ตอนผมเรียนจบใหม่ๆ มีพี่คนนึงเล่าว่า หากเรามีปืน และมีคนจะเข้ามาทำร้ายเราในที่กลางสาธารณะ ถ้าเราชักปืนแล้วเราต้องยิง จะยิงขึ้นฟ้า หรือลงดินก็ได้ เพื่อแสดงว่า เราป้องกันตัว หากชักออกมาแล้วไม่ยิง แต่ชี้ไปหาผู้ที่จะเข้ามาทำร้าย อาจโดนข้อหาพยายามฆ่าได้ หากผู้ที่จะเข้ามาทำร้าย ยังคงไม่ยอมถอย เราก็เล็งเข้าตัวได้เลย เพราะถือว่าเป็นการป้องกันตัว ไม่ทราบว่าจริงรึเปล่าครับ

และหากไม่ยิง เราจะโดนตั้งข้อหาพยายามฆ่าจริงรึเปล่าครับ

และก็เรื่องกฏหมาย ใครแจ้งความก่อนได้เปรียบ จริงรึเปล่าครับ

รบกวนพี่ๆๆ ด้วยครับ

ไม่จริงครับ และการแจ้งความก่อนก็ไม่ได้ช่วยให้ได้เปรียบครับ .... พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนตามข้อเท็จจริง ส่งให้อัยการครับ และศาลท่านก็จะพิจารณาตามพยานหลักฐานครับ
อย่าว่าแต่เรื่องเอาปืนมาขู่กันเลย ผมจำเขามาว่า แค่ชกหน้าคน ปากแตก ก็อาจจะโดนข้อหาพยายามฆ่าได้เหมือนกัน
วลี "ชักแล้วต้องยิง" มักต้องต่อด้วย "ยิงแล้วต้องตาย" ..... ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคนตายพูดไม่ได้ (แต่นิติวิทยาศาสตร์บอกได้หมด) แต่เป็น
เพราะเมื่อคนดี ๆ มีสติ และพิจารณาแล้วว่าภัยคุกคามที่เกิดขึ้นมันเกินกว่าการหลบเลี่ยง และถึงแก่ชีวิตเราแน่ ก็ต้องตัดสินใจใช้อาวุธต่อผู้อื่น .... .... การใช้ปืนกับใครคงต้องเป็นที่สุดแล้วในชีวิตจริง ๆ ....
ผมมองว่าวลีหนึ่งที่ควรมาก่อนวลีข้างต้น น่าจะเป็น "จะยิงแล้วค่อยชัก" ... เพราะเห็นบางคน คิดแต่จะเอามาขู่ ยกมาโชว์ ยิงให้เกิดเสียง ....... ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ .... คนมีปืนต้องทำตัวลีบ ๆ จ๋อง ๆ เข้าไว้ อย่าได้มีปัญหากับใครเด็ดขาด ....
กลัวมันตาย 