ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับทางเจ้าของกระทู้ก่อนนะครับ ที่ไม่มีการปะทะ ไม่บาดเจ็บและไม่สูญเสีย
บรรดา คำแนะนำที่ให้ยิงนั้น ผมมาขอแก้ไขให้ครับ .
มิฉะนั้น ท่านจะโดนข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา
หรือไม่ก็พยายามฆ่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ .อาวุธปืนศาลจะต้องริบ 
ท่านจะยิงได้ตอนไหน .. ก็ต่อเมื่อ คนร้าย ที่กระทำเยี่ยงโจรนั้นปีนข้ามรั้วเข้ามาแล้ว
และในมือเขามีอาวุธปืน.. และเล็งมายังท่าน หรือยิงมายังท่านแล้ว.
หรือเขา ตรงเข้ามาจะทำร้ายท่านด้วยอาวุธในมือที่เขามี..
เรื่องนี้เกิดจาีกการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์
ตามข้อเท็จจริงที่ี จขกท. บอกมานั้น กรณีเป็นเรื่อง ลักทรัพย์..
เพียงลักทรัพย์ ท่านไม่มีเหตุจะไปยิงคนร้าย ครับ 
การป้องกันตัว ตาม ป.อาญา ม.๖๘ เจตนาเพื่อยับยั้ง ไม่ให้โจร คนร้าย
กระทำอันตรายแก่ชีวิตท่าน และคนอื่น..
และท่านหรือคนอื่นนั้น ไม่อาจหลีกหนีอันตรายนั้นไปได้ ในทันทีนั้น .
ส่วนผลที่ีได้ จะเจ็บหรือตายนั้น มีเหตุจากการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ
ท่านจึงจะไม่มีความผิด ครับ 
ผมยังคิดเหมือน คุณเสือฯว่า ชายคนนั้น อาจจะเป็นบุตรของ จขกท.
ดูให้ดี อย่าผลีผลาม. มีปืนอยู่ในมือ ใจจะต้องนิ่้ง หนักแน่้น ตามไปด้วย ครับ. 
เป็นคนดีมันลำบากจัง เป็นโจร ซิดี เพราะมันไม่ต้องเคารพ กฎหมาย พวกเราน่าจะมาเป็นโจร กันดีกว่า
ขออภัย ครับ ที่ออกอย่างนี้ มิใช่จะว่าอะไร บ่นน้อยใจ เท่านั้นเอง
แล้วกฎหมาย ก็เหมือนกับว่า เขียนขึ้นมาด้วยโจร งั้นแหละ ต้องให้โจรมันประสงค์ร้ายก่อน เจ้าทรัพย์ เจ้าบ้าน ถึงจะป้องกันตัว ได้ตามกฎหมาย
ทีนี้ เราก็ไม่รู้ว่า กรณีที่(โจร)มันเข้าบ้านมา มันประสงค์แค่ ใหน(เข้ากลางคืน ยามวิกาล หรืออื่นใด ที่มิใช่พวกลักเล็กขโมยน้อย ที่ดูเห็นว่า พวกนักโฉบ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป หากจะทราบจริง ก็ต่อเมื่อ มันทำแล้ว ก่อนที่มันจะทำนี่ เราแทบไม่รู้เลย หากว่าเราไม่แอบมอง หรือเห็นพฤติกรรมมันตั้งแต่ต้น อยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่าให้โอกาศโจรงั้นแหละ เพราะเมื่อหากเราทำไป กฎว่าเกินกว่าเหตุได้ มันลำบากใจ จริงๆ
สมมุติว่า โจรมามือเปล่า (ซึ่งความจริงแทบไม่มี หรือหากมี ก็จะเป็นโจรกระจอกจริง ลักเล็กขโมยน้อย เสียมากกว่า โจรแบบนี้) ผมแน่ใจว่า หากเป็นโจรยามวิกาล พวกนี้ ไม่น่าจะใช่กระจอกแล้วส่วนมาก โจรมามือเปล่า หากว่า เจ้าบ้านตื่นขึ้นมารู้เห็น หากถ้ามันหยิบฉวยอะไรเป็นอาวุธได้ ภายในบ้านเรา แล้ว เจ้าบ้านเกิดเสียชีวิตขึ้นมา เช่นโดนโจรแทงตายด้วยมีดครัว หรือโดนตี พิการหรือถึงตาย ด้วยไม้ที่มันหยิบติดมือเอาแถวๆนั้นๆ ภายในบ้าน เราเจ้าบ้าน ก็ได้เสียหายขั้นหนัก หรือขั้นรุนแรงไปแล้ว คนอื่นๆที่อยู่ด้วย อาจจะช่วยเหลือได้ตามกฎหมาย หากมีบุคคลอื่นอยู่ แต่เจ้าของบ้านเอง หรือบุคคลใดก็ได้ ที่โดนทำร้ายไป ก็ไม่อาจคืนกลับ มาเป็นปกติได้
แต่กรณีนี้ หากเราเกิดเห็นก่อน แล้วทำการป้องกันตัวไปก่อน อาจจะรุนแรง ถึงขั้นยิงโดยปืน (พูดถึงปืน เพราะสมาชิกในเวปฯนี้ ผมว่า คงจะมีปืนกันน่าจะทุกคน) เราผิดแน่ๆ ด้วยเกินกว่าเหตุ เพราะมืดๆค่ำๆ หากใครตื่นขึ้นมาเห็นบุคคลอื่นใด ที่มีอาการผิดปกติ (วิธีการเข้าบ้าน หรือรื้อคน หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่น่าจะใช่พฤติกรรมปกติ ของสมาชิกภายในบ้าน) คงต้องคิดว่าเป็นโจรแน่ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า มันมากันกี่คน พกพาอาวุธอะไรมาบ้าง มันจะทำร้ายเราถึงชีวิตหรือไม่ หากมันทำ (คิดไปมาชักปวดหัว) เราทำอะไรไป ก็เกินกว่าเหตุ แต่หากโจรมันทำ เข้าใจว่า กฎหมายก็จะลงโทษโจร แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น โจรรับผิดชอบได้แค่ใหน ฟ้องร้องเอาค่าเสียหายจากโจร ได้หรือไม่ หากได้แล้วจะได้อะไรจากโจร สำคัญที่ว่า หากสมาชิกในบ้านเรา เกิดพิการรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิต จากการกระทำของโจร คุ้มหรือไม่ กับการที่โจรถูกลงโทษ สำหรับผม ผมคิดว่าไม่คุ้ม (การลงโทษโจรนั้นต้องหมายถึงว่า โจรนั้นโดนจับได้ แต่หากถึงขั้นทำร้ายเจ้าทรัพย์ ถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต โจรมันคงไม่รออยู่ให้ใครมาจับมันไปรับโทษตามกฎหมาย แน่นอน
อีตอนนี้ ก็ต้องใช้หลักฐานที่เหลือ ไปตามจับโจรนั้นมา จับได้หรือไม่ เมื่อไหร่ ไม่รู้(ขออภัยเพื่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ มิได้บังอาจพาดพิงถึงท่าน) แต่ในความเป็นจริง มันก็เป็นอย่างนี้ เพราะโจรมันหนี ท่านตาม ...ผมเข้าใจ บางทีจับมาได้ หลักฐานอ่อน ...หลุด...(แค้นมาก หากใอ้ตัวนั้นมันเป็นโจรที่แท้จริง) คนที่เสียหาย เสียไปแล้ว
ขออภัย จขกท.ที่ผมบ่นไปมันอาจไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้ น๊ะครับ ขออภัยหากท่านใดเปิดเจอแล้วอ่านมาถึงตรงนี้
ปล.ผมเองยังไม่แน่ใจตัวเองว่า หากเกิดเหตุการณ์ ในกรณี โจรเข้าบ้าน แล้วตัวผมเองจะสามารถกระทำการณ์ ได้แค่ใหน
แต่คงจะต้อง คิดถึงความปลอดภัยของสมาชิก ที่อยู่ภายในบ้าน เป็นอันดับแรก หากตัวเรายังมีความสามารถ ในการป้องกันได้อยู่ เหตุผลในการเขียน ป.3 คือ"เพื่อป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน" คงมาเป็นอันดับแรก ข้อกฎหมาย ก็ค่อยว่ากันไปตามกระบวนการ มิได้ท้าทาย มิได้เยาะเย้ย ดูถูกอะไรทั้งสิ้น แต่บ่นในฐานะ ประชาชนคนไทยคนหนึ่ง เท่าที่สิทธิ์พึงมี คงไม่เกินสิทธิ์ น๊ะครับ
ด้วยความเคารพ
เห็นพี่ udomkd บ่นน้อยใจ แล้ว ผมเข้าใจความรู้สึกครับ แต่กฏหมาย ก็ยังพอมีแนวทางในการพิจารณาว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันร่างกายและทรัพย์สินพอ
สมควรแก่เหตุ ซึ่งก็ต้องดูเป็นกรณีไป ใช่ว่าจะเป็นสำเร็จรูปเหมือนกันหมดทุกคดี ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้ได้รับอนุญาต
ให้มีและใช้อาวุธปืน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาหาแนวทางในการปฏิบัติตน ทั้งทางการใช้อาวุธปืนอย่างถูกต้องปลอดภัยรวมถึงบทบัญญัติต่างๆทางกฏหมาย เพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่เราขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
มีตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา ที่พอจะเป็นประโยชน์มาให้ลองศึกษาดูครับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3869/2546
ในช่วงเวลาเกิดเหตุในละแวกบ้านจำเลยมีโจรผู้ร้ายชุกชุม และก่อนเกิดเหตุจำเลยเคยถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ในบ้าน คืนเกิดเหตุผู้ตายได้ปีนเข้าบ้านจำเลยทางช่องลมโดยปราศจากเหตุสมควร ย่อมทำให้จำเลยสำคัญผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้ายและในขณะนั้นจำเลยย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าผู้ตายจะมีอาวุธหรือไม่ เพราะในห้องที่เกิดเหตุมืดและเป็นเวลากะทันหัน ถ้าเป็นคนร้ายซึ่งจะมาทำร้ายจำเลยจริงแล้ว การที่จะให้จำเลยรออยู่จนกว่าคนร้ายจะแสดงกิริยาทำร้ายแล้ว จำเลยก็อาจได้รับอันตรายก่อนที่จะทำการ
ป้องกันได้ทันท่วงที และจำเลยก็ยิงผู้ตายไปเพียง 1 นัด เมื่อผู้ตายล้มลงจำเลยก็มิได้ซ้ำแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงพอ
สมควรแก่เหตุเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายโดยสำคัญผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ประกอบด้วยมาตรา 62 วรรคแรก
แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ด้วยความเคารพครับ
