เหตุเกิดเมื่อวานตอนเที่ยง พี่ชายโทรมาหาบอกว่าให้ไปช่วยกินเหล้าหน่อยเพื่อนกินยังหาไม่ได้เพื่อนตายละอย่าหวังเลย

ตอนนั้นผมกำลังติดต่อเรื่องทะเบียนรถที่ผ่อนหมดแล้วเขากำลังจะโอนให้แต่ผมยังค้างค่าปรับส่งงวดช้าอยู่900กว่าบาทตลอดระยะเวลาห้าปี
เงินแปดแสนกว่าก็ยังมีปัญญาจ่าย ขาดอีกแค่เก้าร้อยทำไมผมไม่มีให้เขาสักทีผมเลยตัดสินใจไปกดเงินของสถานีหมื่นนึง(เงินงบลับเขาให้ผมเป็นคนเก็บเวลามีเหตุการณืคับขันเขาก็จะเรียกเอากับผม)
จ่ายค่าปรับ ค่าโอนล่าช้า ค่าทะเบียน รวม 2500บาท เหลือ7500บาทผมพับอย่างดีแล้วสอดไส่กระเป๋าเสือกันหนาว
ลายพรางที่ผมแขวนใว้ประจำหลังเบาะคนขับ ไปถึงร้านพอกินผมลงรถแล้วล็อคประตูอย่างดีเรียบร้อยมีเงินในกระเป๋าหกร้อยกว่า เดินเข้าร้านหาซุ้มเหมาะๆไม่มีเต็มหมดต้องรอสักพักก็ว่าง
ผมสั่งเหล้ารีแบนนึงก่อนและกับแกล้มสองสามอย่างให้น้องรินเป็คนึงพร้อมน้ำแข็งสองก้อน
กรึบเดียวหมด สักพักร้อนท้องวาบๆๆ ค่อยยังชั่ว

ปกติผมก็ดื่มแบบไส่โซดาทั่วไปแหละ
แต่วันนี้ลองแบบใหม่ดูบ้าง นั่งกินไปรอพี่ชายไปด้วย มีเด็กมาขายล็อตเตอรี่ด้วยผมก็ซื้อสองใบ
ยังไม่ได้ตรวจด้วยตอนนี้ พี่ชายยังไม่มาสักทีผมเลยเอาหนังสือเรื่องความไม่เอาใหนของคนไม่เอาใหน
ผลงานของ ครูวีระ สุดสังข์ มาอ่าน หนังสือนี้ผมไปยืมจากครูวีระเองเอามาหลายสิบเล่มแกให้ช่วยอ่านและวิจารณ์
งานเขียนของแกด้วยปกติเจอกันที่บ้านแกทีไรมัวแต่เม้าท์กันตลอดไม่ค่อยมีเวลาอ่านกัน อ่าน กิน ดื่ม
คุยกับน้องคนสวยที่มาเสริฟคอยรินเหล้าให้อย่างมีความสุข พี่ชายก็มาเหล้าเกือบหมดแบนแล้ว
ต้องสั่งมาอีกแบนดื่มไปคุยไปจนผมเมาเต็มที่มีการเดินไปคุยกับโต๊ะข้างๆผมจำได้ว่าโต๊ะข้างๆนั้นเป็นลูกน้องเก่า
ของพี่ชายผมและวันนั้นเขาเลี้ยงผมกับพี่ชายหมดไปหลายพันเพราะเขาถูกหวยได้เงินสามแสนและเขากับเมียยัง
ได้เงินตกเบิกอาจารย์สามอีกหลายแสน ถึงตอนนี้หลายคนคงแปลกใจว่าผมซวยอย่างไร หลังจากนั้นนานเท่าไร
ผมไม่ทราบได้ ผมมาตื่นขึ้นอีกทีตอนตีสาม ที่บ้านพักของที่ทำงานซึ่งผมยกให้หลานสาวลูกของพี่ชายอีกคนที่
กรุงเทพเป็นคนพักอาศัย นานๆผมจะแวะมาสักครั้ง แล้วผมมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ผมก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาอาการเมาค้างก็ทำงานของมันอย่างเต็มที่ไปเปิดประตูก็เปิดไม่ได้ต้องมีคนคล้องกุญแจ
ใว้ข้างนอกแน่นอน ผมเลยเปิดอีกประตูหนึ่งก้าวออกไป เท้าผมดันไปเหยีบลวดหนามฉึกเข้าให้เจ็บนิดๆ
คงไม่เป็นไรมาก ไปเปิดกุญแจออก แล้วล็อคบ้านใว้เหมือนเดิม
รถผมหายไปใหน
ตกใจมากเลยเดินไปดูตรงถนนหน้าบ้าน เดินไปลุ้นไปภาวนาไปด้วย โอ้ย มันจอดนิ่งเรียบร้อยดีล็อคประตู
แน่นหนา
เอ๊ะ

แล้วใครเป็นคนล็อค ผมจำเหตุการณืที่ร้านได้ลางๆ แต่ต่อจากนั้นผมจำอะไรไม่ได้เลยจนมาตื่นขึ้น
นี่แหละ เงิน7500 ยังอยู่หรือเปล่า ผมเปิดประตูรถแล้วรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันหนาวลายพรางทันที
อ้อ ยังอยู่นี่หว่า

แต่ไม่ได้นับ ผมคิดว่าถ้ายังอยู่มันต้องครบสิเพราะไม่มีใครไปย่งกับมันถาหายมันคงหายไปหมดแล้ว
เพลียเหลือเกิน ผมคิดถึงปั้มน้ำมันทันที น้ำตาลสดสักขวดคงช่วยผมได้มาก ผมสตาร์ทรถทันทีมุ่งหน้าไปปั๊มน้ำมัน
ตราดาวทันทีเติมน้ำมันห้าร้อยผมบอกเด็ก ต่อจากนั้นผมก็ไปหาน้ำตาลสดดื่มพอเด็กคิดเงินผมล้วงกระเป๋าออกมา
ไม่มีเงินสักบาท

จะว่าไม่มีก็ไม่เชิงมีแบ้งค์ยี่สิบเก่าๆอยู่ใบเอ๊ะ จำได้ว่ามีอยู่หกร้อยกว่านี่นามันหายไปใหน อ้อ ไม่เป็นไร

ยังมีในเสื้อกันหนาวอีก7500 ผมเดินไปล้วงออกมาต้องตกใจอีกหน
เงิน7500ทำไมมันเหลือแค่สามพัน มันหายไปใหน4500 ผมตกใจทั้งงงก็งงขับรถออกจากปั้ม อ้าวววววววว

แล้วพี่ชายกรูมันหายไปใหนฟะ โทรๆๆๆๆผมโทรไปทันที ไอ้ห้าทำใมมรึงถึงมาทิ้งกรูใ
ว้ที่ร้านทำมือ กรูเดินจากทำมือไปพรมพิมาน และมาจบที่ร้านข้าวต้มเกี๊ยกโภชนา นี่มันจะตีสี่อยู่แล้ว
มารับกรูเดี๋ยวนี้
ผมถามพี่ชายว่ามรึงเอาเงินกรูไปหรือเปล่า4500มันบอก โน กรูไม่รู้เรื่องโว้ย อ้าวเงินหายไปจริงๆ
มันไปหายตรงใหน พี่ชายผมบอกว่าผมเป็นคนขับรถมาจากร้านพอกิน จนมาถึงร้านทำมือแล้วผมก็ทิ้งพี่ชาย
ไว้ที่ร้านแล้วขับรถออกไปเลยโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วผมขับรถมาที่บ้านพักทำไม
ทำไมผมไม่กลับบ้านถ้าง่วงขนาดนั้น แล้วทำไมผมจึงทิ้งพี่ชายใว้ที่ร้านทำมือ
(ผมกับพี่ชายไปด้วยกันเสมอเหมือนเลข11)
หลานสาวตัวแสบหรือเปล่าที่แอบจิ๊กเงินผมไป
อ้า....อ่านแล้ว ต้องบอกว่า ท่านสหายตุ๊ คงต้องพักผ่อนก่อน ผมเคยเป็นครับ นึกไม่ออกแบบนี้