ห้ามพกปืน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

[วิธ]

พรก.  ที่กำหนดให้ใช้ กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้

ห้ามไม่ให้มีการพกอาวุธปืน  คือจะทำให้ เป็นเขตปลอดอาวุธปืน

ประมาณว่าใครมีปืน ก็คือคนร้ายว่างั้นเลยละ

คุยคุ้ยข่าว  ทำผลโหวด การพกปืนครับ

[srimalai_รักในหลวง]

เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการสมานตามใจฉันครับ ต่อไปผมคงไม่ไป 3 จว ชายแดนใต้อีกแล้ว ถ้าไม่ให้พกปืนไปเดินที่นั่น ผมรู้สึกเหมือนการแก้ผ้าเดินครับ น่าจะให้คณะกรรมการลองไปเดินโดยไม่มีการอารักขาดูบ้างนะคงอบอุ่นดีพิลึก

[ต่อครับ]

บ๊ะ....เอางัยแน่เนี่ย เหมือนละครลิง ปาหี่

พี่น้องทางใต้กลับต้องมานั่งระวังทั้งรัฐฯและโจร  ไร้สาระจริงๆ

(บ่นกับตัวเอง แต่เสียงดังอีกแล้ว)

[..GlockGlack..]

"...สำหรับมาตรการลดความรุนแรงในพื้นที่ ให้มีผู้แทนของท้องถิ่น และผู้นำศาสนาทั้งอิสลาม และพุทธเข้าเป็นคณะกรรมการกิจกรรม โดยให้ถือว่าปืนทุกชนิดเป็นอาวุธผิดกฎหมายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปลอดอาวุธปืนได้ ปัญหาความรุนแรงก็จะลดลง..."

แหล่งที่มาของข้อความ... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9480000099790

[มะขิ่น]

เริ่มเข้าทางฝ่ายตรงข้ามแล้ว

สวัสดีประเทศไทย

[..GlockGlack..]

เอาใหม่...

"...ต่อข้อถามที่ว่า รัฐบาลจะประกาศให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปลอดอาวุธตามที่ กอส.เสนอหรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะในการศึกษา ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เมื่อถามต่อว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลมีนโยบายให้ครูพกปืน ขณะที่ กอส.เสนอแนะให้ประกาศ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปลอดอาวุธ จะขัดแย้งกับแนวทางของรัฐบาลหรือไม่ และตกลงรัฐบาลจะยึดแนวทางใด พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เรื่องพกปืนเป็นเรื่องเดิม ซึ่งครูสามารถทำได้อยู่แล้ว ในส่วนการเสนอให้ปืนทุกชนิดเป็นอาวุธผิดกฎหมายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เรื่องนี้เราจะรับไปศึกษา แต่ไม่ใช้ว่ารับข้อเสนอจาก กอส.แล้วจะเอาไปห้ามในทันที ตรงนี้ก็ต้องเอาไปดูกันอีกที..."

มาตรการรูปธรรม 5 ด้านของ กอส.มี 14 ข้อดังนี้
       
       1.อาศัยพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เคยทรงกำหนดไว้สำหรับมณฑลเป็นการเฉพาะ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2466 โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขทุกข์ของราษฎรซึ่งส่วนใหญ่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันออกไป
       
       2.จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติในการดำเนินกระบวนการยุติธรรม โดยมีหน้าที่ตรวจสอบคดีความ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ม.ก.2547
       
       3.เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ถูกจับกุม และถูกควบคุมตัวตามมาตรา 11 (1) ของพระราชกำหนดฯ ได้พบกับทนายของตัวเอง และได้รับความช่วยเหลือ แนะนำจากทนายภายในเวลา 48 ชั่วโมง
       
       4.นำกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการสืบสวนสอบสวน ตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสร้างความโปร่งใส และเป็นธรรม
       
       5.ให้ผู้แทนของผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาทั้งอิสลาม และพุทธ เข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อร่วมกำหนดนโยบาย และทิศทาง เพื่อให้ฝ่ายรัฐได้รับรู้ความจำเป็นว่าผู้คนในท้องถิ่นคิดเห็นอย่างไร
       
       6.ให้ถือว่าปืนทุกชนิดเป็นอาวุธผิดกฎหมายในบริเวณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่ให้อยู่ในความครอบครองของสาธารณชน เว้นแต่จะอยู่ในมือของทหาร และตำรวจ ซึ่งมีการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายเท่านั้น
       
       7.ให้มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดในที่สาธารณะให้ทั่วทุกเขตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ได้หลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับผู้ก่อภัยร้ายแรง โดยเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์อยู่ในขณะนี้
       
       8.จัดระบบแบ่งเขตพื้นที่ (โซนนิ่ง) โดยให้แหล่งอบายมุขอยู่ห่างจากเขตชุมชน ศาสนสถาน สถานศึกษา และแหล่งพักผ่อนของเยาวชน และควรเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนสำคัญในการกำหนดเขตดังกล่าวร่วมกับรัฐบาล
       
       9.จัดกลุ่มชุมชนแถลงข่าวในพื้นที่ เพื่อแสดงความจริงและการรับรู้ของชุมชนให้ประจักษ์ในกรณีที่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น โดยอาศัยสถาบันธรรมชาติ เช่น ร้านน้ำชาประจำหมู่บ้าน เพื่อลดภัยที่เกิดขึ้นจากข่าวลือ
       
       10.จัดตั้งชุดคุ้มครองหมู่บ้านเป็นหน่วยรากแก้ว ประกอบด้วยฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดน เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว พร้อมออกลาดตระเวนรักษาความสงบ และช่วยพัฒนาหมู่บ้าน
       
       11.จัดให้มีคณะกรรมการสันติสุขชุมชน อันประกอบด้วยผู้นำชุมชน เช่น อิหม่ามประจำมัสยิด โต๊ะครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. สมาชิก อบต. ปลัดตำบล ครู เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยตำบล ตลอดจนทหาร และตำรวจ
       
       12.ให้ความสำคัญกับนักศึกษา ในการรณรงค์เผยแพร่แนวคิดสันติวิธี พร้อมส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยปราศจากการบีบบังคับ พึงหลีกเลี่ยงการเข้าสอบสวน จับกุมนักศึกษาในสถาบันโดยไม่มีคณาจารย์
       
       13.ทุกโรงเรียนทั้งที่เป็นโรงเรียนสอนศาสนา และโรงเรียนของรัฐ ควรมีระบบเตือนภัย ระบบป้องกันภัย ควรเปิดไฟให้สว่างตลอดเวลากลางคืน และมีเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย โดยสามารถประสานงานได้ทันทีหากเกิดเหตุร้าย
       
       14.เปิดโอกาสให้ครูในพื้นที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่โรงเรียน และครู ส่วนการตัดสินใจเปิด หรือปิดโรงเรียน หรือการเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียน ให้เป็นผลของการปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และโรงเรียนโดยขอให้ฝ่ายบ้านเมืองเห็นความสำคัญของครู และให้เกียรติครูตามสมควร

[ต่อครับ]

เอาใหม่...

"...ต่อข้อถามที่ว่า รัฐบาลจะประกาศให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปลอดอาวุธ...

ขอบคุณครับเฮีย ว่าจะหามาอ่านอยู่พอดีเลย

[srimalai_รักในหลวง]

6.ให้ถือว่าปืนทุกชนิดเป็นอาวุธผิดกฎหมายในบริเวณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่ให้อยู่ในความครอบครองของสาธารณชน เว้นแต่จะอยู่ในมือของทหาร และตำรวจ ซึ่งมีการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายเท่านั้น
แล้วที่มีอยู่จะให้ทำยังไง หรือเฮ็ดอันหยัง มอบให้โจรไปป่าวครับ แล้วทหารตำรวจไม่ใช่ประชาชนหรือไง ออกเวรแล้วจะเอาปืนที่ไหนใช้อ่ะ

[ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง]

สมมุติเล่นๆ ให้ทหาร กับตำรวจไม่พกปืนใช้แต่กระบองจะมีใครกล้าทำงานไหมครับ???
ขนาดทหาร ตำรวจมีปืนมันยังกล้ายิง ครู ข้าราชการ หรือคนไทยธรรมดา มีปืนมั่ง ไม่มีมั่งมันยังเลือกยิงได้ อย่างงี้
ไม่เท่ากับว่าเป็นหมูรอเชือดอย่างเดียวเลยหรือครับ???
แล้วโครงการปืนครู จะมีไปทำไมครับ?
ไอ้พวกบ้านีมันคิดได้ยังไงกันครับ??? ห้ามคนไทยใช้สิทธในการป้องกันตนเอง???
อย่างที่เสธ. ว่า เข้าทางโจรครับ

[☆ *~PLOY~* ☆]

เรามาถูกทางเเล้ว................... สวัสดีทั..ษิ...เเลนด์

[SAVOK CZ]

 งั้นถึงเวลาอพยพ ทิ้งถิ่นเกิดแล้วครับ

[..GlockGlack..]

ผมกำลังมีความรู้สึกว่า เรากำลังจะแพ้แล้วครับ 

ขอให้ผมคิดไปเองเถอะ 

[โจ ™]

เอามาให้อ่านอีกรอบครับ 

ขบวนการใช้กลยุทธในการทำให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก  เพื่อไม่ให้ทหารซึ่งเป็นกำลังหลัก มีอำนาจในการต่อสู้เพื่อเอาชนะขบวนการ  อยู่ในแผนการต่อสู้เพื่อตั้งรัฐปัตตานี   ของขบวนการ  โดยชี้นำประชาชนให้เข้าใจว่าทหารใช้อำนาจเกินขอบเขต  ไม่น่าไว้วางใจ  ทำให้สถานการณ์เลวร้าย ฯลฯ  เป็นไปตามแนวทางการต่อต้านข่าวกรอง และการโฆษณาชวนเชื่อของขบวนการประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิด ในสังคมไทย และแสดงความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลในเรื่อง พรก. การบริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน  การใช้ พรก.ฉบับนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน  ปัญหาที่แท้จริง คือ ปัญหาเรื่องความเชื่อ โดยที่รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่เชื่อเรื่องการแบ่งแยกดินแดน จึงแก้ปัญหาไม่ได้
ประชาชนเชื่อว่า การใช้กฎอัยการศึกของทหาร ทำให้สถานการณ์เลวร้าย  ประชาชนเชื่อว่า พรก.การบริหารราชการในภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล หมกเม็ด มีเป้าหมายซ่อนเร้น ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นปัญหา ความเชื่อทั้งสิ้น ต้องใช้สติปัญญา ดังนั้น รัฐบาลจะต้องพิจารณาแก้ไขโดยด่วน  เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมือง

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php/topic,5495.15.html

[ทิดเป้า]

งั้นถึงเวลาอพยพ ทิ้งถิ่นเกิดแล้วครับ

กินใจมากเลยครับ...จำไม่ได้ว่าสมาชิกท่านใดกล่าวไว้ว่า..จับมัดมือมัดเท้า โยนลงบ่อจรเข้...เศร้าครับ

[มะขิ่น]

การประกาศกฎอัยการศึก ที่พึ่งถูกยกเลิกไป................

จริงๆแล้ว ยังถูกนำมาใช้ได้ ไม่เกิน 20% ของ พ.ร.บ.กฏอัยการศึกเลย

แค่คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จริงๆต้องมีศาลอัยการศึก ที่จะต้องตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ สำหรับการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็ว.....................แต่ในการปฏิบัติ ให้ขึ้นศาลอาญาปกติ ทำให้การพิจารณาคดี เข้าไปต่อคิวกับ คดีธรรมดาๆ....................

เจ้าพนักงานสอบสวนก็ทำงานช้า หละหลวมเข้าไปอีก.................ก็หลุด

ไม่เอา...............ไม่พูดดีกว่า................ดูไปเรื่อยๆ....................เดี๋ยวก็ถึงเวลาเอง

สงสารแต่พี่น้องชาวใต้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่.................