
ขอเสริมเรื่องนี้ให้อีกนิดครับว่า เดี๋ยวนี้หากใครจะขายหรือซื้อปืนจากใคร หากจะทำให้ถูกกฎ
หมายก็ขอเพียงแค่ผู้ซื้อมีใบ ป.3 มาเท่านั้น ..... คนขายก็มอบปืนให้ไปได้ทันที โดยที่ทั้งคนซื้อ
และคนขายจะไม่มีความผิดกฎหมาย พ.ร.บ.อาวุธปืนเลย เพราะทั้ง 2 คนต่างมีใบ ป.3หรือสำเนา
คุมการซื้อขายกันไว้ ซึ่งปัจจุบันศาลฎีกาได้ตีความแล้วว่า ใบ ป.3 ใช้คุมปืนได้ตลอดทั้งผู้ซื้อและ
ผู้ขายในกรณีซือขายและส่งมอบปืนให้แก่กันไป
ขอยกเอามาให้ดูครับเพื่อจะได้สบายใจสำหรับผู้ที่ซื้อขายปืนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5139 / 2545 วินิจฉัยว่า การขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน
( ใบ ป.4 ) ผู้ขอจะต้องไปยื่นคำขอต่อนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่ที่ผู้ขอมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านก่อน
เมื่อนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่เห็นว่าผู้ขอมีคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯกำหนดแล้วจึงอนุญาต
ให้ซื้อหรือรับโอนอาวุธปืนได้ โดยจะออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล
( แบบ ป.3 )ให้ จากนั้นผู้ขอจึงนำใบ ป.3 ดังกล่าวไปซื้ออาวุธปืนจากร้านค้าหรือผู้ขาย แล้วจึง
นำอาวุธปืนพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปแสดงต่อนายทะเบียนอาวุธปืนผู้ออกใบอนุญาตเพื่อออกใบ
อนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ( แบบ ป.4 ) ถือได้ว่านายทะเบียนอาวุธปืนผู้ออกใบอนุญาตได้อนุญาต
ให้ผู้ขอมีและใช้อาวุธปืนแล้วตั้งแต่ออกใบ ป.3 ส่วนขั้นตอนการไปซื้อหรือรับโอนจนกระทั่งออก
ใบ ป.4 เป็นขั้นตอนต่อมาเพื่อควบคุมอาวุธปืนในราชอาณาจักรให้รู้ว่าอาวุธปืนแต่ละกระบอกอยู่ใน
ครอบครองของผู้ใดเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้ขอเพิ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนเมื่อนาย
ทะเบียนออกใบ ป.4 ให้ การที่จำเลยซื้อและครอบครองอาวุธปืนของกลางตามใบ ป.3 และดำเนิน
การขอออกใบ ป.4 สำหรับอาวุธปืนของกลางจนได้รับใบ ป.4 จึงไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและ
เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต
ภาษากฎหมายอ่านอาจจะไม่เข้าใจสักนิด อธิบายอย่างภาษาชาวบ้านว่า ถ้าจะซื้อขาย
ปืนกันอย่างถูกกฎหมาย อย่าโอนลอยก่อน / ให้คนซื้อเขาไปขอ ป.3มาก่อน พอเขาได้ป.3
มาแล้วเราคนขายสามารถมอบปืนให้เขาได้ทันที เพราะเมื่อเขาเอา ป. 3 มาได้ก็ถือว่านายทะเบียน
ผู้ออกใบอนุญาตได้อนุญาตให้เขา ( คือผู้ซื้อ )มีและใช้อาวุธปืนในกระบอกนั้นแล้วตั้งแต่ออกใบ ป.3
แต่ถ้าจะโอนลอยก่อนก็ทำได้ อยู่ที่เลือกคนและยอมเสี่ยงเอา

ส่วนเรื่องพกพาก็ระวังหน่อย อาจมีความผิดได้ อย่างที่นายใหม่กับท่านนาจาบอกบอกไว้