*** หุ้ น 2 5 5 7 ***

[A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง]

 
ครับ
ลุกไฮดร้าช็อค 230เกรน ไม่มี +มาแล้วนะครับ
20นัด 2300 บาทครับ
 

[carrera]

KTB ห้ามหลุด 17.30 ครับ... ส่วน SCB หลุด 104.50 แล้ว, หากไม่กลับขึ้นไปยืนให้ติด จะอาการไม่ดีครับ...

CPF ห้ามหลุด 24.00 ครับ... Set ชนแนวต้าน 1026 ไม่ทะลุ, อาการไม่เข้าทีนักครับ...

เสียวๆทั้งนั้น สงสัย มันจะไปปี๊ดกันวันศุกร์หรือเปล่าครับเนี่ย เขย่าก่อน

[carrera]

ครับ
ลุกไฮดร้าช็อค 230เกรน ไม่มี +มาแล้วนะครับ
20นัด 2300 บาทครับ
 

นัดละ 115 วันๆ ผมยิงแต่นัดละ 10กว่าบาท

[naisomchai]

IVL นี่มันเยี่ยมมากเลย... หากมันยืนได้สักสองวันไม่หล่น แล้วเกิด New High สั้นๆ, นายสมชายจะตามน้ำใหม่...

มีเห็นอีกตัวนึงครับ PTTCH ใครชอบเล่นเด้งน่าเข้า...

[A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง]

ครับ
ลุกไฮดร้าช็อค 230เกรน ไม่มี +มาแล้วนะครับ
20นัด 2300 บาทครับ
 

นัดละ 115 วันๆ ผมยิงแต่นัดละ 10กว่าบาท

ครับ
น่าอิจฉาท่านคาร์จัง
ยิงของถูก คุณภาพคับแก้ว
แบ่งผมสัก 10 กล่องได้มั้ยครับ

[A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง]

IVL นี่มันเยี่ยมมากเลย... หากมันยืนได้สักสองวันไม่หล่น แล้วเกิด New High สั้นๆ, นายสมชายจะตามน้ำใหม่...

มีเห็นอีกตัวนึงครับ PTTCH ใครชอบเล่นเด้งน่าเข้า...

ครับ
ตัวนี้ผมไม่เคยดูเลยครับ
สงสัยต้องมองๆบ้างเผื่อจะเป็นทางเลือกอีกตัว
ขอบคุณครับ

[A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง]

 
ครับ
ต้องปิดคอมแล้วครับ
ถึงเวลาต้องไปรับลูกแล้ว
ขอให้เพื่อนสมาชิกมีกำไรครับ
 

[naisomchai]

PTL นี่สุดยอดแย่เสียจริงเชียว...

ถ้ามันหลุด 21.90 เมื่อไหร่จะมีคนบ่นที่ห้องสินธรอีกประมาณล้านกระทู้เศษๆ, เพราะมันจะร่วงไปชน 21.60 ในเวลาไม่เกิน 30 นาที... จากนั้นก็ลงเหวแบบหาก้นไม่เจอเลยครับ...

ตอนนี้ชักสงสัยแล้วว่าเจ้าของจะกลับมาช้อนซื้อหุ้นคืนเมื่อไหร่ดีหนอ... เพราะหากเจ้าของเริ่มขายทิ้งที่ยอดดอย(ตามที่คาดการณ์) กำไรมันจะแยะเสียจนไม่ต้องรันบริษัทแล้วครับ, ขายหุ้นทิ้งแล้วเอาเงินไปตั้งบริษัทใหม่ดีกว่า... ฮา...

[carrera]

ครับ
น่าอิจฉาท่านคาร์จัง
ยิงของถูก คุณภาพคับแก้ว
แบ่งผมสัก 10 กล่องได้มั้ยครับ

เรื่องนี้เดี๋ยวหลังไมค์นะครับ

[carrera]

เพราะหากเจ้าของเริ่มขายทิ้งที่ยอดดอย(ตามที่คาดการณ์) กำไรมันจะแยะเสียจนไม่ต้องรันบริษัทแล้วครับ, ขายหุ้นทิ้งแล้วเอาเงินไปตั้งบริษัทใหม่ดีกว่า... ฮา...

ธรรมาพภิบาล ไม่มีพอเปิดบริษัทใหม่ ก็ปั่นได้อีก คนก็เชื่อมันอีก สุดยอดแย่จริง

[เบิ้ม]

3วันแระ หุ้นผมยังไม่ไปไหนเลย     

[เบิ้ม]

เอาบทความดีๆมาฝากครับ 

ลูลา ดา ซิลวา" ต้นแบบเศรษฐกิจรากหญ้า ในมุมมอง "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์"

หลากประเด็นที่ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีต รองนายกรัฐมนตรี, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง และรองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิสัมมาชีพ พูดผ่านบนเวทีสัมมนาผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่น 2 ที่จัดขึ้นระหว่างมูลนิธิสัมมาชีพ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และมติชน อคาเดมี เมื่อไม่กี่วันผ่านมา

นอกจากจะเชื่อมโยงถึงภาวะผู้นำการเมืองในปัจจุบัน ของไทย หากยังเชื่อมโยงถึงภาวะผู้นำของหลายประเทศที่ "ดร.สมคิด" มีโอกาสเดินทางไปในวาระต่าง ๆ รวมถึงอ่านหนังสือเกี่ยวกับกระบวนการสร้างประเทศของผู้นำเหล่านั้น

"ดร.สมคิด" ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ประเทศจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะผู้นำประเทศของเขาผ่องถ่ายให้ผู้นำรุ่นใหม่ มีโอกาสเข้ามาบริหาร ซึ่งผู้นำเหล่านั้นอายุไม่ถึง 50 ปี

ดังนั้นเขาจึงมีความคิด ความฝันที่ต้องการจะสร้างประเทศในแบบฉบับของเขา ที่ไม่เพียงจะมุ่งเน้นเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ หากยังมุ่งเน้นที่จะเติบโตทางกายภาพทุกภาคส่วนด้วย

เช่นเดียวกับหลายประเทศในสแกนดิเนเวีย "ดร.สมคิด" บอกว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา หลายประเทศจากกลุ่มนี้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ หนี้สินรุงรัง แต่เมื่อผู้นำของประเทศจับจุดได้ว่า การจะสร้างประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน จะต้องมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา และพัฒนานวัตกรรม

ตัวอย่างนี้มีให้เห็นในประเทศนอร์เวย์, สวีเดน และฟินแลนด์

ซึ่งเหมือนกับประเทศสิงคโปร์ ที่มีอาณาเขตติดกับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสิงคโปร์แทบจะไม่มีความโดดเด่นเลย แต่เมื่อลี กวน ยู เข้ามาบริหาร รูปโฉมของประเทศจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งมาในสมัยของโก๊ะ จ๊ก ตง ยิ่งเห็นเด่นชัดมาก เพราะโก๊ะ จ๊ก ตง ไม่เพียงมุ่งเน้นเรื่องการศึกษาของประเทศ เขายังให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการในรูปแบบใหม่

ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นเรื่องการสร้างคน

เขายังมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด

จนถึงสมัยของรัฐบาลปัจจุบันที่ยังสานต่อนโยบายเดิม โดยรูปธรรมที่เห็นเด่นชัดคือการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนคงทราบดีว่าสิงคโปร์เป็นเกาะเล็ก ๆ แทบไม่มีน้ำจืดดื่ม แต่ตอนนี้เขาสามารถพัฒนาเทคโนโลยี จนสามารถพัฒนานวัตกรรมการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด

อีกรูปธรรมหนึ่งคือการท่องเที่ยว เพราะหลังจากที่เขาพัฒนาพื้นที่บริเวณ Marina Bay, ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมอร์ไลออน (Merlion), อาคารโรงละคร Esplanade ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

[เบิ้ม]

โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำ บริเวณพื้นที่ริมน้ำ อันได้แก่ Clarke Quay, Boat Quay, ย่านไชน่าทาวน์ (China Town), ย่าน Little India หรือย่านช็อปปิ้ง บนถนน Orchard จึงทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของอาเซียนภายใน 2 ปี

"ดร.สมคิด" บอกว่า การที่ประเทศสิงคโปร์เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นเพราะผู้นำของประเทศวางยุทธศาสตร์เรื่องการศึกษาเป็นหลัก มีงบประมาณให้นักวิจัยไปพัฒนานวัตกรรมทุกรูปแบบ ทั้งยังได้เชิญโนเบล ไพรซ์, นักวิจัยระดับโลกมาสอนยังมหาวิทยาลัยลีกวนยู เพื่อให้นักศึกษาเกิดกระบวนการในการพัฒนาทางความคิด และนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง

นอกจากนั้น "ดร.สมคิด" ยังขยายมุมมองของผู้นำสิงคโปร์ ที่ไม่เพียงเป็นผู้ยืนอยู่ข้างหลังในการผลักดันชาติต่าง ๆ ของอาเซียนให้มารวมตัวกัน เพราะจะได้เป็นประเทศที่โดดเด่นในอาเซียนทันที

หากผู้นำสิงคโปร์ยังเริ่มเข้าไปมีบทบาทในเขตเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงประเทศเกาหลีใต้ ที่ปัจจุบันพัฒนาการศึกษาไปไกลมาก รวมทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ วัฒนธรรมการท่องเที่ยว จนทุกวันนี้เกาหลีใต้เริ่มเป็นผู้ให้ในกลุ่ม G-20 แล้ว

พร้อมกันนั้น "ดร.สมคิด" ยังมองเปรียบเทียบกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยมองสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หนี้สินเยอะมาก เฉพาะหนี้ต่อจีดีพีสูงถึง 99% งบประมาณขาดดุลต่อเนื่อง สกุลเงินดอลลาร์ไม่มีความหมาย

ดังนั้นทางเดียวที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาหลุดพ้นจากปัญหา ที่รุมเร้าคือต้องเปลี่ยนแปลงบริบทในการแข่งขันเสียใหม่ หาไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นประเทศที่มีปัญหาไม่รู้จบ

เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น ที่ "ดร.สมคิด" มองว่า ที่ผ่านมาญี่ปุ่นอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ เพราะประเทศเขาลงทุนเรื่อง นวัตกรรมในหลายมิติ แต่หลังจากที่การเมืองไม่นิ่ง ผู้นำ ประเทศเปลี่ยนบ่อยเหมือนเปลี่ยนผ้าอ้อม จึงทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักงัน

"ดร.สมคิด" จึงมองว่า ถ้าจะเปรียบเทียบภาพให้ชัดระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่กล่าวมา เขายกตัวอย่างประเทศบราซิล ยิ่งเฉพาะในสมัยของ "ลูลา ดา ซิลวา" เป็นประธานาธิบดีในช่วงปี 2002-2010

ตอนที่ "ลูลา ดา ซิลวา" รับตำแหน่งประธานาธิบดี ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปวดหัวมาก เพราะเขาเป็นผู้นำแรงงานมาก่อน ไม่ใช่นักเรียนนอก และตอนนั้นบราซิลประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก กลัวว่า "ลูลา ดา ซิลวา" จะบริหารประเทศไม่รอด

"ลูลา ดา ซิลวา" จึงประกาศนโยบาย Fome Zero ภาษาโปรตุเกส (แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Zero Starvation หรือหยุดความหิวโหย) มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความอดอยาก และความยากจน

นโยบายนี้เริ่มขึ้นในปี 2003 ประกอบด้วยนโยบายย่อย ๆ หลายอย่าง เช่น มอบเงินให้แก่ครอบครัวที่ยากจนที่สุด, การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ, แก้ปัญหาตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่น และปัญหาด้านการเกษตร

โดยเฉพาะปัญหาการเกษตร เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกของบราซิลปลูกกาแฟเป็นหลัก และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ดินมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง "ลูลา ดา ซิลวา" จึงจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาวิจัยและพัฒนา ที่สุดจึงพบว่าใช้ปูนขาวในการกำจัดกรดในดินน่าจะดี

จนดินสามารถปลูกพืชผลทางการเกษตรได้หลายอย่าง ขณะเดียวกันเขาก็ให้หน่วยงานนี้ไปนำหญ้าจากแอฟริกามาปลูกเพื่อทดลองเลี้ยงวัว ที่สุดบราซิลสามารถส่งออกเนื้อวัว ไปประเทศต่าง ๆ จนแซงหน้าสหรัฐอเมริกา

ไม่เท่านั้น เขายังให้หน่วยงานนี้ทดลองปลูกถั่วเหลืองและพืชผลต่าง ๆ อาทิ ผัก ผลไม้ ฝ้าย และข้าวโพด จนทำให้รัฐบาลของเขาสามารถแก้ปัญหาความยากจน

ทั้งยังใช้หนี้ IMF ก่อนกำหนดด้วย

ที่สำคัญ "ลูลา ดา ซิลวา" ยังถูกจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ในปี 2010 ด้วย

ตรงนี้คือตัวอย่างของภาวะผู้นำ

ผู้นำที่นำการเปลี่ยนแปลง

แต่สำหรับผู้นำของประเทศไทย "ดร.สมคิด" ไม่ขอตอบ แต่ขอสรุปคำพูดของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ท่านหนึ่งที่บอกว่า...ผมใช้ชีวิตเกือบตายมา 5 ครั้ง จำคุกมาตลอดชีวิต

"แต่มีคนพูดว่าคนที่ประพฤติดี รู้จักทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง แม้ช่วงมีชีวิตอยู่อาจไม่ได้รับชัยชนะ แต่ประวัติศาสตร์จะบันทึกคนนั้นเป็นผู้ชนะเสมอไป แต่ในทางกลับกัน หากเขา ผู้นั้นไม่ทำประโยชน์เพื่อสังคมเลย หรือประพฤติไม่ดีไม่งาม"

สุดท้ายประวัติศาสตร์จะจารึกผู้นั้นคือผู้แพ้แน่นอน

ไม่รู้ว่า "ดร.สมคิด" หมายถึงใคร

แต่ที่แน่ ๆ "ดร.สมคิด" คือผู้นำการเปลี่ยนแปลงคนหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว ?

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1299668259&grpid=02&catid=&subcatid=

[carrera]

แต่เมื่อผู้นำของประเทศจับจุดได้ว่า การจะสร้างประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน จะต้องมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา และพัฒนานวัตกรรม

จุดของประเทศเราคือ มีคอรัปชั่นมากเกินไป กฎหมายเอาผิดกับผู้กระทำความผิดไม่ได้

ถ้าแก้ได้ ไม่ต้องพูดถึง อเมริกา ญี่ปุ่น จีน มหาอำนาจทั้งหลาย เราไม่มีกลัวอยู่แล้ว

[carrera]

เดี๋ยวนี้วันๆมีแต่คนไม่สนใจ จะประท้วงกันอย่างเดียว ไม่มีใครฟังใคร  ถ้าแข็งได้เหมือนจีน เราก็พัฒนาไปไกลเหมือนกัน

ไม่ใช่ใครเข้ามาก็กอบโกยกันเต็มที่แล้วก็เหลือแต่ซากให้ประชาชน