ขออนุญาตวิจารณ์ปืนเล็กยาวโจมตีทั้งสามแบบสักหน่อยนะครับ.............เผอิญได้มีโอกาสใช้งานปืนทั้งสามแบบมาบ้าง..............
แม้ว่าจะไม่ชำนาญเหมือนบางท่าน ที่ออกตัวไม่เคยใช้งานปืนเหล่านี้แต่อธิบายได้น้ำท่วมทุ่ง...........
ผมขอวิจารณ์แบบคนเคยได้ยิงจริงๆมานิดหน่อย และถือเดิน(ซะส่วนมาก)ในป่า.........
ปลย.เอ็ม16 ( M16 และ M16A1)...........รายละเอียดทางเทคนิคและประวัติดูที่นี่
http://world.guns.ru/assault/as18-e.htmปืนรุ่นนี้ออกแบบฉีกแนวออกไป เป็นปืนนวัตกรรมใหม่ ที่ออกแบบ แนว ลำกล้อง+ลูกเลื่อนและรีคอยสปริง เป็นแนวเส้นตรงเดียวกัน...............ดังนั้น แนวลำกล้องกับสันพานท้ายจึงเป็นแนวเส้นตรงเดียวกัน.....................สิ่งที่ได้คือ เป็นปืนที่ใช้งานได้คล่องตัวมาก ตวัดปืนขึ้นประทับไหล่ เล็งยิงได้รวดเร็ว
เมื่อแนวลำกล้องกับสันพานท้ายเป็นแนวเส้นตรงเดียวกัน.............ศูนย์หลังและศูนย์หน้าจึงต้องยกสูงขึ้น.................จึงแสวงประโยชน์ทำเป็นหูหิ้วปืนไปในตัว ซึ่งหูหิ้วปืนนี้ เมื่อมีการดัดแปลงอุปกรณ์ใส่เข้าไป กลายเป็นจุดที่เหมาะสม เช่น เป็นที่วางเรือนศูนย์ยิงแบบประณีตของเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. M203 ...............และอุปกรณ์เสริมอื่นๆอีกมากมาย...........
ท่อแก๊สที่มีความยาว จากเรือนศูนย์หน้า มายังโครงปืนส่วนเหนือรังเพลิง.....................เท่าที่ผมใช้งานมา รวมทั้งเห็นปืนเก่าๆ ยังไม่พบอาการติดขัดจากท่อแก๊สตัน...................ในหน่วยทหาร จะมีวงรอบการทำความสะอาดท่อแก๊สนี้ โดยนายสิบช่างอาวุธเป็นผู้ดูแล และใช้เครื่องมือพิเศษที่มีอยู่...............เพราะฉะนั้น คนที่บอกว่าท่อแก๊สปืนรุ่นนี้ จะไม่ได้ทำความสะอาด อย่าทำเป็นรู้ดี แล้วมั่วตอบ............
ปืนรุ่นนี้ ในสภาพเดิมๆจากโรงงานก็ยิงได้อย่างแม่นยำมาก...............ในปืนที่ set ศูนย์ ไก และการใช้แผ่นชิมรองในการประกบโครงปืนส่วนล่าง-บน และกระโจมมือให้แน่นแล้ว..................ประกอบกับผู้ยิงมีฝีมือ จะมีความแม่นยำสูงมาก......................เรียกได้ว่า สามารถยิงช่วยตัวประกันในระยะไม่เกิน 50 เมตรได้ อย่างมีอัตราเสี่ยงต่ำกว่าปืนอีกสองรุ่น......................
การดูแลปืนรุ่นนี้ ต้องใช้ความใส่ใจกว่าปืนอีกสองรุ่น..................เนื่องจากผลิตด้วยเทคโนโลยี่ชั้นสูง .............แบบความฟิตแน่นมากพอสมควร ดังนั้นปืนรุ่นนี้มักจะไม่ถูกกับผงฝุ่นทรายสักเท่าใด
แต่จากที่เคยใช้งานในสนามมา...................ก็ไม่เคยมีสาเหตุติดขัด หากได้รับหล่อลื่นในจุดที่เสียดสีเป็นอย่างดี.............
ดังนั้นในหน่วยทหารที่ใช้ปืนรุ่นนี้ ............... ผบ.หน่วยจะใส่ใจ กวดขันกำลังพลให้ดูแลรักษาปืนเป็นกรณีพิเศษ.................ปืนรุ่นนี้จะรับใช้ราชการได้เป็นอย่างดี
ในหน่วยกำลังรบหลักของ ทบ.(หน่วยที่ทำการรบแบบเข้าปะทะโดยตรง)............... ทาง ทบ.จะจ่ายปืนรุ่นนี้ให้ใช้งานเป็นอาวุธประจำกายหลักของกำลังพล.................
ปลย.11 (HK33)..............รายละเอียดทางเทคนิคและประวัติ ดูที่นี่ http://world.guns.ru/assault/as13-e.htm
ปืนรุ่นนี้ เป็นปืนที่ไทยซื้อลิขสิทธิ์การผลิตมาจาก HK ..............แบบซื้อ Lineเครื่องจักรการผลิตมาตั้งที่เมืองไทย....................
ความมุ่งหมายสำหรับเป็นอาวุธประจำกาย ของหน่วยสนับสนุนการรบและหน่วยสับสนุนการช่วยรบ.............เช่น หน่วยทหารปืนใหญ่ ทหารช่าง ทหารสื่อสาร และอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าทำการรบปะทะโดยตรง............
ปืนรุ่นนี้ใช้ระบบรีคอยโบวแบ็ค หน่วงเวลาด้วย การบิดตัวของลูกเลื่อที่ใช้ลูกปืนขัดกลอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่สมัยใหม่ที่น่าทึ่งของ HK ............ลูกเลื่อนจึงหนักมาก และมีการเซาะร่องรังเพลิง เคยป้องกันปลอกบวมเมื่อยิงไปแล้ว(เหมือน HK 300 ขนาด .22 Magnum)................
สรีระของปืน ...............เหมือนปืนรุ่นอื่นๆ ที่แนวสันพานท้าย ต่ำกว่าแนวลำกล้อง และรวมกลไกไว้ที่โครงปืนอย่างเดียว...............จึงสามารถใส่พานท้ายแบบยืด-หดได้ ออกมาเป็นรุ่น HK33K (ทบ. จ่ายให้ในหน่วย ทหารม้าลาดตระเวณบางหน่วย)..............
สำหรับความแม่นยำ...............เป็นปืนที่แม่นยำสูงมาก แต่การปรับศูนย์หลัง(ทางสูง-ต่ำและ ซ้ายขวา) ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ลักษณะเหมือนไขควงที่ด้ามมีติ่งรูปตัววี สำหรับการไขศูนย์หลัง.............ทำให้หน่วยทหารที่ใช้ มักจะไม่ค่อยใส่ใจในการปรับศูนย์เท่าใด................เพราะปืนมีจำนวนมาก............ประกอบกับไม่ได้เป็นหน่วยทำการรบโดยตรง จึงไม่ได้รีดขีดความสามารถของปืนรุ่นนี้ออกมาให้เห็นนัก................
แต่สำหรับผม.................เมื่อทำการปรับศูนย์ปืนของ HK33 แล้ว ยิงได้แม่นยำไม่แพ้ M16 ........
ปืนอาก้า( AK47 ) ..............รายละเอียดทางเทคนิคและประวัติ ดูที่นี่
http://world.guns.ru/assault/as01-e.htmปืนรุ่นนี้ผมเคยได้สัมผัส และเอามาใช้งานติดตัวอยู่แค่ 4-5 ปี เป็น AK47S รุ่นพับฐาน ทำในรัสเซีย.................โดยได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าของเก่า ที่นอนรอส่งมอบปืนให้ผม ที่แนวชายแดนแถวๆตาพระยา.............ซึ่งผมต้องเสียเวลาแกะออกจากมือเจ้าของเดิม เนื่องจากเขาไม่ยอมมอบให้ดีๆ (ขออยู่นานตั้งแต่เขาวิ่งได้ จนกระทั่งนอนลง ผมจึงได้ปืน)..................ปัจจุบันนี้เวลาผมใส่บาตร ต้องเผื่อให้เขาด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักหรือโกรธเคืองกันมาก่อน...............
ปืนรุ่นนี้.............บอกตรงๆว่า ทนทานมาก และ ไม่ค่อยแม่น(ไม่ใช่ท่านก้อน).................ใช้งานได้ทนทาน บึกบึนแบบรถบรรทุก.............ออกแบบง่ายๆ หลวมๆ แต่แข็งแรงมาก........มีช่องว่างของส่วนเสียดสีเยอะ แต่เขย่าๆ ไม่ยักดูหลวม..............ฝุ่นทรายเล็กๆ หลุดเข้าไปบ้างไม่มีผลต่อการทำงานของปืนรุ่นนี้
เป็นปืนที่ใช้ง่ายง่ายแบบโลวเทค..............ลูกเลื่อนแขวนไม่ได้ คันบังคับการยิง อยู่ทางขวา ปลดเสียงดัง และสร้างความสับสนสำหรับมือใหม่ เพราะ จากห้ามไก ลงไปจังหวะแรก(ไม่ใช่ตรงกลางแต่เกือบลงสุด ตามที่คนมั่วๆบอก) เป็นฟูลออโต และลงสุดเป็น เซ-มิ ออโต................เวลาฝึกทหารตามแนวยิง ต้องย้ำให้กดสองแป๊ก............เพราะถ้าแป๊กเดียว ออกเป็นชุด.................
ปืนรุ่นนี้.................มีใช้ในหน่วยรบจรยุทธประเภท กำลังประจำถิ่น คือ กองกำลังทหารพราน ที่ขึ้นตรงกับ ทบ. (หน่วยทหารพรานที่ขึ้นกับ กองทัพภาค จะใช้ M16 กับ HK33).................ซึ่งการได้มาของปืนรุ่นนี้ มีหลายเส้นทาง ตั้งแต่ยึดมา แอบขโมยเขามา ซื้อถูกๆ ได้รับฟรีๆ หรือเอาข้าวไปแลก...................แล้วนำเข้ามาประจำการในหน่วยจรยุทธประเภทนี้..............
ผมแนะนำคร่าวๆแค่นี้ก็แล้วกัน....................เพราะเคยสัมผัสมาแค่นี้ ให้คนที่ไม่เคยจับแล้วรู้ดีมาขยายความเพิ่ม หากผมขาดหายไปก็แล้วกัน............