กระสุนขึ้นไปขัดกับคอรังเพลิง 1.
ปากแม็กกาชีนและลิ้นป้อนกระสุนทำงานบกพร่อง (แม็กทำเลียนแบบไม่ได้มาตรฐาน)...แต่จากภาพ...กระสุนเข้ารังเพลิงแล้ว...แต่ไม่สุด...และลูกจริงไม่มีปัญา...คงไม่ใช่อันนี้
2.
กระสุนไม่เหมาะสม ... ส่วนใหญ่ 1911 เหมาะกับหัวบอลเคลือบเปลือกแข็ง / FMJ เท่านั้น ... แต่ถ้าลองยิงหัวรูได้เรียบร้อย...ก็ไม่มีปัญหา...แต่นี่ลูกซ้อม...ชื่อก็บอกแล้วว่าสำหรับซ้อม...ลูกซ้อมคือลูกบอลหรือแบบตัดหัวตะกั่ว นำปลอกเก่ามาโหลดดินใหม่ ปลอกเก่าก็คือปลอกที่เคยผ่านการยิงมาแล้วและจะมีการขยายตัวใหญ่ขึ้นมาแล้ว...ยิ่งยิง ยิ่งอัดใหม่ ก็ยิ่งบวม ยิ่งบวมก็ยิ่งคับลำกล้อง...ขอรั้งปลอกไม่มีแรงพอที่จะเกี่ยวปลอกทิ้งได้...แต่นัดใหม่มันมารอแล้ว...ปืนจึงขัด....
3.
ทางลาดคอรังเพลิงไม่เรียบ...ปืน 1911 ใหม่ ๆ ทำคอรังเพลิงลาดเทและยาวขึ้น จึงประคองลูกเข้ารังเพลิงได้สะดวก...อย่างนี้ยิงพวกหัวรูสบายมาก
4.
รีคอยล์สปริงอ่อนไป...สปริงอ่อน...เหมาะสำหรับยิงลูกซ้อมซึ่งมีแรงดันต่ำ...ถ้าสปริงแข็งไป ปืนไม่คายปลอก ...สปริงอ่อน...ยิงตูม...สไลด์ถอยสุดอยู่แล้วเพราะในรูปไม่ได้คาบปลอกไว้...ดีดปลอก...ลูกใหม่รอเสียบ...แต่อีตอนไสลด์จะกลับ...สปริงไม่มีแรงดันมากพอที่จะดึงไสลด์กลับเข้าที่พร้อมกับดันป้อนกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง...อันนี้เหมือนในรูปเป๊ะ...เกือบใช่แต่คงไม่ใช่ เพราะยิงลูกจริงมันก็พาเข้าได้นี่นา
สรุป ถึงผมจะไม่เซียนเหมือนพวกพี่ ๆ...แต่ผมขอฟันธงว่า ... 1. หัวกระสุนบอลตะกั่ว ไม่เรียบพอ จึงสะดุดกับลาดรังเพลิง หรือขอบรังเพลิง ทำให้เสียจังหวะการป้อนลูก แต่ไอ้นัดต่อไปมันมารอ เพราะมันนึกว่าลูกบนเข้าไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ ยังไม่สุดเลย...สังเกตุปลายลูกใหม่ งัดท้ายลูกแรก ทำให้ลูกแรกแนวไม่ตรงจึงขัด เพราะสปริงแม็กใช้แรงดันอยู่ และอีกอย่างยิงลูกจริงไม่เป็นอะไร และลูกจริงมักจะเรียบมน...มันแว๊บ
2. ปลอกบวม ... ใหญ่กว่ามาตรฐาน (เพราะในรูปมันเข้าไปแล้วแต่ไม่มิด) แต่บอกว่ายิงกระบอกอื่นไม่เป็นอะไร...แต่ก็เป็นไปได้แต่ต้องเป็นบางนัดในหนึ่งกล่องคงไม่ถึงกับบวมยกกล่อง
ทีผมเรียกว่า "แจ๊กพ๊อต"