความเป็นไปได้ที่แน่นอนกว่าในการปรับปรุงกำลังทางอากาศของกัมพูชาคือการสะสมงบประมาณเพื่อจัดหา บ.ขับไล่ที่ทันสมัยแต่ราคาไม่แพงมากจำนวนหนึ่งในระยะยาวครับประมาณ 5-10ปี ซึ่งภาพรวมของกองทัพกัมพูชาคงจะมีความพร้อมมากกว่าปัจจุบันนี้ โดยงบประมาณในการจัดหาส่วนหนึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบการแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรหรือการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเช่นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นต้นครับ
