
เอาข่าวมาให้อ่านครับ

ศธ.รับบริจาคปืนแจกครูใต้ป้องกันตัว - 2/7/2548
ศธ.รับบริจาคปืนแจกครูใต้ป้องกันตัว
++ เตือนวิกฤติ กรือเซะ-ตากใบ ภาค 2
ชิดชัย ล่องใต้ ถกเครียดบิ๊กขรก.ที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาภาคใต้ ขณะที่ บิ๊กแอ๊ด ปรับแผนดับไฟใต้ใหม่ ด้านกสชต.เผยสถานการณ์ใต้น่าห่วง เตือนอาจมีวิกฤติ กรือเซะ-ตากใบ รอบสอง เร่งทำความเข้าใจชาวบ้านในพื้นที่ ป้องกันเคลื่อนไหวปลุกระดม ตร.ภาค9 สรุปตัวเลขเหตุการณ์ความไม่สงบครึ่งปี ตาย-เจ็บ 808 ราย นราฯ แชมป์ ส่วนศธ.สั่งขึ้นบัญชีเครือญาติครูที่เสียชีวิต ก่อนจ้างเป็นครูอาสา 2 ปี บรรจุเป็นขรก. พร้อมเปิดรับบริจาคปืนแจกครูใต้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค.2548 พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมายัง สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าฯ จ.นราธิวาส พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาค 4 ในฐานะผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.กอ.สสส.จชต.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 พ.ท.พิศิษฐ์ ศรีสังข์ ผบ.พัน ร.301 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย นายประชา ได้กล่าวสรุปเหตุการณ์ก่อความไม่สงบที่ผ่านมา
พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการปฏิบัติงาน แต่อย่าได้ย่อท้อ ขอให้มีความมุมานะเสียสละ จะทำให้การแก้ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะคนร้ายจะอยู่และเคลื่อนไหวในที่มืด ทุกคนต้องมีความรอบคอบ และอย่าพยายามเผลอเรอให้กลุ่มคนร้ายทราบความเคลื่อนไหวของฝ่ายเจ้าหน้าที่ ปัญหาทุกอย่างจะค่อยๆ หมดไปเอง สำคัญที่เจ้าหน้าที่อย่าไปติดกับหรือหลงกลของกลุ่มคนร้ายก็แล้วกัน พร้อมกับจะให้ความคุ้มครองครูอย่างปลอดภัย
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เนื่องจากเวลานี้ คนร้ายมันฆ่าแบบสะเปะสะปะ และฆ่าคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เราฆ่าแบบมันไม่ได้ เพราะติดเรื่องกฎหมาย และพอฝ่ายมันตายก็มาหาว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ฝีมือคนที่ก่อความไม่สงบก็เป็นคนกลุ่มเก่า ซึ่งเราต้องจับกุมและตอบโต้เขาให้ได้ อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือเวลานี้มีการเลือกตั้งอบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีการฆ่ากันเอง เพราะแย่งชิงตำแหน่งจำนวนมาก แต่เราก็เอาไปเหมารวมหมดทุกอย่าง ดังนั้นเราต้องพยายามควบคุมสถานการณ์การก่อเหตุให้ได้มากขึ้น โดยขณะนี้ตนกำลังปรับกองกำลังให้มีความเหมาะสมในการทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมากองกำลังมีลักษณะอุ้ยอ้าย จึงได้สั่งปรับใหม่ทั้งหมดให้เป็นชุดเล็กๆ ไม่ต้องลงไปทำงานแบบเอิกเกริกไม่ใช้ทหารที่เป็นกองกำลังขนาดใหญ่ แต่ใช้ขนาดเล็กลงไป เพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ต่อข้อซักถามว่า ที่ฝ่ายค้านติงแผนการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ของรัฐบาลผิดพลาด จะนำมาพิจารณาปรับปรุงด้วยหรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเขาก็บ่นมาอย่างนี้ตลอด เพราะมันเป็นฐานเสียงของเขา ไม่ว่าเราไปแตะอะไร เขาก็โวยหมด แต่เรื่องแผ่นดินเขาไม่สน
พ.อ.สมควร แสงภัทรเนตร โฆษกกอ.สสส.จชต. กล่าวว่า ทาง พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ ในฐานะ ผอ.กอ.สสส.จชต.ได้ สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้าควบคุมเรื่องยานพาหนะ โดยกำหนดให้ประชาชนในพื้นที่จะต้องเตรียมเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของครอบครองยานพาหนะ และต้องแสดงหลักฐานต่างๆ ได้ รวมทั้งออกมาตรการควบคุมอาวุธปืนอย่างเข้มงวด เพื่อจำกัดเสรีภาพการก่อความรุนแรงของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่
พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะโฆษกคณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กสชต.) กล่าวว่า กสชต. มีการประเมินสถานการณ์ว่า อีกไม่นานอาจเกิดวิกฤติการณ์ในลักษณะคล้ายกับกรณีกรือเซะและตากใบขึ้นมาอีก ทำให้ต้องมีการเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อทำความเข้าใจกับมวลชนในพื้นที่มากขึ้น
ทางเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ว่าน่าจะมีเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นแบบ ตากใบ กรือเซะอีก จึงได้จัดทีมในการสร้างความเข้าใจในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมวลชนเข้ามาชุมนุมเป็นจำนวนมาก พล.ท.พลางกูร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ โฆษกตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 ได้สรุปสถิติคดีความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ในช่วงครึ่งปีแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 808 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 207 รายบาดเจ็บ 601 ราย แยกเป็นตำรวจเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 74 ราย ทหารเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 78 ราย ประชาชนเสียชีวิต 186 ราย บาดเจ็บ 449 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ฆ่า ตัดศีรษะ 7 ราย และพื้นที่จ.นราธิวาสมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุดรวม 339 ราย
แยกเป็นจ.นราธิวาส ตำรวจ เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 24 ราย ทหารเสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 59 ราย ประชาชนเสียชีวิต 79 ราย บาดเจ็บ 164 ราย รวม339 ราย จ.ยะลา ตำรวจเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 32 ราย ทหารเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 19 ราย ประชาชนเสียชีวิต 28 ราย บาดเจ็บ 135 ราย รวม 218 ราย จ.ปัตตานี ตำรวจเสียชีวิต 3 รายบาดเจ็บ 13 ราย ประชาชนเสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บ 68 ราย รวม 143 ราย และจ.สงขลา ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ประชาชนเสียชีวิต 20 บาดเจ็บ 82 ราย รวม 108 ราย พ.ต.อ.กระจ่าง กล่าว
นายรุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงมาตรการเยียวยาครอบครัวครูที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการสำรวจครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยให้มีการขึ้นบัญชีไว้ และแยกตามวุฒิการศึกษารวมทั้งประสบการณ์ เพื่อนำมาพิจารณาบรรจุเป็นบุคลากรอัตราจ้างประเภทต่างๆ อาทิ เจ้าหน้าที่พัสดุ หรือครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน เป็นต้น ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเป็นครูอัตราจ้างได้ก็จะหาตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมให้ และเมื่อเป็นอัตราจ้างมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี ก็จะได้สิทธิในการคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการของกระทรวงศึกษาฯ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของอุปกรณ์สื่อสารนั้น ขณะนี้สถานศึกษาทุกแห่งมีโทรศัพท์พื้นฐานครบแล้ว ส่วนวิทยุสื่อสารกำลังดำเนินการจัดหา ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายใน 1 เดือน สำหรับอาวุธปืน ขณะนี้ครูมีความต้องการจำนวนมาก แต่อาวุธปืนมีราคาแพง ดังนั้นผู้ใดที่มีอาวุธปืนอยู่ในครอบครอง เช่น ได้รับมรดกมา และต้องการบริจาคให้ครูใต้ก็สามารถติดต่อได้ที่ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ