
ผมไปอ่านมาจากเวป ผจก เลยเอามาให้ทราบกันครับ งานนี้สนุกแน่
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000082521ผกก.สน.บางขุนเทียน เดินหน้าชน แจ้งความจับ นายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดยุติธรรม และพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ฐานหมิ่นประมาท กรณีใส่ร้ายตำรวจยิงนักแม่นปืนแล้วเคลื่อนย้ายศพ
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ สน.บางขุนเทียน เวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิทยา สิงห์จานุสงค์, ร.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว รอง สวส., ด.ต.บุญยัง เมืองกระจ่าง และส.ต.อ.สุธรรม ทีปรักษพันธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สุรวุฒิ กุมพิพงษ์ สารวัตรเวร สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนและผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 4 คน เข้าแจ้งความเนื่องจากนายมานิตย์ และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการถอดรหัส ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของนายสุนทร วงศ์ดาว อายุ 33 ปี อดีตนักแม่นปืนที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางศุภมล วงศ์ดาว ภรรยา และนายปรีชา มาลาสัมฤทธิ์ชัย อายุ 60 ปี พ่อนางศุภมล บาดเจ็บสาหัสก่อนหลบหนีไปยังบ้านเช่าย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยตำรวจ สน.บางขุนเทียน เข้าปิดล้อม และนายสุนทรได้ใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตาย โดยยิงตัวเองตายถึง 5 นัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา และต่อมานายนันทพงศ์ วงศ์ดาว อายุ 39 ปี พี่ชายผู้ตายได้นำศพน้องชายส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าชันสูตรพลิกศพ พร้อมทั้งร้องขอความเป็นธรรมต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ว่านายสุนทรถูกยิงชัดเจน ต่อมานายมานิตย์ และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เข้าตรวจสอบก่อนออกมาระบุว่านายสุนทรถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง และมีการเคลื่อนย้ายศพ เนื่องจากระยะกระสุนห่างจากศพ 50 เซนติเมตร และยิงเข้าที่หัวใจ 4 นัด ซึ่งขัดกับความเป็นจริง
นอกจากนั้น นายมานิตย์ และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้พูดในรายการถอดรหัสว่า ชายฉกรรจ์ 4 คน ซึ่งประกอบด้วยตำรวจทั้ง 4 นาย เป็นผู้ทำให้นายสุนทรเสียชีวิต ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าตนและลูกน้องกระทำผิดจริง นอกจากนั้น ทำให้ประชาชนทางบ้านที่ดูรายการได้โหวตเข้ามาในรายการ โดยเชื่อว่าตำรวจทำจริงถึง 92 เปอร์เซ็นต์
สาเหตที่แจ้งความเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผม และลูกน้อง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนเชื่อโดยสนิทใจว่าตำรวจไปฆ่าเขาตาย หรือทำให้เขาตาย ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องนี้พนักงานสอบ สภ.อ.บางใหญ่ จะรู้ดีที่สุด โดยอยากฝากถึงนายมานิตย์ และหมอพรทิพย์ให้ทำงานอย่างรอบคอบและรัดกุม ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก หรือจิตนาการมาตัดสินโดยไม่ดูพยานแวดล้อม และข้อเท็จจริงอื่นๆ ทั้งนี้ อยากให้ทั้ง 2 คนใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ เพราะงานที่รับผิดชอบเป็นงานระดับชาติและรับผิดชอบทั่วประเทศ หากทำงานกันอย่างหละหลวม และไม่รอบคอบรัดกุมก็จะสร้างความเสียหายกับหน่วยงาน ทำให้หน่วยงานขาดประสิทธิภาพ ผมคิดว่าเราต้องหันมาประเมินประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานนี้เสียใหม่ ผกก.สน.บางขุนเทียน กล่าว
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้ตนและลูกน้องทั้ง 4 นายจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.อ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อทั้ง 2 คนอีกสำนวนหนึ่ง เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของกระบวนการและปกป้องสถาบันตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่สอบสวนคดีต่างๆ เป็นหน่วยงานที่มีความรู้ทางด้านนี้โดยตรง ไม่ใช่ปล่อยให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และนายมานิตย์ เป็นผู้ตัดสินโดยไม่มีการสอบสวนให้รอบคอบ
ส่วนข้อถามว่า ทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รมว.ยุติธรรม และ สถานีไอทีวี พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องจากนายสุวัจน์เป็นผู้บังคับบัญชาของบุคคลทั้ง 2 ซึ่งหากบุคคลทั้ง 2 รายงานข้อมูลไปอย่างไร นายสุวัจน์ก็ให้สัมภาษณ์ตามที่ได้รับรายงาน ส่วน ไอทีวีจะต้องรอดูก่อนว่ามีการตรวจสอบก่อนออกอากาศหรือไม่ ซึ่งหากละเลยและมีเจตนาทำให้ตำรวจเสียหายก็จะดำเนินการแจ้งความต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านวินัยตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า กรณีการฟ้องร้องดังกล่าวได้สั่งการให้ทาง สน.บางขุนเทียน ส่งข้อมูลการเข้าแจ้งความดังกล่าวมาให้แล้วเพื่อทำการพิจารณาอย่างละเอียด โดยกรณีที่ตำรวจทั้ง 5 นายเข้าแจ้งความนั้นถือเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้เพราะเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เกี่ยวกับตัวบุคคล ซึ่งทาง บช.น.จะติดตามการฟ้องร้องในเรื่องนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ดูรายการดังกล่าวที่ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก่อนที่จะมีการให้ข่าวหรือพูดอะไรออกไป ควรรอผลจากการตรวจพยานแวดล้อม และหลักฐานต่างๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งหากพบว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดจริงจะมีการดำเนินคดีทั้งทางวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด พล.ต.ต.กมลย้ำ
ส่วนกรณีที่จะมีปัญหาระหว่าง บช.น.และกระทรวงยุติธรรม นั้น พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า เชื่อว่า หากตัดเรื่องส่วนตัวออกไป การทำงานของทั้ง 2 หน่วยงานก็จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด