แตกตื่นทั่วหลายจว. ลือพบ"คนรู"
แตกตื่นกันทั่วประเทศ ลือกันปากต่อปากว่าพบ "คนรู-คนแคระ" ตัวขนาดเท่าขวดน้ำอัดลม อ้าง"เติ้ง"ทุ่มเงิน 30 ล้านซื้อไปเลี้ยงไว้ที่บึงฉวาก โปรโมตดึงนักท่องเที่ยว ชาวบ้านอ้างพบที่จ.อุทัยฯขณะออกมาหักข้าวโพดกิน มีคนไปดูมาแล้วเหมือนคนทุกอย่าง แต่ตัวดำไม่สวมเสื้อผ้า ชอบอยู่ในรูดิน ร้อนถึงพ่อเมืองสุพรรณต้องออกแจงวุ่น ยันไม่จริงเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น
นอกจากนี้ ที่อุตรดิตถ์ก็ลือในทำนองเดียวกัน แต่เจอทีเดียว 9 คน ตายไป 3 นำไปขังที่ศาลากลางน้ำวัดดังในอ.ท่าปลา นายอำเภอครวญที่ผ่านมามีชาวบ้านโทรศัพท์มาถามจนไม่เป็นอันทำงานแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าพบมนุษย์ประหลาด ตัวเล็กขนาดเท่าขวดน้ำอัดลม อาศัยอยู่ในรู มักจะแอบเข้าไปขโมยอาหารชาวบ้านกินในเวลากลางคืน จนชาวบ้านพากันแตกตื่นในหลายจังหวัด โดยอ้างมีการค้นพบที่จ.อุทัยธานี และชาวบ้านจับตัวได้ จากนั้นนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทุ่มเงิน 30 ล้านบาท ซื้อไปเลี้ยงไว้ที่บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เพื่อเรียกนักท่องเที่ยว เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ปรากฏว่ามีประชาชนจากทั่วสารทิศพากันแตกตื่น แห่ไปดูกันเป็นจำนวนมาก
ชาวบ้านในอ.สามชุกคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่ามีคนรูอยู่ที่บึงฉวาก โดยขุดเจอที่จ.อุทัยธานี ขณะคนรูกำลังหักฝักข้าวโพดกิน ทั้งนี้ผู้ที่พบคนรูถือว่ามีบุญมีบารมีสูง จากนั้นก็มีนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศของสุพรรณบุรีขอซื้อมาในราคาหลายล้านบาท เพื่อนำมาเลี้ยงไว้ที่บึงฉวาก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยจะเปิดให้ดูทุกวัน แต่ตนก็ยังไม่ได้ไปดูคนรูดังกล่าว แต่เพื่อนๆที่ไปดูมาแล้วมาเล่าให้ฟังว่าคนรูเหมือนคนทุกอย่าง แต่ลักษณะลำตัวจะดำและไม่สวมเสื้อผ้า และตัวเล็กเท่าขวด อาศัยอยู่ในรูดิน ส่วนอาหารก็กินเหมือนคน
ชาวบ้านอีกคนในอ.เมือง สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เพื่อนที่เดินทางไปเที่ยวที่บึงฉวากเล่าให้ฟังว่าได้ขอชมคนรูมาแล้ว พบว่าคนรูรูปร่างเล็กลักษณะเหมือนคนทุกประการ ตัวดำ ไม่สวมเสื้อผ้า แต่อาศัยอยู่ในรูดิน และมีชีวิตอยู่ในรูดินเป็นหลัก จะออกมาด้านนอกรูเป็นช่วงๆ ส่วนใหญ่จะขี้อาย ไม่กล้าออกมาให้ประชาชนได้ชม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวลือเรื่องคนรู-คนแคระแพร่สะพัดไปอย่างกว้าง นายทรงพล ทิมาศาสตร์ ผวจ.สุพรรณบุรี ได้ออกมาชี้แจงว่า เรื่องของคนรูนั้น เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น คนรูที่บึงฉวากไม่มีอย่างแน่นอน เพราะทราบมานานแล้วว่าคนรูเป็นข่าวลือ ที่มีการลือต่อๆ กันไปกันมาอยู่หลายเดือนแล้ว แต่ไม่รู้จุดประสงค์ว่าต้องการสร้างข่าวลืออย่างนี้ทำไม
"อยากฝากถึงเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวจากพื้นที่ต่างๆ ว่าผู้ที่จะเดินทางมาเที่ยวที่บึงฉวากนั้น ขอให้เข้าชมความแปลกแตกต่าง ที่มีการปรับปรุงประยุกต์เปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ๆ ของสถานที่ ถนนหนทางความสะดวกสบายที่มีให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็นจุดที่เป็นจุดพักผ่อนผ่อนคลายในวันพักผ่อนดีกว่าที่จะมาดูคนรูที่ไม่มีจริง ขอยืนยันอีกครั้ง เพราะใครนักท่องเที่ยวคนไหนต้องการเดินทางมาดูคนรูที่บึงฉวาก อย่าได้หลงเชื่อเลย เดี๋ยวจะมาบึงฉวากแล้วเสียความรู้สึกเปล่าๆ" พ่อเมืองสุพรรณบุรีกล่าว
ส่วนนายวีรศักดิ์ วิจิตรแสงศรี นายอำเภอเดิมบางนางบวช กล่าวเรื่องเดียวกันว่า จากการตรวจสอบแหล่งข่าวที่มาก็ไม่พบว่ามาจากที่ใด ตนขอยืนยันว่าที่บึงฉวากไม่มีคนรู ส่วนตัวแล้วไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ที่บึงฉวากไม่มีคนรูอย่างแน่นอน และฝากบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่างได้หลงเชื่อข่าวนี้ ไม่ทราบว่าผู้ปล่อยข่าวมีจุดประสงค์อย่างไรกันแน่
ด้านนายเชาว์ เสาวลักษณ์ ผู้อำนวยการอุทยานผักพื้นบ้านบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ทราบข่าวเรื่องคนรูจากนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่อุทยานเมื่อหลายเดือนก่อน แต่หลังจากตนทราบก็ประสานเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกันอยู่ในบึงฉวากก็ไม่พบว่ามีคนรูอยู่ที่บึงฉวาก และยืนยันได้ว่าที่บึงฉวากนั้นไม่มีคนรู เพราะตนทำงานทุกวัน ส่วนถ้ามีก็คงเป็นเรื่องที่แปลก แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีก็น่าจะเป็นตัวนากมากกว่า เพราะตัวอาจเล็กๆ เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากที่จ.สุพรรณบุรีแล้ว ยังมีการลือว่าพบคนแคระคนรูที่จ.อุตรดิตถ์อีกด้วย โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดข่าวลือขึ้นที่อ.ท่าปลา ว่าพบคนแคระ 9 คน มีขนาดเท่ากับขวดน้ำปลา และขวดน้ำอัดลม อาศัยอยู่ในรู ออกมาหาขโมยพืชผลของชาวบ้านกินจนถูกจับตัวได้ทั้งหมด ต่อมาตายลงไป 3 คน ส่วนที่เหลือถูกนำไปขังไว้ที่วัดเจดีย์กลางน้ำ ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา หลังข่าวลือสะพัดออกไป ปรากฏว่ามีคนจากทั่วประเทศแห่มาพิสูจน์คนแคระคนรูกันที่อ.ท่าปลาเป็นจำนวนมาก
ร.ต.ชยันต์ อยู่สวัสดิ์ นายอำเภอท่าปลา กล่าวว่า ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนโทรศัพท์มาสอบถามตลอดเวลาว่ามีคนรูจริงหรือไม่ ตนก็ตอบไปว่าไม่มีจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ลือกันว่านำไปขังไว้ที่วัดเจดีย์กลางน้ำนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นสถานที่เคารพสักการะของชาวท่าปลา คงไม่มีใครกล้าทำเรื่องที่เป็นบาปเช่นนี้
"ต้นตอข่าวลืออาจเกิดจากพูดคุยกันในวงเหล้า พูดกันมาปากต่อปากจนกลายมาเป็นข่าวลือกระหึ่ม หรือไม่ก็อาจขุดพบโครงกระดูกเด็กทารกที่นำไปฝังดิน แล้วคิดว่าเป็นคนแคระคนรูจนเกิดเป็นข่าวลือไปทั่วในที่สุด" ร.ต.ชยันต์กล่าว และว่า ทุกวันนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะสร้างปัญหาให้กับตนมาก เนื่องจากดึกดื่นแค่ไหนก็มีประชาชนโทร.มาสอบถามตลอดจนแทบไม่มีเวลาทำงาน ต้องมาคอยรับโทรศัพท์ คอยแก้ข่าวไปว่าเป็นเพียงเรื่องที่ลือ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปทำการสืบหาต้นตออยู่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกมา จนสร้างความวุ่นวาย ทำให้ประชาชนแตกตื่นไปกันใหญ่
นายราชัน มหาวัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจริม อ.ท่าปลา กล่าวว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยสอบถามถึงข่าวลือว่าพบคนแคระ ครั้งแรกก็คิดว่าอาจจะมีเกิดขึ้นจริง จนสร้างความมึนงงให้กับตน และพนักงานอบต.อย่างมาก แต่เมื่อสอบถามประชาชนในพื้นที่ต.จริม และทั่วทั้งอำเภอท่าปลาดูแล้วถึงที่มาที่ไปว่าต้นตอของเรื่องนี้มาจากไหน แต่ไม่มีใครรู้เลย เรื่องนี้จึงเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
"สนับสนุนเนื้อหาโดย"
http://talk.sanook.com/hot/hot_02532.php 
