ทักษิณปฏิเสธทรท.ไม่แพ้เพราะไม่ได้ส่งผู้ว่าฯกทม.วอนอย่าเยาะเย้ยว่าจะสูญพันธุ์ ท้าเลือกตั้งส.ส.ถ้าไม่อยากให้ทำก็ไม่ต้องเลือก ชี้ต่อไม่ได้เป็นนายกฯก็ไม่ตายและไม่เคยตั้งเป้า400 เสียงอ้างแค่พูดในบ้านปลุกใจให้ลูกพรรคฮึกเหิมฉุนนักข่าวจี้ใจดำย้อนกลับหน้าสวยแต่ตั้งคำถามแบบเนกกาทีฟ วันนี้ (30ส.ค.)พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้เป็นผู้ว่าฯจะทำให้พรรคไทยรักไทยต้องปรับกลยุทธ์ในการเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ว่า ต้องถามประชาชนว่าคราวหน้าจะให้ทำหน้าที่นายกฯอีกหรือไม่วันนี้พูดกันไปก็เท่านั้น เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งนี้ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ของพรรคไทยรักไทยด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าพรรคไม่ได้ส่งจะไปสะท้อนความพ่ายแพ้ได้อย่างไร
ระบุคนกรุงเลือกผู้ว่าฯไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง เมื่อถามย้ำว่าภาพมันออกมาชัดเจนนายกฯ กล่าวว่า ไหนล่ะภาพ ภาพคุณตั้งใจจะถามอย่างนั้น มันก็ออกอย่างนั้นซิ ไม่ใช่หรอกถ้าไทยรักไทยส่งมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไทยรักไทยไม่ได้ส่งประชาชนต้องเลือกคนที่เขามองว่าดีที่สุด ที่ไปทำหน้าที่ให้เขา มันไม่ใช่เรื่องของพรรคหรืออะไร วันนี้ต้องถามก่อนว่าคนที่ลงสมัครมันมีคนที่เด็ดๆไม่กี่คนประชาชนก็ต้องเลือกว่าจะเอาใครมาทำงาน อันนี้มันเป็นสัญญาณบอกอย่างหนึ่งว่าประชาชนต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการบริหาร จัดการเข้าสู่ระบบ ประชาชนไม่สนใจการเมืองมากนัก ไม่สนใจเรื่องนักการเมืองที่เข้าๆ ออกๆเขาสนใจแต่คนที่จะทำงานให้เขาได้ เพราะต้องการคนไปทำงาน นั่นคือคำตอบที่ชัดที่สุด ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคหรือไม่ใช่พรรค ถ้าสมมติวันนี้ไทยรักไทยส่งคนที่ประชาชนไม่มีความเชื่อถือว่าจะทำงานให้เขาได้ เขาก็ไม่เลือก ถึงแม้ว่าเขาอาจจะชอบพรรคแต่เขาก็ไม่เลือกนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย คนละเรื่อง เวลาเราตั้งคำถาม ถามประชาชนตอนเที่ยงครึ่งว่าทานข้าวหรือยัง เขาก็บอกทานแล้ว แต่หากไปถามตอนประมาณ 5 โมงเย็น เขาก็บอกว่ายังไม่ได้ทาน เพราะเขาหมายถึงข้าวเย็น แต่ตอนเที่ยงครึ่งเขาหมายถึงข้าวเที่ยง คือคำถามมันคนละคำถาม คำถามมันถามเรื่องผู้ว่าฯกทม.ก็คือหนึ่งคำถาม และคำถามที่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลให้เขาต่ออีก นั่นคืออีกหนึ่งคำถาม มันคนละอัน
ชี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ต่อข้อถามที่ว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของนักวิชาการ นายกฯกล่าวว่า เปล่าๆไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย นานาจิตตังใครจะคิด จะพูดอะไรเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้คนไปกลัวตนเกินเหตุ กลัวว่าผมจะได้เยอะ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมรู้อยู่แล้วไทยรักไทยถึงไม่ส่งเพื่อให้เห็นชัดว่าไทยรักไทยจะเน้นการเมืองระดับชาติส่วนการเมืองท้องถิ่นเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่มีปัญหาหรอก
เมื่อถามว่าหากส.ส.กทม.ของไทยรักไทยลดลงในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังยืนยันเป้าหมาย 400 เสียงอยู่อีกหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าพูดหลายครั้งแล้วว่าไม่เคยบอกว่าเป็นเป้าหมาย แต่เป็นการปราศรัยในพรรคหลังจากที่เราทำโพลในช่วงนั้น
เราปราศรัยในพรรคเพื่อให้เกิดความฮึกเหิมของคนในพรรค มันเป็นเรื่องปกติ ผมพูดในบ้าน พวกคุณก็อย่าเอาไมล์โครโฟนไปใส่ไว้ในบ้านผม แล้วจะมาบอกว่าสิ่งที่ผมพูดในบ้านเป็นสิ่งที่ผมพูดจากข้างนอก มันคนละแบบกัน นายกฯ กล่าว
ปัดไม่เคยบอกผู้หญิงจะได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คำทำนายของนายกฯไม่ตรง เพราะก่อนหน้านี้เคยระบุว่าผู้หญิงจะมาแรง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าไม่เคยพูดว่าผู้หญิงมา บอกว่าคนอายุต่ำกว่า 60 ปี เพราะเห็นแล้วว่าคนอายุ 60 ปีมันไม่ได้ เมื่อถามว่าเห็นย้ำหลายครั้งว่าเป็นผู้หญิง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ ไม่ ไม่ ต้องเข้าใจก่อนว่าโดยปกติแล้วการเชียร์จะให้ไปเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไรมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำงานกับนายอภิรักษ์ มันคนละเรื่องกัน
เมื่อถามว่าผลการเลือตั้งครั้งหน้ารัฐบาลจะต้องไปปรับปรุงหรือแก้ไขอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ทำงานอย่างเดียว อย่าไปห่วงการเมืองมาก ผู้สื่อข่าวถามว่าไทยรักไทยในกทม.อาจสูญพันธุ์ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า โธ่ อย่างนั้นเชียวหรืออย่าไปรังเกียจกันมากกันเลยผมก็ทำงานนะเนี่ย 4 ปีที่ผ่านมาผมก็ทำงานเยอะเลยนะ แล้วก็แก้ปัญหาประเทศเยอะนะจำไม่ได้หรือวันที่ประเทศล่มสลาย วันนั้นที่เศรษฐกิจล่มสลายเราบ่นกันว่าอย่างไรวันนี้พอดีขึ้นมาแล้ว อย่างไรผมก็ทำงานหนัก
ต่อถามที่ว่าหากประเมินเหตุมันเกิดจากอะไร นายกฯ กล่าวว่าไม่มีไทยรักไทย ไม่ส่งแล้วจะมาวิเคราะห์อะไรกับไทยรักไทย เมื่อถามย้ำว่าแต่คนมองว่าคนไหนที่ไทยรักไทยสนับสนุนคนจะไม่เลือก นายกฯ กล่าวว่า ทำไมไม่เลือก ไม่เลือกก็ยังได้ตั้งหลายแสนคะแนน มันต้องถามก่อนว่าโปรดักส์ตัวของคนที่แข่งอันนั้นสำคัญ เข้าใจหรือเปล่าประชาชนเขาวิเคราะห์ว่าใครจะทำงานให้เขาได้ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
ยินดีร่วมงาน"อภิรักษ์" ผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่ไปสำรวจ เสียงคนที่โหวตแม้ว่าเขาจะไม่ชอบ แต่เขาก็จะเลือกคนที่เขาคาดว่าจะได้มากกว่าแล้วก็ไปเทคะแนนให้คนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของนานาจิตตังเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ประชาชนต้องการคนมาทำงาน ฉะนั้นนายอภิรักษ์ ก็ต้องมาทำงาน ก็แค่นั้นเอง รัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกันโดยให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่รัฐบาลบอกว่าพอนายอภิรักษ์ ได้เป็นประชาธิปัตย์เราจะไม่ทำงานด้วยอย่างนั้นมันก็ผิดวัตถุประสงค์ของประชาชนเส้นแบ่งเขตทางการเมือง (ปาร์ตี้ไลน์) มันเป็นการแข่งขันธรรมดาแต่เมื่อแข่งขันเสร็จแล้ว ทุกคนมีหน้าที่ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่าคนๆนั้นจะอยู่พรรคอะไรถ้าคนๆนั้นยังเส้นแบ่งพรรคการเมืองมาแล้วก็ทะเลาะกัน สุดท้ายประชาชนลำบากหากเป็นอย่างนั้นประชาชนจะลงโทษ เป็นเรื่องที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ไปอะไรกันหนักหนา
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนกทม.กลัวการเมืองผูกขาด นายกฯ กล่าวว่าไม่มีหรอกอย่าไปคิดมาก แล้วแต่จะพูด จะพูดอะไรก็พูดไป เอาไว้เดือนมกราคมประชาชนจะบอกอีกทีว่าจะอย่างไร เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะยื่นให ้กกต.เข้าไปตรวจสอบ พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ ทีมรองผู้ว่าฯของนางปวีณา ที่พูดหาเสียงก่อนหน้านี้ เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า ต้องถามก่อนว่าเขาแข่งขันเลือกตั้งอะไร เลือกตั้งผู้ว่าฯใช่หรือไม่ เขาไม่ได้แข่งเลือกตั้งรองผู้ว่าฯผู้สมัครคือผู้ว่าฯ
ชี้"พงศพัศ"ร่วมเดินสายไม่ผิด ต่อข้อถามที่ว่าตอนชูสโลแกน ต้องการให้พล.ต.ท.พงศพัศ มาเป็นตัวชูโรงเพราะภาพดี นายกฯ กล่าวว่า พล.ต.ต.พงศพัศ ทำหน้าที่โฆษกตำรวจ ซึ่งต้องดูเรื่องของจราจรในเมื่อนายกฯ ไปตรวจงาน เขาเดินตามไปไม่ได้ไปบอกอะไรเขาเลย ไม่ได้ไปพูดอะไรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งแม้แต่นิดเดียว และเขาเลือกตั้งผู้ว่า ไม่ได้เลือกตั้งรองผู้ว่า ผู้สมัครคือผู้ว่า ไม่ใช่รองผู้ว่าเขาเพียงแต่แสดงเจตจำนงว่าถ้านางปวีณา เป็นผู้ว่าฯ เขาก็พร้อมจะมาเป็นรองผู้ว่าฯให้แค่นั้นเอง
เมื่อถามว่าถือว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ช่วยนางปวีณาหาเสียง นายกฯกล่าวว่าไม่เกี่ยวเลย คุณตั้งคำถามแย่มากเลยคุณมาจากที่ไหน คุณตั้งคำถามเนกกาทีฟจังเลย หน้าก็ส้วยสวย ถามว่าพล.ต.ต.พงศพัศ ออกมาพูดเองทั้งๆที่ยังไม่ได้ลาออก นายกฯ กล่าวว่าไม่หรอก เชื่อเถอะใจเย็นๆ อันนี้เขาปรึกษา กกต.หมดแล้ว และบอกเขาเองว่าทำอะไรให้ถูกต้องนะ เพราะว่าเขากำลังจะย้ายไปอยู่ที่ทำงานผม จึงบอกว่าให้ทำอะไรให้ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ถูกกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่ากล่าวกันทั้งวัน วันนี้สังคมไทยเราอย่าไปอยู่กับเรื่องของการหาเรื่องกัน มันต้องอยู่กับการทำเรื่องที่สร้างสรรค์ ที่มองว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศให้ช่วยกันมอง วันนี้คำถามที่ถามกันแต่ละอย่าง ไปชวนคนนั้นคนนี้ทะเลาะกันมันมองโลกในแง่ร้าย อยากให้มองโลกในแง่ดี เรากำลังชวนคนทั้งโลกมาช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม แต่ในประเทศเราชวนทะเลาะกันทั้งวัน คิดว่าน่าจะพิจารณากันให้ดี
วอนอย่าโยงการเมืองระดับชาติ เมื่อถามว่าทำไมรัฐบาลถึงมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้เป็นเครื่องพิสูจน์อะไร นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของรัฐบาลจะมั่นใจ และเป็นเรื่องของคนที่ไม่ชอบรัฐบาลจะไม่มั่นใจ เป็นเรื่องธรรมดาอีกนั่นแหล่ะ เดอะเนมออฟเดอะเกม เป็นเรื่องของประชาชน หากประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจ หากเดือนมกราคมประชาชนไม่เลือกรัฐบาล รัฐบาลก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็จบ ไม่เห็นมีอะไร หลักมันไม่มีอะไรเลย ไม่เห็นต้องไปตื่นเต้น ไม่ใช่ว่าไม่เป็นรัฐบาลแล้วมันต้องเป็นอะไรไป มันอยู่ที่ประชาชน หากประชาชนบอกว่าวิธีนี้ไม่ชอบ เมื่อไม่ชอบก็ไม่เลือก เรื่องแค่นั้นเองไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีอะไรเลยที่ต้องไปวอรี่ มันไม่ใช่เป็นอาชีพที่จะยึดแต่มันเป็นการอาสาที่จะทำงานเพื่อประชาชน ถ้าประชาชนคิดว่าตอนนี้ยังทำงานได้ดีอยู่ ประชาชนอยากใช้อยู่เขาก็เลือก หากไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องทำงานเท่านั้นเอง ไม่ใช่อดสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีแล้ว นี่คืออาชีพที่ต้องดิ้นรนทุกอย่าง มันไม่ใช่ คนละเรื่อง ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อนเราทิ้งปรัชญาหมด เราชอบยุให้คนตีกันทั้งวัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังเลือกตั้งนายกฯจะลงพื้นที่ในกทม.ตามจุดต่างๆอย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่าตั้งใจอยู่แล้ว มันต้องทำงาน ต้องแก้ปัญหา ตราบใดที่ยังทำหน้าที่อยู่ จะทำเต็มที่และตราบใดที่ประชาชนบอกว่าไม่ใช้แล้ว ก็ไม่ต้องทำหน้าที่ ก็ไปพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ไม่มีอะไรเลย นี่เป็นเรื่องธรรมชาติอย่าไปติดยึดกับมัน
ลั่นไม่ได้เป็นนายกฯไม่ตาย โธ่ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นนายกฯแล้วมันจะตายในวันรุ่งขึ้น มันเป็นเรื่องอาสามาทำงานให้ประชาชน ฉะนั้นอย่าไปวิตกแทนผม และอย่าไปเยาะเย้ยว่า แหม มันอย่างนั้น อย่างนี้ ก็ไทยรักไทยไม่ส่งมาเยาะเย้ยกันทำไม เรารู้อยู่แล้ว เราคาดหวังอยู่แล้วว่าอะไรจะเป็นอะไรใจเย็นๆนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากให้นายกฯประเมินสถานะของไทยรักไทยปัจจุบันคิดว่าอยูในระดับไหนระหว่างขาขึ้นกับขาลง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขาลง เพราะต้องเดินทุกวันเพื่อทำงาน ถ้าขาขึ้นก็คือป่วย
ที่มา:
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9470000045355...เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง
