สิ่งที่ผมทำมานานแล้วคือ เซฟตัวเอง ไว้ก่อนครับ หลีกเลี่ยงอันตรายและอื่นๆที่จะมากร้ำกราย
เกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ฟิวส์ขาด ไม่เขาก็เราต้องได้รับบาดเจ็บ หรืออย่างน้อยที่สุดเป็นคดีความ
เสียเวลาไม่คุ้ม รักษาตัวรอดเป็นยอดดีครับ แค่มันมาเฉี่ยวก้นเราก็ลงไปกองแล้ว ทั้งเจ็บตัวเจ็บใจ
ทำอะไรก็ไม่ได้แล้ว หรือดีไม่ดีมันทับขาเราหักกลายเป็นคนพิการ มีอาวุธก็แค่นั้นแหละ ไว้ใช้ที่จำเป็นดีกว่า
สมัยนี้คงจะต้องระวังรถค่ะ แต่บางคนก็เหลือเกินเดินข้ามถนนแบบไม่สนเลยว่ารถจะมาเร็วแค่ไหน เจอบ่อยมาก เหมื่อนตัวเองเดินอยู่ใน พาราก้อน เลย
ผมบอกตรงๆว่าคนไทยขับรถส่วนมากแล้งน้ำใจครับ คนขับรถเห้นแก่ตัวเองมากๆ ถ้ามีน้ำใจหยุดให้คนเดินสักนิด
หลายๆอย่างคงดีขึ้นกว่านี้ ลองคิดดูนะครับ รถวิ่งได้เร็วอย่างช้าสุดก็60-80กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คนเดินถนนจะเดินได้เร็วถึงชั่วโมงละ4กิโลหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมมาเมืองไทยก็เกือบโดนรถชนตายหลายครั้ง
ทั้งๆที่เดินข้ามทางม้าลาย เดียวนี้คนขับรถไม่รู้จักทางม้าลายแล้วครับ ไม่รู้แม้กระทั้งต้องหยุดรถเมื่อมีคนข้ามทางม้าลาย
ไม่อยากจะว่าฝรั่งหรือต่างชาติดีกว่าคนไทย อยากให้คนขับรถชาวไทยไปเดินต่างประเทศบ้าง ว่าคนขับรถเขามีน้ำใจกับคนเดินถนนอย่างไร ในอเมริกาเมือคนก้าวเท้าลงเพื่อเดินข้ามถนนรถจะหยุดให้คนเดินโดยปลอดภัย
เมื่อกลางเดือนผมไปสิงค์โปร์มา4วัน บ้านเมืองและถนนเขาเหมือนเมืองไทยมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันคือ
คนขับรถเขามีน้ำใจมากๆ พอผมก้าวเท้าลงถนนรถเขาหยุดให้เดินข้ามอย่างปลอดภัย ตอนแรกก็งงนึกว่าคนขับรถเขาจะนิสัยเหมือนคนขับรถบ้านเรา แต่เขาดีกว่าเรามากๆ เมืองไทยเป็นเมืองยิ้ม แต่คนขับรถส่วนมากขาดน้ำใจและเห้นแก่ตัว
ขาดกฎระเบียบด้วย