เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2025, 02:48:34 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แก็สโชล์ฮอล 95 กับ เบนซิน 95 ความจริงที่บอกไม่หมด  (อ่าน 10519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2007, 01:03:40 PM »


     ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นรถ และปีที่ผลิตเป็นองค์ประกอบด้วยนะครับ

     ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามอำเภอใจ  ถ้าผู้ผลิตไม่รับรองก็อย่าเสี่ยงไปใช้เลย

      เครื่องยนต์เสียหายขึ้นมาต้องจ่ายเงินซ่อมเอง  แต่ถ้ารับรองแล้วใช้ไปเถิดครับ

      ประหยัดคุ้มค่า แถมได้ช่วยชาติด้วย

บันทึกการเข้า

                
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2007, 01:07:56 PM »


     ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นรถ และปีที่ผลิตเป็นองค์ประกอบด้วยนะครับ

     ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามอำเภอใจ  ถ้าผู้ผลิตไม่รับรองก็อย่าเสี่ยงไปใช้เลย

      เครื่องยนต์เสียหายขึ้นมาต้องจ่ายเงินซ่อมเอง  แต่ถ้ารับรองแล้วใช้ไปเถิดครับ

      ประหยัดคุ้มค่า แถมได้ช่วยชาติด้วย


ผมรู้สึกเหมือนคุณปู ครับ. เยี่ยม
เมื่อเดินทางไกล ผมจึงเห็นความแตกต่าง.. นั้น ครับ.  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

skajy
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 504


« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2007, 01:09:41 PM »

  ที่ผมเอามาลงนี้เป็นการที่ได้ทดลองเป็นการส่วนตัวนะ การขับขี่แบบเดียวกัน
  ขับโดยคนเดียว ใช้รถคันเดียว โดยเมื่อเติมแล้วต้องไม่มีอคติกับน้ำมัน ที่เติม
  ใช้ไปก่อนแล้วค่อยหาข้อสรุป
  การที่จะดูว่าอัตราสิ้นเปลืองเป็นเท่าไร ก็โดยการที่ดูว่าเราใช้นำมันอะไรอยู่
  ทำการเติมให้เต็มถัง แล้วกดเลขไมล์ ให้เป็น 0 ขับไปตามปกติของการใช้งาน
  เมื่อ ทำการเติมน้ำมันไหม่ ก็เติมเต็มถังเหมือนเดิม แล้วดูที่จำนวนลิตรที่เติมไหม่
  กับระยะทาง ที่วิ่งไป แต่หากต้องการเปลียนชนิดของน้ำมัน ให้ทำการใช้น้ำมันเดิมนั้น
  จนถึงระยะที่ไกล้หมดถัง อาจให้ไฟเตือนขึ้นเลยก็ได้ อย่างน้อยคุณยังขับไปได้อีก  30-50 กม สบายๆ
  ไม่ต้องกลัว ปั๊มน้ำมันในเมืองไทยมีเยอะ  Grin แต่บางที่บางจังหวัดก็หายากจริง ดูหน่อยแล้วกัน  หัวเราะร่าน้ำตาริน
  หมดเอาตอนดึกๆ ไม่สนุกแน่  เมื่อเติมไหม่แล้วก็ทำแบบเดิม แล้วมาค่าเฉลีย กับอัตราสิ้นเปลือง

 ยังครับยังไม่หมดยังมีเรื่อง น้ำมันดีเซลธรรมดา กับ ดีเซลสูตรพิเศษอีก แล้วค่อยคุยกัน  ยิ้มีเลศนัย

 
  
บันทึกการเข้า
เห่าดง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 39
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 309



« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2007, 02:15:30 PM »

ขออนุญาตออกความคิดเห็นนะครับ
เคยขับ BMW E-34 เครื่อง 1 เจเทอร์โบ ปกติเติมเบนซิน 95 พอลองเติม แก็สโซฮอล 95 ปรากฎว่าเสียงเครื่องเงียบลง อัตราเร่งทั้งตอนบูสต์และไม่บูสต์ พอๆกัน อัตราสิ้นไม่ได้วัดแต่คิดว่าเปลืองพอๆกัน เพราะใกล้หมดก็เติม

ตอนนี้ขับวิทาร่า เติมเบนซิน 91 อย่างเดิมครับ เพราะลองเติมทั้งเบนซิน 95 และ แก็สโซฮอล 95 ควันขาวตั้งแต่สตาร์ทรถจนดับเครื่อง (คงเป็นเพราะเครื่องยนต์เก่าแล้ว คาบเกี่ยวกับปีที่เขารองรับ)

แต่แก็สโซฮอล 91 ยังไม่เคยลองครับ

การวัดอัตราสิ้นเปลืองเปรียบเทียบกันระหว่างน้ำมัน2ชนิดถ้านอกเมืองหรือทางไกลพอวัดได้ แต่ถ้าในเมืองต้องทำให้สภาพการจราจรเหมือนกันมันยากครับ

การประหยัด หรือไม่ประหยัดอยู่ที่นิสัยการขับของเราและสภาพการจราจรมากกว่าครับ
ผมว่ามีหลายวิธีที่ทำให้เราประหยัดน้ำมันมากกว่าการจะมาวัดกันแบบนี้ครับ เช่นออกตัว ใช้รอบ เข้าเกียร์ให้เหมาะสม ไม่ลากรอบมาก ใช้เส้นทางลัด หรือศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง ผมว่าประหยัดน้ำมันขึ้นนะ จะได้ไม่ต้องคิดมาก ว่าเค้าจะมาหลอกโฆษณาเกินความจริง ให้เจ็บใจเล่น
บันทึกการเข้า

Nothing else matters
m620- รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 67
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 668



« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2007, 11:13:36 AM »

เคยมีการทดสอบแล้วนี่ครับ อัตราเร่งไม่ต่างกัน อัตราสิ้นเปลือง โซฮอล์จะมากกว่าราวๆ 2 %
เนื่องจากแอลกอฮอล์มีค่าความร้อนน้อยกว่า
แต่อย่าลืมว่าใช้เพียง 10 % เท่านั้นครับ
คือจากน้ำมัน90% +MTBE 10%
ก็เปลี่ยนเป็น + ethanal 10% แทนครับ
ซึ่งค่าความร้อนโดยรวม จะต่างกันน้อยมากครับ
บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #20 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2007, 05:27:46 PM »


     ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นรถ และปีที่ผลิตเป็นองค์ประกอบด้วยนะครับ

     ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามอำเภอใจ  ถ้าผู้ผลิตไม่รับรองก็อย่าเสี่ยงไปใช้เลย

      เครื่องยนต์เสียหายขึ้นมาต้องจ่ายเงินซ่อมเอง  แต่ถ้ารับรองแล้วใช้ไปเถิดครับ

      ประหยัดคุ้มค่า แถมได้ช่วยชาติด้วย




...ด้วยความเคารพครับ ผมขออนุญาตให้ข้อมูลเรื่องนึงเพื่ออาจจะใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ...

...ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทางกระทรวงพลังงานได้ประสานความร่วมมือมายังผู้ประกอบการรถยนต์ในประเทศไทยให้ยืนยันว่ารถยนต์รุ่นใดที่สามารถใช้น้ำมัน Gasohol (E10) ได้ โดยทำการสอบถามผ่านทางผู้แทนของบริษัทที่มีผู้แทนอยู่ในสภาอุตสาหกรรม (ผมจำชื่อเต็มภาษาไทยไม่ได้ แต่ชื่อภาษาอังกฤษ ถ้าผมจำไม่ผิดอีกเช่นกันคือ Thailand Automotive Industry Association หรือ TAIA) จากนั้นทางกระทรวงก็ได้รวบรวมรุ่นรถและประกาศให้สาธารณะชนทราบ (ผ่านสื่อใดบ้าง ผมจำไม่ค่อยได้ครับ)...

...บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะตรวจสอบว่ารถยนต์รุ่นใดที่สามารถใช้น้ำมัน Gasohol (E10) ได้กับบริษัทแม่ของตนเองในต่างประเทศก่อนที่จะแจ้งกับกระทรวงพลังงาน หลายท่านอาจจะถามว่าทำไมต้องถามบริษัทแม่ที่ต่างประเทศก่อนในเมื่อรถส่วนใหญ่ "ผลิต" ขึ้นในประเทศไทย คำตอบก็คือ ในความเป็นจริงแล้วประเทศไทยไม่ได้อยู่ในฐานะเป็น "ผู้ผลิต" หรือ "Manufacturer" เราเป็นเพียง "ผู้ประกอบ" หรือ "Assembler" เท่านั้นครับ ข้อมูลในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี เรามีข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น การตรวจสอบดังกล่าวทางฝั่งไทย ใช้ข้อมูลมาตรฐานของน้ำมัน  Gasohol (E10) ที่ได้รับจากจากกระทรวงพลังงานและบริษัทน้ำมันในเรื่องของ Specification ที่ภาครัฐกำหนดขึ้นเป็นมาตรฐานส่งให้ทางบริษัทแม่ นอกจากนั้นมีบางบริษัทที่ส่งน้ำมันตัวอย่างไปทดสอบใน Lab ของบริษัทยังต่างประเทศ ดังนั้นข้อสังเกตที่ผมอยากตั้งไว้ในจุดนี้ก็คือ การยืนยันว่ารถยนต์รุ่นใดสามารถใช้ Gasohol (E10) ได้นั้นจะตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า น้ำมัน Gasohol (E10) ที่จะใช้กับรถยนต์รุ่นนั้นๆ จะต้องได้มาตรฐานตามที่รัฐกำหนด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ...

...ผมมั่นใจ 100% ครับว่า ถ้าบริษัทรถยนต์ไม่มั่นใจจริงๆ ก็คงไม่กล้าเสี่ยงออกมายืนยันว่ารถรุ่นใดของตนนั้นใช้น้ำมัน Gasohol (E10) ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับผลิตชอบของผลิตภัณฑ์ (Product Liability) ที่สามารถฟ้องร้องได้ทั้งในและต่างประเทศ แต่สิ่งนึงที่บริษัทรถยนต์ไม่สามารถรับประกันได้ก็คือ คุณภาพของน้ำมัน Gasohol ณ สถานีบริการน้ำมันต่างๆ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงกำหนดตั้งแต่ต้นทางหรือไม่ได้ (ผมพูดในประเด็นนี้แล้วอาจจะเป็นประเด็นกับผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันก็เป็นได้) ผมเองไม่ใช่นักเคมี หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ (มีความรู้ทางเคมีเพียงระดับมัธยม) แต่มีสิ่งนึงที่ผมอยากตั้งข้อสังเกตในประเด็นนี้ก็คือ เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตน้ำมัน Gasohol จนถึงการขนย้ายที่หน้าโรงกลั่น จนถึงการจัดเก็บของบริษัทน้ำมันก่อนส่งไปยังสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงการจัดเก็บน้ำมัน ณ สถานีบริการน้ำมันนั้น คุณสมบัติทางเคมีของน้ำมัน Gasohol เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างก่อนถึงมือผู้บริโภค เพราะถ้าเกิดความชื้นที่เกิดจากการระเหยของ Ethanol แล้ว ผมเชื่อว่าคุณสมบัติของน้ำมันนั้นเปลี่ยนไปแน่ และลองคิดดูนะครับว่าเมื่อเกิดความชื้นที่อาจกลายเป็นน้ำมาปนกับน้ำมันแล้วเข้าไปอยู่ในระบบจ่ายเชื้อเพลิงจะเกิดอะไรขึ้น (แต่คงจะต้องพิจารณาจากค่า yield ที่เกิดขึ้นด้วย) ปัญหาอาจไม่เห็นชัดทันที แต่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่รถยนต์คันนั้นใช้งานไประยะหนึ่ง น้ำ ความชื้นกับระบบจ่ายเชื้อเพลิง เป็นเรื่องที่ไม่ควรอยู่คู่กันป็นอย่างยิ่ง ระบบหัวฉีดที่ต้องจากค่าความเที่ยงตรงในการจ่ายเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้ ถ้าความชื้นสะสมทำให้เกิดสนิมในระบบจะเกิดอะไรขึ้น ประเด็นนี้สิ่งที่ผมอยากให้เกิดที่สุดก็คือ อยากให้ภาครัฐ "ควบคุมคุณภาพน้ำมัน Gasohol ณ สถานีจ่ายเชื้อเพลิงให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่รัฐกำหนดและเป็นไปตามสมมุติฐานที่บริษัทรถยนต์ใช้ในการยืนยันกับผู้บริโภคอย่างจริงจัง ไม่ใช่ตรวจสอบเฉพาะการปนเปื้อนของน้ำมันเท่านั้นครับ ต้องตรวจสอบคุณภาพด้วยว่าเป็นไปตาม Specification จริง" อย่านั่งอยู่ในกระทรวงแล้วเชื่อรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้นครับ... 

เศร้า เศร้า เศร้า



บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
NAI HEAW
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2007, 10:49:03 PM »

ในสภาวะที่น้ำมันมีราคาแพง แล้วก็มีทีท่าที่จะขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ ผมคิดว่าหลายท่านคงได้เห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ เกี่ยวกับ แก็สโชล์ฮอล กันมาบ้างแล้วแล้วคุณมีความคิดเห็นกันอย่างไร เชื่อหรือเปล่าว่ามันประหยัดได้จริง หรือเป็นแค่การโฆษณาที่พูดความจริงไม่หมด ของไครบางคน เรื่องแบบนี้มันต้องพิสูจน์ จะปล่อยให้คาใจได้อย่างไร ใช่ไหม
ผมลองเปรียบเทียบการใช้น้ำมัน 2 ชนิด ระหว่าง แก็สโชล์ฮอล 95  กับ  เบนซิน 95 โดยที่พื้นฐานอยู่ที่ ส่วนต่างของน้ำมันอยู่ที่ 3.50 บาท แล้วเป็นการขับโดยคนเดียว ลักษระการขับแบบเดียวกัน
แล้วเอามาเปรียบเทียบ ได้ผลมาแบบนี้ ( ติต่างว่า เต็มถังได้ 50 ลิตรนะครับ)

เติม  แก็สโชล์ฮอล 95   เต็มถัง 50 ลิตร ละ 27 บาท เท่ากับ 1350 บาท
 อัตราสินเปลือง 10 กม /ลิตร วิ่งได้ 500 กม  ตกแล้ว 2.7 บาท /กม

เติม เบนซิน 95   เต็มถัง 50 ลิตร ละ 30.50 บาท เท่ากับ 1525 บาท
 อัตราสินเปลือง 13 กม /ลิตร วิ่งได้ 650 กม  ตกแล้ว 2.346 บาท /กม

สรุป เบนซิน 95 จะประหยัดกว่า แก็สโชล์ฮอล 95 อยู่ที่  0.354 บาท /กม.

แล้วปัจจุบันคุณเติมน้ำมันอะไรกันครับ แก็สไม่เอานะครับ

ลองง่ายๆนะครับ ใช้ภาชนะชนิดเดียวกันบรรจุน้ำมันเบนซิน 95 และ แก๊สโซฮอล์ 95 จำนวนเท่าๆกันแยกกันอย่างละๆ1ขวด ปิดฝาภาชนะมิดชิดทิ้งเอาไว้ 1 คืน ผลปรากฎว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยหายไปมากพอสมควร แต่เบนซิน 95 ยังอยู่ในปริมาณที่เท่าเดิมน่าแปลกใจไหมครับ ผลทดสอบนี้สนับสนุนความคิดของผู้การสุพินณ์ที่ว่า "แก๊สโซฮอล์ เหมาะสำหรับเติมเวลาที่เราเดินทางไกลเท่านั้น" (เป็นผลการทดสอบและเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ)
บันทึกการเข้า
m620- รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 67
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 668



« ตอบ #22 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 03:15:26 PM »

ผมก็เคยลองครับ แต่ใส่แก้ว ไม่มีฝาปิด ทิ้งไว้ 3 วัน ( วางในร่มนะครับ ) วันจันทร์มาดูไม่เห็นความแตกต่างครับ
อาจจะระเหยจริงครับ แต่ก็น้อยมาก และเบนซินก็ระเหยเก่งไม่แพ้แอลกอฮอล์ครับ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #23 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 04:30:21 PM »

ในสภาวะที่น้ำมันมีราคาแพง แล้วก็มีทีท่าที่จะขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ ผมคิดว่าหลายท่านคงได้เห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ เกี่ยวกับ แก็สโชล์ฮอล กันมาบ้างแล้วแล้วคุณมีความคิดเห็นกันอย่างไร เชื่อหรือเปล่าว่ามันประหยัดได้จริง หรือเป็นแค่การโฆษณาที่พูดความจริงไม่หมด ของไครบางคน เรื่องแบบนี้มันต้องพิสูจน์ จะปล่อยให้คาใจได้อย่างไร ใช่ไหม
ผมลองเปรียบเทียบการใช้น้ำมัน 2 ชนิด ระหว่าง แก็สโชล์ฮอล 95  กับ  เบนซิน 95 โดยที่พื้นฐานอยู่ที่ ส่วนต่างของน้ำมันอยู่ที่ 3.50 บาท แล้วเป็นการขับโดยคนเดียว ลักษระการขับแบบเดียวกัน
แล้วเอามาเปรียบเทียบ ได้ผลมาแบบนี้ ( ติต่างว่า เต็มถังได้ 50 ลิตรนะครับ)

เติม  แก็สโชล์ฮอล 95   เต็มถัง 50 ลิตร ละ 27 บาท เท่ากับ 1350 บาท
 อัตราสินเปลือง 10 กม /ลิตร วิ่งได้ 500 กม  ตกแล้ว 2.7 บาท /กม

เติม เบนซิน 95   เต็มถัง 50 ลิตร ละ 30.50 บาท เท่ากับ 1525 บาท
 อัตราสินเปลือง 13 กม /ลิตร วิ่งได้ 650 กม  ตกแล้ว 2.346 บาท /กม

สรุป เบนซิน 95 จะประหยัดกว่า แก็สโชล์ฮอล 95 อยู่ที่  0.354 บาท /กม.

แล้วปัจจุบันคุณเติมน้ำมันอะไรกันครับ แก็สไม่เอานะครับ

ลองง่ายๆนะครับ ใช้ภาชนะชนิดเดียวกันบรรจุน้ำมันเบนซิน 95 และ แก๊สโซฮอล์ 95 จำนวนเท่าๆกันแยกกันอย่างละๆ1ขวด ปิดฝาภาชนะมิดชิดทิ้งเอาไว้ 1 คืน ผลปรากฎว่าแก๊สโซฮอล์ระเหยหายไปมากพอสมควร แต่เบนซิน 95 ยังอยู่ในปริมาณที่เท่าเดิมน่าแปลกใจไหมครับ ผลทดสอบนี้สนับสนุนความคิดของผู้การสุพินณ์ที่ว่า "แก๊สโซฮอล์ เหมาะสำหรับเติมเวลาที่เราเดินทางไกลเท่านั้น" (เป็นผลการทดสอบและเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ)

ขอบคุณมากครับ คุณ แห้ว.  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

praanboon
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 18



« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 05:10:53 PM »

เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ เคยพูดหลายครั้งแต่ไม่มีใครเชื่อ สื่อพูดเก่งกว่าเราพูดอะไรใครก็เชื่อทั้งๆที่ไม่ได้พิสูจน์
บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 05:31:39 PM »

เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ เคยพูดหลายครั้งแต่ไม่มีใครเชื่อ สื่อพูดเก่งกว่าเราพูดอะไรใครก็เชื่อทั้งๆที่ไม่ได้พิสูจน์


...จะโทษสื่ออย่างเดียวก็คงจะไม่ถูกครับ ทั้งบริษัทรถยนต์ ทั้งสื่อเองก็ถูกภาครัฐ "แนะนำ" (หรืออีกนัยหนึ่งบังคับทางอ้อม) ให้สนับสนุนนโยบายนี้ครับ...  Shocked Shocked Shocked

...ลองเช็คดูซิครับว่ากี่ครั้งแล้ว เวลาที่รัฐมนตรีกระทรวง.... เรียกบริษัทรถยนต์เข้าหารือ กลับมีคนของกระทรวง (ระดับตั้งแต่ผอ. รองปลัดฯ หรือตัวท่านปลัดฯ เอง)...เรียกนักข่าวทั้งสายพลังงานและสายรถยนต์มาเตรียมแถลง... หลังจากประชุมเสร็จท่านรัฐมนตรี...เปิดแถลงข่าวทันที มีเนื้อข่าวพิมพ์เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วด้วย... ผมเศร้าครับ...เพราะนี่คือวิธีการทำงานของทั้งข้าราชการกระทรวง...กับข้าราชการการเมือง...ของบ้านเรา...  เศร้า เศร้า เศร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2007, 05:37:33 PM โดย CT_Pro4 » บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 05:45:08 PM »

ผมเคยได้รับทราบจากสื่อ. ว่า มี รมต. รัฐบาลชุดเก่า ..
มีส่วนเกี่ยวข้อง กับโคตร.  สั่งนำเข้าโซเว้น จำนวนมากมายมหาศาล
เพื่อเป็นส่วนผสม . เป็นแก๊สโซฮอลล์
แล้วเหมือนทุกจะมีการโหม โฆษณา ด้านบวก กันจนเกินเลย.

ของทุกสิ่งอย่างในโลก นี้ มีทั้ง บวก และลบ..
แต่มัน โหม. กระพรือแต่ บวก ด้านเดียว.  Huh
บันทึกการเข้า

คูณ 3 superแก๊งค์
Sr. Member
****

คะแนน 40
ออฟไลน์

กระทู้: 790



« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 06:16:30 PM »

อ่านแล้วได้ความรู้เรื่องน้ำมันดีครับ กระทู้นี้ เยี่ยม
บันทึกการเข้า

***....จงมีและใช้ธรรมะ    เป็นเครื่องมือ เป็นอาวุธ ....***
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 07:26:59 PM »

ผมเคยได้รับทราบจากสื่อ. ว่า มี รมต. รัฐบาลชุดเก่า ..
มีส่วนเกี่ยวข้อง กับโคตร.  สั่งนำเข้าโซเว้น จำนวนมากมายมหาศาล
เพื่อเป็นส่วนผสม . เป็นแก๊สโซฮอลล์
แล้วเหมือนทุกจะมีการโหม โฆษณา ด้านบวก กันจนเกินเลย.

ของทุกสิ่งอย่างในโลก นี้ มีทั้ง บวก และลบ..
แต่มัน โหม. กระพรือแต่ บวก ด้านเดียว.  Huh



...ประเด็นนี้ผมไม่กล้าวิจารณ์ครับ เพราะไม่มีข้อมูลมาสนับสนุนมากนักครับ แต่เกมส์นี้ไม่แน่นะครับ โรงงาน Ethanol ที่วางแผนป้อน Ethanol ให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันอาจจะกลายเป็นโรงกลั่นสุราได้ในเวลาอันสั้นครับ...   เศร้า เศร้า เศร้า 

...ด้วยความเคารพครับ นโยบายด้านพลังงานเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในอันดับต้นๆ ของนโยบายรัฐ ที่รัฐบาลทุกชุดจะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ข้าราชการในกระทรวงพลังงานเก่งๆ มีหลายคนที่ผมรู้จัก มีหลายครั้งที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมนโยบายที่ดีๆ บางเรื่องถึงไม่ได้นำไปปฏิบัติเพื่อให้เป็นรูปธรรม เรื่องนี้ผมไม่เคยหาคำตอบได้ซักที...  เศร้า เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
นปพ2201
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 145


« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2007, 07:42:45 PM »

เวลาผมใฃ้รถผมไม่เลือกว่าจะ 91หรือ95 แบบใหน และจะกินกี่ กม/ลิตร เพราะมันมีความจำเป็นต้องใช้ต้องไปทำงาน ผมจะเลือกแบบที่สะดวกมากที่สุดครับ
บันทึกการเข้า

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 21 คำสั่ง