kaew28
Sr. Member
  
คะแนน 9
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 760
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 08:23:13 AM » |
|
ถามเพิ่มเติมครับ ในกรณีนี้ถ้าเป็น Glock เนี๊ยะจะบูรณะได้ไหมครับ และดีเหมือนเดิมหรือป่าว? เพราะมันเป็นพลาสติกอ่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ฟ้าจะครึ้ม ฝนจะพราว ................................................
|
|
|
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
   
คะแนน 741
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 14573
นายใหม่ รักหมู่
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 09:06:13 AM » |
|
ถามเพิ่มเติมครับ ในกรณีนี้ถ้าเป็น Glock เนี๊ยะจะบูรณะได้ไหมครับ และดีเหมือนเดิมหรือป่าว? เพราะมันเป็นพลาสติกอ่ะ   ในบ้านเราหมดสิทธิ์ครับ นอกจากจะหล่อโพลิเมอร์ขึ้นใหม่ได้ จะสั่งโครงมาจากนอก ก็ต้องเสียโควต้าเท่ากับปืน 1 กระบอก 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทพอสูรสองร่าง:รักในหลวง
HECKLER & KOCH P2000 V4
ชาว อวป.
Sr. Member
  
คะแนน 7
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 799
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 09:16:51 AM » |
|
ถามเพิ่มเติมครับ ในกรณีนี้ถ้าเป็น Glock เนี๊ยะจะบูรณะได้ไหมครับ และดีเหมือนเดิมหรือป่าว? เพราะมันเป็นพลาสติกอ่ะ   ในบ้านเราหมดสิทธิ์ครับ นอกจากจะหล่อโพลิเมอร์ขึ้นใหม่ได้ จะสั่งโครงมาจากนอก ก็ต้องเสียโควต้าเท่ากับปืน 1 กระบอก  ถามต่อในกรณีแบบนี้ ที่กล็อกระบุว่าปืนของเขาสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เงินทองใช้ไม่ทันแก่ก็หมด แต่เพื่อนซิครับแก่แล้วยังมานั่งเล่าความหลังให้กันฟัง .....HECKLER & KOCH P2000 V4....
|
|
|
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
   
คะแนน 741
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 14573
นายใหม่ รักหมู่
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 09:24:59 AM » |
|
ถามต่อในกรณีแบบนี้ ที่กล็อกระบุว่าปืนของเขาสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ
 ไฟที่ไหม้อยู่ ร้อนเกิน 200 องศา ไปเยอะเลยนะ ว่าแต่อยากได้กล๊อกมาลองเหมือนกันแฮะ ใครจะเสียสละบ้าง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หนึ่ง_รักในหลวงมากครับ
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทย
Hero Member
   
คะแนน 59
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1357
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 09:49:37 AM » |
|
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ถ้าไหม้ไม่นานก็คงไม่น่าจะมีปัญหานะครับ แต่ถ้าซัก ๒๐ นาที ผมก็ว่านานแล้วนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผมดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็ยังเป็นไทย บรรพบุรุษของเราแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้ยเหย้า เสียเลือด เสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
|
|
|
sorhjate
ชาว อวป.
Full Member
  
คะแนน 12
ออฟไลน์
กระทู้: 366
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 09:58:00 AM » |
|
ขอแสดงความเสียใจ ด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
   
คะแนน 586
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8574
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 10:44:50 AM » |
|
สำหรับ 1911 เปลี่ยน ชุดลั่นไก - สปริง ถ้ากังวลเรื่องความแข็งของผิวเหล็ก ก็เอาไปฮาร์ดโครม ครับ
เคยเห็น ที่ถูกไฟใหม้มาเหมือนกันครับ แต่ โครง 1911 แข็งแรงกว่าที่คิดไว้เยอะ อย่าขายเลยครับเดี๋ยวจะเสียดายภายหลัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....ตามล่า...อีตอแหล
|
|
|
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 987
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16169
,=,"--- X Santiago... !!
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 10:49:58 AM » |
|
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  ถ้าเราทำประกันไว้ ราคาประเมินจะทำยังไง ราคาของใหม่ขึ้นทุกวัน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Thou shalt have guns. Thou shalt have tons of ammo. Thou shalt shoot well. Thou shalt not rely on help from the stranger.
|
|
|
plo-รักในหลวง
Sr. Member
  
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 782
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 01:49:28 PM » |
|
โดยปกติแล้ว ไม่ว่าเหล็กทำปืน ทำมีด ถ้าโดนความร้อนสูง แล้วปล่อยให้เย็นลงช้าๆ ค่าความแข็งของเหล็กจะลดลงครับ
เมื่อปืนโดนไฟไหม้ สิ่งที่ไปแน่นอนคือ สปริงต่างๆของปืน ต้องเปลี่ยนใหม่หมด ส่วนอุปกรณ์อื่นๆคงจะต้องตรวจสอบครับ แต่ความแน่นของปืนในส่วนต่างๆอย่างเช่น โครงปืนกับสไลด์คงไม่ดีเท่าเดิม
เรื่องความแข็งของโลหะ โดยเฉพาะลำกล้องปืน ถ้าความแข็งไม่เพียงพอ ลำกล้องปืนจะสีกเร็วมาก แต่ก็ไม่น่ากลัวเท่ากับลำกล้องแข็งเกินไป ถ้าลำกล้องแข็งเกินไป เวลายิงรังเพลิงมีโอกาสระเบิดได้ เพราะเหล็กที่แข็งจัดจะมีความเปราะสูง
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
......กรณีของเหล็กทำปืนโดยทั่วไป จะใช้เบอร์ 4140 กับ 4130 ซึ่งจะอบชุบให้แข็งประมาณ 30-35 ร็อก c ถ้าพวก นกสับ,เซียร์ จะอบชุบให้แข็งประมาณ 50-60 ร็อกเวล c โลหะสองเบอร์นี้ส่วนผสมใกล้เคียงกัน ถ้าถูกเผาแล้วปล่อยให้ เย็นตัวในบรรยากาศปรกติ จะทำให้แข็งกว่าเดิม(กรณี อบชุบที่30-35)เพราะมี %คาร์บอนผสมอยู่สูง ยิ่งเหล็กเย็นตัวเร็วมากเท่าไหร่ ยิ่งแข็งกว่าเดิมครับ(ส่วน นกสับ,เซียร์ นิ่มลงครับ) ..การแก้ปัญหาต้องแยก ชนิดของการอบชุบของเหล็กแต่ละตัวครับ... ..พวกอบชุบ 30-35 นำไปอบคลายความแข็ง..  ...พวกอบชุบ 50-60 นำไปชุบแข็งไหม่ครับ  ......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pongsak
Sr. Member
  
คะแนน 2
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 576
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2005, 10:00:24 PM » |
|
เจ้าของปืนฝากขอบคุณทุก ๆท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ตอนนี้แกตัดสินใจแล้วว่าจะนำไปซ่อม แต่คงจะไม่ใช้ยิงมาก ๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Quart
Sr. Member
  
คะแนน 9
ออฟไลน์
กระทู้: 611
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2005, 12:49:41 PM » |
|
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
   
คะแนน 48
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3569
ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2005, 01:06:09 PM » |
|
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  หากซ่อมแซมจนใช้การได้ดีเหมือนเดิมแล้ว และคิดจะขาย ควรบอกให้ผู้ที่จะซื้อทราบไว้ด้วยนะครับ ป้องกันการใช้งานหนักเกินไปแล้วมีปัญหาตามมา ถามต่อในกรณีแบบนี้ ที่กล็อกระบุว่าปืนของเขาสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ
 ไฟที่ไหม้อยู่ ร้อนเกิน 200 องศา ไปเยอะเลยนะ ว่าแต่อยากได้กล๊อกมาลองเหมือนกันแฮะ ใครจะเสียสละบ้าง  เอา SP-01 ของนายใหม่มาทดสอบพร้อมๆกันด้วยนะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ 
|
|
|
โจ
Hero Member
   
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1368
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 12:47:12 AM » |
|
เหล็ก SAE4140 จัดอยู่ในกลุ่ม Molybearing Chromium Steel ซึ่งจะมี Carbon อยู่ประมาณ .38-.43%, Chromium .80-1.10%, Manganese .75-1.00%, Molybdenum .15-.25%, Phosphorus .040%, Sulfur .040%, Silicon .20-.35% ซึ่ง SAE4140 จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Oil Quenched หรือ เหล็กที่จุ่มในน้ำมันขณะที่ร้อนจัดเพื่อให้ได้ความแข็งที่ต้องการ ซึ่งค่า Tensile Strength ปกติของเหล็กชนิดนี้จะอยู่ที่ 98,000 psi Hardening ถ้าการจุ่มในน้ำมันถูกต้อง และ อุณหภูมิที่ใช้เหมาะสม เหล็กจะมี Tensile Strengthถึง 180,000 psi (ประมาณ 38 Rockwell C) แต่ถ้าเหล็กมีความแข็งอยู่ประมาณ 20 Rockwell C ค่าTensile Strength จะอยู่ที่ 110,000 psi อุณหภูมิที่ใช้ในการ Hardening หรือการชุบแข็ง จะขึ้นอยู่กับจำนวนของCarbonในเหล็ก ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 1,310 F ถึง 1,550 F
Tempering การลดค่าความแข็งของเหล็กที่ผ่านการชุบแข็ง หรือเพิ่มความแข็งให้เหล็กปกติ โดยใช้อุณหภูมิที่ต้องการเป็นตัวกำหนดและทำให้เย็นลงโดยเร็วด้วยการจุ่มในน้ำมัน หรือ ตัวกลางอื่นๆ (ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวที่ใช้จะน้อยกว่า การทำ Hardening) อุณหภูมิที่ใช้จะอยู่ระหว่าง 205 C ถึง 595 C (400 F ถึง 1100 F) จุดประสงค์ในการทำเพื่อลดค่าความเปราะของเหล็กรวมทั้งการลดความเครียด(Stress)ภายในของเหล็กด้วย อย่างเช่น เหล็กแหนบสปริงจำเป็นต้องทำTemperingด้วย
Stress Relieving จะเป็นขั้นตอนในการลดความเครียดภายในของเหล็ก (Internal Stress) ขั้นตอนในการทำจะใช้วิธีอบเหล็กในอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับเหล็กชนิดนั้นๆ ความเครียดภายในของเหล็ก(Internal Stress)เกิดจากการกลึงหรือการขึ้นรูปเย็นของชิ้นงาน รวมทั้งการชุบแข็งของเหล็กด้วย อย่างเช่นการทำเกลียวลำกล้องแบบการกระแทก ลำกล้องจำเป็นต้องทำ Stress Relieving
Softening การลดค่าความแข็งของเหล็กให้ต่ำลง ซึ่งขั้นตอนจะเรียกว่า Annealling ขั้นตอนดังกล่าวนี้จะใช้วิธีการอบในเตาอบในอุณหภูมิที่สูงและปล่อยในเย็นลงอย่างช้าๆในเตาอบ การทำเช่นนี้จะทำให้เหล็กอ่อนลง
Normalizing การทำให้เหล็กคืนสู่สภาวะปกติ โดยขั้นตอนในการทำจะอบเหล็กในเตาอบในอุณหภูมิที่สูงกว่าการชุบแข็งประมาณ 100 F และปล่อยให้เย็นลงในอุณหภูมิที่ปกติ (Room Temperature) ขั้นตอนนี้จะไม่สามารถใช้กับเหล็กที่อยู่ในกลุ่ม Tool steel หรือ Air Hardening steel ได้ จุดประสงค์ในการทำ Normalizing คือการเพิ่มค่าความเหนียวให้กับเหล็ก รวมทั้งการเตรียมเหล็กก่อนการกลึง หรือการทำ Heat Treatment
ต่อมาเรื่องปืนถูกไฟไหม้ ในเรื่องนี้มีหลายปัจจัยที่ยังไม่สามารถทราบได้ อย่างเช่นอุณหภูมิสูงสุดของการไหม้ที่ปืนได้รับ ระยะเวลาของการอยู่ในอุณหภูมิที่สูง และระยะเวลาของการลดอุณหภูมิของเหล็ก ดังนั้นคงยากที่จะคาดเดาได้ แต่อย่างไรก็ตามโอกาสของการเปลี่ยนแปลงค่าความแข็งของเหล็กก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้น แต่เรื่องแข็งขึ้นหรืออ่อนลงจะต้องดูปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาในข้างต้น
ปล. เหล็ก SAE 4140 ไม่สามารถแข็งขึ้นได้ในอุณหภูมิปกติครับ (Room Temperature) เพราะเหล็กที่จะแข็งขึ้นได้ในอุณหภูมิห้องปกติจะต้องมีเป็นเหล็กที่อยู่ในกลุ่ม Air Hardening Steel หรือ Tool Steel ซึ่งเหล็กจำพวกนี้จะมีค่า Carbon สูงกว่า .6% ขึ้นไป ยกเว้นการแข็งขึ้นของเหล็กอันเนื่องมาจากขั้นตอนการ Tempering ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
   
คะแนน 741
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 14573
นายใหม่ รักหมู่
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 04:42:29 AM » |
|
 ข้อมูลแน่นเลยคุณโจ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
plo-รักในหลวง
Sr. Member
  
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 782
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 01:49:07 PM » |
|
เหล็ก เบอร์ 4140 ค่าความแข็งสำเร็จรูปที่ผู้ผลิต ส่งมอบให้ลูกค้าอยู่ที่ 25-35 ร็อกเวล c (แต่ที่ผมทำส่งมอบที่ 30-35 อ่ะ  ) ที่ผมว่ามันน่าจะแข็งขึ้น เพราะ เคยเผาเหล็ก 4140ที่แข็ง 38 ร็อกเวล c ให้นิ่มลงใช้ อุณหภูมิ 400-700 แล้วลองปล่อยให้เย็นตัวในบรรยากาศปกติ จากนั้นเอามาเข้าเครืองทดสอบความแข็งดู ดันแข็งขึ้นไป เป็น 42 เฉยเลย  ลองทำกับเหล็กชิ้นอื่น(เบอร์เดียวกัน) ก็เป็นเหมือนกัน (ปัจจุบันนี้ลาออกจากโรงงานแล้วครับ ....กลัวปอดพัง...)ก็เลยเอาประสบการณ์มาวิเคราะห์ ตำราเกี่ยวกับโลหะวิทย์ หลายครั้งไม่ตรงที่ผมเจอมา มันบอกเราไม่หมดหรอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|