
ขอบพระคุณพี่ๆ และทุกๆ คำแนะนำครับ...
ผมจะมาขอเพิ่มเติมรายละเอียดอีกครับ เพราะคิดว่าให้ไว้ไม่ครบถ้วนเท่าที่ควร จากที่ได้อ่านคำแนะนำจากพี่ๆ มา
....สังเกตจากภาพนะครับ ว่าที่จานท้ายกระสุนจะดูเหมือนว่าปลายนกสับโผล่ออกมา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ แต่เป็นไพเมอร์ที่มันปูดออกมา
แล้วเข้าไปอยู่ในรูนกสับ
๑. ผมดูจากรูปที่ถ่ายมา ยืนยันว่าเป็นเข็มแทงชนวนของนกสับครับ ไม่ใช่แก๊ปหรือไพรเมอร์
๒. อ่านจนจบ ไม่เห็นบอกว่าปืนรุ่นอะไร ? เรียนพี่ Choltit ครับตัวปืนเป็นโมเดล 586 ครับพี่ และจากรูปที่เห็นเป็นไพเมอร์ที่ปูดออกมาครับ ผมได้พยายามถ่ายรูปมา (ถ่ายยากจริงๆ)
เป็นลักษณะนี้ครับ (กว่าจะนึกได้ว่าถ่ายแบบนี้แล้วเห็นชัดกว่าก็ปล้ำกันนานครับ)
เวรกรรม....

ขออนุญาตไม่รอเจ้าของกระทู้แจ้งรุ่นปืนก่อนก้แล้วกันครับ...............ตอนนี้ว่างๆอยู่เลยขอตอบแบบที่เจอก่อน.............
จากภาพ ผมอนุมานได้ว่าเป็นปืนสมิท M19 ขนาด .357 ...........
สมิท m19 เป็นโครง K ผมเคยมีอยู่กระบอกหนึ่งเป็นลำกล้อง 2.5 นิ้ว..................ยิงด้วยกระสุน .357 158 เกรน บ่อยมาก..................อาการนี้ ไม่เคยเป็น แต่ เป็นหนักกว่าคือ โคนลำกล้องร้าว(ร้าวที่ลำกล้อง ไม่ใช่เฟรม)...............ในช่วงที่เกิดอาการ โคนลำกล้องร้าว ปลอกกระสุนจะคาแบบนี้ ต้องใช้ฆ้อนยางตีลูกโม่ให้ออกมา................สิ่งที่ตรวจพบในปืนคือ ลำกล้องช่วงโคนราวแตกเป็นรอยแยกเล็กๆ ...............แกนโม่คด(อาจจะคดเพราะถูกเคาะแรงๆ ตอนเอาลูกโม่ออก)................ก็ส่งซ่อม เปลี่ยนลำกล้องและขายไปแล้ว................ปืนกระบอกนั้นคงเป็นอาการจากการยิง .357 หนักๆ............แบบเกินไป(ครูดำทราบดี

)
สิ่งที่ผมอนุมานได้ คือ ...............ระยะลูกโม่ช่วงท้าย ที่กระสุนจมอยู่
.............ห่างมากไป ซึ่งถ้าบรรจุกระสุน แล้วยกปืนชี้ขึ้นฟ้า กระสุนจะขยับตัวไหลลงมาได้แบบมีระยะฟรีนิดหนึ่ง................และเมื่อเจอกระสุนที่บาง lot มีแรงดันสูงกว่ายี่ห้ออื่น(แต่คงไม่เกินที่ปืนระดับ .357 ทนได้ เพราะกระบอกอื่นไม่เป็น)...................เมื่อทำการยิง แรงระเบิดของกระสุนที่แรงดันสูงอยู่แล้ว ใน .357 ประมาณ 32000 ถึง 35000 ฟุต-ปอนด์/ตร.นิ้ว..............และมีระยะฟรีด้านหลัง ระหว่างหลังลูกโม่กับโครงปืนห่างไปหน่อย..............ปลอกกระสุนจึงกระแทกย้อนหลังมา พร้อมกับแรงดันในปลอกกระสุน ก็กระแทกไฟรเมอร์จนปูด...................
ผมอนุมานเอานะครับ.............ลองตรวจสอบดูก่อนว่าระยะหลังลูกโม่กับโครงปืนห่างมากหรือไม่ ถ้าห่างมาก คงต้องให้ช่างปืนเก่งๆ ปรับระยะรุนตัวของลูกโม่ดู เพราะจะกระเทือนกับระยะห่างด้านหน้าลำกล้องด้วยถ้าได้ภาพของจานท้ายปลอกกระสุนนัดที่มีปัญหามาดู .......จะวิเคราะห์ได้มากกว่านี้ครับ

เรียนพี่มะขิ่นครับ
อาการนี้ผมได้ไปเสริมชิมมาแล้วครับ เพราะตอนแรกคิดว่าระยะฟรีมันมาไป
ครั้งแรกที่เกิดอาการนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกบูลเลต หรือลูกวินครับ การเปิดโม่จึงต้องกระแทกโม่สวนออกมาเพื่อเฉือนเนื้อไพเมอร์ให้ขาด (เป็นทุกนัด)
จึงเอาไปร้านที่หลังวัง พร้อมเอาปลอกไปให้ดู ก็วิเคราะห์อยู่นานจนช่างถามว่า "สงสัยว่าทำไมโม่ผมจึงแทบไม่ระยะฟรีของโม่ คือเดินหน้าถอยหลัง
แทบไม่ได้เลย " ผมจึงนึกออกว่าเคยลองชิมมาครั้งหนึ่ง ช่างจึงคิดว่าระยะห่างจากจานท้ายกับโครงปืนชิดมากไป พอเอาลูกลองใส่ปรากฏว่าเมื่อเอา
ปากลำกล้องชี้ขึ้นลูกกระสุนไม่ไหลเหมือนก่อนเอาไปเสริมชิม ช่างจึงได้เอาชิมออกและให้ผมเอามาลองยิง
...หลังจากลองยิงครั้งใหม่ (เอาชิมออกแล้ว) ตูมแรกก็ติดเหมือนเดิมครับ ต้องกระแทกโม่ออกอีกแล้ว

แต่คราวนี้เป็นเฉพาะลูกบูลเลต แต่ลูกวินไม่เป็นครับ แต่ลองได้แค่ไม่กี่นัด เพราะกลัวติดไม่อยากกระแทกโม่บ่อยๆ (จากรูปที่ผมถ่ายมาผมใส่ไป 1 นัด เพราะ
ต้องการยิงให้ติดแล้วจะเอาไปส่งร้านแบบนี้เลยครับ)
รูปจานท้ายกระสุนครับ

จากรูปจะวางเทียบกับลูกใหม่ (ลูกขวา) จะเห็นว่าที่จานท้ายปลอกที่ยิงแล้ว (ลูกซ้าย) จะมีเนื้อทองเหลืองเป็นจุดกลมๆ เป็นเพราะว่าหลังจากกระแทกโม่ออก
ความคมของรูนกสับจะเฉือนมันจนขาด และจะเรียบเสมอกับจานท้ายเหมือนยังไม่ได้ยิง แต่ในรูปที่เห็นว่ามันบ๋มลงไปนั้น เป็นเพราะลองเอาปลอกเดิมมาลอง
เหนี่ยวซ้ำครับ จริงๆ แล้วเรียบเสมอกันเลยครับ
ขอบพระคุณทุกๆ ความเห็นอีกครั้งนะครับ
ด้วยความเคารพครับ
