เท่าที่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง
ผมเองก็งงมาก ๆ เกี่ยวกับกฎหมายและผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บ้านเรา
เด็กอายุน้อยมาก ๆ บางคนคงไม่เกิน ป.5 ขี่ได้อย่างไรครับ
อายุก็น้อย ใบขับขี่ก็ไม่มี ขี่ย้อนศรอีกต่างหาก
อย่างที่ผมอยู่ถ้าขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
รถต้องติดคุก 30 วัน เสียค่าจอดวันละ $30
จอดครบ 30 วัน ต้องไปเสียค่าลาก ค่าปรับ+ค่าจอด
รวม ๆ แล้วก็ $1000 เรื่องยังไม่จบนะครับ
ยังต้องมีเรื่องไปศาลอีก รวม ๆ แล้วก็เป็นเรื่องที่ยาว เสียเงินมากมาย ขนาดขับรถไม่มีใบขับขี่เรื่องเดียว
ถ้าเกิดขับไปชนใครจนบาดเจ็บสาหัส
อาจโดนฟ้องร้องจนไม่เหลือแม้แต่บ้านซุกหัวนอน
บ้านเราน่าจะเอาแบบอย่างบ้าง
พ่อแม่เวลาซื้อรถให้ลูกจะได้คิดหนัก ๆ หน่อย ก่อนที่จะตามใจซื้อรถให้ลูก
มีครับพี่ กฎหมายเกี่ยวกับการขับขี่แข่งขัน....
ใน พรบ. จราจรทางบกฯ ระบุไว้ว่า....
มาตรา 134 ห้ามมิให้ผู้ใดแข่งรถในทาง
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็น หนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร
ห้ามมิให้ผู้ใดจัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง
เว้นแต่ จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร
และก็มีการกำหนดโทษไว้ด้วยครับ....
มาตรา 160ทวิ
ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 134 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน
หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน
หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
มาตรา 161
ในกรณีที่ผู้ขับขี่ผู้ใดได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง
หรือผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
มีอำนาจสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดครั้งละไม่เกินหกสิบวัน
ผู้สั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ตามวรรคหนึ่ง
อาจบันทึกการยึดและคะแนนไว้ด้านหลังใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกยึด
และดำเนินการอบรมทดสอบผู้ขับขี่ที่กระทำผิดซ้ำ
ตั้งแต่สองครั้งภายในหนึ่งปี
รวมทั้งสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ที่เสียคะแนนมากของผู้ขับขี่นั้น
มีกำหนดครั้งละไม่เกินเก้าสิบวัน
การดำเนินการบันทึกคะแนน อบรม ทดสอบผู้ขับขี่ที่กระทำผิด
และการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้ขับขี่ซึ่งถูกสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ตามวรรคหนึ่ง
หรือถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามวรรคสอง
มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งต่ออธิบดีภายในสิบห้าวัน
นับแต่วันที่ถูกสั่งยึดหรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
ให้อธิบดีวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคสี่ภายในสามสิบวัน
นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ถ้าไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดภายในเวลาดังกล่าว
ให้ถือว่าอธิบดีวินิจฉัยไม่ให้ยึดใบอนุญาตขับขี่
หรือไม่พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตามคำอุทธรณ์ของผู้ขับขี่
คำวินิจฉัยของอธิบดีให้เป็นที่สุด
มาตรา 162 ในคดีที่ผู้ขับขี่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิด
ตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ๆ
นอกจากจะได้รับโทษตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว
ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่าหากให้ผู้นั้นขับรถต่อไป
อาจก่อให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
ศาลมีอำนาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นได้
........แต่ถ้าเป็นเยาวชน...ก็ต้องว่ากันไปอีกแบบ ครับ
ตาม พรบ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวฯ ครับ
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น....