ขอเรียนถามพี่ๆนักกีฬา IPSC หน่อยครับ..ว่า

[MJTactical]

standard มีกฎที่ว่า ปืนที่ใช้แข่งต้องวางลงกล่องที่กำหนดโดย World IPSC

(225 mm x 150 mm x 45 mm (tolerance of +1 mm, -0 mm).  และขนาดกระสุนต้องมีหน้าตัด .40 หรือ

ใหญ่กว่า และที่นิยม .40 นั้นก็

เพราะ .40 ยิงได้ง่ายกว่า .45 และบรรจุกระสุนในแม็กขนาดเท่ากัน (126 มม.) ได้มากกว่า ซึ่งในการแข่ง IPSC ถ้ามี

กระสุนในแม็กมากกว่า ก็ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนแม็กบ่อย ซึ่งก็จะทำให้เวลาโดยรวมในการแข่งสนามนั้นๆน้อยลง

และ .40 นั้นให้ความเร็วที่สูงกว่า .45 และทำให้ความ power factor (น้ำหนักหัวกระสุน x ความเร็ว / 1000) นั้น

สูงกว่า .45 แต่ยิงได้นุ่มกว่า

สำหรับกระสุนที่ใช้ในการแข่งขัน ต้องมี Power Factor ดังนี้ครับ

ปืน Standard Major ต้องมี Power Factor 170 ขึ้นไป

ปืน Standard Minor ต้องมี Power Factor 125 ขึ้นไป

กระสุน Standard ไม่จำกัดน้ำหนักหัวกระสุน แต่ขนาด ต้อง .40 นิ้ว ขึ้นไป

ปืน Open Major ต้องมี Power Factor 160 ขึ้นไป

ปืน Open Minor ต้องมี Power factor 125 ขึ้นไป

กระสุน Open นั้นน้ำหนักหัวกระสุนต้อง 120 เกรน ขึ้นไป ขนาดต้อง 9 มม.ขึ้นไปด้วย

แต่ที่นิยม 38 super แต่ไม่นิยม .40 นั้น ก็เพราะว่า ปืน open เป็นปืนที่

สามารถแต่งอะไรก็ได้ แต่แม็กต้องยาวไม่เกินหรือเท่ากับ 170 มม. ซึ่ง ในแม็กที่มีความยาวขนาดนี้ 38 super สามารถ บรรจุได้ถึง 28 นัด

(ถ้าจำไม่ผิด) ส่วน .40 สามารถบรรจะได้แค่ 20 นัด ซึ่งถ้ามีกระสุนในแม็กมากๆ ก็ไม่ต้องเสียเวลาเปรียมแม็กบ่อย ดังนั้น ในรุ่น open

จึงนิยม 38 super ครับ และ อีกอย่างที่รุ่น open นิยม 38 super ไม่นิยม 9 มม. (ทั้งๆที่ขนาดหน้าตัดกรสุนเท่ากัน) เพราะว่า 38 super ให้

ความเร็วมากกว่า และให้ power factor มากกว่า 9 มม.

ส่วนด้านความรู้สึกนั้น ผมยังไม่เคยลอง .40 เลยครับ

แต่ถ้า 38 super ผมว่า 38 super เป็นกระสุนที่ยิงได้ง่ายมากครับ ไม่ค่อยเตะเท่าไหร่

ps.

ถ้าท่านอื่นมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างออกไป ก็ขอให้ช่วยตอบด้วยนะครับ

และถ้าที่ผมตอบไปมีอะไรผิด ก็ขออภัยและขอความกรุณาแก้ไขให้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

Marcus_freedom

 สแดนดาร์ท ต้องมีหน้าตัดกระสุน .๔๐  ขึ้นไป   ไม่จริงครับ

  ขออภัยที่ข้อมูลตกหล่นครับ 

ลืมนึกถึงขนาด 9 มม. ไปสนิทเลยครับ

พอดีตอนเขียนตอบกระทู้มัวแต่อ่านข้อมูลจากเว็ปสมาคมจากlink http://www.thpsa.com/PHP-Nuke/html/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2

เพื่อมาใช้อ้างอิง

จนลืมนึกถึงหลักความเป็นจริงที่ว่ามีคนเอา 9 มม.ลงแข่ง standard ด้วย

  ต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ 

ขอบคุณท่าน TIGER WUT ที่ช่วยเสริมและแก้ไขข้อมูลครับ

[rockguns]

นั่นน่ะซิครับพี่เสือผมเข้าไปอ่านจากเวปสมาคมมาก็เข้าใจว่าขนาดกระสุนหน้าตัดต่ำสุดต้องเป็น .40 และต้องใส่ลงกล่องใส่ปืนสแตนดาร์ดโรงงานได้ แต่ถ้าเรื่องความเร็วหัวกระสุน ขนาด9 มม. น่าจะเสียเปรียบ.40 ในรุ่นสแตนดาร์ดค่อนข้างเยอะนะครับ

            เท่าที่สังเกตุคือเสียเปรียบด้านคะแนน ทีเป็นไมเนอร์  a=5 ,c=3,d=1 คะแนน ส่วนเมเจอร์ .40 a=5,c=4,d=1  อ้อความเร็วของหัวกระสุนด้วยมีผลต่อแรงรีคอยล์

            เท่าที่ทราบเพราะผมไม่มี. 9 มม.นะครับ PRODUCTION ต้องเป็นปืนที่ผลิตจากโรงงาน เท่านั้น เปลี่ยนศูนย์ได้ ปรับแต่งน้ำหนักไกไม่ได้ จะโดนTEST น้ำหนักไกก่อนแข่งไม่ตรงตามกติกาก็ลงแข่งไม่ได้ในประเภทนี้จะโดน UP ไปประเภทอื่นแทน จะเป็นการแบกน้ำหนักมากเกินที่เราต้องการ

           ส่วน STANDARD เป็นปืนตกแต่งได้บางจุด แต่งไกได้นิ่มเท่าที่ควบคุมได้ ถ้าลั่นโดยไม่ได้ทำการแข่งก็ต้องออกจากการแข่งขัน ที่เรียกว่า D.Q. DIS QUALIFIED หลายๆคนเปลี่ยนชุดลั่นไกหมดส่วนมากจะเป็น CUSTOM ซะทั้งนั้น ศูนย์ก็ต้องเป็นศูนย์เปิดแบบไหนตามชอบ ยังไงก็ขอให้ปืนใส่แม็กลงกล่องวัดขนาดตามกติกาได้เป็นพอ ห้ามเจาะพอร์ทนะครับ

[pimuk]

นายร็อกกันส์เก่งทฤษฎีเหลือเกิน 

[rockguns]

นายร็อกกันส์เก่งทฤษฎีเหลือเกิน 

           นี่อีกท่านนึงที่ขโมยค่าขนมลูก ไปยิงทั้งPRODCTION กะ  STANNDARD  ใช้กล็อค 19 กับอะไรนะป๋า

           เก่งอย่างที่พี่ประชดเพราะโดน D.Q.   

[pimuk]

นายร็อกกันส์เก่งทฤษฎีเหลือเกิน 

           นี่อีกท่านนึงที่ขโมยค่าขนมลูก ไปยิงทั้งPRODCTION กะ  STANNDARD  ใช้กล็อค 19 กับอะไรนะป๋า

           เก่งอย่างที่พี่ประชดเพราะโดน D.Q.  

ไม่ต้องขโมยค่าขนมลูกหรอก...
ปืนยืม กระสุนขอ สกอร์เอา 

[rockguns]

นายร็อกกันส์เก่งทฤษฎีเหลือเกิน 

           นี่อีกท่านนึงที่ขโมยค่าขนมลูก ไปยิงทั้งPRODCTION กะ  STANNDARD  ใช้กล็อค 19 กับอะไรนะป๋า

           เก่งอย่างที่พี่ประชดเพราะโดน D.Q.  

ไม่ต้องขโมยค่าขนมลูกหรอก...
ปืนยืม กระสุนขอ สกอร์เอา 

           ต่อไปผมดิ ต้องเบียด

[kkv]

สนใจเหมือนกันครับอยากไปเล่นด้วย อยากให้ชมรมจัดอบรมสำหรับมือใหม่ก็จะดีครับ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไง จัดเป็นคอร์สซักวันสองวันก็จะดีครับ ใครมีปืนอะไรก็เอาไปให้ตรวจและแนะนำดู ถ้าให้ดีร่วมกับร้านปืนหลายๆ ร้านเอาตัวอย่างปืนสำหรับรุ่นมือใหม่มาให้ดูด้วยเลยยิ่งดีครับ เหมือนเป็นงาน Fair ไปเลย

[rockguns]

สนใจเหมือนกันครับอยากไปเล่นด้วย อยากให้ชมรมจัดอบรมสำหรับมือใหม่ก็จะดีครับ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไง จัดเป็นคอร์สซักวันสองวันก็จะดีครับ ใครมีปืนอะไรก็เอาไปให้ตรวจและแนะนำดู ถ้าให้ดีร่วมกับร้านปืนหลายๆ ร้านเอาตัวอย่างปืนสำหรับรุ่นมือใหม่มาให้ดูด้วยเลยยิ่งดีครับ เหมือนเป็นงาน Fair ไปเลย

            มีหลายที่ครับ ที่เป็นกลุ่มชมรมอบรมการแข่งไอพี โดยเฉพาะที่สนามบางบัวทอง นักกีฬาแถวๆหน้าไปซ้อมที่นั่น ลองติดตามดูได้ ที่รับอบรมการแข่ง  สำหรับการจัดคอร์สสอนคงต้องใช้เวลาวันสองวันไม่พอครับ การสร้างทักษะความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ ไม่เหมือนกับยืนยิงเป้ากระดาษเฉยๆนะครับ  เมื่อท่านสนใจลองติดตามข่าวการแข่งขันไอพี และตามกระทู้ IPSC ได้ในเวปนี้ครับ สำหรับท่านที่อยากดูการแข่งใกล้ที่สุดที่สนามฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการเป็นแม็ทช์สั้นๆ ยาวๆก็ต้องไปที่สนามนวมินทร์ราชินี ชลบุรี มีการแข่งในวันอาทิตย์ทุกเดือนติดตามข่าวจากเวปเราเนี่ยละครับ  ขอบอกอย่างนึงควักทุนตัวเองเล่น ไม่มีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐฯโดยตรง มีแต่การขอใช้สนามของกองทัพครับ เดี๋ยวจะเรียกร้อง ตำหนิการจัดแข่ง นักกีฬาไอพี เล่นด้วยใจรักควักตังค์เอง มีหลายคนตำหนิว่าไม่รวยแต่มีฝีมือเรียกร้องสิ่งต่างๆ จากสมาคม มีฝีมือแล้วต้องมีตังค์ส่งตัวเองด้วยครับ ปืนชาวบ้านธรรมดาก็ลงแข่งได้ ตามกติกาสากลของไอพีเอสซี

[Phoenix]

อ่านแล้วมีหลากหลายคำตอบครับผมสรุปให้ก็แล้วกันครับ

Standard ขั้นต่ำ .40 เพราะสามารถได้ค่า PF 170 ได้คะแนนเป็น Major ครับของ Bullet ทำอยู่ประมาณ 173 ครับ. คะแนนที่ได้ครับ A=5 C=4 D=2 ส่วนที่เอา 9มม มาลงก็ได้แต่ได้เป็น Minor ครับเนื่องจากกระสุนไม่สามารถทำ PF 170 ได้ คะแนนที่ได้คือ A=5 C=3 D=1 ตรงนี้ผมขออนุญาตแก้ไขคุณปืนหินด้วยครับ
สาเหตุที่ใช้ขนาด .40 ใน Standard Division เพราะว่าเป็นกระสุนที่ทำค่าได้ตามที่กล่าวมาแล้ว คำถามไปที่เอ้าใช้ .45 ก็ได้ ถูกต้องครับแต่ .45 เสียเปรียบในเรื่องการบรรจุกระสุนครับ ตรงนี้เป็นหัวใจหลักที่ใช้ .40 ใน Standard ส่วนที่ปืนเตะถีบต่างกัน ไม่ใช่สาเหตุครับ

Open นั้นขั้นต่ำต้องมีหน้าตัดขนาด 9มมและกระสุนต้องหนักกว่า 120 เกรน เนื่องจากว่าในอดีตไม่จำกัด นน กระสุนที่อเมริกาก็เลยมีคนทำให้หัวเบาแล้วใส่ดินขับมากจนถึงขั้นอันตรายเพราะปลอกกระสุนทนรับแรงไม่ไหว เขาเลยตรากฎระเบียบเรื่อง นน หัวกระสุนออกมาครับ ทีนี้ขนาดอื่นๆก็ทำได้แต่ก็เหมือนกันครับ .38 สามารถบรรจุกระสุนในแม็กยาว 170มม ได้มากกว่าขนาด .40 หรือ .45 ครับเลยใช้กระสุนขนาดนี้กัน ผมขอแก้ไขคุณปืนหินอีกทีครับ ค่า PF 160 นั้นเป้นตัวให้เป็น Major นั้นถูกต้องครับ ที่บอกว่าในต่างประเทศอัดดินเท่าไหร่ก็ได้ให้ผ่านก็พอ ยิ่งต่ำยิ่งดี ต้องขอโทษที่เห็นแย้งนะครับ ตรงนี้สามารถใช้ได้กับปืนแบบอื่นครับแต่กับ Open นั้นไม่ถูกครับ เพราะในปืน Open นั้นมีคอมพ์เข้ามาเกี่ยวด้วย ตัวคอมพ์ต้องการพลังงานของแก็สมากดตัวลำกล้อง ดังนั้นมันไม่แน่เสมอไปครับที่การทำเฉียด PF160 แล้วปืนจะเตะหรือถีบน้อยลง เพราะคอมพ์ที่ติดปืนมาไม่สามารถทำงานเต็มประสิทธิภาพครับ ลองสังเกตุว่าเมืองนอกนิยมทำค่า PF 165-170 เพราะเพื่อให้มีแก๊สมากเพียงพอที่จะให้คอมพ์ทำงานเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สุดแต่คอมพ์ของแต่ละท่านครับ พอแก๊สมากไปความแม่นก็อาจจะลดลงเพราะแก๊สไปกวนกระสุน น้อยไปปืนก็เตะถีบมากไป นักกีฬาในต่างประเทศเขาถึงมีสูตรใครสูตรมันในการทำกระสุนครับ
เมื่อยแล้วครับ เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน มีคำถามที่พอตอบได้ค่อยมาตอบใหม่ครับ

[ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง]

เค้าไปภูเก็ตกันหมดเยย

[MJTactical]

อ่านแล้วมีหลากหลายคำตอบครับผมสรุปให้ก็แล้วกันครับ

Standard ขั้นต่ำ .40 เพราะสามารถได้ค่า PF 170 ได้คะแนนเป็น Major ครับของ Bullet ทำอยู่ประมาณ 173 ครับ. คะแนนที่ได้ครับ A=5 C=4 D=2 ส่วนที่เอา 9มม มาลงก็ได้แต่ได้เป็น Minor ครับเนื่องจากกระสุนไม่สามารถทำ PF 170 ได้ คะแนนที่ได้คือ A=5 C=3 D=1 ตรงนี้ผมขออนุญาตแก้ไขคุณปืนหินด้วยครับ
สาเหตุที่ใช้ขนาด .40 ใน Standard Division เพราะว่าเป็นกระสุนที่ทำค่าได้ตามที่กล่าวมาแล้ว คำถามไปที่เอ้าใช้ .45 ก็ได้ ถูกต้องครับแต่ .45 เสียเปรียบในเรื่องการบรรจุกระสุนครับ ตรงนี้เป็นหัวใจหลักที่ใช้ .40 ใน Standard ส่วนที่ปืนเตะถีบต่างกัน ไม่ใช่สาเหตุครับ

Open นั้นขั้นต่ำต้องมีหน้าตัดขนาด 9มมและกระสุนต้องหนักกว่า 120 เกรน เนื่องจากว่าในอดีตไม่จำกัด นน กระสุนที่อเมริกาก็เลยมีคนทำให้หัวเบาแล้วใส่ดินขับมากจนถึงขั้นอันตรายเพราะปลอกกระสุนทนรับแรงไม่ไหว เขาเลยตรากฎระเบียบเรื่อง นน หัวกระสุนออกมาครับ ทีนี้ขนาดอื่นๆก็ทำได้แต่ก็เหมือนกันครับ .38 สามารถบรรจุกระสุนในแม็กยาว 170มม ได้มากกว่าขนาด .40 หรือ .45 ครับเลยใช้กระสุนขนาดนี้กัน ผมขอแก้ไขคุณปืนหินอีกทีครับ ค่า PF 160 นั้นเป้นตัวให้เป็น Major นั้นถูกต้องครับ ที่บอกว่าในต่างประเทศอัดดินเท่าไหร่ก็ได้ให้ผ่านก็พอ ยิ่งต่ำยิ่งดี ต้องขอโทษที่เห็นแย้งนะครับ ตรงนี้สามารถใช้ได้กับปืนแบบอื่นครับแต่กับ Open นั้นไม่ถูกครับ เพราะในปืน Open นั้นมีคอมพ์เข้ามาเกี่ยวด้วย ตัวคอมพ์ต้องการพลังงานของแก็สมากดตัวลำกล้อง ดังนั้นมันไม่แน่เสมอไปครับที่การทำเฉียด PF160 แล้วปืนจะเตะหรือถีบน้อยลง เพราะคอมพ์ที่ติดปืนมาไม่สามารถทำงานเต็มประสิทธิภาพครับ ลองสังเกตุว่าเมืองนอกนิยมทำค่า PF 165-170 เพราะเพื่อให้มีแก๊สมากเพียงพอที่จะให้คอมพ์ทำงานเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สุดแต่คอมพ์ของแต่ละท่านครับ พอแก๊สมากไปความแม่นก็อาจจะลดลงเพราะแก๊สไปกวนกระสุน น้อยไปปืนก็เตะถีบมากไป นักกีฬาในต่างประเทศเขาถึงมีสูตรใครสูตรมันในการทำกระสุนครับ
เมื่อยแล้วครับ เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน มีคำถามที่พอตอบได้ค่อยมาตอบใหม่ครับ

ขอบคุณครับ อาจารย์ ที่มาช่วยสรุปให้เข้าใจง่ายขึ้น

อ่านดูแล้วเข้าใจง่ายกว่าของผมเยอะเลยครับ

[Phoenix]

อ่านแล้วมีหลากหลายคำตอบครับผมสรุปให้ก็แล้วกันครับ

Standard ขั้นต่ำ .40 เพราะสามารถได้ค่า PF 170 ได้คะแนนเป็น Major ครับของ Bullet ทำอยู่ประมาณ 173 ครับ. คะแนนที่ได้ครับ A=5 C=4 D=2 ส่วนที่เอา 9มม มาลงก็ได้แต่ได้เป็น Minor ครับเนื่องจากกระสุนไม่สามารถทำ PF 170 ได้ คะแนนที่ได้คือ A=5 C=3 D=1 ตรงนี้ผมขออนุญาตแก้ไขคุณปืนหินด้วยครับ
สาเหตุที่ใช้ขนาด .40 ใน Standard Division เพราะว่าเป็นกระสุนที่ทำค่าได้ตามที่กล่าวมาแล้ว คำถามไปที่เอ้าใช้ .45 ก็ได้ ถูกต้องครับแต่ .45 เสียเปรียบในเรื่องการบรรจุกระสุนครับ ตรงนี้เป็นหัวใจหลักที่ใช้ .40 ใน Standard ส่วนที่ปืนเตะถีบต่างกัน ไม่ใช่สาเหตุครับ

Open นั้นขั้นต่ำต้องมีหน้าตัดขนาด 9มมและกระสุนต้องหนักกว่า 120 เกรน เนื่องจากว่าในอดีตไม่จำกัด นน กระสุนที่อเมริกาก็เลยมีคนทำให้หัวเบาแล้วใส่ดินขับมากจนถึงขั้นอันตรายเพราะปลอกกระสุนทนรับแรงไม่ไหว เขาเลยตรากฎระเบียบเรื่อง นน หัวกระสุนออกมาครับ ทีนี้ขนาดอื่นๆก็ทำได้แต่ก็เหมือนกันครับ .38 สามารถบรรจุกระสุนในแม็กยาว 170มม ได้มากกว่าขนาด .40 หรือ .45 ครับเลยใช้กระสุนขนาดนี้กัน ผมขอแก้ไขคุณปืนหินอีกทีครับ ค่า PF 160 นั้นเป้นตัวให้เป็น Major นั้นถูกต้องครับ ที่บอกว่าในต่างประเทศอัดดินเท่าไหร่ก็ได้ให้ผ่านก็พอ ยิ่งต่ำยิ่งดี ต้องขอโทษที่เห็นแย้งนะครับ ตรงนี้สามารถใช้ได้กับปืนแบบอื่นครับแต่กับ Open นั้นไม่ถูกครับ เพราะในปืน Open นั้นมีคอมพ์เข้ามาเกี่ยวด้วย ตัวคอมพ์ต้องการพลังงานของแก็สมากดตัวลำกล้อง ดังนั้นมันไม่แน่เสมอไปครับที่การทำเฉียด PF160 แล้วปืนจะเตะหรือถีบน้อยลง เพราะคอมพ์ที่ติดปืนมาไม่สามารถทำงานเต็มประสิทธิภาพครับ ลองสังเกตุว่าเมืองนอกนิยมทำค่า PF 165-170 เพราะเพื่อให้มีแก๊สมากเพียงพอที่จะให้คอมพ์ทำงานเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สุดแต่คอมพ์ของแต่ละท่านครับ พอแก๊สมากไปความแม่นก็อาจจะลดลงเพราะแก๊สไปกวนกระสุน น้อยไปปืนก็เตะถีบมากไป นักกีฬาในต่างประเทศเขาถึงมีสูตรใครสูตรมันในการทำกระสุนครับ
เมื่อยแล้วครับ เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน มีคำถามที่พอตอบได้ค่อยมาตอบใหม่ครับ

ขอบคุณครับ อาจารย์ ที่มาช่วยสรุปให้เข้าใจง่ายขึ้น

อ่านดูแล้วเข้าใจง่ายกว่าของผมเยอะเลยครับ

ผมเขียนเองบางทียังไม่เข้าใจที่ตัวเองเขียนเลยครับ

[ThaiLoei]

 ;D5-3-1 กับ 5-4-2 เชิญเลือก ตามจะบายครับ

[AEY@1911]

ขอถามเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับว่า ถ้าปืนในรุ่นสแตนดาร์ดเปลี่ยนจาก 9มม. เป็น .38 super เวลายิงเปรียบเทียบกับปืนขนาด .40 feeling ในการคุมปืนต่างกันมากไหมครับ 

[BSW]

ผมคิดว่า  ข้อความของกติกา Standard Division  ที่นำมาลงนั้น  ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์  จึงอ่านแล้วมีขอ้สงสัย      ผมขออนุญาตเติม

เต็มในส่วนที่ไม่ครบนะครับ

#########

ภาคผนวก D2 (Appendix D2)

Standard Division

1.  ค่า Power Factor   ต่ำสุดสำหรับ Major                             170

2.  ค่า Power Factor   ต่ำสุดสำหรับ Minor                              125

3.  น้ำหนักกระสุนต่ำสุด                                                         ไม่กำหนด

4.  ขนาดต่ำสุด เส้นผ่าศูนย์กลางของกระสุน/ความยาว             9 มม.(0.354 นิ้ว) / 19 มม. (.0748 นิ้ว)
     ของปลอกกระสุน

5. ขนาดต่ำสุดของ เส้นผ่าศูนย์กลางกระสุน สำหรับ Major           10 มม. (0.40 นิ้ว)

ฯลฯ

##########

คัดลอกมาจาก  กติกาของสมาคมฯฉบับภาษาไทยครับ    (สามารถสั่งซื้อได้ที่ สมาคมฯ)