คร้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว หากผู้ใดต้องการมีรถแท้กซี่ นอกจากจะต้องซื้อตัวรถแล้ว จะต้องซื้อทะเบียนรถแท้กซี่ซึ่งมีราคาเท่ากับ หรือแพงกว่าตัวรถแท็กซี่ด้วย สรุปคือจ่ายเป็น 2 เท่า จนมีการขายทะเบียนรถแท้กซี่กันเอิกเกริก และราคาสูงขึ้นทุกวัน ก็คงเหมือนกับราคาปืนสมัยนี้ ถ้าต้องการให้ราคาปืนลดลง จึงอยู่ที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ทราบมาว่า ท่าน รมต.มหาดไทย คนใหม่ เป็นบุคคลชื่นชอบปืนเช่นกัน ถ้าท่านคิดจะแก้ไขจริงจัง น่าจะทำได้ 
กรณีนี้ชัดเจนครับ.................
สมัยก่อน มีการจำกัด"โควต้า"รถแท๊กซี่ใน กทม. ทำให้เพิ่มจำนวนรถแท๊กซี่ไม่ได้(ถ้าจำไม่ผิด แค่สองหมื่นคัน ทั้งกรุงเทพฯ)....................รถก็เก่าลงๆทุกวันจนโทรม จะใช้รถแท๊กซี่ที รอเรียกจนเมื่อย กว่าจะวิ่งผ่านมาสักคัน.................คนที่มีโควต้ารถแท๊กซี่ในมือ ก็ซื้อ-ขายกันแพงๆ รถโทรมๆ ขายกันสมัยนั้น แปดแสน (ในขณะที่โตโยต้า โคโรน่า 2.0 ขายในโชร์รูม ห้าแสนกว่า)...................จนมีการปลอมทะเบียนสวมรถให้เป็นสอง-สามคัน แล้วให้วิ่งคนละฝั่งกทม. ...................
มารัฐบาลนายกฯอานันท์ฯ ..............เปิดแท๊กซี่เสรี (ซึ่งตอนนั้นผมจำได้ว่า บรรดาเถ้าแก่เจ้าของโควต้ามาประท้วงกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้าฯ)เราจึงเห็นรถแท๊กซี่ใหม่ๆออกมาวิ่งกันเกลื่อน..............ตอนนี้ใครจะถอยรถแม๊กซี่มาวิ่ง ซื้อได้สบายๆ ผ่อนถูกด้วย................
ดังนั้น กรณีปืน หากยกเลิกโควต้าจำนวนสั่งเข้า หรือ โควต้าจำกัดจำนวนในการขาย...................ราคาลดลงแน่ครับ ตามกลไกตลาด.............. ซึ่งเราๆท่านๆ คงมีโอกาสได้สัมผัส ยี่ห้อและรุ่นที่ยังไม่เข้าเมืองไทยกันบ้าง............
กลัวไม่ทำจริงเท่านั้นแหละ...................