
น่าจะใช่นะครับพี่ ดีนะที่ NOD32 ช่วยไว้ได้ ไม่งั้นตั้งคอกม้าแน่ๆ เลย.... อัพเดทบ่อยๆ หน่อยนะครับพี่

ผมเอาความหมายต่างๆ ของไวรัสมาฝากครับ
ความแตกต่างระหว่าง Virus, Worm, Spyware, Trojan, Malware
- Virus = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมั นเองเข้าไป มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
ได้ต้องอาศัยไฟล์พาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับไฟล์
- Worm = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ มักจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น สิ่งที่มันทำ คือ มักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย
- Trojan = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรือด้วยวิธีอื่นๆ สิ่งที่มันทำคือเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครื่องที่ติดเชื้อจากระยะไกล ซึ่งจะทำอะไรก็ได้ และโทรจันยังมีอีกหลายชนิด
- Spyware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองห รืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ ใช้
- Hybrid malware/Blended Threats = คือ malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกัน
- Phishing = เป็นเทคนิคการทำ social engineer โดยใช้อีเมลล์เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลการทำธ ุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ตเช่น บัตรเครดิตหรือพวก online bank account
- Zombie Network = เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย
- Malware ย่อมาจาก Malicious Software หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่าย หรือเป็นคำที่ใช้เรียกโปรแกรมที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อ ระบบคอมพิวเตอร์ทุกชนิดแบบรวมๆ โปรแกรมพวกนี้ก็เช่น virus, worm, trojan, spyware, keylogger, hack tool, dialer, phishing, toolbar, BHO, etc
- แต่เนื่องจาก virus คือ malware ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลกนี้และอยู่มานาน ดังนั้นโดยทั่วไปตามข่าวหรือบทความต่างๆที่ไม่เน้นไป ในทางวิชาการมากเกินไป หรือเพื่อความง่าย ก็จะใช้คำว่า virus แทนคำว่า malware แต่ถ้าจะคิดถึงความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง malware แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน
คำว่ามาลแวร์ ซึ่งมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า malware (malicious software) อันหมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ถูกออกแบบมาให้มีจุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย โปรแกรมเหล่านี้ก็เช่น classic virus, worm, trojan, adware, spyware, toolbar, BHO, hijacker, downloader, phishing, exploit malware รวมไปถึง zero-day attack, zombie network และอื่นๆ
Malware ที่พบเห็นการแพร่ระบาดทั่วไปและเหมือนจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจมากที่สุดก็คือ worm และ worm ก็ยังแบ่งออกเป็นชนิดแยกย่อยได้ดังต่อไปนี้
- Email Worm เช่น mass-mailing worm ที่ค้นหารายชื่ออีเมลล์ในเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว ก็ส่งตัวเองไปหาอีเมลล์เหล่านั้น
- File-sharing Networks Worm คัดลอกตัวเองไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ขึ้นค้นหรือประกอบด้ว ยคำว่าด้วย sha และแชร์โฟลเดอร์ของโปรแกรม P2P เช่น KaZaa
- Internet Worm, Network Worm โจมตีช่องโหว่ของโปรแกรมและระบบปฎิบัติการเช่นเวิร์ม Blaster, Sasser ที่เรารู้จักกันดี
- IRC Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ในห ้องสนทนาเดียวกัน
- Instant Messaging Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ใน contact list ผ่านทางโปรแกรม IM เช่น MSN, ICQ
Trojan เป็น malware อีกชนิดที่พบเห็นการแพร่ระบาดได้ทั่วไป trojan ยังแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดดังนี้
- Remote Access Trojan (RAT) หรือ Backdoor ที่เปิดช่องทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาควบคุม หรือทำอะไรก็ได้บนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อในแบบระยะไก ล
- Data Sending/Password Sending Trojan โขมยรหัสผ่านแล้วส่งไปให้ผู้ไม่ประสงค์ดี
- Keylogger Trojan ดักจับทุกข้อความที่พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์
- Destructive Trojan ลบไฟล์บนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
- Denial of Service (DoS) Attack Trojan ใช้ทำ DDoS เพื่อโจมตีระบบอื่น
- Proxy Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น proxy server หรือ web server, mail server เพื่อสร้าง zombie network
- FTP Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น FTP server
- Security software Killer Trojan ฆ่า process หรือลบโปรแกรมป้องกันไวรัส/โทรจัน/ไฟล์วอลบนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
- Trojan Downloader ดาวน์โหลด adware, spyware, worm เอามาติดตั้งบนเครื่องเหยื่อ
และ malware ที่พบเห็นได้ง่ายทั่วไปในปัจจุบันและสร้างความรำคาญให้มากที่สุดก็คือ spyware (บางตำราอาจใช้คำว่า grayware)
ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด (ซึ่งบางส่วนก็มีพฤติกรรมคล้ายๆ trojan ด้วย) เช่น
- Adware ดาวน์โหลดและแสดงแบนเนอร์โฆษณา
- Dialer อยู่ตามเว็บโป๊เพื่อใช้ต่อโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเท ศ
- Spyware เก็บรวมรวมพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตบนเครื่องเหยื่ อ
- Hijacker เปลี่ยนแปลง start page, bookmark บนบราวเซอร์เช่นใน IE
- Trojan like เช่น trojan downlaoder ดาวน์โหลด spyware หรือแบนเนอร์โฆษณา
- BHO (Browser Helper Objects) ยัดเยียดฟังก์ชั่นที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE
- Toolbar ยัดเยียด toolbar ที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE
- สาเหตุของการติดไวรัส มีได้หลายสาเหตุ เช่น
1. ทางอีเมลล์ โดยเฉพาะการดูดอีเมลล์จาก pop3 server ด้วยโปรแกรมอย่าง Outlook Express ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนอนอินเตอร์เน็ตประเภท mass-mailing worm เช่น Netsky, Beagle, Mydoom
2. จากช่องโหว่ (vulnerability) ของระบบปฏิบัติการหรือของโปรแกรม โดย network worm, mass-mailing worm ที่โจมตีช่องโหว่ของ Windows เช่น Blaster, Sasser, Bobax ซึ่งต่อไปอาจจะเป็นกรณีของ zero-day attack
3. จากการเข้าไปในเว็บที่มี malicious script/malware ซ่อนอยู่ก็อย่างเว็บโป๊ เว็บ crack ทั้งหลาย เช่นพวก dialer, trojan downloader,
spyware, browser hijacker
4. จากการเข้าไปในเว็บธรรมดาที่ติดไวรัสเช่น VBS/Redlof
5. จากการเคลื่อนย้ายไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่อ งหนึ่งผ่านทางแผ่นดิสก์เช่น macro virus ที่อยู่ในไฟล์ของ MS Office
6. การดาวโหลดไฟล์จากเครือข่าย P2P อย่างเช่น KaZaA เช่น P2P worm และโทรจันทั้งหลาย
7. จากการดาวโหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างเช่นเว็บ crack, warez ส่วนใหญ่จะเป็นพวก private/modified trojan
8. จากการเล่นหรือรับไฟล์จากโปรแกรมประเภท Instant Message เช่น MSN, ICQ
9. จากการเล่นโปรแกรมประเภท IRC เช่น Pirch98 เช่น IRC Worm และอื่นๆ