http://www.dailynews.co.th/today/each.asp?newsid=59459รายการทีวีพิเรนทร์ แต่งนักโทษแหกคุกขึ้นรถเมล์
ทำผู้โดยสารผวาโทรแจ้ง ตร. ก่อนยกทั้งโรงพักตามสกัดจับทันควัน
ชาวบ้านแตกตื่นเจอนักโทษชายฉกรรจ์มีโซ่ตรวนพันธนาการครบ แหกคุกวิ่งขึ้นไปปะปนกับผู้โดยสารบนรถเมล์ รีบโทรฯแจ้งโปลิศสกัดจับ ผล จนท.นั่งไม่ติดกันทั้งโรงพักยกกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบบุกจู่โจมสายฟ้าแลบจับได้คาหนังคาเขาขณะเปลี่ยนชุดท่ามกลางการลุ้นระทึกของไทยมุง สุดท้ายหน้าแตกเป็นแถว เจอรายการทีวีเล่นพิเรนทร์ติดกล้องจิ๋วแอบถ่ายแกล้งชาวบ้าน เจอจับถึงกับขำไม่ออก อ้างเฉยรณรงค์ให้ทุกคนใช้บริการรถประจำทางเป็นการประหยัด พร้อมขอโทษทุกฝ่าย โวจอมขมังเวทโดนหลอกผีวิ่งหนีกระเจิงมาแล้วก่อนหน้านี้ ด้าน ผบก.น.4 ถึงกับฉุนบ่นอุบเล่นไม่เข้าเรื่อง เตือนระวังอาจถูกยิงได้โดยไม่รู้ตัว พร้อมสั่งแจ้งข้อหาทันควัน
รายการทีวีเล่นพิเรนทร์ติดกล้องจิ๋วแกล้งชาวบ้านขำไม่ออกถูกตำรวจล้อมจับ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ขณะที่ ร.ต.ท. วินัย สุโขพืช ร้อยเวร สน.หัวหมาก กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีนักโทษชาย 2 คน แหกคุกออกมาโดยใช้พาหนะรถเมล์ ในการหลบหนี บริเวณแยกลำสาลี ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับรีบประสานศูนย์วิทยุเสรีไทยแจ้งสกัดจับเส้นทางที่คนร้ายมุ่งหน้า
เวลาต่อมาได้รับแจ้งทางวิทยุจาก ส.ต.อ. สุพจน์ เชื้อในเขา ผบ.หมู่จราจร ซึ่งกำลังอำนวยการจราจรอยู่หน้าปากซอยรามคำแหง 30/1 ว่าเห็นรถร่วมประจำทาง ขสมก. สาย 182 สีครีมคาดเหลืองน้ำเงิน วิ่งระหว่างหมอชิต-ราม 2 วิ่งผ่านหน้าไป โดยมีนักโทษชาย 2 คน ใส่โซ่ตรวนที่แขนและขา กระโดดลงจากรถพร้อมกับวิ่งเข้าไปหลบในปั๊มเชลล์ที่อยู่ใกล้กันอย่างรวดเร็ว พร้อมขอกำลังเสริมจากโรงพักเป็นการด่วน
หลังได้รับรายงานว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ทำเอาตำรวจโรงพักหัวหมากถึงกับนั่งไม่ติด ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ประมาณ 30 นาย รีบบึ่งมาที่เกิดเหตุท่ามกลางสายฝนทันที โดยกระจายกำลังปิดล้อมปั๊มดังกล่าวไว้ทุกด้านพร้อมกับกันคนไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยจากการสังเกตเจ้าหน้าที่พบรถเบนซ์ อี 190 สีฟ้า ทะเบียน กข- 1009 ชัยภูมิ จอดอยู่ที่หลังปั๊มภายในรถพบชายต้องสงสัย 4 คน โดย 2 คนที่นั่งบริเวณเบาะด้านหลังกำลังสาละวนช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ ส่วน 2 คนที่อยู่เบาะหน้ากำลังเฝ้ามองสังเกตการณ์รอบ ๆ บริเวณ หลังการซักซ้อมเข้าจู่โจมเป้าหมายของเจ้าหน้าที่เสร็จ เวลาระทึกใจก็มาถึงเมื่อเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย ซึ่งอาศัยเป็นทัพหน้าได้คืบคลานเข้าหาเป้าหมายพร้อมอาวุธประจำกายเมื่อได้จังหวะก็ให้สัญญาณบุกจู่โจมจับกุมได้สำเร็จ จากนั้นนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนนายสันติ หรือแม๊กกี้ มีแสงจันทร์ อายุ 37 ปี ให้การแบบหน้าตาตื่นว่า พวกตนทั้งหมดเป็นทีมงานถ่ายทำรายการเพลงเปื้อนยิ้ม ของบริษัทกะปอมก่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด ออกอากาศทางไอทีวี กำลังแอบถ่ายพฤติกรรมผู้โดยสารอยู่ โดยก่อนถูกจับตนกับทีมงานได้เช่ารถเมล์คันดังกล่าวในราคา 3,000 บาท กำหนดให้รถวิ่งตามเส้นทางจริงที่วิ่งอยู่มาถึงบริเวณหน้าห้างบิ๊กซีสาขาลาดพร้าว ก็มีการเตี๊ยมกันโดยตนกับเพื่อนอีกคนจะสวมชุดนักโทษพร้อมโซ่ตรวนครบครัน บุกวิ่งขึ้นไปบนรถทำทีว่าแหกคุกหนีมาเพื่อสังเกตหน้าตาคนบนรถเมล์ซึ่งทีมงานได้ติดกล้องจิ๋วไว้เรียบร้อยแล้ว
ดาราจำเป็นเสียเอง กล่าวต่อว่า จากนั้นก็พยายามทำให้คนในรถหวาดกลัว ซึ่งตามแผนแล้วเมื่อมาถึงปั๊มที่พวกตนถูกตำรวจจับจริง ๆ แล้วกำลังลงไปเปลี่ยนชุดจากชุดนักโทษเป็นชุด ผู้คุม โดยจะกลับมาขึ้นรถคันเดิมพร้อมกับแกล้งถามผู้โดยสารเป้าหมายว่า มีใครเห็นนักโทษ แหกคุกหนีมาบ้าง ซึ่งจะสังเกตอาการงงของผู้โดยสารก่อนจะเฉลยให้ทราบ แต่แผน 2 ยังไม่ทันได้เริ่มก็ต้องตกใจอย่างมากเมื่อเห็นตำรวจพร้อมอาวุธครบมือปิดล้อมรถที่พวกตนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
ด้านนายวรสิทธิ์ ชีพสาธิต ประธานกรรมการบริษัทกะปอมก่า เจ้าของรายการดังกล่าว เปิดเผยด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตเนื่องจากทีมงานได้ติดต่อเช่ารถเมล์ไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งบนรถก็มีทีมงานปะปนอยู่เกือบ 10 คน มีผู้โดยสารที่เป็นเป้าหมายเพียง 5-6 คน เท่านั้น ซึ่งจุดประสงค์คืออยากรณรงค์ให้ทุกคนหันมาใช้บริการรถประจำทาง ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน โดยนำตัวละครซึ่งแต่งตัวเป็นนักโทษที่แหกคุกออกมาก็ยังหันมาใช้รถประจำทาง
ประธานกรรมการ บ.กะปอมก่า กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเป้าหมายยังถามทีมงานตนเลยว่า แหกคุกมาจริงหรือเปล่า ซึ่งนักโทษก็ตอบไปว่ากำลังไปงานแฟนซี เรื่องที่เกิดตนมองได้ว่ายุคนี้ประชาชนให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดีมีอะไรก็รีบแจ้งทันที การทำงานชิ้นนี้คิดว่าได้ผลเกินคาด ต่อไปตนคงต้องระวังและต้องกำชับทีมงานให้เล่นเบา ๆ หน่อย หากไม่เชื่อคงต้องตัดทิ้งไปเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากที่ทำให้เสียเวลา แต่ต้องขอชมที่ระดมกำลังปิดล้อมจับกุมทีมงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งต้องขอโทษไปยังประชาชนด้วย ทั้งนี้รายการมีจุดประสงค์หลักคือ สร้างรอยยิ้มให้กับคนดูเท่านั้น
ด้านผู้โดยสารคนหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า ตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ มีนักโทษชาย 2 คน วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมาบนรถเมล์ บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้าทั้งสองด้วยซ้ำไปกลัวว่าจะถูกทำร้าย แต่ก็โชคดีที่มีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งได้แจ้งตำรวจให้ทราบ ช่วงนั้นตนลุ้นเหมือนกันว่าหากคนร้ายเห็นอาจตรงเข้าทำร้ายได้ แต่เมื่อมาถึงปั๊มที่ทั้งสองถูกจับเห็นตำรวจยกกำลังมาสกัดจับก็อุ่นใจ ต้องขอชมเจ้าหน้าที่ว่ามาที่เกิดเหตุเร็วจริง ๆ ถึงจะเป็นการเล่นพิเรนทร์ก็ตาม อีกอย่างตนอยากฝากไปถึงทีมงานว่าหากคนในรถเกิดมีใครที่ป่วยเป็นโรคหัวใจขึ้นมา มาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เข้าหากเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากให้เป็นอุทาหรณ์และอยากให้เป็นครั้งสุดท้าย เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง การที่จะทำอะไรลักษณะเช่นนี้ก่อนอื่นต้องประสานเจ้าหน้าที่พื้นที่ให้ทราบก่อนล่วงหน้า เพราะบางครั้งหากทีมงานใช้อาวุธปืนปลอมเข้ามาในการแสดง เจ้าหน้าที่อาจไม่รู้เกิดมีการยิงกันขึ้นได้ อีกทั้งยังทำให้ประชาชนแตกตื่นวุ่นวายด้วย หากอยาก โปรโมตควรหาวิธีอื่นดีกว่า สำหรับความผิดตน ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยสั่งปรับทั้ง 4 คน เป็นเงินคนละ 1,000 บาท ข้อหาผู้ใดแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรายการดังกล่าว เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วทีมงานได้เชิญเณรแอ หรือจอมขมังเวทมาแล้ว โดยนำไปพิสูจน์วิญญาณที่โรงงานร้างแห่งหนึ่งที่ย่านพัฒนาการโดยทีมงานได้แกล้งแต่งชุดผีปิศาจ ต่าง ๆ คอยเล่นงานหลอกเณรแอ ซึ่งคราวนั้นผู้ที่ได้ชื่อว่าจอมขมังเวท ถึงกับขนหัวลุกวิ่งหนีหน้าตั้งไม่คิดชีวิตออกจากโรงงานมาแล้วครั้งหนึ่ง อีกทั้งก่อนที่จะมีการเล่นพิเรนทร์ครั้งนี้ทางทีมงานได้ติดต่อไปยังธนาคารแห่งหนึ่งโดยขอใช้สถานที่เพื่อให้นักโทษเข้าไปหลบข้างใน แต่ถูกทางธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้สถานที่จนต้องมายึดรถเมล์ เป็นฉากในการถ่ายทำจนเป็นเหตุให้ขำไม่ ออกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง "สาระแนโชว์" ได้เล่นพิเรนทร์ยก ทีมงานออกไปซ่อนกล้องจิ๋วแอบถ่ายพฤติกรรมหลุด ๆ ของชาวบ้าน จนเป็นข่าวฮาแต่ขำไม่ออกมาแล้ว เมื่อนำอุปกรณ์ไปติดบนรถเมล์ซึ่งมีผู้โดยสารกว่า 20 คน ขณะที่รถวิ่งผ่านตรงกันข้ามห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาฯ จู่ ๆ มีชายซึ่งเป็นคนของทีมงานได้ตะโกนโหวกเหวกให้ผู้โดยสารทุกคนหมอบลงกับพื้น สร้างความตกใจให้กับคนบนรถอย่างมากพร้อมกับหมอบไปพื้นโดยอัตโนมัติเพราะคิดว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง กระทั่งโชเฟอร์จอดรถข้างฟุตปาธ ผู้โดยสารทั้งหมดต่างพากันตะเกียกตะกายวิ่งหน้าตั้งหนีลงมาอย่างไม่คิดชีวิต
ขณะที่ทีมงานแอบถ่ายถึงกับยิ้มกริ่มได้ภาพเด็ดไปออกรายการ แต่ทันใดนั้นเองมีผู้โดยสารผู้หญิงคนหนึ่งนึกว่ามีการวางระเบิดในรถด้วยความกลัวรีบหนีจนเกิดพลาดสะดุดบันไดรถหกล้มแขน-ขาถลอกปอกเปิกเลือดไหลซิบ ซึ่งเจ้าตัวมารู้ตอนหลังว่าเป็นการแอบถ่ายถึงกับโกรธอย่างมาก พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สน.ห้วยขวาง โดยครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ได้สั่งปรับ 1,000 บาท กับทางทีมงานทำเอาเหล่าเสนาถึงกับหน้าจ๋อยขำไม่ออกไปตาม ๆ กัน.