เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 26, 2025, 10:36:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนบ้านขาประจำเล่นเราอีกแล้ว  (อ่าน 2927 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #15 เมื่อ: เมษายน 29, 2008, 08:52:57 PM »

ว่ากันว่า... หากจะศึกษาประวัติศาสตร์ให้ได้ความจริง... ต้องอ่านฉบับที่บันทึกโดยประเทศที่สาม... ที่ทำตัวเป็นกลางครับ...
บันทึกการเข้า
AI.MAKER
สู้เพื่อลูก!!!!ปืน
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 431


อัตตนา โจทยัตตานัง


« ตอบ #16 เมื่อ: เมษายน 30, 2008, 12:04:31 AM »


หลังจากผมได้มีโอกาสได้ศึกษาประวัติศาสตร์มากขึ้น ทำให้ผมเริ่มรู้สึกภูมิใจในอะไรๆบางอย่างน้อยลงๆ ได้แต่ปลงให้เป็นไปตามความเป็นไป

ตราบใดที่เรายังตัดสินใจในการก้าวเดินต่อไปภายหน้าโดยอาศัยประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน เราจะเดินก้าวต่อไปในรูปแบบยังไง คิดภาพไม่ออก

ยังมีประวัติศาสตร์ไทยที่เราท่องฝังหัวกันมาแต่เล็กแต่น้อยที่บิดเบือนมากมายนักแทบไม่น่าเชื่อ  โดยที่นักประวัติศาสตร์ได้แต่น้ำท่วมปากพูดไม่ออกได้แต่กรอกหน้าครับ


บันทึกการเข้า

NAPALM
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 66
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1589



« ตอบ #17 เมื่อ: เมษายน 30, 2008, 12:46:56 AM »

ผมยกประวัติศาสตร์งูๆปลาๆของตัวเองขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าคนไทยเราถูกหลอกให้เข้าข้างตัวเองอย่างสุดโต่งจนเกินไปครับ

อธิปไตย,เขตแดนและศักดิ์ศรีของไทยเป็นสิ่งที่ละเมิดไม่ได้.....เป็นตายยังไงก็ยอมไม่ได้

แต่ก่อนที่ความขัดแย้งจะถึงจุดนั้น เราต้องพยายามแก้ปัญหาให้เต็มที่ซะก่อน และต้องเริ่มจากตัวเองให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเสียก่อน

พวกเราได้รับรู้แต่ว่าในอดีตเขมรมาตอดเล็กตอดน้อยกับเราเรื่อยมา แต่ไม่เคยได้รู้เลยว่าเราหยามหยัน ย่ำยีเขมรมาขนาดไหน ..... เขมรตอดเราแต่ระดับหัวเมืองชายแดน แต่เราทั้งยึดครองระยะยาว ถล่มทำลายอารยธรรมของเขาจนแทบสิ้นซาก........ไม่ยอมรับรู้เลยว่าเขมรขมขื่นกับเรามาสาหัสขนาดไหนแล้วจะพูดจากันยังไง?

ท่านที่เคยอ่านสามก๊ก ท่านว่า ใคร หรือฝ่ายไหน เป็นพระเอก......

เล่าปีใช่ไหม......      Grin

พระเอกตัวจริง ของเรื่องสามก๊ก  คือ โจโฉ ครับ....

ใครไม่เชื่อ ลองอ่านฉบับนายทุนของ พล.ต. มรว. คึกฤทธิ์ ดูสิครับ

ผมว่า มีพม่าไม่กีคนหรอก ที่รู้ว่า ตอนเสียกรุงทั้งสองครั้ง พม่าทำเราฉิบหายปานใด

เรื่องเขาพระวิหาร ผมเองไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ทราบมาบ้างว่า เขมรในอดีต ยิ่งใหญ่นัก...

ไทยถอยร่นมาแต่เหนือ  แล้วไทยทำยังไงกับเจ้าของที่เดิมหนอ.....


คนไทย....ที่จริงคนเกือบทั้งโลก รับรู้สามก๊กมาจากฉบับ"บทละครงิ้ว"ของล่อกวนตง(หลอกว้านจง)ครับ

อ่านไปก็เชื่อเป็นตุเป็นตะไปว่าเป็นเรื่องจริง ที่จริงก็ว่าไม่ได้เพราะแม้แต่คนจีนเองก็ยังโดนหลอก

ฉบับของเฉินโซ่วที่เป็นอาลักษณ์หลวงยุคราชวงศ์จิ้นอันเป็นฉบับที่ทางการจีนให้การยอมรับ กลับพูดไว้ต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว และมีน้อยคนที่จะได้อ่าน....ผมเองอยากอ่านใจจะขาดแต่ก็ดันอ่านภาษาจีนไม่ออก ได้แต่เก็บเล็กผสมน้อยเอาจากบทความที่มีผู้เอามาแปลให้อ่านเป็นครั้งคราว  เศร้า

จำได้ว่าหลายปีก่อนคุณเจริญ วัฒนสินออกมาจัดรายการวิจารณ์สามก๊ก(ฉบับงิ้วหลอกเด็ก) เรียกเป็นฉบับนักบริหาร แล้วมาพูดซะเขื่องโขบ่อยๆ ว่า"ใครไม่ได้อ่านสมาก๊ก อย่าริทำการใหญ่".....น่าหัวร่อสิ้นดี  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก


โดยส่วนตัวผม.......ปัจจุบัน   การหยิบหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สักเล่มขึ้นดูปก    ตั้งอยู่บนความหวาดระแวง

ใครจารึก   ใครบันทึก   ฝ่ายไหนเพื่อฝ่ายไหน    บันทึกของฝ่ายที่สามเป็นกลางจริงหรือ  หรือเพียงแค่มุมมองการรับรู้ของเขา

            สมัยผมเป็นนักเรียน     เขาสอนผมว่าบรรพชนไท  อพยพลงมาจากแม่น้ำแยงซีเกียง  ส่วนหนึ่งแตกไปอยู่ตอนเหนือของพม่า

เรียกไทยใหญ่    อีกส่วนหนึ่งลงมาสู่ลุ่มเจ้าพระยาคือไทยน้อยหรือประเทศไทยเราปัจจุบัน    ที่ผมสงสัยคือมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

การพยายามสอนมาแบบนี้เพื่ออะไร    กับการขุดค้นพบอะไรหลายอย่างในดินแดนนี้  ว่ามีการเป็นอยู่มายาวนานกว่านั้น  หรือเรามิได้

มาจากไหนเลย    อยู่ที่นี้มานานแล้ว  ผมไม่ทราบว่าการสอนประวัติศาสตร์ชาติไทยในชั้นประถมปัจจุบันเขาสอนกันอย่างไร

            ที่ผมสนใจจะรับรู้มากที่สุดปัจจุบันนี้    คือประวัติศาสตร์ในช่วงการเปลี่ยนแผ่นดินจากธนบุรีมาสู่กรุงเทพฯ   ผมว่ามันช่างเร้าใจเสียจริง ๆ

เป็นการมองต่างมุมนะครับ   มิใช่การขัดแย้ง     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 30, 2008, 07:02:59 AM โดย NAPALM » บันทึกการเข้า

..........ขอเพียงมีความหวัง       ย่อมมีโอกาส...............
flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #18 เมื่อ: เมษายน 30, 2008, 09:13:37 AM »

ผมยกประวัติศาสตร์งูๆปลาๆของตัวเองขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าคนไทยเราถูกหลอกให้เข้าข้างตัวเองอย่างสุดโต่งจนเกินไปครับ

อธิปไตย,เขตแดนและศักดิ์ศรีของไทยเป็นสิ่งที่ละเมิดไม่ได้.....เป็นตายยังไงก็ยอมไม่ได้

แต่ก่อนที่ความขัดแย้งจะถึงจุดนั้น เราต้องพยายามแก้ปัญหาให้เต็มที่ซะก่อน และต้องเริ่มจากตัวเองให้มีทัศนคติที่ถูกต้องเสียก่อน

พวกเราได้รับรู้แต่ว่าในอดีตเขมรมาตอดเล็กตอดน้อยกับเราเรื่อยมา แต่ไม่เคยได้รู้เลยว่าเราหยามหยัน ย่ำยีเขมรมาขนาดไหน ..... เขมรตอดเราแต่ระดับหัวเมืองชายแดน แต่เราทั้งยึดครองระยะยาว ถล่มทำลายอารยธรรมของเขาจนแทบสิ้นซาก........ไม่ยอมรับรู้เลยว่าเขมรขมขื่นกับเรามาสาหัสขนาดไหนแล้วจะพูดจากันยังไง?

ท่านที่เคยอ่านสามก๊ก ท่านว่า ใคร หรือฝ่ายไหน เป็นพระเอก......

เล่าปีใช่ไหม......      Grin

พระเอกตัวจริง ของเรื่องสามก๊ก  คือ โจโฉ ครับ....

ใครไม่เชื่อ ลองอ่านฉบับนายทุนของ พล.ต. มรว. คึกฤทธิ์ ดูสิครับ

ผมว่า มีพม่าไม่กีคนหรอก ที่รู้ว่า ตอนเสียกรุงทั้งสองครั้ง พม่าทำเราฉิบหายปานใด

เรื่องเขาพระวิหาร ผมเองไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ทราบมาบ้างว่า เขมรในอดีต ยิ่งใหญ่นัก...

ไทยถอยร่นมาแต่เหนือ  แล้วไทยทำยังไงกับเจ้าของที่เดิมหนอ.....


คนไทย....ที่จริงคนเกือบทั้งโลก รับรู้สามก๊กมาจากฉบับ"บทละครงิ้ว"ของล่อกวนตง(หลอกว้านจง)ครับ

อ่านไปก็เชื่อเป็นตุเป็นตะไปว่าเป็นเรื่องจริง ที่จริงก็ว่าไม่ได้เพราะแม้แต่คนจีนเองก็ยังโดนหลอก

ฉบับของเฉินโซ่วที่เป็นอาลักษณ์หลวงยุคราชวงศ์จิ้นอันเป็นฉบับที่ทางการจีนให้การยอมรับ กลับพูดไว้ต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว และมีน้อยคนที่จะได้อ่าน....ผมเองอยากอ่านใจจะขาดแต่ก็ดันอ่านภาษาจีนไม่ออก ได้แต่เก็บเล็กผสมน้อยเอาจากบทความที่มีผู้เอามาแปลให้อ่านเป็นครั้งคราว  เศร้า

จำได้ว่าหลายปีก่อนคุณเจริญ วัฒนสินออกมาจัดรายการวิจารณ์สามก๊ก(ฉบับงิ้วหลอกเด็ก) เรียกเป็นฉบับนักบริหาร แล้วมาพูดซะเขื่องโขบ่อยๆ ว่า"ใครไม่ได้อ่านสมาก๊ก อย่าริทำการใหญ่".....น่าหัวร่อสิ้นดี  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก


โดยส่วนตัวผม.......ปัจจุบัน   การหยิบหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สักเล่มขึ้นดูปก    ตั้งอยู่บนความหวาดระแวง

ใครจารึก   ใครบันทึก   ฝ่ายไหนเพื่อฝ่ายไหน    บันทึกของฝ่ายที่สามเป็นกลางจริงหรือ  หรือเพียงแค่มุมมองการรับรู้ของเขา

            สมัยผมเป็นนักเรียน     เขาสอนผมว่าบรรพชนไท  อพยพลงมาจากแม่น้ำแยงซีเกียง  ส่วนหนึ่งแตกไปอยู่ตอนเหนือของพม่า

เรียกไทยใหญ่    อีกส่วนหนึ่งลงมาสู่ลุ่มเจ้าพระยาคือไทยน้อยหรือประเทศไทยเราปัจจุบัน    ที่ผมสงสัยคือมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

การพยายามสอนมาแบบนี้เพื่ออะไร    กับการขุดค้นพบอะไรหลายอย่างในดินแดนนี้  ว่ามีการเป็นอยู่มายาวนานกว่านั้น  หรือเรามิได้

มาจากไหนเลย    อยู่ที่นี้มานานแล้ว  ผมไม่ทราบว่าการสอนประวัติศาสตร์ชาติไทยในชั้นประถมปัจจุบันเขาสอนกันอย่างไร

            ที่ผมสนใจจะรับรู้มากที่สุดปัจจุบันนี้    คือประวัติศาสตร์ในช่วงการเปลี่ยนแผ่นดินจากธนบุรีมาสู่กรุงเทพฯ   ผมว่ามันช่างเร้าใจเสียจริง ๆ

เป็นการมองต่างมุมนะครับ   มิใช่การขัดแย้ง     

จริงแล้ว....คนไทยอยู่ที่นี่มาตลอด ไม่ได้ย้ายมาจากเทือกเขาอัลไตหรอกครับ....เทือกเขานั้นไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาหลายพันปีแล้ว.....แต่สิ่งที่เขียนมานั้นต้องไปถามหลวงวิจิตรฯว่าได้เขียนบิดเบือนไปเท่าไหร่เพราะอะไร......
บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #19 เมื่อ: เมษายน 30, 2008, 10:29:10 AM »

                      ประวัติศาสตร์  ย่อมเขียนเข้าข้างตนเอง  ประวัติศาสตร์เป็นนิทานที่ พวกกันหลอกกันเอง      Lips Sealed

นิทาน Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
supreme
Hero Member
*****

คะแนน 127
ออฟไลน์

กระทู้: 1187



« ตอบ #20 เมื่อ: เมษายน 30, 2008, 12:14:24 PM »

ผมมีความรู้สึก เห็นใจคนเขียนประวัติศาสตร์อยู่บ้าง  ถ้าหากต้องเขียนทุกด้านที่เกิดขึ้น  บางทีตอนนี้โลกเราอาจจะมีแต่เผ่าเร่ร่อนอยู่ก็ได้นะครับ  เพราะสถาบันการเมืองการปกครองที่มีส่วนผสมของความศัทธายอมรับเป็นแกนกลาง    คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้   และผมเชื่อว่าทุกประเทศบนโลกนี้ต่างก็ทำเหมือนกันหมด  บางเรื่องก็ต้องมีคนทำ(อย่างไม่เต็มใจ)  คนล้มได้ประเทศล้มไม่ได้  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  สีขาวเมื่อหลายร้อยปีก่อนอาจจะหมองไปบางในปัจุบัน  ก็คงเป็นเช่นนั้นเอง  ตามเหตุปัจจัย
บันทึกการเข้า

การศึกษาโดยไม่คิด ไร้ประโยชน์    การคิดโดยไม่ศึกษา เป็นอันตราย
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 22 คำสั่ง