เข้าใจครับ....แต่ไม่เข้าใกล้แน่ ๆ
จับปืนมานาน ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้รู้จักความปลอดภัยในการใช้ปืน....เรื่องที่ จ.ข.ก.ท. เล่ามานี่...เป็นครูที่สอนให้รู้จักความรอบคอบ อย่าปล่อยหรือละเลยความปลอดภัยทุกครั้งที่จับปืน ไม่ว่าจะเป็นปืนของผู้ใดก็ตาม
ย้ำครับ 1) จับปืนให้ตรวจลูกกระสุนทุกครั้ง 2) อย่าถามใครว่ามีลูกหรือไม่ ? 3) อย่าเหนี่ยวไกจนกว่าจะแน่ใจว่าตั้งใจจะยิงปืนนั้น ๆ ในทิศทางที่ต้องการ และเป้าหมายชัดเจน
แค่นี้..ก็พอจะทำให้ปลอดภัยได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะครับ....
ผมก็ทำแบบนี้มาเป็นนิจ จนบางครั้งรู้สึกกังวลเหมือนกันว่าเราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า? แต่ทำไม คุณ yakdee(ยักษ์ดี) ให้แค่ประมาณ 10 % เองครับ มีเหตุผลสนับสนุนไหม?
เพราะถ้าอย่างนั้นแสดงว่าทุกวันนี้ ผมและหลายๆ ท่าน อยู่ในภาวะเสี่ยงถึงประมาณ 90 % อ่ะครับ หนาวเลยครับ
ผมเข้าใจมาตลอดว่า ที่ผมทำอยู่นี่ น่าจะปลอดภัยเกิน 50% หรือราว 90% เข้าไปแล้ว
ขอคำชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับ
เรียนทำความเข้าใจดังนี้ครับ
ผมให้เกรดความปลอดภัยที่กล่าวมาเพียงร้อยละ 10 เพราะต้องการเตือนตนเองให้เพิ่มความระมัดระวังอยู่เสมอ ต้องมีสติในการจับถือและใช้อาวุธปืน ซึ่งแต่ละคน อาจจะประเมินความปลอดภัยมากกว่านี้ได้ ไม่ใช่เรื่องบังคับให้เป็นมาตรฐานของเพื่อทุกคนจะต้องถือตาม
อันตรายจะการใช้อาวุธปืน เกิดมีได้เสมอ เมื่อพร้อมบรรจุ มีกระสุนในรังเพลิง ก็ยิ่งต้องใช้สติมากขึ้น ให้ระลึกอยู่เสมอว่ามีความเสี่ยงภัย เพราะความชำรุดบกพร่องของอาวุธที่ซ่อนเร้นอยู่ สามารถแสดงปฏิกริยาให้ผู้จับถือหรือผู้อยู่ใกล้เคียงต้องได้รับบาดเจ็บก็มีปรากฏให้เห็นมาแล้ว
ความสมบูรณ์ของอาวุธปืนดีเยี่ยม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอันตรายจากการใช้ปืนนั้น ความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจของผู้ใช้ ยิ่งสำคัญกว่ามาก มิฉะนั้น จะไม่มีคำว่า "อุบัติเหตุ" เป็นแน่แท้
ผมใช้เป็นเครื่องเตือนใจเสมอเมื่อจับอาวุธมาชื่นชมทุกครั้ง กฎแห่งความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ความเสี่ยงภัยหมดสิ้นไปแต่อย่างใด จริงไหมครับ?.......
