'ต้องช่วยแม่ให้รอด'วาบความคิดลูกเหยื่อปืนโหด
http://www.komchadluek.net/2008/04/28/x_scoo_p001_200107.php?news_id=200107 สองพี่น้องเด็กเสิร์ฟร่วมกันปกป้องแม่ ถูกลูกค้าวัยชราโมโหโกรธา หลังถูกทวงเงินค่าอาหาร-เบียร์แค่ 550 บาท ระเบิดกระสุนใส่ โชคดีลูกชายกตัญญูคนหนึ่งผลักแม่ อีกคนโดดแย่งปืน จึงรอดตายหวุดหวิด กระนั้นก็ปางตายต้องตัดม้ามทิ้ง
ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ค่าอาหารและเบียร์550 บาท จะยังมีคนคิดเบี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนที่เต็มไปด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ จนเรื่องบานปลายถึงกับชักปืนออกมายิงแม่ครัว แค่ไม่พอใจประโยคที่ว่า "คุณลุงคะ ถ้าคุณลุงไม่ได้ทาน ทำไมคุณลุงถึงเมาล่ะคะ !?!"
ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในตลาดอินโดจีนหรือตลาดท่าเสด็จจ.หนองคาย คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวเข้าไปเลือกซื้อสินค้า เนื่องจากเป็นวันศุกร์ที่ 25 เมษายน ร้านอาหารตามสั่งและอาหารอีสานเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปนั่งดื่มกินอยู่ริมแม่น้ำโขง "ครัวครูน้อง" เองก็เช่นกัน มีลูกค้าเข้ามาดื่มด่ำหาความอิ่มหนำสำราญอยู่มากพอสมควร
โต๊ะหนึ่งมีข้าราชการเกษียณวัย76 ปี พร้อมเพื่อนๆ เข้ามานั่งรับประทานอาหารและสั่งเบียร์ดื่มตั้งแต่เที่ยงวัน โดยเลือกนั่งที่โต๊ะเบอร์ 4 ก่อนจะย้ายมานั่งโต๊ะเบอร์ 5 ระหว่างนี้มักจะมีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากโต๊ะนี้เป็นระยะๆ กระทั่งเพื่อนๆ ทยอยออกจากร้านเหลือเพียงข้าราชการวัยเกษียณเพียงลำพัง
คุณลุงวัย76 ย้ายโต๊ะมานั่งที่เบอร์ 6 อีกครั้งก่อนจะเรียกเก็บเงิน รวมทั้งสิ้น 550 บาท แทนที่เรื่องจะจบกลับเป็นตรงกันข้าม เขาปฏิเสธว่ายังไม่กินอะไรเลย บนโต๊ะว่างเปล่าไม่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มจะเก็บเงินได้อย่างไร
"ปัฐวีร์ เจริญสุข" หรือแบงก์ วัย 19 ปี กับ "ธีรภัทธ์ เจริญสุข" หรือเบนซ์ วัย 14 ปี สองพี่น้องเด็กเสิร์ฟเข้าไปอธิบาย โดยแบงก์เล่าว่า เขาพยายามอธิบายให้คุณลุงเข้าใจว่า มาตั้งแต่กี่โมงและย้ายที่นั่งมากี่โต๊ะแล้ว เพื่อนคุณลุงก่อนจะออกไปยังทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้เลย ดังนั้น คุณลุงจะปฏิเสธว่าไม่ได้กินอะไรได้อย่างไร จึงต้องจ่ายเงินค่าอาหารและเบียร์ ไม่เช่นนั้นตัวเขาและเด็กเสิร์ฟในร้านจะถูกหักเงินค่าแรง
"คุณลุงช่วยจ่ายเถอะครับ" แบงก์อ้อนวอน
เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตานักท่องเที่ยวในร้านและในตลาดท่าเสด็จที่ผ่านไปมาแล้วได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมองมาเป็นตาเดียวกันและแล้วคุณลุงวัย 76 ปีก็เดินออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบงก์หันไปบอกเพื่อนๆ เด็กเสิร์ฟให้ทำใจถูกหักเงินในเย็นวันนี้
จังหวะนั้นเองแบงก์เห็นแว่นวางอยู่บนโต๊ะเบอร์6 จึงคิดว่าคุณลุงแค่ล้อเล่น เลยหยิบแว่นจะนำไปคืน ปรากฏว่าคุณลุงคนเดิมเดินกลับเข้ามาในร้าน แบงก์เลยถามอีกครั้งว่าจะมาจ่ายเงินใช่ไหมครับ ก็ยังคงได้รับคำตอบปฏิเสธเช่นเคย ร้อนถึง "กานต์ชนิต อรรคศรีวร" แม่ครัววัย 42 ปี และยังเป็นแม่ของแบงก์และเบนซ์เข้ามาช่วยเจรจา
"คุณลุงคะ ถ้าคุณลุงไม่ได้ทาน ทำไมคุณลุงถึงเมาล่ะคะ"
ยังไม่ทันจบประโยคคุณลุงเลือดร้อนก็ชักปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกงขวาจ่อยิงใส่กานต์ชนิต 1 นัด กระสุนเข้าสีข้างซ้าย เบนซ์ซึ่งยืนอยู่ใกล้แม่ที่สุดผลักให้ล้มลงก่อนที่กระสุนนัดที่สองจะระเบิดออกมาเฉี่ยวต้นแขนซ้าย หาไม่ก็คงเป็นเป้ากระสุนต่อไป
จังหวะนี้เองแบงก์วิ่งตรงเข้าไปปัดปืนและกอดรัดฟัดเหวี่ยงยื้อแย่งปืนจากมือของคุณลุงวัย76 ปี จนกระสุนลั่นไปถูกคอมพิวเตอร์ในร้าน เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นต่อหน้าลูกค้าในร้านที่เริ่มอกสั่นขวัญหาย กระทั่งพี่ชายเจ้าของร้านที่นอนอยู่ข้างบนเห็นเหตุการณ์วิ่งออกมาช่วยกันจับคุณลุงเลือดร้อนเอาไว้ได้
"นัดแรกที่กระสุนลั่นผมตกใจาก น้องเบนซ์ผลักแม่ให้ล้มลง คุณลุงก็ยิงซ้ำอีก 1 นัด กระสุนเข้าแขนซ้าย ผมเลยวิ่งเข้าไปปัดปืน ในใจก็คิดว่ายังไงแม่ผมก็ตายไม่ได้ ต้องช่วยแม่ให้รอด" แบงก์เล่า
"ผมคิดว่าวันนั้นผมคงเสียแม่ไปแล้ว แม่ออกมาไม่ได้พูดอะไรมากเลย คุณลุงก็ชักปืนออกมา ผมตั้งใจว่าถ้ามีการยิงกันขึ้น ผมจะกระโดดรับกระสุนแทนแม่ แต่คิดได้ไม่เท่าไร เสียงปืนก็ดังลั่นไปหมด ขณะที่ลุงกำลังจะยิงซ้ำ ผมเลยกระโดดผลักแม่ให้ล้มลง กระสุนเลยถูกที่แขนซ้ายแทน" เบนซ์กล่าว
กานต์ชนิตกับสามีแยกทางกันตั้งแต่ลูกชายทั้งสองยังเล็กๆปัจจุบันสามแม่ลูกต้องทำงานหาเงินมาเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และอุปกรณ์การเรียนตามลำพัง แม้กานต์ชนิตจะไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่กระสุนได้ทำลายม้ามและทะลุเข้าปอด จนแพทย์ รพ.หนองคาย ต้องตัดม้ามทิ้งไปข้างหนึ่ง และยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
ส่วนคุณลุงเลือดร้อนเป็นผู้กว้างขวางและมีหน้ามีตาทางสังคมแม้จะถูกตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่ทางสาธารณะและพยายามฆ่าผู้อื่น ถูกควบคุมตัวไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ได้รับการประกันตัว