เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 07:29:29 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 31 32 33 [34] 35 36 37 ... 73
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาภาพยนต์ และประวัติศาสตร์การสงคราม  (อ่าน 225254 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #495 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 08:00:59 PM »

ผมนั่งดูหนังนูเรมเบริกกับอาปา  จอมพลเกอริ่งเป็นแม่ทัพฟ้าสุดท้ายโดนแขวนคอข้อหาอาชญากรสงคราม ทั้งที่แกไม่เคยยึดพื้นที่ ฆ่า-ข่มขืนล้างเผ่าพันธ์  เยอร์มันโดนชำระความอย่างถ้วนถี่ หลังจากนั้นยิวยังตามจองล้างพวกนาซีที่เกี่ยวข้องกับโฮโลคอสส์อีกหลายคน

          ก็ให้เจ็บใจครับ พ่อเล่าให้ฟังว่าพวกญี่ปุ่นพอเข้านานกิงได้เจอคนเป็นฆ่า  และหลายเดือนต่อมาก็เข้ามากวางตุ้ง-ซัวเถา  มีทหารยุ่นสักหมู่ปืนเล็กเข้ามาตั้งแคมป์ที่ตำบลของแก พวกคนหนุ่มก็รวมตัวกันหาอาวุธจะไปคิดบัญชี ไปเป็นร้อยครับแต่โดนมันยิงตายไปเยอะ  คนกลับมาเล่าว่าพวกมันเหมือนผีเร็วมาก เดี๋ยวยิงตรงโน้นเดี๋ยวยิงตรงนี้  คนนำขบวนไปโดนหั่นด้วยซามูไรเป็นสี่ท่อน วางไว้ปากทางเข้าหมู่บ้าน สุดท้ายทั้งตำบลต้องส่งข้าวให้มัน พวกผู้หญิงต้องหาเขม่ามาทาหน้า

       พอยุ่นแพ้สงคราม โตโจ กับบิ๊กไม่กี่คนโดนแขวนคอ  พวกฆาตกรฆ่าข่มขืนเดี๋ยวนี้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โต น่าเจ็บใจนะครับ

       

เรื่องนานกิงเกิด 1937 ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย 1941 เป็นไปได้ไหมว่าผู้นำเราเวลานั้นกลัวญี่ปุ่นจะฆ่าพวกเราแบบที่นานกิง เลยยอมให้ญี่ปุ่นผ่านไปมะลายูและสิงค์โปร์ง่ายๆ

อาจเป็นได้ครับ ญี่ปุ่นวางแผนสำหรับสงครามโลกครั้งที่สองนานครับ

พ่อเล่าให้ฟังว่า ที่ทางใต้แถวบ้านผม มีญี่ปุ่นมาเปิดร้านถ่ายรูป ล้างอัดรูป
เพราะตอนนั้น เรื่องถ่ายรูปคนไทยยังทำไม่เป็น และไม่ค่อยนิยมถ่ายรูป

ญี่ปุ่นคนนั้น ก็เก่ง ถึงคนไม่นิยมถ่ายรูป ก็เปิดร้านเสมอๆ
คนที่เข้าร้านถ่ายรูปในยุคนั้น ก็จะเป็น กลุ่มคน ที่เป็นชนชั้นปกครอง ประมาณข้าราชการในอำเภอ
ซึ่งก็ต้องเป็นโอกาสพิเศษ เช่นเลื่อนตำแหน่ง ติดยศสูงขึ้น หรือถ่ายรูปบุตร ธิดา

ถึงรายได้น้อย พอตอนเย็น ก็ปิดร้านออกหาปลา หาผักมากิน เป็นที่น่าสงสารของชาวบ้าน
บ้างก็แบ่งปันที่ตัวเองมีมาให้

พอญี่ปุ่นประกาศสงคราม ช่างถ่ายรูปคนนั้น แต่งเครื่องแบบทหารญี่ปุ่นเฉย.....


ทหารกลุ่มใหม่หลังประกาศสงคราม ที่เดินเรือมาขึ้นฝั่งละแวกนั้น ....
ต่างพากันเดินเท้ามา ที่จุดนัดพบที่วัดแห่งหนึ่ง...กันนับร้อยคน...
โดยทำความเคารพต่อช่างถ่ายรูป แบบที่ทำความเคารพ ผู้บังคับบัญชา


อ้อ....มาตามแผนที่ด้วยนะครับ...
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #496 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 08:06:24 PM »

ดิฉันว่า หนังเมกาก็สะท้อนความรู้สึกคนเมกันแต่ละช่วงที่หนังถูกสร้างออกมาน่ะค่ะ

สำหรับเมกา หนังสงครามโลก คงทำง่าย เพราะคนสร้างหนังเมกันรู้อยู่ว่าตัวเองชนะ คนสร้างหนังยุคนั้นก็สะท้อนความคิดคนเมกันยุคนั้น ที่เห็นตัวเองเป็นผู้ไปช่วยเหลือผู้อืน และแม้จะโดนทำร้ายก็กลับมาเอาชนะศัตรูได้ ดูแล้วเป็นฮีโร่ เก่ง ฉลาด เท่ และแม้จะชนะก็ให้เกียรติอีกฝ่าย สรุปรวมคือ มีความเป็นมนุษย์ที่ดี รบเมื่อจำเป็น รบเพื่อช่วยผู้อื่น อะไรทำนองนั้น


คุณblue bunny ทำให้ผมนึกไปถึงเรื่อง Letter from Iwo Jima

มีทั้งสองเวอร์ชั่น แต่ดูแค่ครั้งเดียนวทั้งสองเวอร์ชั่น จดจำอะไรจากหนังไม่ค่อยได้เลย


บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #497 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 08:10:38 PM »

เมกามันโอ๋ญี่ปุ่นเหลือเกินครับ ในการพิจารณาคดีพวกนายทหารระดับล่างๆที่โหดๆไม่โดนเอามาพิจารณาคดีครับ  นึกแล้วขำตัวเองครับคุณต๊อก ขำก๊าก อ่านกระทู้นี้แล้วหนังสงครามเก่าๆมีกี่เรื่องผมเก็บมาดูใหม่หมด เสร็จแล้วก็มาสังเกตุอย่างครับพวกสงครามโลกดูเสร็จก็โปร่งใจดี  แต่พวกสงครามเวียดนามดูแล้วมันเบื่อๆคาอกคาใจ  แล้วฝรั่งเศสก็ไม่ทำหนังที่มันรบกันกับญวนด้วยนะครับแปลกไหม 

      อลาโม่สร้างสองครั้ง ดูแล้วสนุกแต่ก็งงๆ เอมันรบกันเพราะอะไรเอ่ยและจะเอาอะไรหว่า  Cheesyไอ้เราก็บ้านั่งดูได้สองรอบสามรอบ

พวกอเมริกันเข้าไปอยู่ใน Mexico มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ Mexico อยากให้คนไปอยู่ตอนเหนือของ Mexico มากๆขึ้น มีข้อแม้ว่าต้องเปลี่ยนสัญชาติเป็น Mexican และเปลี่ยนศาสนาเป็น Roman Catholic ประธานาธิบดี Santa Ana ชักไม่ชอบใจ ล้มรัฐธรรมนูญ ประชาชนโกรธ แข็งข้อ Santa Ana มาปราบ ฆ่าอเมริกันที่ The Alamo 187 คนหมด โยนกองกันเผาเลย (ตามธรรมเนียมต้องฝัง) ทารุณมาก คนที่ Goliad ยอมแพ้ แต่ถูกยิงทิ้งหมด
Remember the Alamo และ Remember Goliad จึงเป็น Battle Cry

Sam Houston ไปชนะพวก Mexican ที่ San Jacinto จับ Santa Ana ได้ แต่ปล่อยตัวไป สั่งว่าอย่ากลับมาอีกนะ วันนั้นฆ่าไปเยอะ ฆ่าอย่างป่าเถื่อนเพราะความแค้น หนองน้ำเต็มไปศพ ขนาดเดินได้

ขอบคุณในข้อมูลครับพี่ ซันแด๊นซ์ ไหว้+1

Santa Ana ปลอมตัวเป็นประชาชนธรรมดาตอนหนี   แต่โดนจับได้เพราะทหารชั้นผู้น้อยของตัวเอง
Texas เมื่อก่อนเป็นของ Mexico
แต่ทุกวันนี้พวก Mexican ก็เกือบจะยึดคืนได้แล้ว  อิอิอิ


 Cheesy Cheesyพวก Mexican  นี่รบไม่เก่ง แต่ผลิตทายาทเก่งนะครับ
ชาว Mexican จะนับถือ Catholic ไม่เชื่อเรื่องกุมกำเนิด  ถ้าเป็นพวกแม็กที่อยู่ในเมกา  ก็ผลิตออกมาเยอะๆ  จะได้ ๆด้ขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล( wellfare ) ได้เยอะๆ ( ไอ้เวร  ตูก็จ่ายไปเถอะภาษีน่ะ)   พวกนี้เลี้ยงลูกเหมือนลิงเหมือนขโมน( จากที่เห็น) โตขึ้นมาดีก็ดีไป
ส่วนมากก็เข้า แก๊งค์  เป็นที่รักใคร่ของประชาชนโดยทั่วไป  
ภาษาอังกฤษอยู่กันมาเป็นปีๆ  ตูก็ไม่ยอมหัดพูด หรือแกล้งโง่  จนหลายๆๆรัฐ มีภาษาสำรองเป็นภาษาแม็กแล้ว  
ใครจะด่าจะว่า ตูไม่สนตูจะอยู่ของตูแบบนี้  ครายจะทำไม  เวร...........
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #498 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 01:43:05 AM »

ผมนั่งดูหนังนูเรมเบริกกับอาปา  จอมพลเกอริ่งเป็นแม่ทัพฟ้าสุดท้ายโดนแขวนคอข้อหาอาชญากรสงคราม ทั้งที่แกไม่เคยยึดพื้นที่ ฆ่า-ข่มขืนล้างเผ่าพันธ์  เยอร์มันโดนชำระความอย่างถ้วนถี่ หลังจากนั้นยิวยังตามจองล้างพวกนาซีที่เกี่ยวข้องกับโฮโลคอสส์อีกหลายคน

          ก็ให้เจ็บใจครับ พ่อเล่าให้ฟังว่าพวกญี่ปุ่นพอเข้านานกิงได้เจอคนเป็นฆ่า  และหลายเดือนต่อมาก็เข้ามากวางตุ้ง-ซัวเถา  มีทหารยุ่นสักหมู่ปืนเล็กเข้ามาตั้งแคมป์ที่ตำบลของแก พวกคนหนุ่มก็รวมตัวกันหาอาวุธจะไปคิดบัญชี ไปเป็นร้อยครับแต่โดนมันยิงตายไปเยอะ  คนกลับมาเล่าว่าพวกมันเหมือนผีเร็วมาก เดี๋ยวยิงตรงโน้นเดี๋ยวยิงตรงนี้  คนนำขบวนไปโดนหั่นด้วยซามูไรเป็นสี่ท่อน วางไว้ปากทางเข้าหมู่บ้าน สุดท้ายทั้งตำบลต้องส่งข้าวให้มัน พวกผู้หญิงต้องหาเขม่ามาทาหน้า

       พอยุ่นแพ้สงคราม โตโจ กับบิ๊กไม่กี่คนโดนแขวนคอ  พวกฆาตกรฆ่าข่มขืนเดี๋ยวนี้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โต น่าเจ็บใจนะครับ

      

เรื่องนานกิงเกิด 1937 ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย 1941 เป็นไปได้ไหมว่าผู้นำเราเวลานั้นกลัวญี่ปุ่นจะฆ่าพวกเราแบบที่นานกิง เลยยอมให้ญี่ปุ่นผ่านไปมะลายูและสิงค์โปร์ง่ายๆ

ผมเชื่อว่ามีการประสานงานในระดับสูงอยู่แล้วครับ...

จอมพลป.ฯตอนลี้ภัยก็ออกไปเขมรก่อนจะไปญี่ปุ่น...

จนจบชีวิตที่นู่น น่าจะพอแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดในระดับสูงได้ครับ...

ก่อนหน้านั้นไม่นานช่วงสงครามอินโดจีนญี่ปุ่นก็เข้ามาเป็นคนไกล่เกลี่ยระหว่างไทยกับฝรั่งเศสครับ... Wink
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2009, 01:44:42 AM โดย rute » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #499 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 08:39:29 AM »

นายสมชายเพิ่งดูเรื่องวัลคีรี่(Valkyrie)จบครับ... เห็นประเด็นที่คุณ L/E บอกเอาไว้ครับ ว่าไม่ได้เน้นเรื่องเหตุผลความจำเป็นที่ต้องการยึดอำนาจให้ชัดเจน ทั้งที่เหตุผลแรงจูงใจของคณะผู้ก่อการฯ เกิดจากความยากจนข้นแค้นของบรรดาประชาชนพลเมืองครับ... โดยเฉพาะสภาพบ้านเรื่องและชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวอีตาทอม ครู๊สยังไม่ยากเข็ญเท่าใด และชื่อการปฏิบัติการ Valkyrie ได้มาจากชื่อแผ่นเสียงตราหมาฟังเพลงที่เปิดค้างเอาไว้ระหว่างที่อีตาทอมครู๊สพาลูกเมียหลบกระเบิดอยู่ห้องใต้ดิน...

ดูในหนังแล้ว หากคณะผู้ก่อการได้นายทหารไทยที่เคยก่อการฯ ในประเทศไทยไปช่วยวางแผนให้... ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแน่ครับ... ไม่ฮา

ลำดับแรกเมื่อระเบิดทำงานในห้องประชุมแล้วน่าจะมีดาบสอง ตามไปโยนระเบิดมือสักสามสี่ลูกใส่ซากปรักพังจนแน่ใจว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือในห้องประชุม... ทหารรักษาการณ์ไม่ต้องกังวล เพราะขณะนั้นทุกคนจะงงหมด ให้หนีให้ได้เป็นพอครับ... เมื่อฮิตเลอร์และทหารในห้องตายหมดแล้ว ใครยศสูงที่สุดจะ In charge โดยอัตโนมัติ ซึ่งก็จะเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว(อีตามทอมครูสทำงานไม่ละเอียดหลายอย่าง ไม่น่าไต่เต้าได้ถึงขนาดนั้น... มีระเบิดสำรองก็ไม่ได้ใช้อีกแน่ะ)...

ลำดับสองเรื่องการสื่อสาร... ผู้ก่อการไม่ได้ยึดศูนย์การสื่อสารเอาไว้ ทั้งชุมสายโทรศัพท์และศูนย์การส่งผ่านคำสั่ง... จะเห็นว่าเริ่มต้นส่งคำสั่งของทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อทราบว่าฮิตเลอร์ไม่ตาย ก็เลิกส่งคำสั่งของผู้ก่อการ (ที่จริงถึงแม้ไม่ตาย แต่ทำให้คนคิดว่าตายจริง ก็ได้ผลเช่นเดียวกันแหละ)... ส่วนของไทยแผล็บเดียวได้เห็นคุณอาคม มกรานนท์อ่านแถลงการณ์... ฮา

ลำดับสาม ไม่ได้เตรียมการเรื่องคนคุมกำลังเอาไว้... เมื่อฮิตเลอร์คุยโทรศัพท์กับนายทหารคุมกำลัง สถานการณ์เปลี่ยนทันที... ส่วนของไทยที่เคยทำ จะคุยกับหน่วยคุมกำลังเอาไว้ตั้งแต่แรก(อ่านจากข่าวหนังสือพิมพ์)...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2009, 09:45:01 AM โดย นายสมชาย(ฮา) » บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #500 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 09:29:44 AM »

ยุคแรก ก้าวแรกของทหารอเมริกันบนแผ่นดินเวียตนาม เคยปรากฎบนแผ่นฟิล์มเมื่อปี 2544 (2002) โดยคุณซับฯ

กลำงรบของทหารเมกันอย่างเป็นทางการคือการยกพลขึ้นบกของนาวิกที่ ดานัง ปี 1965 ครับ หลังเหตุการอ่าว ตองกิง (ตังเกี๋ย) ไม่มีการต่อต้านการขึ้นบก

ที่จริงที่ปรึกษาทางทหารเข้าไปตั้งแต่ปี 1959 ในอนุสาวรีย์สงครามเวียดนามรูปตัว V ที่ วอชิงตัน ดีซี จารึกผู้ที่เสียชีวิตตั้งแต่ปี 1959

1945 ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก ฝรั่งเศสกลับเข้ามาปกครองอาณานิคมอินโดจีน ตอนนั้นเวียดนามยังถูกแบ่งเป็น 3 เขต

1954 เวียดมินต์รบชนะฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟู ฝรั่งเศสถอดใจถอนออกจากอินโดจีน ในส่วนของเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ เหนือระบอบสังคมนิยม ใต้ระบอบเลือกตั้ง

คนเวียดนามปกครองกันเอง เหมือนเยอรมันตะวันตก ตะวันออก อยู่กันมา 5 ปี

1959 เวียดนามเหนือ รุกราน เวียดนามใต้ เวียดนามใต้เรียกเมกันมาช่วย

การรบในประเทศเวียดนามที่ต่อเนื่องกันเป็นช่วงสุดท้าย คนเวียดนามเริ่มรบกับคนเวียดนาม เอาชนะเพื่อให้รัฐบาลของตัว /ระบอบของตัว ไปปกครองคนเวียดนามทั้งหมด

จุดประสงค์ของสงครามดั้งเดิมและคลาสสิกครับ "รบทำลายข้าศึก เพื่อเข้าปกครองประเทศ" จูบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 19, 2009, 09:31:19 AM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #501 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 10:15:11 AM »

ครับพี่สมชาย

เรื่องวัลคีรีหลายตอนสร้างเหมือนกับนึกว่าคนดูไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดำเนินเรื่องเป็น "สงครามสมัครเล่น" ไซเรนมาก็หลบห้องให้ติน 2 นาทีก็ระเบิดลง 

เยอรมันเริ่มตรวจจับการแจ้งเตือน ทั้งฟังวิทยุ ทั้งเรด้าห์ตั้งแต่ขบวนเครื่องทิ้งระเบิด เริ่มรวมพล ที่อังกฤษ การรวมพล ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เครื่องหลายร้อยลำ หรือเป็นพันลำึ้ขึ้นจากหลายสิบสนามบิน แต่ละกลุ่มยิงพลุสลับสีให้สัญญาณเรียกลูกฝูงรวมตัว กว่าจะตั้งขบวนได้มักชนกันตายไปเองหลายลำ เมื่อเริ่มบินกันมาจะมีเส้นทางหลอก หักเลี้ยว 2-3 ครั้ง เยอรมันก็ตามโดยตลอด เตือนทุกเมืองมาตามทาง ยามคอยเฝ้า ขับไล่ดำเนินการรวมพลเข้าสู้ ฯลฯ เป็นการรบทางอากาศแบบเผชิญหน้า วัดฝีมือสกัดกั้น วัดใจฝ่าดง ปตอ.    ...ไม่มีเรื่องเตือน 2 นาทีแล้วระเบิดลง

เรื่องที่ไปหลบในห้องใต้ดินก็เต็มทน จนถึงปี 1944 เยอรมันถูกบอร์มทำลายล้างอย่างรุนแรงมาหลายเมือง อย่างต่อเนื่องแล้ว ฮัมบูรก์ ก็โดนบอร์มตั้งแต่ 1943 เยอรมันสร้างหลุมหลบภัยเฉพาะกิจไว้ทั้งนั้น ไม่ให้คนหลบกันในบ้าน บังเกอร์แต่ละแห่งจุคนหลายร้อนหรือเป็นพันคนการบอร์มอย่างรุนแรงในช่วงลังสงครามถึงขั้นเปลี่ยนเมืองเป็นเตา ร้อนระดับอลูมิเนียมละลาย ถนนหนทางกลายเป็นช่องลมดูดอากาศเข้าจุดศูนย์กลางควันไฟขึ้นระดับ 2-3 หมื่นฟุต นักบินทิ้งระเบิดเมกันบันทึกว่าเอามือแตะหน้าต่างเครือ่งบินยังร้อน ขนาดในบังเกอร์ใหญ่ๆ ไม่โดนระเบิดโดยตรงคนยังตายเพราะโดนอบ หรือพบบ่อยๆ ว่าตายเพราะหายใขไม่ออก อากาศโดนดูดเข้าเมืองกองไฟหมด

เขาว่ามีนายทหารบางคนที่ใจถึงยอมตายอาสาจะโดยนระเบิดใส่หน้าฮิตเล่อร์เหมือนกันครับ แต่ไม่อยู่ใในตำแหน่งที่เข้าถึงตัวได้ ตามธรรมดาจะมีการตรวจกระเป๋าเสมอ แต่ยามเกรงใจ ชเตาเฟนแบร์ก ที่พิการ เลยรอดไป

ที่จริงวันก่อนหน้าที่ ชเตาเฟนแบร์ก เอาระเบิดไปแล้วไม่มีโอกาสวางระเบิด ชเตาเฟนแบร์ก เจอ ฮิตเล่อร์ ใกล้ชิดครับ รูปถ่ายที่ผมลงในหน้า 11 กระทู้นี้ก็คือเหตุการณ์วันนั้น..
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #502 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 11:16:28 AM »

ตอนจะจบผบ.คุมกำลังรักษาดินแดนรับสายฮิตเลอร์จากนั้นเกมก็พลิกนี่ถ้าจะพากษ์ไทยเสียงฮิตเลอร์ให้ได้อารมณ์ คงจะเป็น "จำเสียงป๋าได้ไหมลูก" Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
Jack Sparrow
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 261



« ตอบ #503 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 10:24:56 PM »

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน ไหว้.......
      ผมได้ติดตามอ่านบทวิจารย์ภาพยนต์สงครามของพี่ๆ.......จากหน้าแรก...ติดต่อกับสามวันจนถึงหน้าสุดท้าย เยี่ยม
               บอกตามตรง...ว่าผมสนใจชมและเก็บสะสมภาพยนต์สงครามมานานแล้ว
                      และจากได้อ่านไป...จดชื่อหนังไป......จึงมีคำถามว่า น้ำลายหก.......พี่ๆหาซื้อหนังพวกนี้จากร้านไหนครับ
                                                                                         ผมหามาเก็บมั่งครับ ไหว้ ไหว้

             
บันทึกการเข้า
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #504 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 10:46:13 PM »

เรื่องแผ่น DVD แผ่น Blu-ray ของภาพยนตร์พวกนี้ลองหาซื้อจาก www.boomerangshop.com , www.amornmovie.com และ www.cap.co.th ได้ครับ
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
Skynavy
Serve navy with pride
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7597


Old sailor never dies


เว็บไซต์
« ตอบ #505 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 10:56:57 PM »

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน ไหว้.......
      ผมได้ติดตามอ่านบทวิจารย์ภาพยนต์สงครามของพี่ๆ.......จากหน้าแรก...ติดต่อกับสามวันจนถึงหน้าสุดท้าย เยี่ยม
               บอกตามตรง...ว่าผมสนใจชมและเก็บสะสมภาพยนต์สงครามมานานแล้ว
                      และจากได้อ่านไป...จดชื่อหนังไป......จึงมีคำถามว่า น้ำลายหก.......พี่ๆหาซื้อหนังพวกนี้จากร้านไหนครับ
                                                                                         ผมหามาเก็บมั่งครับ ไหว้ ไหว้

            

ผมซื้อที่ซีคอนสแควร์เป็นหลักครับ ....ชั้น1 ฝั่งโลตัส จะมีร้านเหรียญทอง (CAP) มีDVD และVCD หนังสงครามค่อนข้างเยอะ อย่างเมื่อเย็นผมไปเดินดู ยังเห็น  Letters from Iwo Jima , We were soldiers , Black hawk down , The Big Red One  ฯลฯ วางอยู่ครับ  Wink

ชั้น 3 ฝั่งโรงหนังที่คลองถมซีคอนฯ จะมีอีกเพียบครับ ล่าสุด Valkyrie มาแล้ว  คิก คิก
บันทึกการเข้า

     
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #506 เมื่อ: มีนาคม 19, 2009, 11:21:12 PM »

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน ไหว้.......
      ผมได้ติดตามอ่านบทวิจารย์ภาพยนต์สงครามของพี่ๆ.......จากหน้าแรก...ติดต่อกับสามวันจนถึงหน้าสุดท้าย เยี่ยม
               บอกตามตรง...ว่าผมสนใจชมและเก็บสะสมภาพยนต์สงครามมานานแล้ว
                      และจากได้อ่านไป...จดชื่อหนังไป......จึงมีคำถามว่า น้ำลายหก.......พี่ๆหาซื้อหนังพวกนี้จากร้านไหนครับ
                                                                                         ผมหามาเก็บมั่งครับ ไหว้ ไหว้

            

ผมซื้อที่ซีคอนสแควร์เป็นหลักครับ ....ชั้น1 ฝั่งโลตัส จะมีร้านเหรียญทอง (CAP) มีDVD และVCD หนังสงครามค่อนข้างเยอะ อย่างเมื่อเย็นผมไปเดินดู ยังเห็น  Letters from Iwo Jima , We were soldiers , Black hawk down , The Big Red One  ฯลฯ วางอยู่ครับ  Wink

ชั้น 3 ฝั่งโรงหนังที่คลองถมซีคอนฯ จะมีอีกเพียบครับ ล่าสุด Valkyrie มาแล้ว  คิก คิก

ขอเสริมครับ  แรกๆอาจซื้อผิดซื้อถูกบ้าง  ต่อไปดูมากๆ  จะดูใบปิดหนังออกทันทีเลยครับ ว่าน่าสนใจมากน้อยเพียงไร  หรือดูออกว่า ทำมาสวยเท่านั้นเนื้อหายังไม่เคลียร์ใจเท่าไหร่   
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #507 เมื่อ: มีนาคม 20, 2009, 11:08:07 AM »

เมกามันโอ๋ญี่ปุ่นเหลือเกินครับ ในการพิจารณาคดีพวกนายทหารระดับล่างๆที่โหดๆไม่โดนเอามาพิจารณาคดีครับ  นึกแล้วขำตัวเองครับคุณต๊อก ขำก๊าก อ่านกระทู้นี้แล้วหนังสงครามเก่าๆมีกี่เรื่องผมเก็บมาดูใหม่หมด เสร็จแล้วก็มาสังเกตุอย่างครับพวกสงครามโลกดูเสร็จก็โปร่งใจดี  แต่พวกสงครามเวียดนามดูแล้วมันเบื่อๆคาอกคาใจ  แล้วฝรั่งเศสก็ไม่ทำหนังที่มันรบกันกับญวนด้วยนะครับแปลกไหม 

      อลาโม่สร้างสองครั้ง ดูแล้วสนุกแต่ก็งงๆ เอมันรบกันเพราะอะไรเอ่ยและจะเอาอะไรหว่า  Cheesyไอ้เราก็บ้านั่งดูได้สองรอบสามรอบ

พวกอเมริกันเข้าไปอยู่ใน Mexico มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ Mexico อยากให้คนไปอยู่ตอนเหนือของ Mexico มากๆขึ้น มีข้อแม้ว่าต้องเปลี่ยนสัญชาติเป็น Mexican และเปลี่ยนศาสนาเป็น Roman Catholic ประธานาธิบดี Santa Ana ชักไม่ชอบใจ ล้มรัฐธรรมนูญ ประชาชนโกรธ แข็งข้อ Santa Ana มาปราบ ฆ่าอเมริกันที่ The Alamo 187 คนหมด โยนกองกันเผาเลย (ตามธรรมเนียมต้องฝัง) ทารุณมาก คนที่ Goliad ยอมแพ้ แต่ถูกยิงทิ้งหมด
Remember the Alamo และ Remember Goliad จึงเป็น Battle Cry

Sam Houston ไปชนะพวก Mexican ที่ San Jacinto จับ Santa Ana ได้ แต่ปล่อยตัวไป สั่งว่าอย่ากลับมาอีกนะ วันนั้นฆ่าไปเยอะ ฆ่าอย่างป่าเถื่อนเพราะความแค้น หนองน้ำเต็มไปศพ ขนาดเดินได้

ขอบคุณในข้อมูลครับพี่ ซันแด๊นซ์ ไหว้+1

Santa Ana ปลอมตัวเป็นประชาชนธรรมดาตอนหนี   แต่โดนจับได้เพราะทหารชั้นผู้น้อยของตัวเอง
Texas เมื่อก่อนเป็นของ Mexico
แต่ทุกวันนี้พวก Mexican ก็เกือบจะยึดคืนได้แล้ว  อิอิอิ


 Cheesy Cheesyพวก Mexican  นี่รบไม่เก่ง แต่ผลิตทายาทเก่งนะครับ
ชาว Mexican จะนับถือ Catholic ไม่เชื่อเรื่องกุมกำเนิด  ถ้าเป็นพวกแม็กที่อยู่ในเมกา  ก็ผลิตออกมาเยอะๆ  จะได้ ๆด้ขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล( wellfare ) ได้เยอะๆ ( ไอ้เวร  ตูก็จ่ายไปเถอะภาษีน่ะ)   พวกนี้เลี้ยงลูกเหมือนลิงเหมือนขโมน( จากที่เห็น) โตขึ้นมาดีก็ดีไป
ส่วนมากก็เข้า แก๊งค์  เป็นที่รักใคร่ของประชาชนโดยทั่วไป  
ภาษาอังกฤษอยู่กันมาเป็นปีๆ  ตูก็ไม่ยอมหัดพูด หรือแกล้งโง่  จนหลายๆๆรัฐ มีภาษาสำรองเป็นภาษาแม็กแล้ว  
ใครจะด่าจะว่า ตูไม่สนตูจะอยู่ของตูแบบนี้  ครายจะทำไม  เวร...........


กลุ้มใจแทนเลยครับ เศร้า  เงินเมกาสัญญานเริ่มไม่ค่อยดีครับ(โภคภัณฑ์ทองคำน้ำมันเริ่มทะยานออกตัว) เมื่อวานมีรายงานผู้รับเงินชดเชยว่างงานจากรัฐบาล5,400,000(ห้าล้านสี่แสนคน)คนจ่ายภาษีอานเลยครับ 
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #508 เมื่อ: มีนาคม 20, 2009, 04:07:40 PM »

http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7907437.stm

'Good Nazi of Nanjing' sparks debate 


A film about a member of the Nazi party who saved thousands of Chinese during the massacre in Nanjing recently opened in Germany. The BBC's Zoe Murphy looks at the possible impact this unlikely hero's story may have on Sino-Japanese relations.

On Christmas Eve in 1937, German businessman John Rabe visited the mortuary in China's then capital, Nanjing.


 He later described in his diary the charred body of a civilian man whose eyes had been gouged out, and a boy of perhaps seven, whose corpse was punctured with bayonet wounds.

"I wanted to see these atrocities with my own eyes, so that I can speak as an eyewitness later," he wrote. "A man cannot be silent about this kind of cruelty!"

The Second Sino-Japanese War was raging.

Japanese troops had stormed the capital, carrying out mass executions and raping tens of thousands of local women and girls, in a six-week orgy of violence that became known as the Rape of Nanjing.

Risking his life, Rabe remained in China and, along with a handful of Westerners, set up a "safety zone" in Nanjing that is thought to have prevented the massacre of more than 200,000 Chinese during one of the bloodiest episodes of the Japanese invasion.

As Germany and Japan were allies, Rabe used his Nazi party membership to do all he could to protect civilians in the zone - including 650 sheltering refugees in his own house and garden.

With a flash of his swastika armband and through sheer force of personality, he intervened in acts of looting and attempted rape by the Japanese troops.

The diaries of this unlikely and unsung hero only became public knowledge in the late 1990s, when they were published in Germany. They have now been made into a film, simply titled John Rabe.

The biopic, which premiered recently in Germany, may stoke historical tensions between Beijing and Tokyo. But it is hoped that Rabe's story may renew debate and ultimately help heal old wounds.

Historical document

The events of 1937 have left enormous psychological scars in China, and the Chinese believe that Japan has not done enough to atone for its militarist past.

China says 300,000 people were killed during the assault on Nanjing. But much to the anger of Beijing, some conservative Japanese politicians and academics have said such figures are exaggerated. Some even deny that a massacre ever took place.

Such declarations also frustrate mainstream historians in Japan and further afield.

William Kirby, head of the Fairbank Center for Chinese Studies at Harvard University, says the exact death toll is not the main issue.

"What you have is a great massacre of a civilian population that goes on for weeks… Nanjing is surrendered but the Japanese proceed to terrorise the inhabitants. These facts are incontrovertible."

Coming to light nearly 60 years after the event, he says that John Rabe's diaries are a powerful new document detailing what happened day-by-day.

Mr Kirby says that Rabe had "no anti-Japanese axe to grind" at the outset.

"He saw the Japanese as a normal army and initially resisted the stories of wrongdoing - he was a neutral outsider."

During the conflict, Rabe wrote: "Last night up to 1,000 women and girls are said to have been raped... If husbands or brothers intervene, they're shot.

"What you hear and see on all sides is the brutality and bestiality of the Japanese soldiery."

Nazi links

The film's director Florian Gallenberger says it was by staying true to the events as described by Rabe that the film achieved neutrality.

"At the beginning of the conflict I think [Rabe] has great trust in the Japanese as German allies to behave in a disciplined and fair way - but when it turns out otherwise he is shocked. He feels it is his responsibility to act."

He says Rabe's courage was fuelled by his sense of morality, rather than any political conviction.

As bombs rained down, Rabe wrote: "Anyone who has ever... held a trembling Chinese child in each hand through the long hours of an air raid can understand what I feel."

At one point, he covered a shelter with a huge swastika flag, which he described as being considered "especially bombproof".

After living in China for 30 years, Rabe had a naive image of Germany's National Socialism as a humanistic workers' movement, says Mr Gallenberger.

Rabe even wrote to Adolf Hitler asking for his intervention in the violence, as he believed the Nazi leader would not have condoned Japan's actions.

'Hard to watch'

The passage of time has allowed Germany to review its own wartime actions, notably the Nazi genocide of some six million European Jews during World War II.

Now with historical distance, the 37-year-old director hopes the film will trigger a new dialogue and help Japan also come to terms with its own past.

"After such a long time, there should be a way of dealing differently with the responsibility they have, rather than trying to avoid it or make it disappear," he says.

John Rabe is expected to be widely viewed in China after it premieres at the Shanghai Film Festival in June. But it is unclear whether the film will be released in Japanese cinemas.

The film's producers hope that the involvement of Japanese star Teruyuki Kagawa will prevent the film from being silenced there.

Teruyuki Kagawa plays the emperor's relative, Prince Asaka, who was the top ranking Japanese officer in Nanjing at the height of the atrocities.

During the Tokyo War Crimes Tribunal in 1946, Prince Asaka denied any massacre of Chinese and said he had never received any complaint about his soldiers' conduct.

Controversially, the film speculates on his involvement in the decision-making process.

Teruyuki Kagawa says: "When faced with this film, many people will be shocked [to learn] the Japanese carried out such cruel acts.

"I think Japanese people will find the two hours very hard [to watch]."


บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Jack Sparrow
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 261



« ตอบ #509 เมื่อ: มีนาคม 20, 2009, 08:15:31 PM »

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านมากเลยครับ ไหว้
      ที่ช่วยชี้แนะร้านขายแผ่น....ให้กับผมครับ หลงรัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 31 32 33 [34] 35 36 37 ... 73
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.104 วินาที กับ 21 คำสั่ง