เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 07:11:37 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 25 26 27 [28] 29 30 31 ... 73
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาภาพยนต์ และประวัติศาสตร์การสงคราม  (อ่าน 225201 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #405 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 09:44:09 PM »

วันนี้ได้ดู the kingdom นำโดยเจมี่ ฟ็อกซ์ จบไป  สนุกฉากยิงมันส์มาก
แต่ก็เว่อร์นิดๆตรงที่ว่า คนแค่ ๓-๔ คน สามารถยิงสู้กับกองโจร ..ได้  เรื่องจริงคงลำบากกว่าในหนัง ..
บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #406 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 09:49:50 PM »

อยากดูเรื่องนี้ครับ ขออภัยด้วยอาจไม่ใช่หนังสงคราม  แต่ใครเคยดูมาแล้วช่วยวิจารณ์หน่อยครับ ว่าสนุกหรือไม่

บันทึกการเข้า
นายขม รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 99
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1377


ที่ว่างปลายปากกระบอกปืน


« ตอบ #407 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2009, 10:13:45 PM »

มีใครชอบ Body of Lies ครับ  Grin  ไม่ใช่หนังสงครามเสียที่เดียว แต่ก็เป็นผลเกี่ยวเนื่องจากสงคราม

ผมเองโดยส่วนตัวชอบการแสดงของ พ่อหนุ่มลีโอนาโดมาก  ผมว่าเขา"เข้าถึง"บทดี  ติดใจจากเรื่อง Romeo & Juliet, Blood diamond, The departed, และล่าสุด Bodies of lies

เรื่องนี้ ดูไปต้องเดาตลอดเลยว่าใครแบไต๋ ใครหมกเม็ด ฉากบู๊ยิงกันก็ทำได้สะใจ แบบไม่เวอร์เกินไปนัก   เยี่ยม
บันทึกการเข้า

ผมจ่ายภาษีให้มาดูแลรักษาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มายืนดูคนเผาบ้านเผาเมือง
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #408 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 09:23:56 AM »

แปลกแฮะ... คุณซับฯ ไม่ได้พูดถึงสาวสวยในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะภรรยาม่ายของอัศวินเกราะแดง ที่ทอมครูสเป็นผู้สังหารสามีของเธอ...

เรื่อง นี้นายสมชายก็ชอบมาก... จักรพรรดิ์ยังเป็นเด็กตัวนิดนึง แต่บุคลิกผู้ใหญ่ผสมเด็ก เห็นแค่ฉากเดียวแต่เข้าใจเลยว่าบุคลิกแบบนี้ถึงได้ควบคุมผู้คนได้...

ฉาก สุดท้าย โดนปืนกลลำกล้องหมุนยิงตายเรียบ... นายสมชายนึกในใจว่าเทคโนโลยีหนอ เทคโนโลยีหนอ เทคโนโลยีโหดร้ายจัง... สามารถทำลายทุกอย่างของซามูไรที่อุตส่าห์ฝึกมาทั้งชีวิตครับ...



สาเหตุที่ปืนกลกำเนิดก็เนื่องจาก  ต้องการลดจำนวนทหาร ที่เข้าสู่สนามรบ เมื่อปืนกลหนึ่งกระบอกสามารถมีอำนาจการยิงมากกว่าทหาร ประมาณ 10-30 นาย นี่เป็นเจตนาของผู้ออกแบบปืนกล(ชื่อMaxim มั้ง จำไม่ได้ คลับคลายคลับคลา)ครับ เคยดูจากสารคดี ของ NG
ใช่ครับ ปืนแมกซิม เป็นปืนกลรุ่นแรกจริงๆ ทำการยิงต่อเนื่องจากการยิงนัดก่อน เหนื่ยวไกแช่ ยิงต่อเนื่องได้ถ้ายังมีกระสุนป้อน

ตอนแรก เซอร์ ฮีแรม แมกซิม เกิดเป็นเมกันแต่ย้านไปยุโรป  เป็นนักประดิษฐ์ของทั่วไป ไม่ได้อยู่ในวงการปืน หรือครอบครัวช่างปืนอย่าง บราวนิง เรื่องเล่าว่าวันหนึ่งแมกซิมเจอคนเมกันในงายเลี้ยงในยุโรป แล้วคนนั้นบอกว่า "ถ้าอยากประดิษฐืของขายให้รวยละก็ คิดืำอาวุธให้พวกยุโรปนี่ฆ่ากันได้มากๆ สิ รวยแน่" ไปๆ มาๆ แมกซิมก็ทำปืนกลแมกซิม ตอนจะไปเสนอขายทหารชาติต่างๆ มีเรื่องเล่าว่าเคยเจอคนไม่มีวิสัยทัศน์ บ่นว่า "ปืนอะไรยิงเร็ว ผลาญกระสุนเป็นบ้า ใครขืนเอาไปใช้หมดตัวค่ากระสุนแน่" อย่างไรก็ตามมีทหารหลายชาติซื้อไปใช้

อังกฤษใช้ก่อนเยอรมัน ตอนนั้นอังกฤษกับเยอรมันยังไม่แตกกันเป็นเจ้าเป็นญาติกัน พระนางเจ้าวิกตอเรียมีศักดิ์เป็นป้าพระเจ้าไกเซอร์ จึงยังสยบความขัดแย้งทางการเมืองได้ ตอนนั้นราชวงศ์วินเซอร์ชื่อว่า ฮันโนเวอร์ ตามวงศ์ของพระนางวิกตอเรีย เจ้าชายอับเบิร์ตสวามีพระนางวิกตอเรียก็เป็นเจ้าเยอรมันวงศ์ ซักโตบวกโกธาร์

ราชกุมารอังกฤษเป็นผู้ไปคุยกับพระเจ้าไกเซอร์เองว่า ตอนนี้กองทัพอังกฤษซื้อปืนแมกซิมมาใช้ ดีจริงๆ พระเจ้าไกเซอร์จึงเชิญแมกซิมไปทดลองปืนต่อหน้า และสั่งซื้อจำนวนมาก เข้าประจำการทั่วถึงยิงกว่าในกองทัพอังกฤษ ซื้อแบบไปผลิตด้วยเรียกปืนชปันเดา

อิทธิฤทธิ์ของปืนแมกซิมปรากฎในสงครามอาณานิคมหลายครับ เพราะคนพื้นเมืองมักใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเข้าลุยกับฝรั่งต่อหน้า นักรบจำนวนมากแต่อาวุธไม่ดี ส่วนฝรั่งมีปืนกล...

ที่เด่นๆ เช่น การรบในซูดาน นอกเมือง Omdurman ที่นี่เป็นสนามรบที่ วินสตัน เชอร์ชิล เป็นทหารม้าเข้าลุยในบางแนวของคนซูดาน เชอร์ชิลใช้ปืนพกเมาเซอร์ เพราะไหล่ไม่ค่อยดี ทหารม้าคนอื่นใช้ดาบ แต่ชัยชนะอยู่ที่อำนาจการยิงของปืนแมกซิม และปืนจากเรือในแม้น้ำสนับสนุน

ซูดาน 50,000 กว่าคน เข้าลุย แนวหน้าอังกฤษตั้งปืนแมกซิม 20 กระบอก...

เชอร์ชิล เขียนว่ายิงจนน้ำในกระบอกหล่อลำกล้อง และถังคอนเดนเซอร์ แห้งหมด ต้องมาเติมใหม่

ผลการรบไม่กี่ชั่วโมง ซูดาน สูญเสีย เจ็บ/ตาย 20,000 กว่าคน อังกฤษ ตายไม่ถึง 50 คน

ในสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษ และเยอรมัน ใช้ปืนแมกซิม และชปันเดายิงกัน สูญเสีย เจ็บ/ตาย วันละกว่า 5 หมื่นคนก็มี

แมกซิมได้เป็นท่านอัศวินเพราะผลงานประดิษฐ์นี่แหละครับ

กลอนยุคนั้นของ Hilaire Belloc

The Modern Traveller

Blood thought he knew the native mind;
He said you must be firm, but kind.
A mutiny resulted.
I shall never forget the way
That Blood stood upon this awful day
Preserved us all from death.
He stood upon a little mound
Cast his lethargic eyes around,
And said beneath his breath:
'Whatever happens, we have got
The Maxim Gun, and they have not.'

ทำนองว่า

บลัด (นายพล เซอร์บินดอน บลัด) คิดว่าเขารู้ใจคนพื้นเมือง
เขาบอกว่าเราต้องแน่วแน่แต่มีเมตตา
จึงพาให้เกิดกบฎ..
ข้าฯ จะไม่ลืม
บลัดที่ยืนหยัดในวันอันสยดสยอง
และช่วยพวกเราพ้นจากความตาย
เขายืนบนเนินน้อย
กวาดสายตาอันอ่อนเปลี้ย
เปรยเ่อ่ยคำ
"ไม่ว่าจะเกิดอะไร พวกเราก็มีปืนแมกซิม
แต่พวกมันนั้นหาไม่"

บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #409 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 09:30:30 AM »

หมอแกตลิ้งครับ เป็นคนออกแบบปืนลำกล้องหมุน
สาเหตุเนื่องจาก ครอบครัว ถูกโจรสังหารเรียบ(ยุคคาวบอย)

แกตลิ้งออกแบบโดยใช้การหมุนกระเดื่องเป็นการยิงปืน
หมุนไปเรื่อยๆ ปืนก็ยิงไปเรื่อยๆ

เพื่อให้คน คนเดียว ต่อกรกับกลุ่มโจรได้




อือม์ ที่จริงถ้าดูตามโดยหลักการของปืนกลทั่วไป เขาไม่นับว่าปืนแกตลิ่งเป็นปืนกล ในความหมายของ Machine gun ครับ เพราะต้องอาศัยแรงกลจากภายนอกอย่างต่อเนื่องมาทำการ บรรจุ ง้างเข็ม สลัดปลอก สำหรับการยิง "ทุกนัด" ไม่ใช่กดไกแช่อย่างเดียวได้

เปรียบเทียบโดยหลักการ ปืนแกตลิ่งไม่ต่างจากปืนลูกโม่ที่บรรจุกระสุนเข้าโม่เองและยิงออกจากโม่โดยตรง

สมัยนี้ใช้แรงมอเตอร์มาหมุนเลยดูว่าเป็นปืนกลเพราะถ้าระบบพร้อมก็กดไกแช่

แล้วแต่การมองนะครับ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #410 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 09:33:57 AM »

มีใครชอบ Body of Lies ครับ  Grin  ไม่ใช่หนังสงครามเสียที่เดียว แต่ก็เป็นผลเกี่ยวเนื่องจากสงคราม

ผมเองโดยส่วนตัวชอบการแสดงของ พ่อหนุ่มลีโอนาโดมาก  ผมว่าเขา"เข้าถึง"บทดี  ติดใจจากเรื่อง Romeo & Juliet, Blood diamond, The departed, และล่าสุด Bodies of lies

เรื่องนี้ ดูไปต้องเดาตลอดเลยว่าใครแบไต๋ ใครหมกเม็ด ฉากบู๊ยิงกันก็ทำได้สะใจ แบบไม่เวอร์เกินไปนัก   เยี่ยม

ผมชอบครับ

สำหรับนายลีโอ ผมว่าแกแสดงเก่งตั้งแต่เรื่อง Aviator ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยชอบ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #411 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 09:42:00 AM »

เข้ามาอ่านครับ...

สยองมาก คนตายวันละเป็นหมื่นๆคน... เอาแค่ทำอย่างไรไม่ให้ศพเน่าเหม็นจนคนที่ยังไม่ตายต้องเดือดร้อนกับกลิ่นเน่าเหม็นก็แย่แล้วครับ... ไม่ต้องคิดเรื่องการฌาปนกิจตามประเพนีเลยครับ...

สมมติว่าคนซูดานตัวผอมหนักแค่ 50 กิโลกรัม... น้ำหนักศพ 20,000 คน รวมกันแล้วเท่ากับ 1,000 เมตริกตันครับ นี่ยังไม่นับเรื่องเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์อีกต่างหาก...

งานนี้ อังกฤษบาปหนามาก...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 09:45:53 AM โดย นายสมชาย(ฮา) » บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #412 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 10:12:31 AM »

ครับ ในการปะทะกันทางอารยะธรรม ฝรั่งฆ่าคนชาติอื่นตายไปมากๆ หลายๆ ที่ มาโดยตลอด ที่ คาจามากา ในอเมริกา นักรบสเปนประมาณ 160 คน ฆ่าชาวอินคาไปตั้ง 7-8 พันคน โดยฝ่ายคนไม่สูญเสียเลย ในที่นั้นเป็นกองทัพอินคาที่ไม่ได้คิดว่าฝรั่งเป็นพระเจ้าอย่างที่ ชาวแอสแต๊ก คิดด้วยซ้ำ อาวุธหลักไม่ต่างกันเท่าไหร่ ไม่ใด้ใช้ปืนเป็นหลัก ต่างกันที่ เกราะเหล็ก ดาบเหล็ก นักรบบนม้าศึก สู้กับ อาวุธบรอนซ์ และขวานหินเหล็กไฟ

ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝรั่งฆ่ากันตายกันเป็นเบือแนวละหลายแสนคนเพราะยุทธวิธีไม่สัมพันธ์กับอาวุธ อำนาจอาวุธสูงไปโดยเฉพาะในรูปแบบการตั้งรับแต่การเข้าตีปรับรูปแบบไม่ทัน

บางที่อังกฤษมักตายมากเพราะมีความดื้อด้านแบบอังกฤษ บุกแล้วไม่ได้ผลก็ยังลุยต่อ ที่ซอร์ม (Somme) ปี 1916 วันแรกวันเดียวสูญเสีย 5-6 หมื่นคน ที่จริงก่อนเข้าตีปืนใหญ่อังกฤษระดมยิงเยอรมัน ร่วมสัปดาห์ แต่ที่นั้นเยอรมันมาอยู่นานมีเวลาสร้างบังเกอร์ลึกพอ และกระสุนที่ยิงส่วนมากเป็นกระสนุ ชรัปเนล สาดสะเก็ดลงพื้นเท่านั้น ไม่ทะลุที่มั่นไประเบิด พอวันที่ 1 ก.ค. 1916 อังกฤษหยุดยิง ส่งทหารราบเข้าตีด้วยความทรนงเต็มที่ สมัยนั้นอังกฤษชอบเอาลูกผู้ดีที่เรียนโรงเรียนประจำ เคยฝึกทหารมานิดหน่อยก็ให้เป็นนายร้อย พวกนี้ความเป็นผู้นำสูง ศักดิ์ศรีสูง กล้าหาญจนไม่รอบคอบ นำทหารเข้าลุยลูกเดียว ตายไปแยะทั้งนายทหารทั้งกำลังพล

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 มีตัวอย่างคือสงครามญี่ปุ่น รัสเซีย ญี่ปุ่นเข้าตี ปอร์ท อาเธอร์ ระดมตีแนวตั้งรับรัสเซียแตกจนได้ เป้นตัวอย่างว่าถ้าบุกหนักๆ ยังไงก็ตีแตก แต่ทางยุโรปลืมไปว่าญี่ปุ่นยอมเสียหายหลัก กว่าจะตีแตกเสียทหารไป 5 หมื่นกว่าคน...

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เชอชิล ผู้มีวิสัยทัศน์ทางการทหารสูง และอยู่ที่ อมเดอมาน ด้วยตนเอง เขียนว่า "บัดนี้ อาวุธพัฒนาไปมาก มีอำนาจทำลายล้างสูงเกินไปที่ชาติเจริญจะรบกันเอง" แต่ต่อมามนุษย์ก็รบกัน ฆ่ากันอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

ที่น่าคิดคือสมัยนี้เราก็คิดว่า อาวุธนิวเคลียร์มีอำนาจทำลายล้างสูงเกินไปจนคงไม่มีใครนำมาใช้รบกันเหมือนกัน...
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #413 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:10:57 PM »

มองโกลเก่งขนาดพิชิตดินแดนไปครึ่งยุโรป แต่เอ ทำไม่สู้ญี่ปุ่นไม่ได้ ยกกองเรือไปตีตั้งสองสามครั้ง ใครรู้เล่าให้ฟังหน่อยเถอะ

ลองดูครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Mongol_invasions_of_Japan

กองเรือโดนพายุกามิกาเซ่ทั้งสองครั้ง มารบกันบนชายฝรั่งญี่ปุ่นด้วย ในการรบชายฝั่งพื้นที่ไม่กว้าง ไม่เหมาะกับการรบแบบนักรบหลังม้ามองโกล นอกการการใช้อาวุธอื่นดาบทหารม้าโค้งยาวใช้มือเดียวเหวี่ยง ลงมาเดินดินก็เสียเปรียบดาบซามูไรญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตามการรบกับมองโกลทำให้เสียเสถียรภาพทางการเมืองในญี่ปุ่นเองด้วย เพราะเมืองในพื้นที่ไม่พอใจเรื่องการสนับสนุนจากเมืองอื่น ไปๆ มาๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงของอำนาจภายในเกาะ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #414 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:15:44 PM »

ว่ากันว่า ความสูญเสียหนักในสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่เกิดขึ้นถ้า นักการทหารศึกษากรณีสงครามกลางเมืองอเมริกา ก่อน
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #415 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:25:53 PM »

ว่ากันว่า ความสูญเสียหนักในสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่เกิดขึ้นถ้า นักการทหารศึกษากรณีสงครามกลางเมืองอเมริกา ก่อน
ว่ากันว่า ความสูญเสียหนักในสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่เกิดขึ้นถ้า นักการทหารศึกษากรณีสงครามกลางเมืองอเมริกา ก่อน

อือม์ ผมว่าท่าจะจริงครับ แต่ตอนนั้น ยุโรป ไม่ค่อยเห็นเมกาในสายตา...

เคยเจอประเด็นหนึ่งว่า ปรุสเซียนส่งทหารไปดูงานฝ่ายเหนือในสงครามกลางเมืองเรื่องการใช้รถไฟ ระดมพล และส่งกำลัง ซึ่งสงครามกลางเมืองเป็นสงครามใหญ่แรกที่ใช้ระบบรถไฟอย่างมาก ปรุสเซียนนำเรื่องการใช้รถไฟมาจัดระบบ วางแผนการรบ เลยทำให้ระดมพล บุกฝรั่งเศสได้เร็วมากในปี 1870 ในที่สุดรบขนะในปี 1871

สงครามโลกครั้งที่ 1 ชาติมหาอำนาจมีอาวุธใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้รบกันเองมาก่อนหลายอย่าง ปืนกล ปืนใหญ่สนามยิงเร็ว แกสพิษ ป่าลวดหนาม ฯลฯ ส่งทหารเข้าตีที่มั่นในลักษณะสนามรบหยุดนิ่งกันบ่อยๆ เลยตายมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:28:37 PM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #416 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:28:01 PM »

วุ๊ย...ปืนพวกนี้ ยิงแข่งกัน แก้วหูกระเทือน
ขนราด แกตลิ่งขนาด 20 มม. ติด เครื่องบิน ธันเดอร์โบลท์ เอ10
ยิงที แรงสะท้อนถอยหัลัง ทำให้เครื่องเหมือนถูกเบรค ความเร็ววูบลงเลย

A10 Thunderbolt ติดปืนใหญ่อากาสแบบลำกล้องหมุน ขนาด 30 มม. ครับ ...........



ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #417 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 12:42:51 PM »

ในหนังเรื่อง Elizabeth ภาค 1 มีฉากหลังการรบ ฝ่ายชนะ เก็บของจากศพในสนามรบ และเปลี้องผ้าด้วย เรื่องนี้จริงตามประวัติศาสตร์มาก เพราะสมัยก่อนที่การอุตสาหกรรมจะผลิตสินค้าออกมาได้มากๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทิ้งไม่ได้ หลังจากการรบถ้ามีเวลา จะต้องเก็บของ และเปลื้องเสื้อผ้าเอามาใช้ใหม่

แม้กระทั่งไม่นานมานี้ ในภาพวาดร่วมสมัยการรบที่ Waterloo ปี 1815 ฝังศพทหารก็ฝังรวมและเปลื้องผ้าก่อน   
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #418 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 03:04:07 PM »

ว่ากันว่า ความสูญเสียหนักในสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่เกิดขึ้นถ้า นักการทหารศึกษากรณีสงครามกลางเมืองอเมริกา ก่อน
ว่ากันว่า ความสูญเสียหนักในสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่เกิดขึ้นถ้า นักการทหารศึกษากรณีสงครามกลางเมืองอเมริกา ก่อน

อือม์ ผมว่าท่าจะจริงครับ แต่ตอนนั้น ยุโรป ไม่ค่อยเห็นเมกาในสายตา...

เคยเจอประเด็นหนึ่งว่า ปรุสเซียนส่งทหารไปดูงานฝ่ายเหนือในสงครามกลางเมืองเรื่องการใช้รถไฟ ระดมพล และส่งกำลัง ซึ่งสงครามกลางเมืองเป็นสงครามใหญ่แรกที่ใช้ระบบรถไฟอย่างมาก ปรุสเซียนนำเรื่องการใช้รถไฟมาจัดระบบ วางแผนการรบ เลยทำให้ระดมพล บุกฝรั่งเศสได้เร็วมากในปี 1870 ในที่สุดรบขนะในปี 1871

สงครามโลกครั้งที่ 1 ชาติมหาอำนาจมีอาวุธใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้รบกันเองมาก่อนหลายอย่าง ปืนกล ปืนใหญ่สนามยิงเร็ว แกสพิษ ป่าลวดหนาม ฯลฯ ส่งทหารเข้าตีที่มั่นในลักษณะสนามรบหยุดนิ่งกันบ่อยๆ เลยตายมากๆ

ซีรีย์  อินเดียน่าโจน วัยเด็ก  มีพูดถึงจุดนี้ด้วยครับ  เขาว่า ในสงความกลางเมืองอเมริกัน มีข้อผิดพลาดเยอะ  ทำให้เสียทหารจำนวนมาก  แล้ว ในสารคดี ชุด ทหาร ของ BBC ก็เคยพูดถึงด้วย

คือยุคสงครามกลางเมือง ปืนเริ่มพัฒนาขึ้นมากแล้ว  แต่นายกองยังนิยมตั้งแถวประจันหน้ายิง และยิงห่างกันแค่ 50-60 หลา  ซึ่งน่าจะเป็นระยะการจู่โจมของทหารม้ามากกว่า   
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #419 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2009, 03:14:30 PM »

โอ้...

สงครามสมัยก่อนคนตายแยะ ตายซับตายซ้อนจริงเชียว... ที่ไหนๆ ก็ตายแยะ...

นึกถึง เมล กิบสัน พากองลูกเสือเข้าสู้ในสงครามกลางเมืองในหนัง The patriot... ยังนึกอยู่ว่าทำไมมันยืนโง่ให้ยิงชัดๆหว่า ซึ่งในหนังก็บอกว่าเป็นการแสดงความกล้าหาญการ"ไม่แตกแถว"นับเป็นเกียรติอย่างสูง...

ส่วนกองลูกเสือฯ ยิงแล้ววิ่ง ซุ่มยิงแล้ววิ่ง... ถือว่ารบแบบไม่มีเกียรติ... ฮา
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 25 26 27 [28] 29 30 31 ... 73
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.081 วินาที กับ 21 คำสั่ง