เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 24, 2025, 09:41:12 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 39 40 41 [42] 43 44 45 ... 55
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขันวันละขำ ๑๓๒  (อ่าน 93198 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
cobra-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 86
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 557


36003


« ตอบ #615 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2009, 08:42:25 AM »

พอดีไปอ่านเจอมาครับไม่รู้่จริงๆครับว่าเมียจะโง่(หรือใครโง่ละครับ) ขำก๊าก หัวเราะร่าน้ำตาริน
นังเมียโง่

ตอนจีบกันทีแรกก็จำได้ว่ามันฉลาดมาก นี่นา
เรียนก็สูง หน้าที่การงานก็ดี ทำไมอยู่กันไป อยู่กันมา
กลับเป็นว่าโง่ลงได้ถึงขนาดนี้
นังเมียเรานี่ยังโชคดีที่มีผัวฉลาดๆ แบบเราอยู่ข้างๆ นะเนี่ยไม่ใช่คุย
ตอนเด็กๆสมัยประถมผมจะได้รับคำชมจากคุณครูประจำชั้นอยู่เสมอๆ
จะได้รับรางวัลเป็นประจำในวิชา คัดไทย เขียนไทย
ผมยังมีความภาคภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้

แม้เวลามันจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม
ผมก็ยังคงเป็นคนเก่งอยู่ อันนี้ผมรู้จากนังเมียผม
เพราะผมสังเกตุเห็นนังเมียมันจะ ตบมือดังๆ แล้วก็เอ่ยปากชม ไม่ขาดปาก
ว่าเก่งยังโน้นเก่งยังนี้ เวลาผมซักผ้า ถูบ้าน หุงข้าว ล้างชาม
ได้อย่างยอดเยี่ยมและเสร็จทันในเวลาที่นังเมียผมมันกำหนดไว้
แถมบางครั้งยังมีเวลาเหลือพอที่จะไปล้างส้วมได้เสร็จทันเวลาอีกด้วย
ทีแรกผมก็คิดได้เองอยู่แล้วว่าผมเก่งและฉลาดมาก
ความจริงนังเมียมันไม่บอก ผมก็รู้ อยู่แล้ว
ผิดกับนังเมียผมที่นับวันจะโง่ลง
ขนาดแอร์ ทีวี ที่สมัยนี้เปิดปิดง่ายๆ มันยังทำไม่เป็น
รีโมท ตั้งอยู่ข้างหน้านังเมียมันยังใช้ไม่เป็น มือซ้ายถือมันฝรั่ง
มือขวาแก้วน้ำหวาน ปากก็บอกว่า นี่เปิดทีวีให้ดูหน่อยซิ
แอร์ด้วยนะ ซัก 23 องศา' แนะรีโมทก็อยู่ข้างหน้าใช้ไม่เป็น
มันโง่จริงๆผมเคยสอนให้ใช้หลายครั้ง ก็ยังทำไม่เป็น
จนผมรู้ว่ามันสมองแต่ละคนไม่เท่ากัน
จะให้มาเป็นเลิศแบบผมทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ เอ่อ
แต่นังเมียผมมันก็ยังพอมีความฉลาดอยู่บ้างนะ
หยั่งเช่นว่าวันเงินเดือนผมออก นังเมียมันรู้หมดแนะแถมยังจำแม่น
บางเดือนเลื่อนออกเงินเดือนไปวันไหนวันไหน
มันรู้หมดแนะ ผมยังแปลกใจโง่ๆ แบบนี้รู้ได้ไง
แต่ยังไงนังเมียก็ไม่ฉลาดกว่าผมหรอก มานั่งคอยจำ ค อยเตือนเงินเดือน
ทุกเดือนเสียเวลา
ผมเลยเอาเลขที่บัญชีของเมีย ให้บริษัทโอนเงินเข้าไปเลย
นังเมียยังชมผมไม่ขาดปากมาถึงทุกวันนี้ ฉลาดมาก ฉลาดมาก
โธ่เอ็งไม่ต้องบอกข้าก็รู้ 'นังเมียหัวขี้เลื่อย'

ภาคสอง แก้แค้น

วันก่อนผมก็มีวีรกรรมได้แกล้ง นังเมียโง่ของผม ซะจายจิงๆ
เรื่องมันมีอยู่ว่า
อาทิตย์ที่แล้วพาเมียโง่ ไปซื้อกับข้าวมื้อค่ำ
ได้ปลาดุกย่าง สะเดาน้ำปลาหวาน(ของโปรดผมคือหนังปลาดุก)
เผลอแป๊บเดียว(ผมอาบน้ำอยู่)
นังเมียโง ่ของผมแอบลอกหนังปลาดุกกินเสียเกลี้ยง ดูสิดูมันทำ
ด้วยความฉลาดของผม เก็บความแค้นอยู่ในใจ
วันต่อมาถึงวันล้างแค้นนังเมียโง่ของผม ไปจ่ายตลาด มันกำลังท้อง
อยากกินมันเทศต้ม ซื้อมา2กิโล
ถึงบ้านพอมันเผลอ
ผมลงมือแก้แค้นทันทีโดยไม่ให้นังเมียโง่ของผมตั้งตัว
ผมจัดการลอกเปลือกมันต้มกินจนเกลี้ยง
เหลือแต่เนื้อให้มัน เพื่อนๆครับ มันมาเจอถึงกลับตลึง ทำท่าน้ำตาคลอ
คงเจ็บใจผมจนพูดไม่ออกเลย 555ให้มันรู้ซะบ้าง 'นังเมียโง่
บันทึกการเข้า



Uploaded with ImageShack.us
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #616 เมื่อ: กันยายน 01, 2009, 02:13:37 PM »

..ผีนั่งคุยกัน (มันๆ ขำๆ).. คิก คิก
ณ คืนอันเงียบสงัดคืนหนึ่ง มีผี 3 ตัวมานั่งคุยกันอยู่ข้างวัด ผีตัวแรก : ถามตัวที่สามว่า..แกเป็นอะไรตายว่ะ
ผีตัวสาม : เลยตอบกลับไปว่า..ข้าโดนรถชนตาย
ผีตัวสามย้อนถามผีตัวแรก : แล้วแกล่ะเป็นอะไรตาย
ผีตัวแรก : ข้าโดนแทงตายว่ะ
ผีตัวกลางเอาแต่นั่ งร้องไห้ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ !!!!!
ผีตัวแรกกะตัวที่สามเลยถามผีตัวกลางว่า:
แกร้องไห้ทำไมว่ะ... แล้วแกเป็นอะไรตาย...
ผีตัวกลาง : กูยังไม่ตาย กูมา...ขี้ …
ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #617 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 01:38:25 AM »

..ผีนั่งคุยกัน (มันๆ ขำๆ).. คิก คิก
ณ คืนอันเงียบสงัดคืนหนึ่ง มีผี 3 ตัวมานั่งคุยกันอยู่ข้างวัด ผีตัวแรก : ถามตัวที่สามว่า..แกเป็นอะไรตายว่ะ
ผีตัวสาม : เลยตอบกลับไปว่า..ข้าโดนรถชนตาย
ผีตัวสามย้อนถามผีตัวแรก : แล้วแกล่ะเป็นอะไรตาย
ผีตัวแรก : ข้าโดนแทงตายว่ะ
ผีตัวกลางเอาแต่นั่ งร้องไห้ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ !!!!!
ผีตัวแรกกะตัวที่สามเลยถามผีตัวกลางว่า:
แกร้องไห้ทำไมว่ะ... แล้วแกเป็นอะไรตาย...
ผีตัวกลาง : กูยังไม่ตาย กูมา...ขี้ …
ขำก๊าก


 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #618 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 11:57:43 AM »

ขันวันละขำ ๑๑๖

พวก....กัน

ระหว่างที่ท่านนักบวชเดินแสวงบุญอยู่ ท่านนักบวช เกิดปวดท้องขึ้นมากระทันหัน

อีกทั้งบริเวณนั้นก็ไม่มีห้องน้ำสาธารณะให้เข้าเสียด้วย

นอกจากมีบาร์กึ่งผับเปิดอยู่เพียงแห่งเดียว นักบวชจึงเข้าไปในบาร์ เพื่อขอเข้าห้องน้ำ

ขณะที่เดินเข้าไปในบาร์เสียงคนร้องรำทำเพลง เสียงพูดคุยกัน และเสียงหัวเราะดังลั่นสถานที่แห่งนั้นเป็นอันมาก

เมื่อผู้คนเห็นนักบวชเดินเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างพลันเงียบสนิท

และทุกสายตาหันมามอง นักบวชพร้อมกันยังกับนัดหมายไว้ นักบวชเดินไปหาบริกรชาย

เพื่อที่จะบอกกล่าวขออนุญาตปฏิบัติภารกิจ ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก
 
นักบวช : ผมขอเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระหน่อยครับ

บริกรชาย : ท่านเข้าไม่ได้ครับ

นักบวช : ผมแค่ขอเข้าไปปัสสาวะเท่านั้นเอง

บริกรชาย : ผมคิดว่าท่านไม่ควรเข้าไปหรอกครับ

นักบวช : ทำไมล่ะ ทำไมฉันไม่ควรเข้าไป ? ในนั้นมีสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดศีลหรืออย่างไร ?

บริกรชาย : มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ บังเอิญในห้องน้ำชายมีรูปปั้นหญิงสาวเปลือยกาย
                มีเพียงสิ่งปกปิดที่อวัยวะเพศอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้นครับ

นักบวช : ก็ไม่เห็นเป็นปัญหาอะไรนี่ เวลาผมเดินเข้าไป ผมก็จะไม่หันไปมอง ก็เท่านั้นเอง

บริกรชายได้ยินดังนั้น ก็จำใจนำนักบวชไปที่ห้องน้ำที่อยู่ชั้นสอง

ภายหลังจากเสร็จกิจเรียบร้อยแล้ว นักบวชก็เดินลงมาที่บาร์ชั้นล่าง

ปรากฏว่าในบาร์มีเสียงร้องรำทำเพลง เสียงคุย เสียง หัวเราะดังอึกทึกครึกโครมยิ่งกว่าเดิม

และยิ่งนักบวชเดินไปหาบริการชาย เสียงหัวเราะก็ยิ่งดังขึ้นอีก

นักบวช : คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่า ตอนผมเดินเข้ามาเสียงอึกทึกครึกโครมเงียบลง ดังปลิดทิ้ง
              พอผมไปห้องน้ำกลับมาเสียงอึกทึกครึกโครมดังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก มันเกิดอะไรขึ้น?

บริกรชาย : ก็คนในบาร์เขาถือว่าท่านเป็นพวกเดียวกับพวกเขาแล้ว ท่านจะดื่มสักแก้วไหมครับ?

นักบวช : เดี๋ยวก่อน ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
 
บริกรชาย : อ๋อ ! คืออย่างนี้ครับ เวลาที่สิ่งปกปิดอวัยวะของรูปปั้นถูกยกขึ้นเมื่อไร
                 แสงไฟในบาร์จะ สว่างขึ้นวูบวาบทั้งห้องพร้อมเสียงแตรดังสนั่นเลยครับ
                 ลูกค้าที่นี่เมื่อเข้าห้องน้ำจะยกมันขึ้นกันทุกคน เพราะเป็นคอเดียวกัน
 

นักบวชน้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หลงรัก ตกใจหน้าซีด

บริกรชาย : ไม่ทราบว่าท่านจะดื่มอะไรดีครับ ?

ด้วยความเคารพครับ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
somsakbck
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 974
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9671


เรามาเยือนโลกใบนี้แค่เพียงชั่วคราว...แล้วก็จะจากไป


« ตอบ #619 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 03:15:38 PM »

นักบวชก็เป็นผู้ชายนี่คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ.........
บันทึกการเข้า



โลกมีทรัพยากรให้ทุกคนใช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างเพียงพอ...แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว : มหาตะมะ คานธี
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #620 เมื่อ: กันยายน 02, 2009, 03:24:50 PM »

...ต๊กใจหมดเลยดูที่แรก ตรูนึกว่าตัวนั้นซะอีก ช่างทำไปได้  อิอิ.. เยี่ยม คิก คิก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #621 เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 02:19:40 PM »

อันนี้เป็น FW Mail นะครับ เห็นว่าตลกดี เลยนำมาฝากกัน

ขันวันละขำ ๑๑๗

ว่ากันด้วยเรื่องการถอดรองเท้า...ใส่บาตรพระ

อันที่จริงแล้ว จุดประสงค์ของการถอดรองเท้าคือเป็นการให้ความเคารพพระสงฆ์

โดยการไม่ยืนสูงกว่าท่าน เพราะเวลาพระสงฆ์บิณฑบาตจะเดินเท้าเปล่า

แต่มีญาติโยมบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการถอดรองเท้าซึ่งมีหลายประเภทเหมือนกัน เช่น
 
บางคนถอดรองเท้าอย่างเรียบร้อยแต่ยืนบนรองเท้า - -" (สูงกว่าเดิมอีก)

บางคนถอดรองเท้าและยืนบนพื้นจริง แต่ว่าตัวเองยืนบนฟุตบาท พระยืนบนพื้นถนนซะงั้น (หนักกว่าเก่า)
 
เคยมีเรื่องเล่าว่า มีโยมคนหนึ่งยืนใส่บาตรพระ พระเห็นว่าโยมใส่รองเท้าเลยแนะนำโยมไปว่า

พระ : "โยม อาตมาว่าโยมควรถอดรองเท้าใส่บาตรนะ"

โยมมีสีหน้าตกกะใจ ตอบพระไปว่า

โยม : เอ่อ จะดีเหรอคะ

พระ : ไม่เป็นไรหรอกโยม

โยมก็จัดแจงถอดรองเท้า ยกขึ้นมาพร้อมกับถามพระว่า

โยม : จะให้ใส่ข้างเดียวหรือว่าสองข้างเลยคะ

พระตกใจ ตกใจ ตกใจ

ด้วยความเคารพครับ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
ไปทำนามา
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 98



« ตอบ #622 เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 02:36:13 PM »

อันนี้เป็น FW Mail นะครับ เห็นว่าตลกดี เลยนำมาฝากกัน

ขันวันละขำ ๑๑๗

ว่ากันด้วยเรื่องการถอดรองเท้า...ใส่บาตรพระ

อันที่จริงแล้ว จุดประสงค์ของการถอดรองเท้าคือเป็นการให้ความเคารพพระสงฆ์

โดยการไม่ยืนสูงกว่าท่าน เพราะเวลาพระสงฆ์บิณฑบาตจะเดินเท้าเปล่า

แต่มีญาติโยมบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการถอดรองเท้าซึ่งมีหลายประเภทเหมือนกัน เช่น
 
บางคนถอดรองเท้าอย่างเรียบร้อยแต่ยืนบนรองเท้า - -" (สูงกว่าเดิมอีก)

บางคนถอดรองเท้าและยืนบนพื้นจริง แต่ว่าตัวเองยืนบนฟุตบาท พระยืนบนพื้นถนนซะงั้น (หนักกว่าเก่า)
 
เคยมีเรื่องเล่าว่า มีโยมคนหนึ่งยืนใส่บาตรพระ พระเห็นว่าโยมใส่รองเท้าเลยแนะนำโยมไปว่า

พระ : "โยม อาตมาว่าโยมควรถอดรองเท้าใส่บาตรนะ"

โยมมีสีหน้าตกกะใจ ตอบพระไปว่า

โยม : เอ่อ จะดีเหรอคะ

พระ : ไม่เป็นไรหรอกโยม

โยมก็จัดแจงถอดรองเท้า ยกขึ้นมาพร้อมกับถามพระว่า

โยม : จะให้ใส่ข้างเดียวหรือว่าสองข้างเลยคะ

พระตกใจ ตกใจ ตกใจ

ด้วยความเคารพครับ


 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #623 เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 04:48:39 PM »

..หมอนี้ตายไปได้ปีนต้นงิ้วต่อจากปีนมุมตึกแบบนี้แน่นอน Sure and Confirm อิอิ.. คิก คิก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #624 เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 05:21:17 PM »

 ตลกเทศฝึกภาษา ฮาไปด้วย


--------------------------------------------------------------------------------

 

A gentleman goes to see the doctor about getting something done about his missing penis, which he lost in the war. The doctor asks the man how many males were in his family and the gentleman replied seven. The doctor said if they all agreed, he could take an inch off of each male and the gentleman would have a eight inch penis.

 

The gentleman asked the other males in his family if they would agree to having the surgery and everyone said yes. The next day all eight males went into the hospital to have the surgery. After it was all performed the doctor told the gentleman that he had a brand new eight inch penis, but to be extremely careful with it and to come back and see him in a week.

 

The next week the gentleman goes back to see the doctor and the doctor asked him how his new penis was working. The gentleman replied,

 

"Great doc, but I only have one question. Who's brilliant idea was it to put grandpa's part in the middle?"

สงสัยจะงอโค้งรับกับสรีระได้ดีกว่าเดิมนะครับ ขำก๊าก ขำก๊าก
___________________________________________________________ ____

 

A rather attractive woman goes up to the bar in a quiet rural pub. She gestures alluringly to the barman who comes over immediately.

 

When he arrives, she seductively signals that he should bring his face close to hers. When he does so, she begins to gently caress his beard, which is full and bushy.

 

"Are you the Manager?" she asks, softly stroking his face with both hands.

 

"Actually, no" he replies.

 

"Can you get him for me - I need to speak to him." she coos, running her hands up beyond his beard and into his hair.

 

"I'm afraid I can't," breathes the barman - clearly aroused. "Is there anything I can do?"

 

"Yes there is. I need you to give him a message," she continues huskily, popping a couple of fingers into his mouth and allowing him to lick them gently.

 

"Tell him that there is no toilet paper in the ladies room."

เผลอเลียนิ้วเธอไปแล้ว ขำก๊าก ขำก๊าก
_________________________________________________

 

Three nuns passed every day through a street that led them from Church to a Reformatory. They noticed a parrot that stood at the entrance of a big residential house. Every time they passed in front of that house, the bird would pronounce three sequential colors.

 

One day, they heard, "yellow, blue, black."

 

One of the nuns noticed that those colors perfectly matched the colors of their underwear. She mentioned her discovery to the other two nuns, but both were reluctant to believe that could be possible.

 

The next day, they all wore black underwear and passed in front of the house, and very precisely the parrot spoke,

 

"black, black, black."

 

Hearing that, the three nuns were astonished! One of the nuns spoke up,

 

"Girls, tomorrow we are going to trick that bird." Saying that, she recommended that the next day, none of them should be wearing any underwear under their vestments.

 

Respecting their agreement, the next day they wore no underwear, and proceeded to pass in front of the parrot's house.

 

Initially, the parrot looked a bit puzzled, he swung back and forth on his perch.

 

Then, after a while, the Parrot said,

 

"Straight, Straight, Curly!"

เส้นเหยียดตรงสอง คดๆงอๆหยิกหยอยหนึ่ง  ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย
___________________________________________________________ ____

 

"Doc," says Arthur, "I want to be castrated."

 

"What on earth for?" asks the doctor in amazement.

 

"It's something I've been thinking about for a long time and I want to have it done", replies Arthur.

 

"But have you thought it through properly?" asks the doctor.
"It's a very serious operation and once it's done, there's no going back. It will change your life forever!"

 

"I'm aware of that doc and you're not going to change my mind; either you book me in to be castrated or I'll simply go to another doctor."

 

"Well, OK.", says the doctor, "but its against my better judgment!"

 

So Arthur has his operations and the next day he is up and walking very slowly, legs apart, down the hospital corridor with his IV stand.

 

Heading toward him is another patient, who is walking exactly the same way.

 

"Hi there", says Arthur. "It looks like you've just had the same operation as me."

 

"Well", said the patient. "I finally decided after 37 years that I would like to be Circumcised."

 

Arthur stared at him in horror...

 

"Shit, THAT'S THE WORD!!!!"

ขลิบก็บอกขลิบไม่ใช่ตอน ยิ้มีเลศนัย
_________________________________________________

 

A couple is celebrating their 50th wedding anniversary in a lovely restaurant. They were talking about how happy their marriage has been and still is.

 

The husband says, "We have been married for so long, 50 wonderful years, but there is something I have been meaning to ask you."

 

"Yes, dear, anything you want," replies the wife.

 

"Have you always been faithful? Come on, you can tell me; we have been married for so long nothing can change that."

 

Shocked as she was she figured she owed him the truth.

 

"I have been unfaithful three times," she says. "Remember when you were going to lose the business and you desperately needed a loan, but none of the banks you went to gave you one. And then, on the weekend, one of the bank managers came to the house and gave it to you. Well that was the first time."

 

"I am shocked, but also I love you dearly because you sacrificed yourself to save me from bankruptcy. What about the 2nd time?" he asks.

 

"The second time was when you had the heart attack and needed that special surgery. Remember the heart specialist flew in from Chicago?" she said.

 

"Again I am shocked but I love you even more because you did it for me. You are truly a magnificent woman. Tell me the third time."

 

"Well, remember when you were running for mayor and you were 47 votes short...."


ครั้งที่สามตอนที่ อ่า อ่า ตอนที่คะแนนคุณยังขาดอีก 47 เสียง
_________________________________________________

 

___________________________________________________________ ____

 

A guy is not getting along with his wife. He thinks maybe he'd like to have a pet and goes to a pet shop. After looking around he spots a parrot sitting on a little perch. He notices that it doesn't have any feet or legs. The guy says out loud,

 

"Geez, I wonder what happened to this parrot."

 

"I was born this way," says the parrot. "I'm a defective parrot."

 

"Ha, ha," the guy laughs. "It sounded like this parrot actually understood what I said and answered me."

 

"I understood every word," says the parrot. "I am a highly intelligent, thoroughly educated bird. "

 

"Yeah?" the guy asks. "Then answer this: how do you hang onto your perch without any feet?"

 

"Well," the parrot says, "this is a little embarrassing, but since you asked I'll tell you. I wrap my little parrot penis around this wooden bar, kind of like a little hook. You can't see it because of my feathers."

 

"Wow," says the guy, "you really can understand and answer, can't you?"

 

"Of course. I speak both Spanish and English. I can converse with reasonable competence on almost any subject: politics, religion, sports, physics, philosophy ... and I am especially good at ornithology. You ought to buy me. I am a great companion."

 

The guy looks at the price tag. "$200!" he says. "I can't afford that."

 

"Pssst," the parrot hisses, motioning the guy over with one wing.
"Nobody wants me cause I don't have any feet. You can get me for $20 -- just make an offer."

 

The guy offers $20 and walks out with the parrot. Weeks go by.
The parrot is sensational. He's funny, he's interesting, he's a great pal, he understands everything, sympathizes, gives good advice. The guy is delighted.

 

One day he comes home from work and the parrot says,

 

"pssst," and motions him over with one wing. The guy goes up close to the cage.

 

"I don't know if I should tell you this or not," says the parrot, "but it's about your wife and the mailman..."

 

"What?" says the guy. "What?"

 

"Well," the parrot says, "when the mailman came to the door today your wife greeted him in a sheer nightgown and kissed him on the mouth."

 

"What happened then?" asks the guy.

 

"Then the mailman came into the house and lifted up the nightgown and began petting her all over," reports the parrot.

 

"Oh No!" the guy says, "Then what?"

 

"Then he lifted up the nightgown, got down on his knees and began to lick her body, starting with her breasts and slowly going down and down ..."

 

The parrot pauses for a long time.

 

"Then what... what happened next... WHAT HAPPENED?" says the frantic guy.

 

"I don't know," says the Parrot, "that's when I fell off my perch."

จะม้วนพันคอนอยู่ได้ไงเห็นหนังสดแบบนั้น ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย
_________________________________________________

บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #625 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 03:13:18 PM »

ขันวันละขำ ๑๑๘

Transporter IV

ณ ด่านชายแดนแห่งหนึ่ง สหายดำ ขี่จักรยานบรรทุกกระสอบสองใบจะผ่านด่านข้ามไปเขมร

เจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียก สหายดำ เพื่อขอตรวจสิ่งของ ที่บรรจุภายในกระสอบทั้งสองใบ
 
เจ้าหน้าที่ : นี่เรา !! กระสอบนั่นน่ะ ขนอะไรมา เทออกมาดูหน่อย

สหายดำ : มะ มะ ไม่ มีอะไรครับ นาย มีแต่ทราย ครับ

เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงได้เทของจากกระสอบทั้งสองใบแล้ว แล้วปรากฎว่าเป็นทรายดังที่ สหายดำบอกจริง ๆ

แม้จะพยายาม เขี่ยทรายทั้งสองกองอย่างไรก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ  เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตักทรายใส่กระสอบคืนดังเดิม

แล้วปล่อยให้ สหายดำข้ามแดนไป

วันรุ่งขึ้น สหายดำ ก็ขี่จักรยานบรรทุกกระสอบมาสองใบอีก  เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจ

โดยเทของ ในกระสอบออกมา พบว่ามีแต่ทรายทั้งสองกระสอบ จึงตักทรายใส่กระสอบแล้วปล่อยให้สหายดำข้ามด่านไป

ในวันต่อมาและต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวัน  สหายดำ ก็จะขี่จักรยานบรรทุกกระสอบสองใบผ่านด่านทุกวัน

เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็จะเทของออกจากกระสอบทั้งสองใบมาตรวจทุกวันเช่นเดียวกัน

เพราะกลัวสหายดำ ลักไก่ แต่ในที่สุดก็พบว่าของในกระสอบมีแต่ทรายเท่านั้น เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง

เวลาผ่านไปหลายเดือน สหายดำหายหน้าไป ไม่ขนกระสอบผ่านด่านดั่งที่เคยทำทุกวันอีกต่อไป

วันหนึ่งเจ้าหน้าที่ไปพบกับสหายดำ ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่โดยบังเอิญ

แต่คราวนี้ สหายดำแต่งตัวภูมิฐานมีเครื่องประดับมากมาย จึงเดินเข้าไปทักทาย
 
เจ้าหน้าที่ : อ้าว ว่างัยสหายดำ เดี๋ยวนี้ไม่ข้ามไปเขมรอีกแล้วหรือ รวยแล้วสิ

สหายดำ : ยิ้ม  ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย

เจ้าหน้าที่ : ผมอยากจะบอกนะว่า สหายดำ ทำพวกฉันเหนื่อยน่าดูเลย การหนีภาษีของนายนั้นแยบยลจริง ๆ นะ

สหายดำ : ยิ้ม  ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย

เจ้าหน้าที่ : ไหน ลองบอกผมหน่อยได้ไหมว่า จริง ๆ แล้วซ่อนของหนีภาษีอะไร แล้วซ่อนอยู่ที่ตรงไหน
                  พวกเราจึงค้นหาไม่พบ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร

สหายดำ : ผมเอาจักรยานไปขายฝั่งโน้นครับ  คิก คิก คิก คิก

เจ้าหน้าที่ :   โดนชก เยาะเย้ย ตกใจ หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

ด้วยความเคารพครับ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
เจ็บ
^_^ ไม่รุกรานใคร ^_^
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 162
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


ไม่พอใจใครจะเตะให้โด่งเลย


« ตอบ #626 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 03:52:28 PM »

ขอผมบ้างนะครับ  ถ้าซ้ำกับคนอื่นก็ขออภัยด้วยครับ  เป็นเรื่องเล่าตลกๆครับไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า    เอามาจากวงหล้าอ่ะครับ

นายเอ  และนายบีเป็นพี่น้องกัน  แต่นายเอมีนิสัยที่ชอบแอบดูข้างบ้านอาบน้ำเป็นประจำแต่ไม่เคยจับได้เสียที  อยู่มาวันหนึ่ง  ผู้พี่ชวน  ผู้น้องไปแอบดูข้างบ้านอาบน้ำ  แต่ฝ่ายน้องก็ไม่อยากไปเท่าไรนัก  ก็เลยไปเป็นเพื่อนพี่ชายทั้งที่ไม่อยากไป  ครั้นเมื่อไปถึงปรากฏว่าลูกสาวบ้านนั้นได้อาบน้ำไปแล้ว  ทำให้พี่น้องทั้งคู่ผิดหวังอย่างยิ่ง  ก็เลยนั่งอยู่หลังห้องน้ำ     ฝ่ายลูกสาวบ้านนั้นปวดฉี่ก็เลยให้แม่ลงมาเป็นเพื่อน   ฝ่าย 2 พี่น้องเห็นสาวลงมาเข้าห้องน้ำก็ดีใจกันใหญ่    พอลูกสาวบ้านนั้นได้เข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำ  โดยที่มีแม่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำ
ลูกสาว   :  .........ซ่า......ปู้ด............. Huh  ?
แม่         :  โห........มาทั้งพี่ทั้งน้องเลยเหรอ............(ฉี่  และ  ตด)
ฝ่าย 2 พี่น้องแอบอยู่หลังห้องน้ำได้ยินแม่ของลูกสาวพูดแบบนั้นก็คิดว่าเขาเห็นเรา  2  คนที่แอบอยู่หลังน้องน้ำแน่ๆ  ผู้เป็นน้องที่ไม่เต็มใจมาก็เลยตะโกนออกไปว่า  ผมเปล่านะครับ  ผมไม่เกี่ยว  ผมมาเป็นเพื่อนพี่ผมเฉยๆ  เท่านั้นแหละทั้งแม่ทั้งลูกช่วยกันด่าช่วยกันแช่งใหญ่เลยครับ   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

"  ในปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่าใบปริญญามากมายนัก  "
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #627 เมื่อ: กันยายน 10, 2009, 09:54:40 AM »

ขอบคุณครับ ท่านเจ็บ

+๑ ให้ครับที่เข้ามาเพิ่มสีสัน

ด้วยความเคารพ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #628 เมื่อ: กันยายน 10, 2009, 09:57:35 AM »

ขอบคุณท่าน Southlander ด้วยครับ

+๑ ให้ครับ

ด้วยความเคารพ
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
เจ็บ
^_^ ไม่รุกรานใคร ^_^
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 162
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


ไม่พอใจใครจะเตะให้โด่งเลย


« ตอบ #629 เมื่อ: กันยายน 10, 2009, 12:50:51 PM »

                                                                ขำๆนะครับอย่าคิดมาก  เอามาจากในวงเหล้าครับ  ถ้าซ้ำขออภัยครับ
มี 2 คู่ สามีภรรยาได้ซื้อ town house อยู่ติดกัน  ซึ่งต่างฝ่ายต่างมี  ลูกชายเหมือนกันชื่อ ต้อม  และต่าย  ได้ทำความรู้จักกัน  จนสนิทสนมกลมเกลียวกันมีอะไรก็แบ่งปันกันตลอดมา  จนอยู่มาวันหนึ่งได้พูดถึงฝีมือการทำอาหารของแม่ตนเอง  ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็คุยว่าแม่ของตนทำกับข้าว  อาหารคาวหวานได้อร่อยกว่า
ต้อม    :  แม่ฉันทำกับข้าวอร่อยกว่าแม่ของนายนะรู้ป่าว
ต่าย     :  อืม...... ( พูดไม่ออกเพราะเป็นความจริง ) .....
ต้อม    :  แม่ของฉันทำของหวานได้อร่อยกว่าแม่ของนายนะ
ต่าย     :  อืม...... ( พูดไม่ออกเพราะเป็นความจริง ) .....
ฝ่าย ด.ช.ต่าย  เริ่มน้อยใจเนื่องจากผู้เป็นแม่ตัวเอง  เพราะไม่รู้จะคุยอวดอะไรดี  พลันนึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินพ่อของ  ด.ช.ต้อม  พูดอยู่ครั้งหนึ่ง  แล้วจึงพูดออกไปว่า
ต่าย    :  รู้ป่าวว่าพ่อนายเคยชมแม่ของเราว่ารสชาติดีกว่าแม่ของนายนะ
ต้อม    :  ..................................................Huh?...............................
                                  สรุปแล้วคือ...... หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

"  ในปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่าใบปริญญามากมายนัก  "
หน้า: 1 ... 39 40 41 [42] 43 44 45 ... 55
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.095 วินาที กับ 21 คำสั่ง