
ไม่ทราบว่าพี่ๆเคยเจอปัญหานี้รึเปล่าครับ

เรืองมีอยู่ว่าผมทำประกันชีวิต กับบริษัทประกันบริษัทหนึ่ง และเมื่อต้นปีนี้ผมได้ป่วย

จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งวัน รุ่งเช้าถึงวันกลับบ้านทางโรงพยาบาลได้นำบิลค่ายามาเเจ้งกับผม เป็นจำนวนเงิน 14,580 บาท

โดยมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ดังนี้
-ค่ายาที่ใช้รักษาในโรงบาล 4,530 บาท
-ค่าค่าตรวจเเละเครื่องมือ 3,680 บาท
-
ค่ายาที่จะนำกลับบ้าน 5,360 บาท
ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายทั้วไป
มีส่วนลด 10 %
และขอให้ทางผมสำรองจ่ายก่อนโดย ทางโรงบาลอ้างกับผมว่าอายุประกันที่ทำยังไม่ครบปี

OK. ผมก็จ่ายเงินไปก่อนเเละรับเสร็จเพื่อเคลมประกัน เเละรับยากลับบ้าน โดยมียาเฉพาะโรค 3ตัว และเป็นยาทั่วไป(เกลือแร่ ,ยาพารา)อีกจำนวนมาก
พอถึงวันรับเช็คหลังจากผมได้นำใบเสร็จไปเคลมกับทางบริษัทเเล้ว กลับได้เช็คเป็นจำนวนเงินเพียง 9,820 บาท

โดยทางบริษัทอ้างว่าจำนวนเงินที่จ่ายนี้ทางบริษัทพิจารณาเเล้วว่า เป็นจำนวนเงินที่ใช้รักษาตามจริง ส่วนที่เหลือเป็นค่ายาที่
นอกเหนือจากโรค ทางบริษัทไม่รับผิกชอบ

(

อ้าวเเล้วใครจะรับผิดชอบล่ะพ่อขนุนหนัง เเล้วทำไมไม่เปิดโรงหมอเองเลยล่ะ

)
ตกลงว่าหมอให้ยาผมเกินเพื่อเงินค่ายาเพราะเห็นว่าผมมีประกันหรือว่าบริษัทประกันเห็นว่าหมอให้ยาผมเกินซึ่งเห็นว่าไม่มีผลกับโรคจะเอาผิดกับโรงบาลก็ไม่ได้ ก็เลยโยนภาระค่ายาตัวนี้มาให้ ผู้บริโภคเเทน กันแน่ครับ

ใครผิดกันครับ

หรือผมผิดที่ดันป่วย

................................ยาไหมครับเพ่

ปล. โพรงไซต์นัดอักเสบเฉียบพลัน หรมานจริงครับ