พร้อม ๆ กับการเดินทางกลับไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีกระแสข่าวทำนองว่าทีมอารักขาเป็นกังวลเรื่อง ความปลอดภัย และมีข่าวลือ ปืนซุ่มยิงระยะไกล-ปืนลอบสังหาร ที่มีใช้ในหน่วยงานทหาร-ตำรวจ ที่ในเมืองไทยก็มีใช้ คือปืน SIG 3000 หายไปจากแหล่งเก็บบางแหล่ง 3 กระบอก ?!?
หายจริง-ไม่จริงหรืออย่างไรแน่ ? ก็ไม่อาจทราบได้
แต่ว่ากันถึง ปืนลอบสังหาร เรื่องนี้มี เบื้องลึก
ทั้งนี้ กับเรื่องของปืนซุ่มยิงระยะไกลที่ผู้ใช้-ผู้ยิงเรียกว่า สไนเปอร์ (Sniper) แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืนรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า... SIG 3000 ที่เป็นข่าว มีชื่อเต็มว่า SIG Arms SSG 3000 ซึ่งข้อมูลจำเพาะคือมีความยาวลำกล้องปืน 23.4 นิ้ว ความยาวทั้งหมดของตัวปืน 46.5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 12 ปอนด์ กระสุนที่ใช้คือขนาด .308 วินเชสเตอร์ น้ำหนักหัวกระสุน 168 เกรน ความเร็วของกระสุนปืนอยู่ที่ประมาณ 2,600 ฟุตต่อวินาที ความแม่นยำที่สุดของปืนรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 500 เมตร
ปืนรุ่นนี้สามารถถอดแยกส่วนได้ทั้งลำกล้อง ลูกเลื่อน เครื่องลั่นไก และซองใส่กระสุน ส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่า Sniper Rifles แต่ในวงการทหารหรือตำรวจมักจะเรียกว่าเป็นปืนประเภท Tacticle Rifles มีใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในหน่วย SWAT หน่วยเฉพาะกิจ
ส่วนตัวคิดว่าหากจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญที่มีการอารักขา เข้มงวด อานุภาพของปืนที่ว่านี้ยังไม่น่าจะเพียงพอ เนื่องจากขอบเขตของการรักษาความปลอดภัยในวงนอกของทีมคุ้มกันโดยทั่วไปจะอยู่เกินระยะหวังผลของปืน อีกทั้งความแรงของหัวกระสุนขนาด .308 ก็ไม่น่าจะพอ
แหล่งข่าวระบุต่อไปว่า... โดยหลักปฏิบัติการลอบสังหารบุคคลที่มีการอารักขาเต็มพิกัด ไม่น่าจะเลือกใช้ SIG 3000 แต่ต้องเลือกปืนซุ่มยิงที่มีอานุภาพสูงกว่า ซึ่งหากจะว่ากันถึงปืนลักษณะนี้โดยทั่วไป กระบอกที่น่าสนใจมากที่สุดน่าจะเป็นปืนยี่ห้อ Barrett รุ่น Model 82A1/M107 ซึ่งเป็นปืน Sniper Long Range Rifles ที่ปกติจะมีใช้เฉพาะในราชการลับทางการทหารเท่านั้น
ว่ากันว่าปืนรุ่นนี้เป็นปืนซุ่มยิงระยะไกลที่มีอานุภาพสูงมากที่สุดกระบอกหนึ่งของโลก ข้อมูลจำเพาะคือมีขนาดลำกล้อง 2 ขนาดคือ 29 นิ้ว และ 20 นิ้ว ขนาด 29 นิ้วเมื่อรวมตัวปืนทั้งหมดจะมีความยาว 57 นิ้ว น้ำหนัก 14 กิโลกรัม ส่วนขนาดลำกล้อง 20 นิ้วจะมีความยาวรวมประมาณ 48 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 13.5 กิโลกรัม ซึ่งแม้ปืนรุ่นนี้จะมีขนาดยาวและใหญ่โต แต่การถอดแยกชิ้นส่วนและประกอบปืนโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถทำได้ในเวลาเพียง 1 นาที ด้วยสลัก (PIN) ที่เชื่อมส่วนบนและล่างของปืนไว้เพียง 2 ตัว
ปืนรุ่นดังกล่าวนี้ผลิตในสหรัฐ มีใช้ในวงการทหาร-ราชการลับสหรัฐมานานกว่า 20 ปีแล้ว พัฒนามาจาก ปืนกลติดรถถัง พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นปืนซุ่มยิงเป้าหมายจากระยะไกลประสิทธิภาพสูง และมีการนำมาใช้มากใน สงครามทะเลทราย ซึ่งปืนรุ่นนี้มีระยะหวังผลได้ไกลมาก คือประมาณ 2.3 กิโลเมตร และกล้องส่องสำหรับเล็งเป้าหมายก็เป็นกล้องรุ่นพิเศษที่มีกำลังขยายมากกว่า 30 เท่า ผลิตขึ้นสำหรับใช้กับปืนรุ่นนี้โดยเฉพาะ สามารถเล็งเป้าหมายระยะไกลได้อย่างแม่นยำ และยังมีความทนทานต่อแรงสะท้อนถอยหลังด้วย
82A1/M107 ใช้กระสุนชนิด M107 ขนาด .50 คาลิเบอร์ มี น้ำหนักหัวกระสุน 660 เกรน ขณะที่ปืนรุ่น SIG 3000 ที่เป็นข่าวมีน้ำหนักหัวกระสุนเพียง 168 เกรน เรียกได้ว่าความรุนแรงคนละเรื่อง
เปรียบเทียบเรื่องกระสุนกันแล้ว กับ SIG 3000 อาจพูดได้ว่าแค่ประทัดดอกหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ 82A1/M107 ความแรงของกระสุนยิงช้าง 2 ตัวทะลุได้สบาย ๆ ยิงรถเข้าหัวก็ออกท้าย ยิงซ้ายทะลุขวา ถ้าอยู่ในระยะหวังผลต่อให้เป็นรถหุ้มเกราะก็ต้านไม่อยู่ แถมยังมีหัวกระสุนแบบพิเศษที่สามารถทะลุเข้าไปจุดระเบิดในถังน้ำมันยานพาหนะจนระเบิดทั้งคันได้อีกต่างหาก ...แหล่งข่าวกล่าว
พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า... SIG 3000 บรรจุกระสุนได้ 5 นัด และต้องเลื่อนไกก่อนยิงนัดใหม่ ขณะที่ 82A1/M107 บรรจุกระสุนได้ถึง 10 นัด และระบบเลื่อนไกก็เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ การลั่นไกนัดต่อนัดก็ ใช้เวลาน้อยกว่า เมื่อเทียบกันหมัดต่อหมัดแล้วปืนรุ่นนี้จึงน่ากลัวกว่ารุ่นที่เป็นข่าวมาก และสำหรับสไนเปอร์ยอดฝีมือจริง ๆ แล้วการซุ่มยิงจะต้อง One Shot One Kill หรือ นัดเดียวจบ
คนที่จะยิงปืนชนิดนี้ได้จะต้องอยู่ในระดับสุดยอด ต้องฝึกมาอย่างหนัก ซ้อมยิงมาไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง ต้องเชี่ยวชาญ อาทิ ทิศทางลม ความเร็วแรงลม ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเป้าหมาย ความร้อนในอากาศ ต้องคำนวณข้อมูลทั้งหมดก่อนลั่นไก เพราะล้วนมีผลต่อการยิง ต้องคำนวณเผื่อ ยกตัวอย่างถ้าเป็นกระสุนขนาด .308 ความเร็วลมพัดขวาง 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กลุ่มกระสุนตกที่ระยะ 100 เมตร ถ้าไม่เผื่อจะออกห่างเป้า 0.75 นิ้ว, ระยะ 200 เมตร ห่าง 3.15 นิ้ว และที่ระยะ 500 เมตร กลุ่มกระสุนจะห่างเป้า 25 นิ้ว เป็นต้น
ทิ้งท้าย...แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนบอกว่า... กับปืนซุ่มยิงระยะไกล 82A1/M107 ของสหรัฐนั้น แม้กฎหมายของสหรัฐจะห้ามนำออกนอกประเทศ แต่ประเทศอื่น ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐก็อาจจะสามารถมีได้ เช่น โดยการแลกเปลี่ยนความร่วมมือในราชการลับ หรือด้วยกรอบความร่วมมือทางการทหาร
และปืนซุ่มยิงประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้ เชื่อว่าในเมืองไทยก็มีคนที่เคยฝึกฝนการยิง ซึ่งกับการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มร้อย มั่นใจว่าปัจจุบันในไทยน่าจะมีแค่ไม่เกิน 10 คนเท่านั้น !!.
