ผมเคยเอาลูก 9 มม.มาตัดหัวออกตรงปลายแล้วตะไบหัวไม่ได้ยุ่งกับปลอกโดยให้ความยาวโดยรวมเท่ากับลูก .380 (เอาตั้งกับพื้น)แล้วลองใส่ในปืน star .380 ของพ่อ สมัยผมเด็กๆเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ก็ขึ้นลำลูกเข้าได้สุดตามปกติ พอยิงก็ไม่เห็นความแตกต่างกัน ไม่สะบัดมากขึ้นเท่าไหร่ครับ ผมคิดว่าคงเป็นเพราะน้ำหนักหัวกระสุนลดลงก็เลยทำให้ reaction น้อยลงไปด้วยนะครับ แล้วก็ยิงลูก.380 ต่อได้ตามปกติครับ ปืนไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับ แต่ก็ลองแค่ลูกเดียวเท่านั้นครับ ผมเคยพิเรนทร์ขนาดเอาลูก blank .223 ของทหารมาตัดปลอกให้ยาวเท่ากับลูก .380 แล้วตอกตะกั่วแท่ง แล้วตัดให้พอดีและก็แต่งตะไบหัวให้เหมือน .380 เปี๊ยบเลย แล้วก็เอามาลองยิงทำไว้ตั้งหลายลูกครับยิงแล้วแป๊กบ้างแรงบ้าง ไม่แน่ไม่นอน
ที่เล่นพิเรนทร์แบบนั้นเพราะเอาลูกจริงมายิงเล่นจนหมดตอนปิดเทอมแล้วพอดีน้าชายเป็นทหาร กลับมาจากฝึกเอาลูก blank .223 มาฝากเป็นกล่องๆเลย เอามาตั้งเทียบกับลูก.380 ดูปรากฎว่าตูดมันเท่าๆกันเลยลองดูครับ ก็เป็นประสพการณ์สมัยเด็กๆ ต่อจากการเล่นปืนอัดเทียนน่ะครับ
ยิงจากสตาร์จะอันตรายมากกว่ายิงจากมาการอฟมากนะครับ
มาการอฟ เป็นปืนโบล์วแบ็ค ไม่มีการขัดกลอน ปลอกกระสุนถอยออกจากรังเพลิงทันทีที่จุดระเบิด ซึ่งจะช่วยลดแรงอัดในรังเพลิงลงได้มาก อันตรายจึงมาจากสไลด์หลุดออกจากโครงปืนมากกว่าลำกล้องแตก แต่มาการอฟใช้โกร่งไกกั้นสไลด์ ซึ่งโกร่งไกจะช่วยรับแรงไว้ด้วยความเป็นสปริงของมันเอง จึงไม่เคยได้ยินปัญหา แต่ถ้าเอาลูก 9 มม.ยิงบ่อย ๆ คนยิงคงเจ็บตัวเข้าสักวันเหมือนกัน
ส่วนปืนระบบรีคอยล์ ซึ่งมีการขัดกลอน เมื่อยิงกระสุนแรงอัดเกินปกติจะอันตรายกว่าระบบโบล์วแบ็ค เพราะลดแรงดันจากหัวกระสุนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ทางเดียว