"ธาตุแห่งความเป็นหญิง" (Woman)

[Ramsjai]

ธาตุแห่งความเป็นหญิง (Woman)

ชื่อธาตุ:      Woman

สัญลักษณ์:   Wo

ผู้ค้นพบ:      Man

มวลอะตอม:   มาตรฐาน 50 กิโลกรัม แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 40-80 กิโลกรัม

ลักษณะทั่วไป:   จะคล้ายกันหมด ถ้าอยู่ในเขตเมือง

คุณสมบัติทางฟิสิกส์:   พื้นผิวส่วนนอกเคลือบด้วยสารหรือน้ำหอมระเหย (Perfume) และน้ำมันปรุงผิว (Lotion)

จุดเดือด:      มีจุดเดือดที่อุณหภูมิต่างๆ เอาแน่ไม่ได้

จุดเยือกแข็ง:   จะถึงจุดเยือกแข็งทันทีทันใดโดยไม่รู้สาเหตุ และอาจจะอยู่ที่จุดเยือกแข็งได้นานเป็นอาทิตย์

จุดหลอมละลาย:   แร่ธาตุตัวนี้จะหลอมละลายหากได้รับการเอาใจใส่อย่างถูกวิธี

รสชาติ:      มีหลายรส มีรสเผ็ดและขมได้ถ้าใช้ผิดวิธี

สถานะ:      แปรเปลี่ยนได้หลายสถานะ ตั้งแต่แข็งเป็นหิน จนถึงอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ

ความทนทาน:   ไม่ทนทานต่อความรุนแรงทุกชนิด

คุณสมบัติทางเคมี:
- บ้างมีรสเป็นกรด บ้างหวานกว่าน้ำตาล บ้างเปรี้ยวอมหวาน
- ทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วกับ เพชร ทอง ทับทิม ดอกไม้ และสิ่งสวยงามทุกชนิด
- ดูดซับข้อมูลข่าวสารรอบตัวได้อย่างมหาศาล
- อาจจะระเบิดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
- เข้ากันได้เป็นเนื้อเดียวกันกับผลไม้รสเปรี้ยว ผักสลัด แต่ไม่เข้ากับไขมันทุกประเภท
- สามารถละลายเงินในกระเป๋าได้ เมื่อผ่านห้างสรรพสินค้า

การทดสอบ:   
- วัตถุตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มเมื่อถูกสัมผัส
- วัตถุตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อวางถัดจากวัตถุตัวอย่างที่สวยงามกว่า
- วัตถุตัวอย่างจะส่งเสียงดังไม่หยุด เมื่อมาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม

ประโยชน์:   
- ดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์
- ทำให้โลกสวยงาม สว่างไสว
- สร้างความอ่อนโยนให้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์
- แบกโลกไว้ครึ่งหนึ่ง

ข้อควรระวัง:
- สัมผัสด้วยความประณีตและให้เกียรติ มิฉะนั้นอาจได้รับอันตราย
- ควรครอบครองเพียงชิ้นเดียว ใครฝ่าฝืนอาจบ้านแตก หรือไม่ก็สูญเสียอวัยวะให้เป็ดหรือเครื่องปั่นอาหาร


ปล. จากฟอร์เวิร์ดเมลค่ะ 

[วัฒน์]

  แล้วคุณ.แรมใจ เปลี่ยนแปลงมวลอะตอมไปเยอะขนาดไหนแล้วครับ  ขอบคุณครับ

[Min-Min]

อ่านแล้วท่าจะใช่นะคะพี่หน่อย   

[wasanami]

สถานะ:      แปรเปลี่ยนได้หลายสถานะ ตั้งแต่แข็งเป็นหิน จนถึงอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ

วันไหนเป็นสถานะไหน บอกด้วยนะครับ.......... 

[Ramsjai]

แล้วคุณ.แรมใจ เปลี่ยนแปลงมวลอะตอมไปเยอะขนาดไหนแล้วครับ  ขอบคุณครับ

ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ พอดูได้ 

[rockguns]

              เป็นวัตถุชอบหน้าเด้ง  เวลารวมกลุ่มชอบป็อกเด้ง
              เป็นวัตถุอันตรายเวลาหน้าเขียว
              เป็นวัตถุแก่ง่ายเสื่อมสลายยาก มักแช่งแล้วไม่ค่อยสลาย
              เป็นวัตถุอารมณ์ร้ายเวลา MA นอกใจหรือมีกิ๊ก
              เป็นวัตถุมีพิษกระเป๋าสลายของ MA
              เป็น.......................................อุ๊ย พอก่อนขอหลบจานบินก่อน 

[Ramsjai]

              เป็นวัตถุชอบหน้าเด้ง  เวลารวมกลุ่มชอบป็อกเด้ง
              เป็นวัตถุอันตรายเวลาหน้าเขียว
              เป็นวัตถุแก่ง่ายเสื่อมสลายยาก มักแช่งแล้วไม่ค่อยสลาย
              เป็นวัตถุอารมณ์ร้ายเวลา MA นอกใจหรือมีกิ๊ก
              เป็นวัตถุมีพิษกระเป๋าสลายของ MA
              เป็น.......................................อุ๊ย พอก่อนขอหลบจานบินก่อน 

 

[VENDY]

              เป็นวัตถุชอบหน้าเด้ง  เวลารวมกลุ่มชอบป็อกเด้ง
              เป็นวัตถุอันตรายเวลาหน้าเขียว
              เป็นวัตถุแก่ง่ายเสื่อมสลายยาก มักแช่งแล้วไม่ค่อยสลาย
              เป็นวัตถุอารมณ์ร้ายเวลา MA นอกใจหรือมีกิ๊ก
              เป็นวัตถุมีพิษกระเป๋าสลายของ MA
              เป็น.......................................อุ๊ย พอก่อนขอหลบจานบินก่อน 

ก็ต้องดูด้วยค่ะ ว่ามีอะไรทำให้สารนั้นเปลื่ยน มันอยู่ที่องค์ประกอบ

[Padet]

              เป็นวัตถุชอบหน้าเด้ง  เวลารวมกลุ่มชอบป็อกเด้ง
              เป็นวัตถุอันตรายเวลาหน้าเขียว
              เป็นวัตถุแก่ง่ายเสื่อมสลายยาก มักแช่งแล้วไม่ค่อยสลาย
              เ ;ป็นวัตถุอารมณ์ร้ายเวลา MA นอกใจหรือมีกิ๊ก
              เป็นวัตถุมีพิษกระเป๋าสลายของ MA
              เป็น.......................................อุ๊ย พอก่อนขอหลบจานบินก่อน 

ฃ


                               

[โจ ™]

พระเจ้าได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่มีค่าให้กับโลกใบนี้มากมาย พระเจ้าได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่จะถูกเรียกว่า "ผุ้หญิง" เทวดาได้ผ่านมาพบเเละพูดว่า
เทวดา : ." ทำไมท่านถึงใช้เวลากับสิ่งนี้นานเหลือเกิน"
พระเจ้า:" ท่านเทวดา ท่านได้ทราบถึงคุณสมบัติเเละรูปลักษณะทั้งหมดของเธอที่ข้าต้องสร้างขึ้นมาหรือไม่? เธอต้องสามารถชำระล้างได้ เเต่ต้องไม่ทำจากพลาสติก เธอต้องมีส่วนประกอบกว่า 200 ชิ้น ที่ต้องขยับเขยื้อนได้ ซึ่งทุกชิ้นต้องสามารถทำอาหารได้ทุกชนิด เธอต้องสามารถอุ้มเด็กๆ ได้ครั้งละหลายๆ คน เธอต้องมีโอบกอดที่สามารถรักษาเยี่ยวยาได้ ตั้งเเต่ความเจ็บปวดของรอยฟกช้ำที่หัวเข่าถึงหัวใจที่เเตกสลาย เธอต้องสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยเพียง 2 มือของเธอเท่านั้น"
เทวดา: "พระเจ้า! เเต่ตัวเธอช่างนิ่มเหลือเกิน"
พระเจ้า:"ใช่! ตัวเธอจะต้องนิ่ม เเต่ข้าก็ได้สร้างให้เธอเเข็งเเรงด้วยนะชนิดที่ว่า ท่านเเละใครๆ ก็คาดไม่ถึงที่เดียว ว่าเธอจะสามารถอดทนเเละฝ่าฟันความยากลำบากเหล่านั้นได้"
เทวดา: "เธอจัมีความสามารถในด้านความคิดหรือป่าว
พระเจ้า: "ไม่เพียงเเต่เธอจะสามารถคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ได้เเล้วเธอยังสามารถใช้เเทนเหตุผลเเละเจรจาไตร่ตรองได้เป็นอย่างดีด้วยนะท่าน"
เทวดา: สัมผัสที่เเก้มของสิ่งมีชีวิตยนี้ " ท่าน! นี่ดูเหมือนว่าเธอมีรอยรั่วเเล้วนะท่าน ท่านใสสิ่งต่างๆ ให้เธอมากเกินไปหรือป่าว"
พระเจ้า : รีบเเก้ข้อกังขาของเทวดา " เธอไม่ได้มีรอยรั่วเเต่อย่างใดนะท่าน น้ำที่เเก้มนั่นเขาเรียกว่า " น้ำตา "
เทวดา : " ทำไมเธอต้องมีน้ำตาด้วยหล่ะท่าน"
พระเจ้า: " น้ำตาบนเเก้มของเธอนั้นคือวิธีการหนึ่งที่เธอเเสดงออกถึงความเศร้า ความเจ็บปวด ความสับสน ความรัก ความเหงา เเละความภูมิใจ"
เทวดา: "พระเจ้าท่านได้อัจฉริยะเหลือเกิน ท่านได้คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างลึกซึ้งนักผู้หญิงนี้เป็นสิ่งมหัจรรย์"
พระเจ้า : "ช่างเเท้จริงนักท่าน" นี่เเหละคือคำนิยามของเธอ! ผู้หญิงสามารถมีความอดทนที่น่าทึงในสายตาของผู้ชาย เธอสามารถเผชิญกับปัญหาเเละรับภาระที่หนักหนาได้ เธอถือครองความรัก ความสุขเเละความนึกคิด เธอสามารถยิ้มได้ในสถารการณ์ที่หวีดรัอง เธอสามารถขับร้องได้เมื่อเธอรู้สึกว่าอยากจะร้องไห้ เธอร้องไห้เมื่อเธอมีความสุขเเละหัวเราะ เมื่อเธอหวาดกลัวเธอจะต่อสู้เพื่อสิ่งที่เธอเชื่อเเละต่อสู้กับความไม่ยุติธรม เธอจะไม่ยอมรับคำว่าไม่ตราบใดที่เธอเห็นว่ามันมีทางออกที่ดีกว่า เธออุทิศชีวิตของเธอให้ดฃกับครอบครัวเพื่อที่จะให้ครอบครัวของเธิเจริญเติบโตอย่างรุ่งเรื่อง ความรักของเธอไม่มีเงื่อนไขใดๆ เธอน้ำตาไหลเมื่อเห็นลูกๆ ของเธอได้รับชัยชนะ เธอมีความสุขเมื่อเห็นเพื่อนของเธอทำดี เธอรู้สึกปิติเมื่อเธอได้ยินการกำเนิดหรือการเเต่งงาน หัวใจของเธอร้าวรานเมื่อญาตสนิทหรือเพื่อนๆ ของเธอจากไป เต่เธอยืนหยัดอย่างเข้มเเข็งที่จะดำเนินชีวิตต่อไป เธอรู้ดีว่าออ้อมกอดเเละจุมพิตที่บริสุทธิ์สามารถเยี่ยวยารักษาหัวใจที่ร้าวรานได้ มีสิ่งเดียวที่เธอผิดพลาดไป นั่นคือ เธอลืมว่า....เธอนั้นมีค่ามากมายเพียงใด"

[โจ ™]

เอาของเก่าๆ มาฝาก ครับ
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหญิงสาว

1. นิยาม และลักษณะทางกายภาพ : หญิงสาวได้แก่ มนุษย์เพศหญิงที่วิวัฒนาการมาจาก "เด็กหญิง" ส่วนช่วงอายุที่จะแปรสภาพเป็นหญิงสาวนั้นไม่สามารถนิยามได้ มนุษย์บางคนใช้เวลาพัฒนาเป็นหญิงสาวได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่เกิน 8 ปี หากได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน อย่างที่มีศัพท์ทางชีววิทยาเรียกว่า "แก่แดด" หรือบางกรณี วิวัฒนาการของบางคนก็ปรากฏได้อย่างช้ามาก จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น "หญิงสาว" ได้ก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัยหรือทำงานแล้ว

อย่างไรก็ตาม การพ้นสภาพหญิงสาวนี้กลับรวดเร็ว รายงานส่วนใหญ่รับตรงกันว่า เมื่อล่วงพ้นขวบปีที่ 30 แล้ว ก็ถือว่าเตรียมตัวพ้นสภาพได้ อาจจะมียกเว้นบางคนได้บ้าง ซึ่งมีความสามารถในการ "ดึง" อายุขัยของตนได้นิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่เกินขวบปีที่ 35 ก็มักจะพ้นสภาพไปเกือบทุกคน คำพูดประมาณ "สาวสองพันปี"สาวใหญ่" หรือ "สวยไม่สร่าง" นั้น ในทางวิทยาศาสตร์พบว่า มีความหมายตรงกับภาษาละตินว่า "หลอกตัวเอง"

จากค่าเฉลี่ย มนุษย์จะกลายสภาพเป็นหญิงสาวเมื่ออายุประมาณ 13 ปี และพ้นจากสภาพนี้เมื่ออายุประมาณ 30 ปี

นิโคโปลิดิส (1440 - 1495) นักปราชญ์ชาวกรีซกล่าวไว้ว่า "ผู้หญิงเริ่มเป็นสาวเมื่อหัดใส่บรา และ ผู้ชายเริ่มเป็นหนุ่มเมื่อหัดถอดบรา"

2. การกลายพันธุ์ : จากการสังเกตการณ์พบว่า หญิงสาวมีอัตรากลายพันธุ์สูงถึงประมาณร้อยละ 5 และอาจสูงถึงร้อยละ 8-10 หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่หญิงสาวเพศเดียวกัน (เช่นโรงเรียนหญิงล้วน ยิ่งถ้าโรงเรียนประจำกินนอนยิ่งเห็นผลเร็ว) การกลายพันธุ์นี้เป็นได้ 3 ลักษณะ คืออาจกลายสภาพไปคล้ายกับชาย ผมจะสั้นลง กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้น หน้าอกจะเล็กลงหรือหยุดการเจริญเติบโต เราเรียกว่า "ทอม" ที่น่าเจ็บใจ (ฉิบเป๋ง) คือเหล่ามิวแตนผู้กลายพันธุ์นี้ จะดันหาคู่ได้น่ารักกว่า สวยกว่า เรียบร้อยกว่ามนุษย์ผู้ชายมาก ... ให้ตายเถอะโรบินสันบางรัก

หวัง ฟัน เจ้า (100 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) นักปราชญ์ในสมัยพระเจ้าเหาที่ 12 กล่าวไว้ว่า "ทอมนั้นไซร้ ก็เหมือนคนขาด้วนที่มีรถสปอร์ต คือลูบได้ คลำได้ สตาร์ทเครื่องฟังเสียงเล่นได้ แต่ยังไง้ ยังไงก็ขับไปไม่ได้" (แย่หน่อยนะ)

3. สภาวะความเป็นอยู่ : หญิงสาวส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสัตว์สังคม คือมักจะอยู่กันเป็นฝูง หากินก็เป็นฝูง (น้อยนักที่จะเห็นผู้หญิงกินข้าวคนเดียว) ชอปปิ้งก็เป็นฝูง บางทีจะอึจะฉี่ยังต้องระดมฝูง เอ้ย! เรียกเพื่อนๆ มาเข้าส้วมพร้อมๆ กันด้วย เข้าใจว่าเข้าห้องน้ำคนเดียวแล้วจะถ่ายไม่ออก ในฝูงจะมีโครงสร้างที่ชัดเจนแน่นอน กล่าวคือ จะมีจ่าฝูงเป็นคนสวยที่สุด น่ารักที่สุด มั่นใจที่สุด (และมักจะมีแฟนแล้ว) ส่วนลูกฝูงนั้นจะมีลักษณะด้อยกว่า แต่จะต้องมีคนหนึ่งเป็นคนน่ารัก แต่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าจ่าฝูง ซึ่งคนนี้จ่าฝูงมักจะใช้เป็นลูกไล่ และมีคนหนึ่งที่น่ารักน้อยที่สุด จะเป็นเบ๊ของฝูง

แต่อย่างไรก็ตาม การรวมฝูงของหญิงสาวนั้นมักจะฝูงไม่ใหญ่เกิน 5 คน เพราะถ้าฝูงใหญ่แล้วจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เนืองๆ จนจำนวนของสมาชิกในฝูงจะค่อยๆ ลดไปสู่จำนวนดุลยภาพได้เอง

ท่านเจ้าพระยาอย่างราเช็ต (สงสัยมีเชื้อเปอร์เซียน) กวีเอกในสมัยโยธยากล่าวไว้ว่า "อันนารีมีมากดังฝูงลิง จะจีบทิ้งจีบขว้างบ้างก็ได้" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมการรวมกลุ่มของหญิงสาวมีมาตั้งแต่สมัยโบราณนู่นแล้ว

4. การแบ่งชั้นวรรณะ หญิงสาวมีระบบการแบ่งชั้นวรรณะในระบบของตัวเอง กล่าวคือมีการตัดเกรดเป็น "คัพ" (ซึ่งได้แก่อะไรนั้นจะต้องวิจัยกันต่อไป) ซึ่งจะแบ่งเกรดตั้งแต่ A B C D E F ซึ่งจะตรงข้ามกับเกรดในระบบโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย กล่าวคือใครได้เกรด (คัพ) A ถือว่าน่าน้อยเนื้อต่ำใจยิ่ง เกรด B ก็ดีขึ้นมาหน่อย กำลังน่ารัก C ก็เรียกว่าเป็นที่นับหน้าถือตา E นี่ระดับผู้นำ ส่วน F ก็... นะลอร์ดไทรอัมพ์ นักปราชญ์ชาวอังกฤษ ให้นิยามของแต่ละเกรดไว้ดังนี้ "A = Adorable, B = Better, C =Cute, E= Extraordinary F= Fake"

(ต้นฉบับสิ้นสุดแค่นี้ เข้าใจว่าผู้เขียนรายงานอาจจะเสียชีวิตระหว่างทำการวิจัย - ธีรพันธ์  วัลธีร์)

[โจ ™]

เหตุผลที่คนควรอยู่ร่วมกัน


หลายครั้งที่เราเจอคนแปลกๆในสังคม หรือมันอาจจะไม่แปลกหรอก แต่เข้าขั้น "เลว" เลยล่ะ
บางครั้งเราอาจจะสงสัยว่า คนแบบนั้นเกิดขึ้นมาทำไมในโลก ใครเชื่อพระเจ้าอาจจะถามว่า พระเจ้าสร้างคนพรรค์นี้ขึ้นมาทำเกลืออะไรมิทราบ ใครเชื่อในกฎแห่งกรรมก็จะพิศวงว่า ทำไมคนแบบนี้เกิดมา ชาติก่อนมันทำเวรทำกรรมอะไรไว้หนอ
บางครั้งมนุษย์เรามี "เหตุผลที่คนควรอยู่ร่วมกัน" ทำให้มนุษย์หลายคนถึงได้เกิดมาอย่างเหมาะเหม็ง... มาดูกันดีกว่า
คนชอบเอาเปรียบเพื่อน : มีไว้เช็กน้ำใจของเพื่อนในกลุ่มได้ ว่ายังมีน้ำใจให้กันอยู่เพียงใด
คนมองโลกในแง่ร้าย : มีไว้เพื่อให้เรารู้จักระมัดระวังตัว และสามารถอุดช่องว่างที่คาดไม่ถึงอันอาจจะทำให้เราเกิดความเสียหายได้ ... เมื่อจัดทีมทำงานใหญ่ ควรจะมีคนมองโลกในแง่ร้ายเอาไว้คนนึงถึงจะเข้าท่า
คนตดเหม็น : เอาไว้สอนเราว่า กินแกงจืดวุ้นเส้นถ้วยละ 10 บาท กับกินพระกระโดดกำแพงหม้อละเฉียดพัน กลิ่นเกลิ่นก็ไม่ได้ดีเลวไปกว่ากันเท่าไรนัก
คนหูตาลามก : ชอบสอดส่ายสายตาตามร่องรังดุมหรือช่องกระโปรงที่เปิดอ้าเวลาเผลอ คนแบบนี้มีไว้เช็กว่าเรา (เฉพาะสาวๆ) แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดดีหรือยัง
เด็กตื๊อยัดเยียดขายทิชชู่ตามร้านอาหาร : มีไว้สำหรับคนธาตุเบา กินแล้วจู๊ดเลย หรือไม่ก็สักวัน ... เมื่อคุณอยู่ในภาวะข้าศึกบุกในยามขาดเหลือ เห็นเด็กพวกนี้เดินเข้ามาคุณอาจจะแทบโผเข้าใส่ก็ได้
คนขี้นินทา : มีไว้เพื่อเช็กว่า เราเป็นที่รักหรือที่สนใจของเพื่อนในวงการหรือไม่ หากมีใครสักคนที่ไม่ถูกนินทาเลย ... ลองสำรวจตัวเองดูหน่อย ว่าคุณไม่มีเรื่องอะไรให้เขานินทา หรือไม่มีใครสนใจจะอยากรู้เรื่องของคุณ
คนปากไม่ตรงกับใจ : ถ้าเขาปากไม่ตรงกับใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ละก็ ง่ายมากครับ เขาเป็นคนรักความจริง คุณคุยกับเขาคุณจะได้แต่ความจริง เพียงแต่คุณต้องมาคอนเวิร์ด "ความจริง"ของเขาในหัวสมองเอาเองก็แค่นั้นแหละ
คนปากไม่ตรงกับใจห้าสิบเปอร์เซ็นต์ : ลุ้นดีออก คุณจะได้ลุ้นว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นจริงหรือไม่ โอกาสห้าสิบห้าสิบ
คนที่มากิ๊กกับแฟนคุณ : เอาไว้บ่งชี้ว่า คุณเลือกแฟนไม่ผิด เพราะคนอื่นเขาก็อยากจะเลือกแฟนคุณเหมือนกัน
คนเห็นแก่ตัว : ทำให้เรารู้ว่า เราสามารถรักษาผลประโยชน์ของเราได้อย่างไร
คนเห็นแก่เงิน : อย่างน้อยคุณก็รู้ว่า คุณจะเจาะใจเขาได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนด้วยอะไร
บริกรห่วยๆ ในร้านอาหารดีๆ : มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คุณต้องมาเสียเงินให้ร้านนั้นบ่อยครั้งจนเกินไป
พระเวียนเทียนของบิณฑบาต : รักษาทรัพยากรของโลกดีออก ... บุญก็ได้ อาหารก็ไม่เหลือทิ้งขว้าง
ผู้กำกับหนังห่วยๆ : ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเข้าโรงหนังมันทุกสัปดาห์
ใครบางคนที่ชอบมาหลอกให้อยากแล้วจากไป : อย่างน้อยก็ทำให้จิตใจตื่นเต้นตื่นตัวขึ้นบ้าง ดีกว่าหมดหวังไปซะทีเดียว
คนที่เรารักเขา แต่เขาดั๊นไม่รักเรา : มีไว้ให้คุณได้ลิ้มรสความรักที่ไม่มีความหวัง แต่ก็ยังรัก ... และคุณจะสามารถเป็นคนที่สามารถทำอะไรๆ ให้เพื่อนมนุษย์ได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมากที่สุด
นักเขียนตลกฝืด : ทำให้คุณรู้จักคำว่า "ยิ้มที่มุมปาก" หรือ "ยิ้มแหะๆ"

[โจ ™]

ฝากด้วยครับ อิอิ

"เกย์" อ๊ะเปล่าดูยังไง??

บางทีภาพที่คุณเห็นเขาในสังคมปกติ อาจจะไม่ใช่ผู้ชายแท้ !! ก็ได้ เรื่องการมองว่าใครเกย์ - ไม่เกย์ไม่มีสูตรตายตัว เพราะกฎทุกข้อย่อมมีข้อยกเว้น แต่บางครั้งก็ถูกทุกข้อเหมือนกัน
ควรเข้าใจว่า เกย์เป็นภาวะ “หลบใน” เป็นเรื่องของจิตสำนึกไม่ใช่พฤติกรรม ฉะนั้นเกย์จะแสดง “ตัวตนแท้” ต่อเมื่อเจ้าตัวเผลอเท่านั้น อยากรู้...ต้องสังเกตยามที่เขาเผลอ โดยมองรายละเอียด ทรงผม การแต่งกาย สีหน้า แววตา ท่าทาง และรสนิยม ย้ำชัดๆว่า ต้องโดยมียุคสมัยเป็นตัวช่วย
การแต่งตัวของผู้ชายแท้ อย่างดีก็แค่เสื้อตัว กางเกงตัว เข็มขัด นาฬิกา รองเท้า ไม่มีรายละเอียดอะไรมาก สีสันจะเข้ากันได้หรือเปล่า ไม่ได้สนใจ หรือหนุ่มออฟฟิศบางคนที่แต่งตัวเนี้ยบ ใช่วาจะเป็นเกย์เสมอไป เพราะสังคมคนทำงานทำให้เขาต้องพิถิพิถันกับการแต่งกาย เพื่อให้คนพบเกิดความประทับใจเมื่อแรกเห็นและจดจำ
ดังนั้นทุกเรื่องที่จะกล่าวถึงต่อไป ไม่สามารถตั้งสูตรตายตัว ให้เกณฑ์ไว้คาดประมาณ หรือเดากันเองในใจแล้วกัน
วาทะที่ว่า “ผีเห็นผี” ถูกต้องที่สุด เพราะผีย่อมเข้าใจและเห็นร่างโปร่งใสของฝ่ายตรงข้าม !! แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนอยู่ ก็จะเห็นเงาประหลาดที่จะมาคุกคามชีวิตในอนาคต (มีแนวโน้มว่าจะเป็น)
แต่เกย์น่ะ หล่อ สวย ไม่สำคัญ แต่เน้นความเท่ ละเอียดลออตั้งแต่เรื่องทรงผม ไล่ลงมาถึงปลายเท้า !! ที่สำคัญสุดคือ เกย์ต้องเป็นผู้นำแฟชั่น
สำหรับยุคสมัยปัจจุบัน แนวสุขภาพวันนี้มาแรงที่สุด !! ดังนั้น...ทำทุกอย่างต้องอิงเรื่องนี้ไว้ ภาพนิ่งของแมกกาซีนที่เน้นหุ่น สรีระมากกว่าเสื้อผ้า หรือที่เราเรียกว่า แนวเซ็กซี่นั้น เป็นแนวคิดที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงผิวพรรณ สุขภาพ เป็นสำคัญ ... ไม่ใช่เพื่อส่อทางลามก อนาจาร อย่างที่คนหัวเก่าเข้าใจ
เสื้อผ้า
เสื้อผ้า ดีไซเนอร์พยายามสร้างแนวเสื้อให้กับเกย์ โดยใช้ผู้ชายเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างความนิยม ด้วยรายละเอียดที่ออกแบบเพื่อเน้นเรื่องบอดี้ (สุขภาพเหมือนกัน) เสื้อต้อง ตีเกล็ด รัดติ้ว เข้ารูป เอวลอย ปกเสื้อต้องดีไซน์ให้มีส่วนเว้า ผิดจากเสื้อเชิ้ตปกติ เมื่อเสื้อแนวนี้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชาย เกย์ก็ได้โอกาสแฝงอำพรางตัวเองได้ในสังคม ถ้าเป็นเสื้อยืดก็ต้องสีสดใส เข้ารูป กระชับ เน้นบอดี้โชว์ กล้ามแขน และเนินอก ชายเสื้อไม่ต้องยาว เวลายกแขน ยืดตัวก็จะเห็นกล้ามท้อง (ไม่ใช่พุง) ส่วนกางเกงในต้องสีขาวเท่านั้น สีอื่น “โน” เป็นเพราะสีแสดงให้เห็นถึงความสะอาด แม้ในส่วนที่เร้นลับที่สุด !!
เห็นหรือยังว่า ... เรื่องเสื้อผ้า บางทีมันก็จับยาก ปนเปไปกับคนปกติ
ท่าทาง
ท่าเท่กว่าผู้ชายปกติ (แม้ระหว่างรอรถเมล์) ท่ายืนของเกย์ต้องโพสนิดนึง ปลายเท้า วางขาจะต่างจากผู้ชายปกติ เหวี่ยงตัวเล็กน้อยแต่พองาม สังเกตได้เลย ส่วนมือไม้นิยมซุกอยู่แถวกระเป๋ากางเกงยีนส์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง !! สอดสี่นิ้วโผล่นิ้วโป้ง นิ้วโป้งเกี่ยวขอบกระเป๋า โผล่สี่นิ้ว มือข้างหนึ่งสอดกระเป๋าหน้า อีกข้างสอดกระเป๋าหลัง ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าสอดหมด 5 นิ้วน่ะ ...มันไม่เท่
กิริยา
ท่าทาง พูดจามือไม้จะวาด แม้จะเก็บแล้วก็ตาม (ก็ยังออก) หยิบจับสิ่งใด นิ้วก้อยจะยกองศาขึ้น จะยกมากแค่ไหนอยู่ที่ปริมาณของการแสดงออก สวมแหวนที่นิ้วกลางข้างซ้าย (สัญลักษณ์ของความเข้มแข็งที่อ่อนแอ) และชอบกัดเล็บ(แสดงถึงขาดความมั่นใจในตัวเอง) ไม่เห็นพฤติกรรมต่อหน้าลองสังเกตที่รอยเล็บที่กัดก็ได้ (อ้าว ! กลับไปรีบตะไบด่วน เขาจะจับเกย์กันแล้ว) ปากร้าย ด่าเจ็บ เสียดสีเป็นเลิศ พูดอะไร ฝ่ายตรงข้ามมักจะเห็นภาพคล้อยตามเสมอ สนุกสนาน เฮฮา อารมณ์ดี (ยกเว้น...ตอนอกหัก!!) อารมณ์ปรวนแปร ที่สำคัญจะรักษาภาพ และเก๊กแมน ทันที หากเจอผู้ชายหน้าดีตรงหน้า และถ้าเห็นผีเมื่อใด จะกลับสู่ธาตุเดิมทันที
ดวงตา
ไม่ใช่ดวงตา แต่เป็น “แววตา” เกย์ตาจะไร้แวว ขาดประกายกล้าแข็ง ไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป ดวงตาจะเลื่อนลอย, อ่อนโยนและไร้กำลัง แต่ธรรมชาติกลับสร้างให้เกย์มีส่วนซึ่งคนทั่วไปไม่มีนั่นคือ ความว่องไวในการมองเหยื่อหนุ่ม เชื่อขนมกินได้ว่า ถ้าผู้หญิงยืนอยู่ตรงหน้า ต่อให้สวยราวกับนางฟ้า เกย์ก็จะนั่งเฉยเลยผ่าน มองไม่เห็นซะอย่างนั้น แต่ถ้าผู้ชายล่ะก็ ... ต่อให้เดินไกล อยู่ห่างเป็นกิโลก็เห็นและจับรายละเอียดได้หมด ไวขนาดแท็กซี่ผ่านหน้าก็ยังรู้ว่าคนขับหน้าตาเป็นอย่างไร เกย์คนไหนที่ว่า สายตาสั้น จะหายแบบฉับพลันเมื่อเห็นผู้ชาย ว่ากันอย่างนี้คงไม่เกินไป
อ้อ ....พรางแววตาสมัยนี้ ต้องสวมใส่แว่นกันแดดเท่ๆสักอัน เพราะอินเทรนด์อยู่พอดีจ้าอื่นๆ
ของพกอย่างอื่น
ในกระเป๋า !! ลิปมัน,กระดาษซับมัน,โลชั่นกันแดด, ดินสอเขียนขอบตา, ฟองน้ำสำหรับตบหน้าให้เนียน, น้ำหอม (ของติดห้องนอน ไม่จำเป็นต้องพกพา นอกจากเดินทางไกล)
ในห้องน้ำ .... จะมีของประทินโฉม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นอกเหนือจากสบู่ แชมพู ครีมนวดผม แปรง- ยาสีฟัน
ในห้องนอน ...มีแต่เพลงแนวโซล, แจ๊ซ คลาสสิก และเพลงเก่าที่มีความหมายกินใจ อย่างเพลงสุนทราภรณ์ มากกว่าปกติ รวมถึงเพลง I will survive ด้วย (ฉะนั้น ... คนไม่คุ้นเคยไปเยี่ยมห้องหับ ควรรีบเก็บข้าวของในหมวดอื่นๆเหล่านี้ ยัดหมกไว้ใต้เตียง หรือใส่กล่องมัดตราสังซะ)

พจนานุเกย์
ลูกนายก หมายถึง การพาผู้ชายมานอนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เลยถูกยกเค้าไปหมด
จุดพลุ หมายถึง การทำอะไรก็ได้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชาย
เก้ง หมายถึง ใช้เรียกเกย์ด้วยกันเอง
อี๊บ หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์
มิสเปรู หมายถึง เกย์ที่ทุ่มให้ผู้ชายเป็นประจำ สม่ำเสมอ
ก้ามปู หมายถึง เกย์ที่เล่นกล้ามเพื่อเป็นที่ดึงดูดของฝ่ายตรงข้าม
กทม. หมายถึง กะเทยเก๊กแมน (เป็นคำย่อ)
ออกรอบ หมายถึง ออกหาผู้ชาย
ปาดหน้าเค้ก หมายถึง เกย์คนอื่นมาแย่งชิงตัวผู้ชายไป
เก๊กชง,เก๊กแมน หมายถึง อาการแสแสร้งแสดงออกทางร่างกายให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ตนเป็นชายแท้
แต๊บ หมายถึง วิธีเก็บของสงวนส่วนเกินที่โป่งนูนอย่างชายให้เรียบร้อย มิดชิด สนิทแนบ
ฟิน หมายถึง เสร็จหรือลุล่วงกามกิจ
เก๋กู้ด หมายถึง หน้าตา กิริยา และการแต่งกายดูดี
กิ๊บเก๋ยูเรก้า หมายถึง คำซึ่งบ่งบอกว่าสิ่งนั้นดีเลิศประเสริฐศรี
หน้าเน่าเป้าเลิศ หมายถึง ผู้ชายหน้าตาไม่ดี แต่มีเครื่องเคราอันอวบอูมใหญ่โต
สวยตู้ม หมายถึง กะเทยที่ไปทำศัลยกรรมจนสวยงามเกินหญิง
ชอป หมายถึง ซื้อบริการทางเพศจากเด็กขาย
เอฟ หมายถึง เกย์ที่มีความสามารถรอบตัว สามารถรุก-รับได้หมดในกิจกรรมทางเพศ เป็นได้ทั้ง ควีนและคิง บางทีเรียกว่า ควิง ปัจจุบันมีศัพท์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โบท
น้องเตย หมายถึง เกย์เด็ก , เกย์วัยรุ่น

[โจ ™]

มันคือสัจธรรม........

มันคือสัจธรรม........

1.ไม่ว่าวันนี้จะเลวร้ายแค่ไหน จงยิ้มเข้าไว้...เพราะพรุ่งนี้อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า

2.คำว่า 'พรุ่งนี้รวย' ของคนขายลอตเตอรี่ ไม่ใช่คำมั่นสัญญา แต่เป็นปรัชญาที่ต้องตี ความหมาย...เหมือนคำพูดของนักการเมือง ตอนหาเสียง

3.สิ่งที่คนเมาพูด คือ สิ่งที่คนปกติคิด

4.ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ แต่ไม่ว่าคุณจะแก้ดียังไง มันก็จะนำไปสู่ปัญหาใหม่ ที่ต้องให้คุณคิดหาทางแก้ไขต่อไป..เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย

5.ทุกปัญหาย่อมมีวิธีแก้ที่ง่ายที่สุด...แต่วิธีแก้ที่ง่ายที่สุด จะพบหลังจากใช้วิธียากที่สุดไปแล้ว

6.อะไรก็ตามที่คุณอยากจะถาม... เป็นไปได้มากว่า มันคือสิ่งที่คุณไม่ควรจะรู้
7.คนเรามักจะพูดในเรื่องที่ไม่ควรพูด ในเวลาที่ไม่เหมาะที่สุด และกับคนที่ไม่น่าจะพูดที่สุด

8.สินค้าที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดที่สุด คือ สินค้าที่คนโง่ที่สุดใช้เป็น และอยากจะใช้ แม้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ตาม

9.เมื่อคุณมาประชุมสาย ประธานจะมาตรงเวลา และเมื่อคุณมาตรงเวลา การประชุมเลื่อนไปไม่มีกำหนด

10.อะไรก็ตามที่คุณคิดได้ และรู้สึกว่ามันสุดยอดจริงๆ คุณก็จะพบว่า มีคนอื่นที่ไหนสักแห่ง คิดมาแล้ว

11.คนดีๆ... ล้วนมีเจ้าของไปหมดแล้ว (เหมือนที่จอดรถ)

12.ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่... มันก็ต้องมีเหตุผลแหละนะ(ไม่เหมือนที่จอดรถ)

13.อะไรที่คุณเอะใจว่า มันจะดีเกินจริง... เป็นไปได้มากว่า มันไม่จริง
14.ความรัก ก็เหมือนการรอรถเมล์.... สายที่ไม่อยากขึ้น ก็มาจัง ส่วนสายที่ต้องการจะขึ้น ก็รอไปเถอะ, พอมาก็ไม่จอด, พอจอด ก็คนแน่น ขึ้นไม่ได้, พอขึ้นได้ รถก็ไปตายกลางทางอีก

15.ความรักก็เหมือนกับเหรียญ แหวน หรือชิ้นส่วนเล็กๆ เพราะเมื่อไหร่ที่มันหลุดมือตกลงพื้น มันจะต้องกลิ้งไปยังซอกที่มืดที่สุด และลึกที่สุด จนเรามองไม่เห็น และเอื้อมไม่ถึง

16.รถไฟอาจจะวิ่งบนราง แต่อย่าด่วนสรุปว่า มันวิ่งไปทางไหน โดยดูจากราง เพราะเมื่อเหลียวกลับมามองอีกที รถไฟขบวนนั้นอาจจะวิ่งผ่านคุณไปแล้วก็ได้

17.สวย หรือหล่อ ไม่ได้อยู่ที่คำจำกัดความ แต่อยู่ที่จินตนาการ

18.ความรัก สวนทางกับกฎฟิสิกส์ นั่นคือ เมื่อเราให้ความรักกับใครมากเท่าไหร่ เราก็จะได้รับตอบแทนกลับมาเป็น X ส่วนผกผันกลับ

19.เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า 'เป็นเพื่อนกัน' แปลว่า 'ต้องการจะเลิกคบกัน'

20.เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งบอกว่า 'มีอะไรต้องคุยกัน' แปลว่า 'ไม่ต้องการคุยกันอีกแล้ว'

21.ความรักทำให้คนตาบอด, การแต่งงานช่วยให้คนตาสว่าง

22.ผู้หญิง... คุณจะไม่เข้าใจคำพูดของเธอ เพราะเธอต้องการให้คุณคิดเอาเองว่า เธอจะบอกอะไร

23.ผู้ชาย... คุณจะไม่เข้าใจคำพูดของเขา เพราะเนื้อหาส่วนจะเป็นการโอ้อวดสรรพคุณตัวเอง จนไม่รู้ว่าต้องการจะบอกอะไร
24.ผู้ชาย หยิ่งในเรื่องโง่ๆ จนไม่อาจเข้าใจได้

25.ผู้หญิง หยิ่งในเรื่องลึกซึ้ง จนสุดจะเข้าใจได้

26.ผู้ชาย ความจำสั้น (มาก)

27.ผู้หญิง ความจำยาว (มากจนเหลือเชื่อ)

28.กีฬาโปรด ของผู้หญิงคือ ชอปปิ้ง

29.กีฬาโปรดของผู้ชาย คือ การพนัน

30.ผู้ชายใจแคบ และบ้าศักดิ์ศรี

31.ผู้หญิง ใจอ่อน และเห่อสวยงาม

32.ถ้าต้องการความเห็นใจ ไปหาเพื่อนหญิง (กฎข้อ 31)

33.ถ้ามีปัญหา อย่าไปหาเพื่อนชาย เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังต้องไปนั่งฟังปัญหาเพิ่ม (กฎข้อ 23 และข้อ 30)

34.อย่าให้เพื่อนชายยืมเงิน (ตามกฎข้อ 26)

35.อย่าให้เพื่อนหญิงยืมเงินเช่นกัน เพราะเธอจะเอาไปให้เพื่อนชายที่คุณเพิ่งปฏิเสธไป ยืมอีกต่อหนึ่ง (ตามกฎข้อ 31)

36.(สำหรับผู้ชาย) หลีกเลี่ยงเพื่อนหญิงที่มีปัญหาครอบครัว ถ้าคุณไม่อยากเป็นครอบครัวเดียวกับเธอ

37.หลีกเลี่ยงเพื่อนชาย ที่มีปัญหาครอบครัว ถ้าคุณไม่อยากมีปัญหามากไปกว่าที่มีอยู่เดิม

38.หลีกเลี่ยงเพื่อนรุ่นพี่ (เพศเดียวกัน) ถ้าไม่อยากเป็นขี้ข้ารับใช้

39.(สำหรับผู้ชาย) หลีกเลี่ยงเพื่อนหญิงรุ่นพี่ ถ้าไม่อยากเป็นคุณหนู

40.เมื่อไหร่ที่เพื่อนชาย พยายามมีเหตุผล นั่นแปลว่า Guต้องการอะไรจากMung

41.เมื่อไหรที่เพื่อนหญิง พูดหวาน นั่นแปลว่า ชั้นต้องการอะไรจากเธอ

42.(สำหรับผู้ชาย) อย่าคบเพื่อนหญิงสวย ถ้าคุณไม่อยากช่วยหิ้วของ เดินตามต้อยๆ ในห้างสรรพสินค้า

43.อย่าคบเพื่อนหล่อสวย ถ้าคุณไม่อยากรับบทตัวประกอบพระเอก

44.(สำหรับผู้ชาย) อย่าหวังชนะใจเพื่อนหญิง ด้วยการช่วยงาน หรือการบ้าน เพราะเธอจะคิดว่าคุณโง่ และเหตุผลเดียวที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ก็เพื่อรับใช้เธอ

45.อย่าหวังชนะใจเพื่อนชาย ด้วยการเลี้ยงเหล้า เลี้ยงข้าว เพราะเขาจะคิดว่า คุณโง่ แล้วยังอวดรวย

[โจ ™]

สารานุกรมผีแห่งชาติ(ชีวิตนี้คุณเคยเห็นผีพวกนี้อ้ะยัง?)

ผีทะเล : ผีชนิดหนึ่ง มักพบในผู้ชายได้ทั่วไป หากทำอะไรให้คุณสาวๆ เธอไม่พอใจ เธอจะสาปคุณเป็นผีชนิดนี้

ผีปอบ 1 : ผีชนิดนี้มักจะลงในกระเพาะของคน ทำให้เกิดอาการกินแบบตายอดตายอยาก หากในวงเหล้า ของคุณมีพวกผีปอบลงท้องร่วมอยู่ด้วย สังเกตได้ว่าคนพวกนี้จะไม่ใคร่สนใจสุรา แต่จะโฟกัสที่กับแกล้มมากกว่า พอคนอื่นนึกได้และจะกินบ้าง กับแกล้มนั้นก็จะอันตรธานหายไปเหลือแต่ผักกาดหอมกับส้อมกลาง
พวกผีปอบลงท้องนี้ เป็นที่รังเกียจของบุฟเฟ่ต์ เรสเตอร์รองทั่วไป บางครั้งหากผีปอบนี้ไปลงท้องผู้มีอำนาจในบ้านในเมือง พฤติกรรมการกินอาจจะเปลี่ยนไปกินอะไรที่คนธรรมดาเขาไม่กินกันก็ได้ เช่น อิฐ หิน ดิน ทราย ผักสวนครัว ยารักษาโรค ยางพารา เรือขุด ฯลฯ
ผีอมตะในวงการหนังไทย มันไม่เคยตาย ย้ำ... มันไม่เคยตาย สามารถขุดออกมาหลอกหลอนได้ตั้งแต่ ยุคหนังขาวดำยันดิจิตอล

ผีเจาะปาก : ผีชนิดหนึ่งที่ทำให้คนบางคนเกิดความยับยั้งชั่งใจในการพูด หรือใช้โทรศัพท์มือถือ สามารถพูดโทรศัพท์มือถือได้เจื้อยแจ้วอุตลุดไม่เลือกที่ ไม่ว่าจะในห้องน้ำห้องส้วม บนรถเมล์รถตู้ ในโรงหนัง หรือแม้กระทั่งในงานศพญาติตัวเอง

ผีเปรต : ผีพวกนี้สมัยก่อนเชื่อว่าตัวสูงเยี่ยมเทียมฟ้า แต่ปากเท่ารูเข็ม ร้องขอส่วนบุญ ในปัจจุบันนี้ผีเปรตได้พัฒนาทางพันธุกรรมชั้นสูงจนมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุก ประการ แต่นิสัยขอส่วนบุญนี้ยังคงมีอยู่ ผีพวกนี้มักจะขอส่วนบุญเพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ชิดในรูปแบบต่างๆ เช่น การขอร้องแกมบังคับให้เพื่อนๆ ซื้อสินค้า MLM บ้าบอคอแตก เช่น น้ำผลไม้ขวดละเป็นพันบ้าง หรือพวกไม่ทำงานแต่ขอพ่วงชื่อเสนอเป็นผลงานบ้าง กระทั่งผีเปรตบางตัวถึงขนาดขโมยผลงานของคนอื่นไปแอบอ้างชื่อตัวเองขอส่วนบุญ เสียดื้อๆ ก็มี

ผีพนัน : ผีพวกนี้มีความจำเป็นเลิศ คือสามารถจำสถิติการออกสลากกินแบ่งย้อนหลังไปได้หลายปี หรือสามารถจำได้ว่านักเตะคนไหนย้ายเข้าย้ายออกสโมสรไหนบ้าง แต่ไม่เคยจำได้เลยว่าลูกเมียเกิดวันที่เท่าไร หรือเรียนชั้นไหนแล้ว
ผีพวกนี้หายใจเป็นตัวเลขตลอดเวลา ในยามที่ผีพนันอาละวาดนั้นจะส่งผลรุนแรงยิ่งกว่าผีใดๆ กล่าวคือสามารถทำลายเงินทอง ทรัพย์สิน บ้านช่อง ที่ดิน หรือกระทั่งชีวิตลูกเมียตัวเองก็ได้

ผีหัวขาด : เนื่องจากผีพวกนี้ไม่มีหัว แม้จะมีหัวให้มองเห็นได้ในภายนอก แต่ก็ไม่สามารถใช้คิดอะไรได้ ผีพวกนี้สังเกตง่าย คือจะชอบทำอะไรตามคนอื่น ไม่ค่อยตัดสินใจเอง อ่านหนังสือก็ต้องเล่มที่เขาว่าฮิต ดูหนังก็ต้องเรื่องที่ติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศในอเมริกา ฟังเพลงก็ต้องรอให้เอ็มทีวี หรือแชนน่อนวีมาแนะนำเสียก่อน
ผีพวกนี้น่ากลัวเวลาอยู่กันเป็นหมู่ จะอ่านหนังสือเรื่องเดียวกัน หิ้วกระเป๋า แต่งตัวแบบเดียวกัน ทำผมทรงเดียวกัน โอ้วววว อนาคตประเทศชาติ

ผีตาโบ๋ : ผีพวกนี้ไม่มีตา หรือมีก็แกล้งทำเป็นไม่มี ผีพวกนี้จะมองไม่เห็นคุณงามความดีหรือความสามารถของคนอื่นเลย แต่จะสามารถเห็นได้แต่เฉพาะข้อดี สิ่งดีของตัวเองเท่านั้น คนอื่นแย่หมด ถ้าเจอมนุษย์ประเภทตัวเอง (และพรรคพวก) ดีคนเดียวคนอื่นเลวม้ด สันนิษฐานได้เลยว่าเขาถูกผีตาโบ๋สิงเสียแล้ว

ผีจับหัว : ผีประหลาด ที่ชอบหลอกหลอนแต่ผู้หญิงนั้น โบราณเขาว่าวิธีแก้ต้องหันหัวไปสู้ผี แต่จะได้ผลหรือไม่ ไม่รับรอง
เทปผีซีดีเถื่อน : หมายถึงแผ่นซีดี (หรือดีวีดี) ที่สามารถดูได้ ฟังเพลง เล่นเกมได้เหมือนของจริงทุกประการ หากราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าผู้ซื้อ เล่นติดเล่นขัด ไม่ชัดเปลี่ยนได้ แต่กฎหมายเขาว่ามัน "ผี" ก็ต้องผีแหละหนอ พวกค่ายเพลงกล่าวอ้างว่า พวกมันเป็นผีร้ายทำลายวงการเพลงไทย (ที่เชื่อกันว่าคนร้องเพลงดี หัดให้หล่อให้สวยไม่ได้ แต่คนหล่อคนสวยหัดให้ร้องเพลงแบบสุนัขพอฟังไปได้ หรือวงการที่ก๊อบปี้ทำนองเพลงมาจากต่างประเทศให้พวกคนหล่อคนสวยข้างต้นร้อง) ให้ฉิบหายวายป่วง ย่อยยับอัปประมาณ อู้วววว น่ากลั๊วน่ากลัว