เวลาผ่านไปประมาณ ๑๐ นาที รถสี่ประตู โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ก็มาถึง..พร้อมพลพรรค อีก ๔ นาย ..ผมตรงเข้าไปหารถ แล้วบอกกล่าว เรื่องที่ต้องทำกับ คนเหล่านั้น จนไปที่เข้าใจ แล้วก็ตรงดิ่งไปหา "ไอ้เปิ้ล" ในทันที เมื่อไปถึง ต้องจอดรถไว้และเดินเท้า เข้าไปอีกประมาณ ครึ่งโล เพราะเข้าไปไม่มีที่กลับรถ พวกผมลงเดินกันไป ต่างก็บ่น สบถ ด่าพลาง หัวเราะในความซื่อของไอ้เปิ้ลไปพลาง พอไม่กี่อึดใจก็เดินมาถึง เพราะแต่ละคน ครึ่งวิ่งครึ่งเดิน เนื่องจาก แลดูบนฟ้า ซึ่ง กำลังตั้งเค้าฝน และมีเสียงฟ้าร้อง ครืน ๆ มาเป็นระยะ ๆ ซึ่ง นั่น ก็ ไม่มีใครปรารถนานัก
ไอ้เปิ้ล เดินออกมาจากห้างนา ใกล้ ๆ กับที่รถลงไปจอดสงบนิ่งอยู่ สีหน้ามัน ยังมีอาการตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย พร้อมกับยิ้มพูดถึงเห็นการที่มันเพิ่งประสบมาสด ๆ ร้อน ๆ ให้ได้รับทราบ .. ผมมองไปที่รถ พร้อมกับอีกหลายคน ...ต่างก็ดูเป็นเสียงเดียวกันทำนองว่า "มึงจะเข้ามาทำไมถึงในนี้"..เพราะ ธรรมดา นอกจากคนมาทำนาแล้ว คนอื่นเขาไม่เข้ามากันหรอก ..
สภาพรถที่เห็นคือ ล้อหลังทั้งสองล้อ อยู่ในทุ่งนา ซึ่งมีต้นกล้าข้าวอยู่ ..ตรวจดูแล้ว..เสียหายเล็กน้อย ล้อจมอยู่ในโคลนครึ่งล้อ หน้าแหงนขึ้นเหมือนหลังคาทรงหมาแหงน ..หมดสภาพที่จะขึ้นได้ด้วยตัวเอง จำต้องออกแรงเข็น
ผม - อ้าว..มาเลยมึงมา ..นี่ ไอ้เปิ้ล
ผมออกปากสั่งให้ไอ้คุณเปิ้ล ลงไปเข็นท้ายสุด ซึ่งอยู่ในน้ำโคลน มัน ก้มหน้าก้มตา หัวเราะ แหะ ๆ ตามสไตล์ของมัน แล้วก็ลงไปเข็นรถ และให้พวกอีกคนขึ้นขับ ที่เหลือ อยู่ด้านข้าง จับราวกันตกหลังรถเป็นที่พึ่ง คนขับสตาทร์เครื่อง ผมกระโดดขึ้นกระบะหลัง ยืนอยู่ช่วงท้าย กับลูกน้องอีกคน ที่น้ำหนักตัวพอกัน เตรียมทำการขย่มท้าย เพิ่มน้ำหนักให้ส่วนหลังรถ เพื่อล้อหลังจะได้มีน้ำหนักกดเพิ่มช่วยเพิ่มแรงเสียดทาน ตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการช่วยให้รถหลุดออกจากหลุมโคลนได้ง่ายขึ้น
เมื่อพร้อม ..ผมก็ออกคำสั่ง "เอ้า...อึ๊บ ๆ ๆ ๆ " ทำอย่างนี้อยู่หลายรอบ หลายคนเหงื่อซึม หน้าแดง ..เส้นเอ็นและมัดกล้าม ขมึงเกลียวจนเห็นได้ชัด .... จนรถเริ่มเคลื่อนที่ละน้อย ๆ จนในที่สุด .แต่ละคนออกแรงเรียกว่า "สุดแรงเกิด" (ประมาณเอา เพราะแต่ละคนก็ยังไม่เคยออกแรง เบ่งลูกกันจริง ๆ เลย และก็คงไม่มีโอกาสได้ท้องเหมือนผู้หญิงเป็นแน่) ไม่นานนักก่อนจะหมดแรง ...รถได้พุ่งทะยานออกจากหลุมโคลน ได้ทันที ท่ามกลางความโล่งใจของทุก ๆ คนที่ออกแรง.....เสียงโห่ร้องดีใจ...ควันรถคลุ้งขโมง ...เหม็นกลิ่นยางไหม้..พอเตะจมูก.....แต่ละคนได้เหงื่อไปตาม ๆ กัน บ้างก็เลอะโคลน ..หนักสุดก็ไอ้เปิ้ล ..เนื้อตัว มอมแมมเลอะโคลน ถอดเสื้อแขนยาวออก ยืนเท้าเอว ทำท่าหอบ แฮก ๆ ...เหงือปนน้ำโคลน เต็มหน้า ..ถุยน้ำลาย ปิ๊ด ๆ เนื่องจากมันได้รับเอาน้ำโคลนจากแรงปั่นของล้อรถเข้าไปพอควร ..
หลังจากนั้น เสียงหัวเราะ และเสียงสัพยอก ไอ้เปิ้ล ก็ดังขึ้น เป็นระยะ ๆ ..จนขึ้นรถแล้ว ก็ยังมิวาย มีเสียงแซวกันอยู่ ..ไอ้เปิ้ล ก็ก้มหน้าก้มตา รับไป อย่างอารมณ์ขัน ๆ ..ดูมันไม่ได้ทุกได้ร้อนอะไรเลย..ได้ยินคำเดียวว่า "เดี๋ยว..ผมพาไปกินเหล้า ..พี่เหน่งจ่าย"....เออ....ดูมันสิ...มันไม่ได้คิดเล้ย...ว่า ในจำนวนคนที่ไปช่วยมันเข็นรถ คนหนึ่งเป็นหัวหน้ามัน อีกคนหนึ่ง..เป็นรองนายกฯ..........
