ขอบคุณมากครับ คุณ RroamD ........ 
คือว่า ..... ผมก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีโลหิตหมู่พิเศษ คือ
O Rh - ( negative )
ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ใน 1,000 ...... ผมเพิ่งได้รับไปรษณียบัตร แจ้งว่า ถึงเวลาไปบริจาคโลหิต อีกแล้ว ( 3 เดือน / ครั้ง )
และเมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมา .... เจ้าหน้าที่จาก ศูนย์โลหิตสภากาชาดไทย .... ก็ได้มาออกรายการวิทยุ ของ กองทัพบก
เพื่อเชิญชวนประชาชน ไปบริจาคโลหิต .... เนื่องจากตอนนี้โลหิตในสต็อค เหลือน้อยลงมาก ( ที่ผ่าน ๆ มา ก็ไม่ค่อยพอ )
โลหิตที่ได้จากการบริจาค ก็เก็บไว้ได้ ประมาณ 1 เดือน ....
ก็ขอถือโอกาสนี้ เชิญชวน ทุกท่าน ...... ไปร่วมบริจาคโลหิต ครับ ( ทุกกรุ๊ป )

ยินดีด้วยกับการบริจาคเลือดให้กับศูนย์โลหิตสภากาชาดไทยของพี่ แฟนผมก็บริจาคที่นี่มา 7 ปี แต่ไม่ได้อยู่ในในกลุ่มผู้มีโลหิตหมู่พิเศษ ผมไปรับส่งแฟนทุกครั้งที่ตึกรูปทรงเอียงๆ ภายในสะอาด ทันสมัย แอร์เย็นมาก มีอินเตอร์เน็ทกับคอมพิวเตอร์ให้ใช้ฟรีที่ชั้นล่าง ห้องรับบริจาคโลหิตชั้นสองเจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มอัธยาศรัยดีมาก
ปัญหาเลือดไม่พอในธนาคารคงมาจากผู้ป่วยจากการประสบอุบัติเหตุรุนแรงซึ่งมีตัวเลขสูงมาก รองลงมาคือผู้ป่วยที่ต้องเข้าทำการผ่าตัดใหญ่เหมือนกรณีของผมที่ต้องใช้เลือดกรุ๊ป บี ประมาณ 1500 ซี.ซี. เบิกมา 3 ถุงๆ ละ 500 ซี.ซี. แต่ใช้ไปเพียงถุงเดียวเพราะวิสัญญีแพทย์และศัลยแพทย์เก่งมากทำให้ผมเสียเลือดน้อยมากทั้งที่ต้องใช้เวลาในห้องผ่าตัดเกือบ 6 ชั่วโมงครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ 1 แต้มเช่นเดียวกันครับพี่
กรุ๊ปเลือดพิเศษ Rh- อ่านต่อครับ ส่วนผู้ที่มีโลหิตหมู่ AB จะรับเลือดได้จากทุกหมู่ (universal recipient) เพราะไม่มี antibodyA หรือ B (แม้จะรับได้ทุกหมู่ แต่ก็ต้องดูปริมาณการรับ หากรับเลือดหมู่อื่นเข้ามามาก อาจทำให้ antigen กับ antibody ทำปฏิกิริยากันได้)
ระบบเลือดแบบ Rh
ในการใช้ระบบเลือดแบบ Rh หรือ Rhesus (รีซัส) ซึ่งเป็นได้ 2 แบบคือ Rh+ และ Rh-
และเช่นกัน การจำแนกว่า เป็น Rh+ หรือ Rh- ก็ดูที่ antigen ซึ่งกรณีนี้คือ antigenD ที่อยู่ที่ผิวเม็ดเลือด
มนุษย์ส่วนใหญ่มี antigenD (ซึ่งก็คือ Rh+) โดยเฉพาะกลุ่มชนมองโกลอยด์ หรือชาวเอเชียและในคนไทยมีมากถึง 99% ส่วนคนไทยที่ไม่มี antigenD (ซึ่งก็คือ Rh-) มีประมาณ 1 ใน 500 คน ขณะที่กลุ่มชนคอเคซอย หรือชาวยุโรปมีสัดส่วนของผู้ไม่มี antigenD (Rh-) มากกว่า อย่างที่อังกฤษมีผู้ที่มี Rh- มากถึง 10% ต่อจำนวนประชากร
เราจึงเรียกพวกที่มี Rh- ว่า
ผู้ที่มีโลหิตหมู่พิเศษ (เพราะหายากนั่นเอง)
ทั้งนี้ปกติการระบุหมู่เลือดจะรายงานผลออกมา เป็น 2 ระบบคือ ABO และ Rh พร้อมๆ กัน ได้แก่ A Rh+, A Rh-, B Rh+, B Rh-, AB Rh+, AB Rh-, O Rh+, O Rh-
แต่จะไม่ระบุคำว่า Rh เช่น A Rh- ก็จะระบุไปเลยว่า A- เป็นต้น อีกทั้งโดยพื้นฐานคนส่วนใหญ่ เป็น Rh+ เราจึงไม่นิยมระบุไว้ด้วยซ้ำ
ดังนั้นเวลารายงานหมู่เลือด หากเราได้รับแจ้งว่า เรามีหมู่เลือด A นั่นหมายความว่า เรามีหมู่เลือด A Rh+ แต่ถ้าเรามีหมู่เลือด Rh- เราจะได้รับแจ้งไว้ด้วย เช่น A- เป็นต้น
และในกรณีที่สภากาชาดประกาศว่าต้องการหมู่เลือด Rh- เป็นจำนวนมากก็หมายความว่า ต้องการผู้ที่มีเลือด A-, B- AB- และ O- ซึ่งเลือดประเภทนี้มีในชาวต่างชาติ (ยุโรป) มากกว่า ส่วนผู้ที่มีหมู่โลหิต A, B, AB และ O ซึ่งเป็น Rh+ ก็บริจาคได้เช่นกัน ที่สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลใกล้บ้านท่านทุกแห่ง