

จาก นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 พฤศจิกายน 2550
พิสูจน์ชีวิต ปรมาจารย์อาวุธ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา เรียน นิวเคลียร์ มาเป็นตำรวจ
คติประจำใจของผมอย่างหนึ่งที่ยึดถือและใช้มาตลอดคือ.
ใครทำคนนั้นได้.ใครไม่ทำคนนั้นไม่ได้.มันก็เลยเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เริ่มเก็บสะสมไว้.เพื่อศึกษา.
เหนือจากนั้นก็คือความภูมิใจที่ได้ทำ.ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง.คำว่าเป็นไปไม่ได้.จึงไม่มีอยู่ในพจนานุกรมชีวิตของผม....
เป็นบทสนทนา...แรก.ๆ.กับ..นักสะสมและผู้เชี่ยวชาญอาวุธ..ตัวจริง.เสียงจริง.
ซึ่งวันนี้ทีม..วิถีชีวิต..จะพาไปสัมผัสกับชีวิต..ผู้หลงใหลในปืน..
พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา..ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ(สนว.ตร.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
++++
พล.ต.ท.อัมพร.จารุจินดา.ซึ่งถือเป็น...ในนักสะสมปืนและอาวุธตัวยงของเมืองไทย.
เล่าประวัติให้ฟังว่า.เป็นคนจันทบุรี.พอเรียนจบชั้นประถมฯ.ก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ.
เรียนต่อที่โรงเรียนเทพศิรินทร์จนจบชั้นมัธยมปลาย.
จากนั้นสอบเข้าเรียนต่อในคณะวิทยาศาสตร์.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เลือกเรียนทางด้านฟิสิกส์จนจบปริญญาตรี.แล้วจึงต่อระดับปริญญาโททางด้านนิวเคลียร์.
ชีวิตครอบครัว.สมรสกับ..ชนินทร..
โดยมีลูกสาว 2 คน.คนโตชื่อ..นิภาพร..เรียนอยู่คณะบัญชี.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ส่วนคนเล็กชื่อ..พิชญา..เรียนอยู่คณะรัฐศาสตร์.จุฬาฯ.
ด้านชีวิตการทำงาน.หลังเรียนจบก็ตั้งใจจะทำงานบริษัท.แต่เนื่องจากคุณพ่อมีอาชีพ......ข้าราชการ.
และอยากให้บุตรชายได้ทำงานราชการเช่นกัน.
จึงได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อให้ลองไปสมัครงานที่กองพิสูจน์หลักฐาน.
เนื่องจากกำลังเปิดรับเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์.ก็เลยลองเข้าไปสมัครดูตามคำขอของคุณพ่อ.
.พอเรียนจบจะไปทำงานที่อื่น.แต่คุณพ่อบอกว่าให้ลองไปที่กองพิสูจน์หลักฐานก่อน.
เพราะรับตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์.ก็มาเจอกับท่าน.คมกริช.อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด.
ซึ่งขณะนั้นท่านมียศเป็นร้อยตำรวจเอก.เป็นหัวหน้าแผนกอาวุธปืน.
ท่านก็พามาพบกับท่าน.ประชุม.สถาปิตานนท์.อดีตผู้บัญชาการสำนักวิทยาการตำรวจ.
ท่านก็ดีใจมากถามว่าเอาจริงเหรอ.ท่านบอกว่าขอตำแหน่งนี้มาหลายปีแล้วไม่มีใครมาเข้าเลย.
ผมจำได้แม่นรับราชการวันแรกคือ...ส.ค.......
เนื่องจากเติบโตมาท่ามกลางกองปืน..ทำให้ภารกิจที่ทำไม่ยากเกินไปนัก.
พล.ต.ท.อัมพร.บอกว่าวิชาปืนที่มีได้มาจากคุณพ่อ.เพราะที่บ้านมีปืนรุ่นต่าง.ๆ.ที่สะสมไว้มากมาย.
ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับปืนชนิดต่าง.ๆ.เป็นพื้นฐานมาตั้งแต่เล็ก.ๆ.
ประกอบกับได้มาเจอครูดีอย่าง.พ.ต.อ.สหัส.หงษ์เหิน.อดีตนักรักบี้กรมตำรวจชื่อดัง.
ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นร้อยตำรวจโทเป็นครูฝึกหัด.เป็นคนสอนงานทุกอย่าง.
ทำงานอยู่.....เดือนก็สามารถที่จะเรียนรู้ทุกอย่างได้ทั้งหมด.
.ผมโตมาท่ามกลางกองปืนก็ว่าได้.ได้จับปืนมาหลายชนิดตั้งแต่เด็ก.พอมาตรงนี้ก็เลยรู้สึกว่าง่าย.
อีกอย่างผมชอบทำด้วยมือของผมเอง.ถือคติประจำใจ.
ใครทำคนนั้นได้.ใครไม่ทำคนนั้นไม่ได้.มันก็เลยเป็นเหมือนแรงผลักดัน
ให้ผมเริ่มเก็บสะสมกระสุนแต่ละประเภทไว้เพื่อศึกษา.นอกเหนือจากนั้นก็คือความภูมิใจ..
พล.ต.ท.อัมพรได้รับการยอมรับจากวงการว่าเป็น..ผู้มีความชำนาญด้านอาวุธปืนและวัตถุระเบิด..
โดยเฉพาะ..ระเบิดแสวงเครื่อง..โดยเคยเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรจากหน่วยงานสืบสวนกลาง.......
และหน่วยข่าวกรองกลางของสหรัฐ.......ด้วย.โดยการเข้าไปอบรมกับหน่วยงานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น.
พล.ต.ท.อัมพร.บอกว่าถ้าเทียบกับไทยก็ต้องยอมรับว่าเรายังห่างไกลมาก
โดยเฉพาะเรื่องอุปกรณ์ในการสอน.และสิ่งที่ประทับใจคือที่นั่นมีปืนทุกรุ่นทุกแบบในโลกให้ศึกษา.
เพราะรัฐบาลเป็นคนจัดทำให้เอง..
.ตอนไปเรียนระเบิด.เขาโยน.อุปกรณ์มาให้ห่อหนึ่ง.ดูแล้วอย่างน้อยต้องใช้ร่วมไม่ต่ำกว่า....คน.
แต่ที่นั่นเขาให้ใช้...คน...ชุด.ที่เหลือเผาทิ้งหมด.เราเห็นแล้วเสียดายแทบตาย.
ไปเรียนคอร์สเดียวผมได้ระเบิดรถไม่ต่ำกว่า....คัน.แต่ว่าที่เอฟบีไอเยี่ยมแล้ว.
พอเรียนที่ซีไอเอนี่สุดยอดกว่า.การเรียนกับซีไอเอเขาจะเลือกเฉพาะคนที่มีความรู้ดีมาก่อน.
เขาไม่ให้เราเอาเครื่องบันทึกเสียง.โทรศัพท์.หรือกล้องถ่ายรูปเข้าไป.
ให้เราจดได้อย่างเดียว.สถานที่เรียนเราก็ไม่มีทางรู้.เขาจะเอาผ้ามาปิดตาเราก่อน.จากนั้นจึงจะพาไป.
พอกลับก็ผูกตาอีก.แล้วพามาส่ง.ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี.
จากการได้เห็นตัวอย่างจากหน่วยงานระดับโลก.ทำให้มองว่าของสะสมที่เก็บมานานน่าจะมีประโยชน์สำหรับน้อง.ๆ.
ตำรวจรุ่นหลังที่จะได้ใช้ศึกษา.จึงมอบบางส่วนให้เป็นสมบัติของหน่วยงาน.เพื่อให้ไว้ใช้ศึกษา.
ทั้งปืน.กระสุน.และระเบิด.ซึ่ง.พล.ต.ท.อัมพรเก็บสะสมมาเกือบตลอดชีวิตการทำงานกว่า....ปี.
.แรงผลักดันให้เริ่มหันมาสะสมอาวุธปืนและกระสุนชนิดต่าง.ๆ.คือ
ในอดีตเวลาเราไปสอนแล้วไม่มีตัวอย่างให้ดู.คนเรียนก็ไม่เห็นภาพ.
อย่างลูกกระสุนแบบหนึ่งยิงไปแล้วมันจะบานแบบนี้.พูดเท่าไหร่ก็ไม่เห็นภาพ.
แต่ถ้ามีของจริงให้ดู.มองครั้งเดียวก็จำได้แล้ว.
สุภาษิตโบราณ.สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น.สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ.จึงเป็นเรื่องจริง....
ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจกล่าว
สำหรับของสะสม.อย่าง...........กระสุน..นั้น.บางชิ้นเป็นกระสุนลูกแรกที่เก็บไว้ตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน.
และเก็บมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน.เหตุที่ต้องเก็บเพราะคิดว่าถ้าไม่เก็บจะไม่มีตัวอย่างให้ศึกษา.
เพราะกระสุนมีมากมายหลายหมื่นแบบ.ไม่สามารถศึกษาหรือจดจำได้หมด.ถ้าเห็นแล้วไม่เก็บ.ปล่อยทิ้งผ่านไป.ก็ไม่มีวันจำได้.
.ที่เห็น.ๆ.อยู่นี่.ก็คงมีผมอยู่คนเดียวที่เก็บ....พล.ต.ท.อัมพรกล่าว.
พร้อมชี้ให้ดูกล่องพลาสติกใสบรรจุลูกกระสุนปืนหลากชนิดในกล่องขนาดต่าง.ๆ.ที่วางเรียงรายหลายสิบกล่อง.
ซึ่งนอกจากจะเป็นความชอบ.ใช้เป็นสื่อการสอนแล้ว.
บางคดีที่คิดอะไรไม่ออก.พอมานั่งมองกระสุนเหล่านี้ก็ช่วยได้.บางครั้งก็เอากระสุนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุมาเทียบ.
บางครั้งก็นำมาผ่าข้างในเพื่อศึกษา.
.ผมเป็นสมาชิกสมาคมตรวจอาวุธปืนในสหรัฐ.
ซึ่งผมเคยไปประชุมพบว่านอกจากสมาคมหลักแล้วก็ยังมีสมาคมย่อย.ๆ.อีกมาก.
อย่างเช่นสมาคมที่เก็บกระสุนปืน.คุณอาจจะไม่เคยรู้ว่ากระสุนปืนนัดหนึ่งราคาเท่าไหร่.แพงที่สุด.ใหญ่ที่สุด
คือนัดนี้.คือไนโตรเอ็กซ์เพรส.....มม..ตามอยู่นานมาก.ปืนมีอยู่ไม่กี่กระบอกในโลก.
ปืนที่ใช้ยิงคือปืนดับเบิ้ลไรเฟิล.กระบอกละหลายล้านบาท.กระสุนนัดเดียวราคา.....เหรียญสหรัฐ.
เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณดู.ส่วนลูกเล็กสุดก็เป็นขนาด...มม.พินไฟร์.กับ...มม.ริมไฟร์.
หรืออย่างพวกนี้เป็นกระสุนรุ่นแรก.ๆ.ของโลก.สร้างประมาณปี.ค.ศ............อายุก็ร้อยกว่าปี.
พวกนี้เริ่มแรกเข็มอยู่ที่กระสุน.ใช้นกตีเข็มให้กระสุนพุ่งออกไป.
ต่อมาก็เป็นริมไฟร์เซ็นเตอร์ไฟร์.เท่าที่เห็นแพงสุดราคานัดละเป็นพันเหรียญ.ที่แพง.เพราะเลิกผลิต.ก็เลยเป็นของสะสมที่หายาก.
.
ตอนนี้เรียกได้ว่ามีทุกรุ่นในเมืองไทย.เป็นเอ็นไซโคลพีเดียของเรา.บางชนิดหาค่าไม่ได้.
ไม่ใช่เพราะแพง.แต่มีเงินก็ซื้อไม่ได้.ไม่ได้เก็บอย่างเดียว.แต่เราทำความเข้าใจกับมันด้วย
...พล.ต.ท.อัมพรกล่าวไป.ชี้ให้ดูไป..
และในส่วน..ปืน..นั้น.ที่มีอยู่ทั้งที่ทำงาน.ที่มอบให้เป็นสมบัติของหน่วยงานในนาม..ห้องปืน.อัมพร..
และที่เก็บรักษาอยู่ที่บ้านนั้น ก็มีมากมาย เหมือนเป็น พิพิธภัณฑ์อาวุธ ขนาดย่อม ๆ
นี่เป็นปืนออโตเมติกแบบแรกของโลก เขาเรียกปืนบอรชาร์ด สร้างครั้งแรกเมื่อปี 1893 ต่อด้ามยิงได้
แต่หากระสุนไม่ได้สักนัด กระบอกนี้กว่าจะได้มาก็หมดเงินไปหลาย
อันนี้เป็นหนึ่งในหลายกระบอกที่เป็นของรักของหวง
อีกอันรูปร่างประหลาด แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะการยิงไม่ดี อีกไม่กี่ปีก็มีอีกยี่ห้อออกมา ยี่ห้อนี้คือเมาเซอร์
เป็นตัวสั้นเจาะลายด้วย ส่วนอันนี้โด่งดังมาก มีชื่อว่าพาราเบลลัม ตัวนี้เขาเรียกว่าลำกล้องยาว
ผมทาน้ำยาป้องกันหนังไว้ อายุจะร้อยปีอยู่แล้ว ชิ้นที่เก่าที่สุดคงจะเป็นพวกปืนแก๊ป
แต่ถ้าเป็นปืนออโตเมติกที่หากันมากที่สุดคือตัวนี้ ยังพอมี แต่ที่สภาพครบทั้งปืนทั้งซองปืนแบบนี้หายากมาก
มีเงินก็ไม่มีขาย ราคาอยู่ที่ความพอใจ เหมือนกับงานศิลปะ
สำหรับของทุกอย่างเวลาจะซื้อผมต้องหาข้อมูลก่อนทุก อย่าง เพราะเจอย้อมแมวก็เยอะ
ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับเป็นตำรวจหรือคนทั่วไป ต้องดูให้เป็น ถ้าไม่เป็น เจ๊งแน่นอน
...เล่าไปชี้ให้ดูไปเรื่อย ๆ จากนั้น พล.ต.ท.อัมพรก็บอกว่า การสะสมที่ทำอยู่ ทำเสมือนอย่างที่ นักเล่นของเก่า ทำกัน
โดยความสนุกอยู่ที่สามารถรื้อถอดด้วยตนเอง อีกอย่างคือการได้ปืนที่เป็นของหายาก เป็นความภูมิใจ
เพราะมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็น นักสะสมตัวยง แต่ก็ไม่ได้มีมากมาย
เพราะหากเทียบประเภทนักสะสม 2 ประเภท คือพวกที่ซื้อเก็บหมด กับพวกเลือกซื้อ จะอยู่ประเภทหลัง
เพราะราคาของปืนเก่าในปัจจุบันนั้นสูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต
นอกจากปืนและกระสุนแล้ว ตำราอาวุธ ก็เป็นของสะสมอีกชิ้นที่ดูดเงินออกจากกระเป๋านายตำรวจคนนี้ได้มาก
ซึ่ง พล.ต.ท.อัมพร บอกว่า ของจริงบางอย่างไม่มีโอกาสดูด้วยตา หาดูไม่ได้
ก็ต้องอาศัยจากการอ่านในตำราหรือหนังสือที่มีคนเขียนขึ้น บางเล่มก็มีราคาสูงถึงเล่มละ 3 หมื่นบาท
ตำราทั้งหมดที่เห็นนี้ผมซื้อด้วยทุนส่วนตัวเองหมด เราต้องยอมรับว่าเรื่องบางเรื่องเราคงไม่มีปัญญาเรียนรู้ด้วยของจริงทั้งหมด
ทางเดียวที่จะย่นได้ก็คือการศึกษาจากตำราเหล่านี้ และพอดีที่สองสิ่งนี้เราชอบทั้งคู่ ทุกอย่างมันก็เลยลงตัว...
ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจกล่าว
++++
ผมมีความคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า เรารักเกียรติยศและศักดิ์ศรี
เราเรียนมาแทบตายถ้าทำงานแล้วให้คนเขามาด่าได้ นี่มันเฮงซวย การทำงานจะมีชื่อเสียงได้
เป็นที่ยอมรับ หรือที่เป็นผู้ชำนาญการ จะต้องมีความรู้จริงถามอะไรก็ต้องตอบได้ ไม่ใช่มาอ้อมแอ้มตอบ
เพราะงานด้านนี้มันต้องมีข้อมูลที่ใช้ยันกันได้...เป็นอีกมุมความคิดของนายตำรวจคนนี้ ซึ่งก็เสริมโดยตรงกับสิ่งที่ทำ-สิ่งที่เป็น...
หล่อหลอมเป็นวันนี้ของ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา
ปืน กับ คน ก็ เหมือนกัน
If guns are outlawed only outlaws will have guns...พล.ต.ท.อัมพรยกสำนวนภาษาอังกฤษ
พร้อมอธิบายว่า สำนวนนี้เป็นสำนวนออกแนวเปรียบเทียบกึ่งประชดประชัน
เพราะ ปืนไม่ใช่สิ่งไม่ดีไปเสียทั้งหมด หากปืนอยู่ในมือคนไม่ดี ก็เป็นอันตราย
หากปืนอยู่ในมือคนดี ก็จะปกป้องคุ้มครองคนดีจากคนไม่ดีได้
ในมุมมองของ พล.ต.ท.อัมพรนั้น ปืนก็มีสองด้าน ก็เหมือนกันกับคน
ถ้าเป็นคนใจเย็น จะทำอะไรย่อมต้องรู้จักคิด ถ้าเป็นคนใจร้อนวู่วาม ทำอะไรไม่ยั้งคิด
ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
ถ้าคิดว่าปืนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ก็คงมีแต่พวกนอกฎหมายเท่านั้นที่มีสิทธิพกปืน...พล.ต.ท.อัมพร กล่าวทิ้งท้าย
ศิริโรจน์ ศิริแทพย์