
เมื่อคืน ครึ้มอกครึ้มใจอยากไปพักสมองตามประสาคนหนุ่มชอบจับไมค์ร้องเพลงซะหน่อย ..ว่าแล้ว ก็ชักชวน สมัครพรรคพวก ได้ ๑ คน เป็นน้องที่ทำงานด้วยกัน ไปนั่งจิบเบียร์ ร้านประจำ เพราะกับแกล้ม ก็พอใช้ กินแล้ว ไม่อยากอ๊วก ร้องเพลงไป ๑ เพลง ....พอแล้ว ออกมานั่ง รับลม โต๊ะนอกร้าน ...เพราะในห้อง คาราโอเกะ อึดอัด ..มาก ๆ ถึงจะมีแอร์ และพัดลมดูดอากาศ
นั่งไป นั่งมา หมดเบียร์ไป ขวดนิด ๆ สติยังเต็มร้อย ... เด็กในร้าน หลังจากถูกแขกโต๊ะวัยรุ่นใกล้ ๆ ลวนลามพยายามข่มขืน ตอนไปเข้าห้องน้ำ ก็มานั่ง ที่โต๊ะ เพราะ ไม่รู้จะไปบอกใคร ผม ๒ คนก็เลยนั่งคุยด้วย จากเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ซึ่ง ไอ้เจ้าคนที่ทำ ก็ถูกจับส่งตำรวจไปแล้ว ..เหตุการณ์ก็คลี่คลายด้วยดี ผมก็นั่งจิบเบียร์ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ
โดยไม่รู้ตัวว่า มีคนกลุ่มหนึ่ง กำลังมีอาการหมั่นไส้ ที่เห็นสาว ๆ มารุมล้อมโต๊ะของกระผม ..ทันใดนั้น ก็มีเสียงตะโกนข้ามโต๊ะมา ว่า "เฮ้ย ... มึงจะเหมาหมดหรือไงวะ .." ผมก็นิ่ง ทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะไม่อยากต่อกลอนกับไอ้พวกนั้น ..ชำเลืองตาดูแล้ว นับได้ ๔ คนพอดิบพอดี .. แต่ ไอ้น้องที่ไปกับผม ซึ่งนั่งตรงข้ามกัน มันบอกว่า " พี่ผมเห็นมันยกนิ้วให้ด้วยพี่"..."เออ ปล่อยมัน อย่าไปยุ่ง กับมัน พี่ไม่อยากมีเรื่อง เจ้าของร้าน ก็พวกกัน ไม่อยากให้มีปัญหา " ผมบอก
หลังจากนั้น ก็มีเสียงแหย่มาเรื่อย ๆ จนเกิดการ ลวนลาม เด็กเสริฟในร้าน และมีปากเสียงกันเกิดขึ้น ..ผม ก็เดินไปช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้น ออกมา (ตอนนี้นับได้เหลือ ๓.. อีกคนคงไปเข้าห้องน้ำ)....ที่โต๊ะ แล้วก็บอก ให้เก็บตังค์ เพราะบรรยากาศไม่ค่อยดีแล้ว ..ขณะนั่งรอเด็กคิดตังค์ ซึ่ง ทั้งหมดเบียร์ ๒ ขวด กับแกล้ม ๑ อย่างแค่นั้น
เจ้าพวกเมื่อกี้ ก็เตรียมตัวลุกเดินไปที่รถพอดี ก็ส่งเสียง ยียวน ยั่วโทสะ ตลอดเวลา และคำพูดต่าง ๆ นา ๆ เกินจะรับได้ ผมมีสติ แน่นอนเบียร์ ๒ ขวด ไม่ได้ทำให้พวกผม ๒ คน เมาได้แน่นอน ...ในใจผมเริ่มกรุ่น และร้อน มือเริ่มสั่น ...กำปั้นเริ่มกำแน่นขึ้นทุกที ...เพราะไม่อยากมีเรื่อง ก็เลยกัดฟันอดทน ...กับคำพูดของมัน
แต่ ผมมาสะอึกกับคำพูดหนึ่งที่เล็ดออกมา คือ " กูมีปืน ไปกลัวมันทำไมวะ มันมาแค่ ๒ คน ชักขึ้นมา ๒ โป้ง ก็เสร็จแล้ว " ..อ้าว เฮ้ย ...ผมเจอคนพกปืนมาเบ่งศักดาอีกแล้วสิ ....ตายละ ปืนก็อยู่ในรถนู่น ถ้าเกิดมันยิงผม ทำไงดีล่ะเนี่ย ...
ในที่สุด ที่จะอดกลั้นเอาไว้ได้ ผมตะโกนสวนออกไป ซึ่ง ระยะห่างเพียงประมาณ ๖ เมตร .."ใครมีปืนวะ ใคร ๆ กูถามว่าใครมีปืน" ผมเริ่มตะโกนย้ำเสียงให้ดัง ดุดันขึ้นกึ่งตะคอก พร้อมเดินออกไปหาไอ้ ๔ ตัว ที่ควบมอเตอร์ไซด์ เตรียมออกจากลานจอดรถ ..
แต่ผมช้าไป ผมช้าไปจริง ๆ ...เพราะไอ้น้องที่ไปกับผมด้วย มัน กระโดด ออกจากที่นั่ง แล้ว ปรี่เข้า ประเคนหมัดดุ้น ๆ เข้าเต็มหน้าไอ้คนที่บอกว่า "กูมีปืน"...เสียงหมัดกระทบใบหน้าดัง เปรี๊ยะ และก็ตามมาอีก พลัก ๆ ๆ ตุ๊บ....ทั้งรถทั้งคน ล้มระเนระนาด ...
ผมรีบไปลากคอไอ้น้องรัก ออกมา เพราะ มันกำลัง ประเคนบาทา ใส่ไอ้ ๒ ตัวนั่นอย่างเมามัน ..พร้อมกับ ตะคอกถามว่า "ใคร ใครมีปืน"........หา ๆ ๆ สลับกับจังหวะเตะไอ้สองคนนั่น ล้มกลิ้งอย่างไม่เป็นท่า ....ตุ้บ ๆ ๆ...พลั้ว ๆ ๆ ..
"โอ้ย ๆ ผมยอมแล้ว" ....ไอ้คนปากเสีย มันร้องขอ พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัวในท่าล้มลุกคลุกคลาน......."เอาละหยุดได้แล้วไอ้ห่า....ไปทำมันทำไม ....." ....."มันปากเสียพี่ ต้องเตะให้เลือดเสีย ๆ ในปากมันออก" ผมออกแรงล็อคแขน รวบคอ มันออกมา จนหยุด ...........ไอ้ ๒ คน ที่ควบรถอีกคัน ปรี่จะมาช่วย ผมก็โดดเข้าขวาง พอมันเห็นหน้าผมแค่นั้นแหละ .
.".อ้าว...พี่เหน่ง....ผมขอโทษครับพี่ เพื่อนผมมันปากหมาเอง...ขอโทษจริง ๆ .. " .เออ...มึงรีบไสหัวกลับบ้านมึงซะก่อนที่จะมีอะไรเลว ๆ เกิดขึ้นอีก ...ครับ ๆ ไอ้คนหนึ่ง มันรู้จักผม เพราะผมเคย ซ้อมมันมาครั้งหนึ่งแล้ว ...มันรู้ดี...
ทีหลัง มึงมีอะไร มึงอย่า ปากเสียนะเว้ย ....นี่ดี นะ ถ้าไปเจอคนที่เขามีปืนแล้ว ...เขาจะต่อยมึงหรือเปล่า เขาคงเอาลูกตะกั่วให้พวกมึงกินกันก่อนหรอก ...
"ซวยจริง ๆเลย มึงเสือกปากเสีย กูบอกแล้วไม่เชื่อ พาลทำกูซวยไปด้วย" ๑ ในนั้น บ่นพึมพำออกมาให้ไอ้คนที่ปากกล้า อย่างหัวเสีย.

เสียเพราะปากจริง ๆ ...เท่าที่ค้นตัวดูไม่มีใครพกอาวุธอะไรซักอย่าง...สรุป คือ งานนี้ ไอ้ ๒ คนนั่น ซวย เจ็บตัวฟรี เพราะปากเสีย อวดเบ่ง ค่อนแคะ เสียดสี โดยไม่รู้ตาม้าตาเรือ ..แต่ไม่รู้ว่ามันจะเอาคืนหรือเปล่า เพราะมันรู้จักผมแล้ว...