ภาพจากหนังสือพิมพ์ขาประจำเล่มหนึ่ง แต่เนื้อข่าวก็เป็นเรื่องที่ทราบ ๆ กันแล้ว (แจกปืน แจกเสื้อเกราะ)
ข่าวไทยรัฐบอกเจ้ากระทรวงสั่งให้การอาชีวศึกษาเร่งผลิตเสื้อเกราะ ...... เอาหัวตรงไหนคิดเนี่ย

.... เจอข่าวพอดี ไม่ต้องพิมพ์ ...
กลาโหมไฟเขียวศธ.ซื้อเสื้อเกราะมอบให้ครูภาคใต้ วันที่ 07 ก.ค. 2548 แสดงข่าวมาแล้ว 6ช.ม. 12นาที
กลาโหมไฟเขียวให้ศึกษซื้อเสื้อเกราะไปมอบให้ครูใต้แล้ว พร้อมฝึกนักเรียนและครูฝึกยิงปืนสู้โจร "รุ่ง" รับใต้รุนแรงหนัก แต่ไม่ถึงกับปิดรร.เผยขอเพิ่มกำลังคุ้มกัน หวั่นโจรโหดเปลี่ยนเป้าไปที่เด็กนักเรียนแทน
วันนี้ (6 ก.ค.) พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าการร้องขอของครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อต้องการพกพาอาวุธปืนได้นั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันตัว เพราะทุกฝ่ายเป็นห่วงความปลอดภัยไม่เฉพาะครูเท่านั้น แม้ชาวบ้านบางส่วนก็ต้องการเช่นกัน โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
พล.อ.ธรรมรักษ์ ล่าวว่า การที่ครูต้องการพกพาอาวุธปืนไม่ได้เกิดจากทหารหรือตำรวจทำงานบกพร่อง เนื่องจากกองทัพภาคที่ 4 และ กอ.สสส.จชต. เพิ่มความเข้มงวดปลอดภัย องขอความร่วมมือกับครูในพื้นที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในการออกไปนอกภารกิจการสอนเพื่อจะได้ดูแลได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันยังพร้อมให้ทหารที่มีวุฒิการศึกษาและมีความเชี่ยวชาญเข้าไปช่วยสอนนักเรียนในพื้นที่และฝึกครูให้รู้จักการใช้ปืนเพื่อป้องกันตัวอีกด้วย
พล.อ.ธรรมรักษ์ ยังกล่าวว่า ได้หารือกับนายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ได้ขอให้กองทัพอำนวยความสะดวกให้กับครูในภาคใต้ มีเสื้อเกราะไว้ป้องกันตัวได้ เนื่องจากเสื้อเกราะเป็นยุทธภัณฑ์ที่ต้องมีการขออนุญาตจากกระทรวงกลาโหม เพื่อนำไปใช้อย่างเคร่งครัด เพราะต้องมีการควบคุมเมื่อนำไปใช้ในส่วนของพลเรือน
ที่กระทรวงศึกษาธิการมีความต้องการถึง 1000 ตัว โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเองการขออนุมัติซื้อเสื้อเกราะและให้ครูพกพาอาวุธปืนถือเป็นมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของครูหลังจากในระยะหลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้มุ่งเป้ามาลอบสังหารครูมากขึ้น
นายรุ่ง แก้วแดง รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ขอความร่วมมือไปยังตำรวจ ทหาร
และประชาชนช่วยกันดูแลความปลอดภัยของนักเรียนมากขึ้น เนื่องเพราะเกรงกลุ่มก่อความไม่สงบจะเปลี่ยนเป้าหมายมาทำร้ายนักเรียน เพราะครูระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น
"ระยะนี้ครูระมัดระวังดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น จึงเกรงว่าเขาจะเปลี่ยนเป้าหมายมาทำร้ายเด็กแทน เนื่องจากพวกนี้ไม่เคยคำนึงถึงว่าเป็นใคร" นายรุ่งกล่าว
ทั้งนี้ ครูที่อยู่ใน 3 จังหวัด อยู่ประมาณ 12000 คน อันที่จริงๆ กลุ่มครูที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจะเป็นครู การศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่วน ครูกศน.กับอาชีวะ มีผลกระทบน้อย แต่กลับพบว่ามีครูกลุ่มหนึ่งอาศัยเหตุการณ์ความไม่สงบขอย้าย และครูบางท่านไม่มีสิทธิย้าย อย่างเช่น ครูโรงเรียนเอกชน ครูโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ครูเทศบาล อาจารย์ในมหาวิทยาลัย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ครูที่ได้รับการพิจารณาโยกย้ายทันทีคือครูที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ครูที่กำลังตั้งครรภ์ และครูที่มีลูกอ่อน
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ส่งอีเมลล์หาเว็บมาสเตอร์
info@kaohoon.com [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]