ขอคำแนะนำ...ขอใบอณุญาติ ป.3 ไม่ผ่านจะร้องเรียนดีหรือไม่

[baby_CZ]

เอาแล้วคOรับ ผมก็ทำท่าจะโดนเรื่อง ป.3 อีกแล้ว  สาวสวยหน้าห้องนั่นแหละนายนั่นแหละ  คืออย่างนี้ครับผมทำเรื่องขอไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เป็น .22 ลูกกรด  โทรไปถามความคืบหน้า  สาวสวยที่ว่าก็เริ่มบรรยายให้ผมฟังเลยครับ "พอดีนายมีนโยบายขอค่าไฟค่าน้ำให้อำเภอ  .22  1000  .38  1500  9 มม. 3000   ฯ   "  ผมก็ได้แต่ฮึๆๆๆ  ทำท่าต่อรองนิดหน่อย 
500 ไม่ได้หรือครับ 
ไม่ได้ค่ะ  นายท่านสั่งไว้เลย
เรื่องยังอยู่ในแฟ้มอยู่ยังไม่ได้เสนอท่านเซ็นเลย (ดูเหมือนจะแสดงวิธีการต่อรองกับผม  แต่ผมก็พลาดตรงที่วันไปยื่นเอกสาร หล่อนให้เซ็นแต่ชื่อในเอกสารไว้เข้าใจว่าเป็นใบ ป.1 และ  ไม่ได้ลงวันที่ สาวหน้าห้องคนี้ก็รีบเก็บเอกสารนั้นด้วยบอกว่าเดี๋ยวเขียนให้ ผมก็เข้าใจว่าหล่อนบริการดีน่าประทับใจ  คงไม่มีปัญหา  )

ถ้าผมอยากได้ปืนโครงการอีกซักกระบอก ขอเลยได้มั๊ย
ไม่มีปัญหาค่ะ   
ครับเดียวผมจะเข้าไป  ถ้าอย่างไรจะติดต่อผ่านคุณนี่แหละ 
ค่ะๆ  ขอบคุณค่ะ 

ดูเหมือนเสียงของหล่อนทางโทรศัพท์จะกระดี้กระด้าเป็นพิเศษ
ขออนุญาตนำเสนอและปรึกษาทุกท่านครับ เพราะก่อนหน้านี้ที่ไปติดต่อส่งเอกสารไว้ดูเหมือนมันจะปลอดโปร่งดีไม่มีเค้าฝนเป็นอุปสรรค แล้วทำไมกลับเป็นอย่างนี้  คือผมเองก็เป็นข้าราชการครู และเกลียดการทุจริต โกงกินเป็นชีวิตจิตใจ เพราะผมก็ต้องสอนเด็ก  ผมกำลังคิดว่าจะดัดหลังสาวน้อยหน้าห้องคนนี้ดีมั๊ย  คือพอดีผมมีเครื่องบันทึกเสียง  กะว่าจะนำไปด้วยแล้วชวนสนทนาใหม่อีกรอบ  แต่ผมจะไม่จ่ายนะครับ   แล้วก็จะร้องเรียน  หาทางให้เธอออกจากราชการกะซักหน่อยจะดีใหมครับ แล้วทำอย่างไรหลักฐานถึงจะแน่นหนา  แต่ผมก็กลัวว่าหลังจากนั้นผมจะไปขอ ป.3 ใหม่ลำบากอ่ะครับ เพราะกำลังเล็งว่าจะเอาปืนโครงการอีกกระบอก  เอางัยดีครับ

[shah_vip]

ที่บอกว่า แต่คำว่า"ดุลยพินิจ"ช่วยเค้าได้แน่    คือช่วยให้ติดคุกกระมังครับ
ใน พ.ศ.๒๕๒๒ มีคำพิพากษาฎีกา (ประชุมใหญ่)  วางหลักไว้ว่าการใช้ดุลพินิจ  จะต้องมีข้อกฎหมายเป็นเหตุผล จึงเป็นดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมาย
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๓๙ มีการออกกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง   กำหนดว่าคำสั่งทางปกครองจะต้องให้เหตุผลอย่างน้อย ๓ ข้อ   และหนึ่งในสาม  ก็คือข้อกฎหมาย
การออกคำสั่งทางปกครองของไทยจึงเป็นไปตามหลัก  "ไม่มีกฎหมาย  ไม่มีอำนาจ"  ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๙ เป็นต้นมา

ได้ยินคำว่า "ดุลยพินิจ" มาหลายครั้งแล้ว เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง
ขอบคุณครับ 

[jakrit97 - รักในหลวง -]

   แล้วก็จะร้องเรียน  หาทางให้เธอออกจากราชการกะซักหน่อยจะดีใหมครับ แล้วทำอย่างไรหลักฐานถึงจะแน่นหนา  แต่ผมก็กลัวว่าหลังจากนั้นผมจะไปขอ ป.3 ใหม่ลำบากอ่ะครับ เพราะกำลังเล็งว่าจะเอาปืนโครงการอีกกระบอก  เอางัยดีครับ

ขออนุญาตแสดงความเห็น ....

ครูต้องการอะไรครับ ปืน หรือจะเล่นงานหน้าห้องที่มาขอเงิน ....

ผมมองว่าครูต้องการปืนมากกว่าจะไปหาเรื่องใคร .....

๑. คราวนี้เอาใหม่ เขียน ป.๑ ไปให้ดี พร้อมสำเนา .... ตอนยื่นเรื่องก็ให้คนรับเรื่องเซ็นรับหนังสือในสำเนาด้วย ... เก็บไว้เป็นหลักฐาน

๒. สอบถามความคืบหน้าตามสมควร ผมไม่แน่ใจว่า งานทะเบียนอาวุธปืน ทางอำเภอของครูได้กำหนดระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการอย่างไร ... ถ้ากำหนด และประกาศให้เห็นชัดเจน ก็ต้องรอตามนั้น ... ถ้าไม่ ก็ต้องไปดูในกฏหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินอีก ว่าให้เวลาไว้อย่างไร (เรื่องกฏหมายผมไม่ถนัด จำมาคร่าว ๆ)

๓. เมื่อไม่อนุญาต ก็ให้อำเภอทำหนังสือไม่อนุญาตมาด้วย เพราะจะไปอุทรณ์ตามขั้นตอนของกฏหมาย .... (ไม่ได้จะแกล้งใคร ไม่ว่าจะหน้าห้อง หรือนายอำเภอ)

๔. ถ้าอุทรณ์แล้วไม่ได้ผล ก็เสร็จสิ้นกระบวนการที่กำหนดในกฏหมายปืน ... ก็จะใช้กระบวนการของศาลปกครองได้ครับ

คุณครูลองค้นหากระทู้ของพี่ธำรง ในบอร์ดเรานี่ละ ... เขียนไว้ละเอียดกว่าที่ผมจำมาครับ

จำได้ว่ามีสมาชิกท่านหนึ่งขอทีเดียวสองกระบอก (คนละขนาด) แรก ๆ นายอำเภอทำใจหิน ไม่ให้เลย แต่พอขอหนังสือปฏิเสธ ก็กลับลำ ให้ ๑ ไม่ให้ ๑ ... จำได้ว่าสมาชิกท่านนี้กำลังอุทรณ์อยู่ .... และถ้าจำไม่ผิด อาจจะกำลังขอ .45 อีกใบ .... ขออภัยที่จำชื่อสมาชิกไม่ได้ครับ

[Major]

  รบกวนสมาชิกทุกท่านช่วยแนะนำด้วยครับ  เมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้วผมได้ไปยื่นเรื่องขอ ป.3 ไว้    ผ่านไปประมาณ 1 เดือนปลัดคนเก่าก็ย้ายไป    ผมโทรศัพท์ไปสอบถามเจอปลัดคนใหม่แจ้งว่าเรื่องยังไม่ผ่านเพราะเพิ่งเข้ามารับงานใหม่    สอบถามชื่อและประกอบอาชีพอะไรผมก็แจ้งไป     ผ่านไปประมาณอีก 1เดือนลองโทรไปเช็คดู    ปลัดก็ถามชื่อ แล้วก็อาชีพอะไร    แล้วก็ถามผมว่าได้เสนอเรื่องเงินกับปลัดคนเก่าบ้างหรือไม่    ผมก็ตอบไปว่าไม่ได้เสนอท่านก็เปรยออกมาว่า...แล้วอย่างนี้จะผ่านหรือ     ผมออกอาการมึนชั่วขณะแต่ก็เฉย      วันเวลาผ่านไปลองโทรไปเช็คดูใหม่ว่าผ่านหรือไม่     ก็ได้รับคำตอบว่าขนาดที่ผมขอ .357  ไม่อณุญาติ     ผมก็อธิบายว่าปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ใช้ในการแข่งขัน (ลำกล้อง 6" ลำแต่ง )     ท่านก็บอกว่าต้องมาคุยกัน (ก็คงเรื่องกระดาษสีสวย ๆ )     ของเดิมผมมี 9 มม  1กระบอก     .357  1 กระบอก    ของเดิมคนละอำเภอ ( ทั้ง2 กระบอกจ่ายทั้งคู่ )     กระบอกนี้ตั้งใจว่าจะไม่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทุจริตจึงไม่เสนอเรื่องเงิน (เลยปวดหัว )     เหตุว่า มีการรณณรงค์กันใน WEB ให้งดการสนับสนุนการทุจริต   ก็เลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิกว่าควรจะร้องเรียนดีหรือไม่   WWW.OMBUDSMAN.GO.TH   ร้องเรียนข้าราชการโทร  1676     หรือว่าตัดสินใจจ่ายซะดีๆๆๆๆๆ
หรือหากมีข้อแนะนำก็ได้โปรดช่วยแนะด้วย     เชื่อว่าคงมีหลายท่านที่ติดปัญหาแบบเดียวกัน    คุณสมบัติในการขอคิดว่าน่าจะผ่าน
เอกสารมี่ยื่นขอ          1) สำเนาบัตรประชาชน
                               2) สำเนาทะเบียนบ้าน  
                               3) สำนำเดินบัญชีธนาคาร
                               4) สำเนาโฉนดที่ดิน  1  แปลง
                               5) สำเนาทะเบียนรถ  2  คัน
                               6) สำเนาวุฒิบัตรผ่านการอบรมยิงปืนชั้นต้น   ผลการสอบ 100%
                               7) สำเนาวุฒิบัตรผ่านการอบรมยิงปืนขั้นสูง   ผลการสอบ  100%
                               หนังสือรับรองจากสนามยิงปืน
                               9) วัตถุประสงค์   เพื่อการกีฬา ( กีฬาจริงๆเพราะเป็นปืนแต่งลำกล้อง )
      ป.ล.  ประวัติ ผ่านการเกณท์ทหารแล้ว   ไม่เคยต้องคดีมาก่อน (ถูกจับเพราะหนีโรงเรียน 1 ครั้ง   ไม่รู้นับด้วยหรือเปล่า )

คงจะเพราะตรงนี้กระมังครับถึง ไม่ผ่าน เกณฑ์ใหม่หรือเปล่าเนี่ย 

[baby_CZ]

ขออนุญาตแสดงความเห็น ....

ครูต้องการอะไรครับ ปืน หรือจะเล่นงานหน้าห้องที่มาขอเงิน ....

ผมมองว่าครูต้องการปืนมากกว่าจะไปหาเรื่องใคร .....

ขอบคุณในความเห็นของท่าน jakrit มากครับ  จริงๆแล้วผมต้องการปืน   และมองไปถึงกระบอกถัดไปด้วย (คงปลายปีโน่นแหล่ะ) แต่ขณะเดียวกันก็อยากหาความถูกต้องและเป็นธรรมให้แก่สังคมบ้าง   ผมเองก็กลับมาคิดอยู่เหมือนกันครับ ว่าเป็นที่นายเขาสั่งจริงๆ (ใบ ป.3 ยังไม่ผ่าน)   หรือ เป็นแค่ที่หน้าห้องนาย  อยากได้เงินเองเท่านั้น (ใบ ป.3 อาจผ่านแล้วแต่กั๊กไว้)   เพราะถ้าเป็นที่ตัวนายเขาจริงๆ  หน้าห้องนายก็คงต้องว่าตามนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เดี๋ยวไม่รุ่ง เพราะดูแล้วเป็นปลัดใหม่ๆ   อือ  ถ้าทำไปก็อาจทำบาปเพราะเล่นผิดตัว  ตัวใหญ่ยังลอยนวล  ลิ่วล้อเละ   แต่ก็อาจเป็นแค่ลิ่วล้อเองได้เหมือนกัน ตัวใหญ่บริสุทธิ (กะจะอัด VDO ตอนสนทนาเลยนะเนี่ย  แล้วลุยเข้าไปต่อที่ห้องนาย) เอางัยดีล่ะคราวนี้ เปิดศึกตอนนี้ กระบอกถัดไปก็อาจจะชวดป.3 เพราะกำลังสั่งของโครงการฯ    น่าคิด ๆ  โรงเรียนก็อยู่คนละฝั่งถนน  คงยังเห็นหน้ากันและกันอีกนาน และยังต้องอาศัยกัน  แต่เขาก็ควรจะคิดอย่างผมบ้างนะ   มึน!!! 

[jakrit97 - รักในหลวง -]

ก็เพราะสังคมในอำเภอมันไม่ได้กว้างใหญ่มากนักนี่ครับ .... ผมต่อให้ครูอัดวิดีโอได้ ร้องต่อผู้บังคับบัญชาได้ หรือแจ้งตำรวจได้ ก็อาจะมีญาติ ๆ เรา หรือ ผอ. รร. มาขอให้ลืม ๆ ไปเสีย .... 

ตอนมาขอร้องก็คงประเคน ป.๓ ให้ถึงบ้าน แต่หลังจากนั้น ตอนครูขอกระบอกถัดไป ก็คงได้ฟังอัตราบำรุงอำเภออยู่เหมือนเดิม

แต่ถ้าครูยังหนักแน่นในวัตถุประสงค์ที่แท้จริง (คือจะเอาปืน และไม่ต้องการจ่ายใต้โต๊ะ) อย่างมากก็ยืดเยื้อกันแค่ครั้งเดียว (จอมยุทธไม่ต่อยตี ไม่ได้รู้จัก) ... หลังจากนั้น เมื่อรู้นิสัยกันแล้ว หน้าห้องก็จะไม่มาเสนออัตราบำรุงอำเภออีก ... และนายอำเภอ (คนเดิม) ก็คงใช้วิจารณญาณได้ตรงตามเจตนารมย์ของกฏหมายมากขึ้น ....

เราไม่ได้จะทะเลาะกับใครครับ แค่อยากทำให้ถูกกฏหมายก็เท่านั้น 

บางท่านอาจจะชอบที่จะใช้เงิน เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบาย แต่ขอให้คิดนิดครับว่า .... การจ่ายเพื่อไม่ต้องทำตามกฏหมาย นั้นมันไม่เหมือนกับการจ่ายเพื่อทำตามกฏหมายครับ 

ปล. สำหรับปืนสวัสดิการ ถ้าครูมีสิทธิ์เข้าร่วม และได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมได้ ... ผมว่าจะขอ ป.๓ ง่ายกว่านี้อีกครับ อย่ากังวล